เคล็ดลับทำบุญวันสงกรานต์ 2568 เสริมสิริมงคล รับปีใหม่ไทยอย่างมีความสุข

เคล็ดลับทำบุญวันสงกรานต์ 2568 เสริมสิริมงคล รับปีใหม่ไทยอย่างมีความสุข

สงกรานต์ 2568 หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย นอกจากจะเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานและการเล่นน้ำแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการ ทำบุญ เสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานของชาวไทย

หากคุณกำลังมองหาแนวทางหรือ เคล็ดลับการทำบุญวันสงกรานต์ ที่ทำง่ายและได้บุญจริง พร้อมส่งเสริมพลังบวกให้กับชีวิตตลอดปี บทความนี้ได้รวบรวมไว้ให้แล้ว!

1.ตื่นเช้าไปทำบุญตักบาตร รับอรุณแห่งความโชคดี

เริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยการ ตักบาตรพระสงฆ์ในตอนเช้า ถือเป็นการเปิดสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว สิ่งที่ควรถวาย เช่น อาหารแห้ง ข้าวสาร หรือของใช้จำเป็น ช่วยเสริมบุญเสริมบารมีและสะท้อนถึงความมีน้ำใจ
#ตักบาตรวันสงกรานต์ #ทำบุญปีใหม่ไทย #ตักบาตรเสริมมงคล


2.ทำบุญถวายสังฆทาน – สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา

การถวายสังฆทาน ถือเป็นการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา และขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวร นิยมทำในช่วงวันสงกรานต์เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้นในปีใหม่

#สังฆทานสงกรานต์ #สะเดาะเคราะห์สงกรานต์ #เสริมดวงปีใหม่ไทย


3.รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ขอพรรับปีใหม่อย่างอ่อนน้อม

หนึ่งในประเพณีไทยที่ทรงคุณค่า คือ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เพื่อแสดงความเคารพ ขอพรให้ชีวิตราบรื่นปลอดภัย เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวและชุมชน
#รดน้ำดำหัว #ขอพรผู้ใหญ่ #ประเพณีสงกรานต์ไทย

 

4.ปล่อยนกปล่อยปลา – เสริมชีวิตให้พบแต่ความเบิกบาน

การ ปล่อยสัตว์ เช่น ปลาหรือเต่า ในวันสงกรานต์เป็นการแสดงออกถึงความเมตตา และเชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ปล่อยพ้นจากอุปสรรค พบทางออกใหม่ ๆ ในชีวิต

#ปล่อยปลาเสริมบุญ #สงกรานต์ปล่อยสัตว์ #เคล็ดลับทำบุญสงกรานต์


5.ล้างพระพุทธรูป-ชำระใจให้สะอาด

หลายคนเลือกที่จะ สรงน้ำพระ ทั้งในบ้านหรือวัด เป็นการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอพรเพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่อย่างบริสุทธิ์ใจ

#สรงน้ำพระ #สงกรานต์สรงน้ำพระ #ชำระใจสงกรานต์


สงกรานต์ปีนี้ ทำบุญให้ถูกจังหวะ เสริมโชคดีทั้งปี
แม้สงกรานต์จะเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนาน แต่การ ทำบุญวันสงกรานต์ ก็เป็นอีกมิติสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตก้าวสู่ปีใหม่ไทยด้วยพลังบวกและความสงบใจ หากทำด้วยความตั้งใจและศรัทธา จะเกิดความสุขทั้งทางใจและทางกายแน่นอน

#เคล็ดลับทำบุญวันสงกรานต์ #ทำบุญปีใหม่ไทย2568 #วิธีเสริมสิริมงคลสงกรานต์ #ทำบุญเสริมดวงสงกรานต์ #สงกรานต์ทำอะไรดี

"ไอคอนสยาม" ประกาศจัดเต็มมหาสงกรานต์ริมเจ้าพระยา รับปีใหม่ไทยสุดยิ่งใหญ่

"ไอคอนสยาม" ประกาศจัดเต็มมหาสงกรานต์ริมเจ้าพระยา รับปีใหม่ไทยสุดยิ่งใหญ่

เตรียมตัวให้พร้อม! ไอคอนสยามประกาศจัดเต็มมหาสงกรานต์ริมเจ้าพระยา รับปีใหม่ไทยสุดยิ่งใหญ่ “สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล” กรรมการผู้จัดการไอคอนสยาม Global Destination จุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก จับมือภาครัฐและเอกชน จัดงาน "ICONSIAM THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION 2025" มหาสงกรานต์สุดอลังการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในธีม ‘The legendary Festival of Waters สาดสนุกมหาสงกรานต์ สายธารแห่งเสน่ห์ไทย’ มอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมสาดความสุขสไตล์ไทย ให้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ชุ่มฉ่ำหัวใจกับกิจกรรมพิเศษมากมาย พร้อมเปิดตัว "นางสงกรานต์ไอคอนสยาม ประจำปี 2568" ที่รับรองว่าเซอร์ไพรส์แฟนๆ แน่นอน! ไอคอนสยามยืนยันว่างานนี้จะยิ่งใหญ่สมการรอคอย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการจัดงานอีเวนต์ระดับโลกที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับความทันสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบที่แท้จริง

 

บรรยากาศรดน้ำขอพรพ่อเมืองสุพรรณฯ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์

ที่ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระพุทธปฏิมากรสุพรรณภูมิ ประดิษฐาน ณ แท่นฐาน ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมีพระสุพรรณวชิราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และพระครูอุดมสาสนกิจ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี (ธรรมยุต) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้ง 3 ท่านหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรปกส่วนท้องถิ่น ร่วมพิธี


จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นำผู้เข้าร่วมกิจกรรม  ประกอบพิธีสรงน้ำพระพุทธปฏิมากรสุพรรณภูมิ และรดน้ำขอพรและมอบของที่ระลึกแก่ผู้สูงอายุ จำนวน 98 คน เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย ประจำปี 2567 มีนายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยบุคลากรในสังกัดร่วมรดน้ำขอพร นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นางนภัสสร สุวรรณประทีป นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย ประจำปี 2567  ท่ามกลางอากาศ แสงแดดที่ร้อนอบอ้าว จนทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 ต้องจัดรถบรรทุกขนาดความจุ 12,000 ลิตร มาฉีดพ่นน้ำเพื่อช่วยความร้อนให้กับคณะผู้เข้าร่วมรดน้ำขอพรท่านผู้ราชการจังหวัด ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น โดยมีคณะแตรวงมาบรรเลงขับกล่อมสร้างความบันเทิงภายในงานด้วย เพราะสุพรรณบุรี ได้รับการประกาศรับรองจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี 
     

เปิดขั้นตอนและพันธผูกพันธ์หลัง “สงกรานต์ไทย” เป็นมรดกวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ยูเนสโก

 

มาดูขั้นตอนก่อนที่ “สงกรานต์ในประเทศไทย” ได้เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ยูเนสโก  

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมสงเสริมวัฒนธรรม (ข้อมูล สงกรานต์ ขึ้น ICH Unesco 7.12.66) ได้ดำเนินการยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนรายการ “สงกรานต์ในประเทศไทย” (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) ต่อยูเนสโกตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2563 โดยผ่านขั้นตอนในประเทศ ตั้งแต่กระบวนการจัดทำเอกสารขอขึ้นทะเบียนร่วมกับชุมชนผู้ถือครองและผู้ปฏิบัติ ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน  และได้รับความยินยอมจากชุมชนไทยทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 เห็นชอบให้เสนอขอขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อยูเนสโก ซึ่งเป็นการเสนอขอขึ้นทะเบียนรายการโดยประเทศเดียว (national nomination)

ในการนี้ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้กำหนดจัดประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of  the Intangible Cultural Heritage : ICS-ICH) ครั้งที่ 18 (ICS-ICH 18) ระหว่างวันที่ 4 – 9 ธันวาคม 2566 ณ เมืองคาซาเน (Kasane) สาธารณรัฐบอตสวานา โดยการประชุมครั้งนี้ มีวาระการพิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนรายการ "สงกรานต์ในประเทศไทย” (Songkran in Thailand, traditonal Thai New Year Festival)" เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (the Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) กำหนดวันการพิจารณาตัดสินระหว่างวันที่ 5-6 ธันวาคม 2566

ทั้งนี้ จากการประเมินเอกสารขอขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทยของคณะผู้ประเมิน (Evaluation Body) ได้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลฯ ให้พิจารณาขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารเป็นที่น่าพอใจตามเกณฑ์การพิจารณา โดยคณะผู้ประเมินยังแนะนำว่าเอกสารของไทยเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ที่แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนและโปร่งใสเกี่ยวกับภัยคุกคามต่าง ๆ เผชิญอยู่ และแสดงให้เห็นว่ารัฐภาคีวางแผนที่จะจัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้อย่างไร นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการจัดทำบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ดี พร้อมมีแนวทางการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันที่ชัดเจน

พันธผูกพันธ์หลังจากการขึ้นทะเบียนยูเนสโก เมื่อมรดกภูมิปัญญาฯ ได้รับการทะเบียนแล้ว รัฐภาคีจะต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ต้องเสนอรายงานสถานะของรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ทุก 6 ปี โดยนำเสนอใน 7 ประเด็น ดังนี้

(1) ความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหน้าที่ทางสังคมและวัมนธรรมของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม บทบาทของผู้ถือครองและผู้ปฏิบัติที่มีต่อมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

 (2) สถานการณ์ดำรงอยู่และความเสี่ยงในปัจจุบันของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

 (3) ความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของมรดกวัมนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และนานาชาติ หลังจากที่ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

(4) มาตรการที่ดำเนินการที่ส่งเสริมและสนับสนุนอันเนื้องมาจากการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม 

(5) การมีส่วนร่วมของชุมชน และองค์กรในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม 

(6) หน่วยงาน และองค์กรชุมชนที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการ และส่งเสิรมรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม 

(7) การเปิดโอกาสให้ชุมชน กลุ่มต่าง ๆ องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุดในกระบวนการจัดทำรายงาน

เครดิตภาพ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

 

#สงกรานต์ #ยูเนสโก #ปีใหม่ไทย #มรดกวัฒนธรรม

 

การรถไฟฯเผยยอดรวมผู้โดยสารเดินทางออกต่างจังหวัดช่วงวันสงกรานต์ 7-12 เม.ย.66 แตะ 425,862 คน

การรถไฟฯ เผยตัวเลขยอดรวมของผู้โดยสารที่เดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงเทศสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 7-12 เม.ย.66 แตะ 425,862 คน เป็นผู้โดยสารขบวนรถปกติ จำนวน 421,812 คน และเป็นผู้โดยสารขบวนรถเสริม 4,050 คน 

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 มีประชาชนและนักท่องเที่ยว ใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟเป็นจำนวนมาก นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้สั่งการให้จัดเตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารรองรับประชาชนที่เดินทางออกต่างจังหวัด จำนวน 5 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ 2 ขบวน และสายตะวันออกเฉียงเหนือ 3 ขบวน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

โดยล่าสุด จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 7-12 เมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 425,862 คน เป็นผู้โดยสารขบวนรถปกติ จำนวน 421,812 คน และเป็นผู้โดยสารขบวนรถเสริม 4,050 คน ประกอบด้วย

วันที่ 7 เมษายน 2566 มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 67,577 คน

วันที่ 8 เมษายน 2566 มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 64,504 คน

วันที่ 9 เมษายน 2566 มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 68,163 คน

วันที่ 10 เมษายน 2566 มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 71,677 คน

วันที่ 11 เมษายน 2566 มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 72,564 คน

วันที่ 12 เมษายน 2566 มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 81,377 คน

ทั้งนี้ เส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุดคือ สายใต้ 136,213 คน รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 113,745 คน สายเหนือ 86,098 คน สายตะวันออก 59,471 คน สายมหาชัย 25,439 คน และสายแม่กลอง 4,896 คน ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการเดินรถ และมาตรการดูแล
ความปลอดภัยรองรับการเดินทางกลับจากต่างจังหวัดของประชาชน โดยจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 5 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ 2 ขบวน และสายตะวันออกเฉียงเหนือ 3 ขบวน ดังนี้

เที่ยวกลับ
วันที่ 16 เมษายน 2566 จำนวน 2 ขบวน
1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 6 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากเชียงใหม่ เวลา 18.55 น. ถึงเวลา 07.35 น.
2. ขบวนรถที่ 934 อุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากอุบลราชธานี เวลา 19.30 น. ถึงเวลา 06.30 น.

วันที่ 17 เมษายน 2566 จำนวน 3 ขบวน
1. ขบวนรถที่ 934 อุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากอุบลราชธานี เวลา 19.30 น. ถึงเวลา 06.30 น.
2. ขบวนรถที่ 962 ศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากศิลาอาสน์ เวลา 19.40 น. ถึงเวลา 03.40 น.
3. ขบวนรถที่ 936 อุดรธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากอุดรธานี เวลา 21.45 น. ถึงเวลา 07.50 น.

ขณะเดียวกันได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค โดยได้เพิ่มกำลังพนักงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ทั้งบนขบวนรถ และสถานี พร้อมทั้งได้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น อบต. อปพร. เพิ่มเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประจำตามจุดตัดถนนเสมอระดับทางรถไฟ โดยเฉพาะทางผ่านที่เห็นว่ามีความเสี่ยงหรือมีสถิติอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตรวจสภาพทางให้มีความปกติมั่นคงปลอดภัยต่อการเดินรถ เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถและประจำสถานีก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงห้ามจำหน่าย/ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถ และบริเวณสถานีรถไฟ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

รับพรสงกรานต์ปีเถาะ สรงน้ำพระธาตุ เทวดานพเคราะห์ 9 องค์

ช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ปีใหม่ไทย อยากเชิญชวนประชาชนไปสรงน้ำพระธาตุ เทวดานพเคราะห์ รับพรปีเถาะ ทางกรมศิลปากรโดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้อัญเชิญพระธาตุและเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 องค์ มาประดิษฐาน ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต อันเป็นวาระแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่ในเทศกาลมหาสงกรานต์ รับพรปีเถาะ ระหว่างวันที่ 12 - 14 เมษายน 2566 และเป็นการสืบสานประเพณีที่ดีงามของไทย

พระธาตุที่อัญเชิญมานี้เป็นพระธาตุในพระกรัณฑ์ทองคำลงยา ซึ่งเดิมทีประดิษฐานในก้านพระรัศมีของพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปองค์สำคัญซึ่งประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล(วังหน้า) มาเป็นประธานในพิธี ส่วนประติมากรรมเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 องค์นี้ ที่เชื่อว่าผู้เป็นเจ้าเรือนชะตามนุษย์ทุกคนตั้งแต่เกิดจนตายตามความเชื่อโบราณ นอกจากนี้ข้อมูล(2564) ระบบทักษาในแผนผังอัฐจักรนี้ สร้างขึ้นตามแบบเทวดานพเคราะห์ของไทย แต่งกายคล้ายคลึงกับภาพเทวรูปในสมุดไทยหมวดตำราภาพเทวรูปไสยาศาสตร์ เล่มที่ 70 สำนักหอสมุดแห่งชาติ ที่สันนิษฐานว่าเป็นรูปแบบของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ พระราชโอรสพระองค์ที่ 12 ในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ วังหน้าองค์ที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กับพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดาราวดี พระราชธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งประติมากรรมเทวดาชุดนี้มีความคล้ายคลึงกับภาพจิตรกรรมเทพยดาบนบานประตูหน้าต่างด้านในของพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส(วัดพระแก้ววังหน้า) ที่พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ ทรงร่วมในการควบคุมการก่อสร้างเช่นกัน

ในส่วนของความพิเศษของประติมากรรมชุดนี้ คือสามารถถ่ายทอดรูปแบบของเทพนพเคราะห์ให้ออกมาเป็นประติมากรรมแบบลอยตัว แสดงท่าทางและลักษณะของเทพนพเคราะห์ได้อย่างสมจริงและมีชีวิตชีวา โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ และลักษณะของเทพแต่ละองค์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ สันนิษฐานว่าน่าจะหล่อขึ้นในราวรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา โดยเปรียบเทียบลักษณะประติมานวิทยากับภาพในสมุดไทย และรูปสัตว์ที่มีความเหมือนจริงเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากตะวันตก

ความเชื่อ ในสมัยโบราณนั้นคนไทยไม่นิยมนับอายุตามวันเกิดกันเท่าใดนัก แต่มักจะนับตามการเถลิงศักราชใหม่ในช่วงปีใหม่ไทยคือสงกรานต์ หากปีใดมีความป่วยไข้ หรือทราบว่าถึงเวลาเปลี่ยนทักษา โดยเฉพาะเจ้านายก็จะขึ้นเกยส่งเทวดาเก่ารับเทวดาใหม่กัน ด้วยเชื่อว่าจะนำพาสิริมงคลมาพร้อมกับศักราชใหม่ ซึ่งในวันนี้ 14 เมษายน 2566 เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมการอัญเชิญพระธาตุและเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 องค์ มาประดิษฐาน ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำขอพรปีใหม่ ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นนี้เท่านั้น

บรรยากาศคึกคัก คนเล่นน้ำวันสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร(ประมวลภาพ)

บรรยากาศคนเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารในวันที่13เมษายน มีชาวไทยและช่าวต่างชาติต่างหลั่งไหลเดินทางมาเล่นน้ำคลายร้อน กันอย่างมากมายโดยส่วนใหญ่ผู้คนที่มาจะใช้ปืนฉีดน้ำกัน

​​​​​​​ ​​​​​​​

กลับบ้านสงกรานต์วานนี้ 6.1 หมื่นคนแน่นหมอชิต บขส.เตรียมรองรับเดินทางกลับ 16-18 เม.ย.นี้

คนแห่เดินทางกลับภูมิลำเนาวันสงกรานต์แน่นหมอชิต 2  บขส.จัดการเดินรถให้บริการส่งคนเดินทางกว่า 6 หมื่นคนกลับภูมิลำเนาปลอดภัย  กำชับสถานีปลายทางดูแลผู้โดยสาร เตรียมรับการเดินทางกลับช่วง 16-18 เม.ย.นี้

นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (13 เม.ย.)การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(จตุจักร) จะเดินทางในเส้นทางสายสั้น เช่น คลองลาน, สระบุรี, โคราช ,ชลบุรี ซึ่งมีรถโดยสารให้บริการเพียงพอ มั่นใจว่าไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

ขณะที่ข้อมูลการเดินทางเมื่อวันที่ 12 เม.ย.66 มีผู้โดยสารเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ รวมเที่ยวไป-กลับ จำนวน 105,067 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส.,รถร่วม,รถตู้) จำนวน 8,165 เที่ยว แบ่งเป็นการเดินทางในเที่ยวไป จำนวน 4,328 เที่ยว มีผู้โดยสารใช้บริการ 61,584 คน ส่วนเที่ยวกลับใช้รถโดยสาร จำนวน 3,837 เที่ยว รองรับผู้โดยสารใช้บริการ 43,483 คน โดยจำนวนผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางประมาณกว่า 60,000 คน

โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสิ่งอำนวยความสะดวก และจัดรถโดยสารให้เพียงพอให้บริการประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว โดยในเที่ยวกลับของเทศกาลสงกรานต์ บขส. ได้กำชับไปยังนายสถานีเดินรถ ให้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 16-18 เม.ย.66 โดย บขส. คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 58,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) ประมาณ 3,800 เที่ยว

ขณะเดียวกันได้ประสานขอความร่วมมือองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ นำรถโดยสารมาให้บริการ ณ บริเวณชานชาลาขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 และได้ประสาน จส.100 และ สวพ.91 ประชาสัมพันธ์ให้รถแท็กซี่มารับผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้ง บขส. ได้จัดรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ได้ขอเข้ามาให้บริการในสถานีฯอย่างถูกระเบียบไว้อำนวยความสะดวกผู้โดยสารด้วย

อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลฯ ที่มีผู้เดินทางเป็นจำนวนมาก ขอความร่วมมือผู้โดยสารเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง เนื่องจากอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาฉวยโอกาสหลอกลวงได้ง่าย หากพบปัญหาในการเดินทาง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ทันที หรือโทร Call Center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง และ สายด่วนกรมการขนส่งทางบก 1584

 

 

บรรยากาศถนนพหลโยธินขาออกช่วง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ปริมาณรถหนาแน่นคนกลับบ้านวันสงกรานต์(ประมวลภาพ)

บรรยากาศถนนพหลโยธินขาออก มุ่งหน้าภาคอีสาน ช่วงอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณรถหนาแน่น ในช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ 2566 ซึ่งวันนี้(13 เม.ย.)เป็นวันสงกรานต์วันแรก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

​​​​​​​ ​​​​​​​

13 เมษายน วันผู้สูงอายุแห่งชาติกับวันสงกรานต์เกี่ยวพันกันอย่างไร

วันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ อีกทั้งเป็นวันสงกรานต์ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้บรรดาลูกหลานทั้งหลายหันมอง และเอาใจใส่บุคคลสำคัญเหล่านี้ที่เป็นคนใกล้ตัว

แม้จะเป็นวัยที่หลายคนนิยามว่าเป็นไม้ใกล้ฝั่ง แต่ผู้สูงอายุทั้งหลายคือผู้สร้างประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองมาแล้วนับไม่ถ้วน หรืออย่างน้อยๆก็เป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณของครอบครัวที่เราจะละเลยเสียไม่ได้ อีกทั้งผู้สูงอายุ ยังนับเป็นประชากรที่มีสัดส่วนมากถึง 3 ใน 5 ของประชากรโลก ด้วยเหตุนี้ทั่วโลกจึงพากันรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ ด้วยการกำหนดวันผู้สูงอายุ ประหนึ่งเป็นเครื่องเตือนใจให้บรรดาลูกหลานทั้งหลายหันมอง และเอาใจใส่บุคคลสำคัญเหล่านี้ที่เป็นคนใกล้ตัว

สำหรับประเทศไทย วันผู้สูงอายุ ถูกผูกรวมไว้กับวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือวันสงกรานต์ ตรงกับวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่านอกจากจะทำบุญตักบาตรในช่วงเช้าตามวิถีชาวพุทธแล้ว กิจกรรมสำคัญอันดับต้นๆของวัน ก็คือการรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือนั่นเอง

ความเป็นมาของวันผู้สูงอายุ

ในประเทศไทยเริ่มจุดประกายเรื่องนี้ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีการกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพ และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข และได้มอบให้กรมประชาสงเคราะห์จัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา บ้านบางแค เป็นแห่งแรกในปี พ.ศ. 2496 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1.เพื่อให้การสงเคราะห์คนชราที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือประสบปัญหาความทุกข์ยาก เดือดร้อน ยากจน ไม่มีที่อยู่อาศัย หรือไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้

2.เพื่อให้บริการแก่คนชราที่อยู่กับครอบครัวของตน แต่มีความต้องการบริการสงเคราะห์คนชราบางอย่าง เช่น การรักษาพยาบาล กายภาพบำบัด นันทนาการ

3.เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้มีรายได้น้อย หรือยากจน ที่ไม่สามารถจะอุปการะเลี้ยงดูคนชราไว้ในครอบครัวได้

4.เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมอันเกี่ยวกับคนชรา ไม่ให้เร่ร่อน ทำความเดือดร้อนรำคาญแก่สังคมและให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างผาสุกตามสมควรแก่อัตภาพ

5.เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีที่คนชราได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ

6.เพื่อผู้สูงอายุจะได้คลายวิตกกังวล เมื่อชราภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้แล้วทางรัฐบาลมีหน้าที่จะเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูต่อไป

ต่อมาในปี พ.ศ.2525 ได้มีการจัดประชุมสมัชชาโลกว่าด้วยผู้สูงอายุ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งได้พิจารณาประเด็นสำคัญเกี่ยวกับผู้สูงอายุไว้ 3 ประการคือ ด้านมนุษยธรรม ด้านการพัฒนา และด้านการศึกษา นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังได้กำหนดให้ปี 2525 เป็นปีรณรงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโดยกำหนดคำขวัญว่า "Add life to Years" เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ช่วยกันส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการวันอนามัยโลกของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีมติให้ใช้คำขวัญเป็นภาษาไทยว่า "ให้ความรัก พิทักษ์อนามัย ผู้สูงวัยอายุยืน"

ในส่วนของรัฐบาลไทยสมัยนั้น ซึ่งตรงกับรัฐบาลของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ก็ได้เห็นความสำคัญต่อนโยบายดังกล่าว โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2525 อนุมัติให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และจัดให้มีกิจกรรมต่างๆสำหรับผู้สูงอายุทุกปี

วันผู้สูงอายุสากล

องค์การสหประชาชาติกำหนดให้ทุกวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุสากล เริ่มมาตั้งแต่ปี 1999 หรือ พ.ศ.2542 ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2525 องค์การสหประชาชาติได้จัดประชุมสมัชชาโลกเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และได้ให้ความหมายของคำว่า "ผู้สูงอายุ" หมายถึง บุคคลทั้งเพศชายและเพศหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ผู้สูงอายุตอนต้นคือ บุคคลที่มีอายุ 60-69 ปี ทั้งชายและหญิง และผู้สูงอายุตอนปลายคือ บุคคลที่มีอายุ 70 ปี ขึ้นไป ทั้งชายและหญิง

ดอกไม้สัญลักษณ์ผู้สูงอายุ

รัฐบาลในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นอกจากจะอนุมัติให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุ แล้วกำหนดให้ดอกลำดวน เป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุด้วย

สำหรับสาเหตุที่เลือกดอกลำดวน เนื่องจากต้นลำดวนหรือหอมหวล (Melodorum fruticosum Lour) ตามชื่อไทยพื้นเมือง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sphaerocoryne clavipes. จัดอยู่ในวงศ์ Annonaceae. เป็นพืชยืนต้นที่มีอยู่มาก ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้ความร่มเย็น ลำต้นมีอายุยืน มีใบเขียวตลอดปี ดอกสีเหลืองนวล กลิ่นหอมเย็น กลีบแข็งแรงไม่ร่วงง่าย เปรียบเหมือนกับผู้ทรงวัยวุฒิที่คงคุณธรรมคุณงามความดีให้กับลูกหลานไว้เป็นแบบอย่างสืบต่อไป