รีบเก็บ NCP ก่อนขึ้น XD 27 ส.ค. นี้ รอรับปันผลเน้นๆ พ่วงผลงานปีนี้โตแรง

วันที่ 25 สิงหาคม 2568 งานนี้มีแต่เฮง สำหรับแฟนคลับ บมจ.ไนซ์ คอล หรือ NCP ปิดงบครึ่งปีแรก 68 โตแรง กำไรสุทธิพุ่ง 67.67% แถมบอร์ดใจป้ำ เคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.0555 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD 27 ส.ค.รับเงินเข้ากระเป๋า 11 ก.ย. ถ้าไม่อยากพลาดเงินปันผลดีๆ แถมอนาคตไกลรีบตุนด่วน!! ฟากบิ๊กบอส "ศรัณย์ เวชสุภาพร" แอบกระซิบ ผลงานปีนี้โตตามเป้าหมายแน่นอนคร้า

GPI กำไร 6 เดือนแรกปี 68 ที่ 205.54 ล้าน โต 7% ครึ่งปีหลังเร่งขยายธุรกิจใหม่สร้างโอกาสไปต่อ 

“บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ GPI โชว์ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2568 ทำกำไรสุทธิ 205.54 ล้านบาท เติบโต 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายและบริการ 717.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายพื้นที่จัดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 และขยายธุรกิจใหม่ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค.นี้ ขณะที่แผนงานครึ่งปีหลังจะรุกขยายธุรกิจใหม่ด้าน Sport และ Lifestyle & Entertainment ต่อเนื่องผลักดันการเติบโต

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 717.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้จากการขายและบริการ 674.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 205.54  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 192.19 ล้านบาท ปัจจัยมาจากการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการจัดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 เนื่องจากได้ขยายพื้นที่แสดงสินค้าอีก 1 ฮอลล์ พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อขยายฐานผู้เช่าพื้นที่ในกลุ่มผู้ประกอบการอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และผู้เข้าชมที่เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้จากการขายและบริการ 271.44 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 288.51 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.68 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 62.62 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้บางส่วนจากงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 และการขยายธุรกิจใหม่ด้าน Sport และ Lifestyle & Entertainment เช่น การจัดอีเวนต์แฟนมีตติ้งศิลปินดาราเกาหลี, การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จัดแข่งขันจักรยานทรงตัวรายการ Grandprix Runbike Championship Partnership with R.C.S. อีเวนต์ 1 สนามที่ 1-2 เป็นต้น 

โดยจากภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่อัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 60 ล้านบาท เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นและตอกย้ำจุดแข็งของ GPI ที่เป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 สิงหาคมนี้ และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นวันที่  8 กันยายน 2568  

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GPI กล่าวต่อว่า แผนงานขยายธุรกิจครึ่งปีหลังจะต่อยอดความเชี่ยวชาญจากการจัดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ขยายธุรกิจใหม่ด้าน “Sport และ Lifestyle & Entertainment” อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้จัดอีเวนต์หลัก 3 งาน ได้แก่ 1) THAILAND DIECAST EXPO 2025 งานแสดงสินค้าและจำหน่ายรถโมเดลแบรนด์ชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ ที่จัดงานแสดงสินค้าประเภทนี้ โดยมีผู้ผลิตรถโมเดลชั้นนำและผู้ประกอบการสินค้าที่เกี่ยวเนื่องร่วมแสดงสินค้ากว่า 50 บูธ 2) ร่วมจัดงาน AMAZING THAILAND PATAYA MARATHON 2025 ในฐานะพาร์ทเนอร์ของไตรลีกที่เป็นผู้จัดงานหลัก  โดยงานดังกล่าวเป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งมาราธอนชั้นนำในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน และ 3) จัดการแข่งขันจักรยานทรงตัว Grandprix Runbike Championship Partnership with R.C.S. ในอีเวนต์ 2 สนามที่ 3-4 โดยมี Runbike Championship Series, Japan ผู้จัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวจากญี่ปุ่นเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อขยายฐานสู่กลุ่มเด็ก  

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ วางแผนจัดงานแฟนมีตติ้งศิลปินดาราเกาหลีอีก 2 ครั้ง และจัดการแข่งขัน Grandprix Runbike Championship Partnership with R.C.S. อีเวนต์ 3 และ 4 สนามที่ 5-6 และสนามที่ 7-8 รวมถึงอยู่ระหว่างเตรียมจัดการแข่งขัน “แบดมินตันชิงแชมป์โลกอาวุโส” (BWF World Senior Championships) ปี 2025 ในวันที่ 7-14 กันยายนนี้ ณ เมืองพัทยา เพื่อส่งเสริมความสนใจในกีฬาแบดมินตันและกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองพัทยา โดยมีนักกีฬาแบดมินตันอายุ 35 ปีขึ้นไปจากทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนี้ อยู่ระหว่างวางแผนจัดการแข่งขันไตรกีฬาภายใต้งาน Amazing Race Festival 2026 ช่วงต้นปีหน้าภายใต้บริษัท กรังด์ปรีซ์ ไตรลีก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นร่วมทุนระหว่างกรังด์ปรีซ์ฯ และไตรลีก เพื่อผลักผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2568 ให้มีรายได้ 920 ล้านบาท เติบโต 21% ตามเป้าหมาย
     
  
 

SNPS โตสวนศก.ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 60.72% บอร์ดเคาะปันผลงหุ้นละ 0.07 บาท จ่อ XD 26 ส.ค.นี้

“สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์” โชว์ฟอร์มเด่นครึ่งปีแรกของปี 2568 โกยกำไรสุทธิ 47.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 265.92  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมตอกย้ำฐานะทางการเงินแกร่ง บอร์ดไฟเขียวเคาะจ่ายปันผลงวดระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 26 ส.ค.นี้ กำหนดจ่ายปันผล 9 ก.ย. 2568

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 47.17 ล้านบาท เติบโต 60.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 265.92 ล้านบาท เติบโต 22.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับปัจจัยการเติบโต ได้แก่ รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน (API) อยู่ที่ 92.73 ล้านบาท เติบโต 48.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, รายได้การรับจ้างพัฒนาและผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (ODM) อยู่ที่ 155.82 ล้านบาท เติบโต 13.04% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, รายได้การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัท (OBM) อยู่ที่ 9.75 ล้านบาท เติบโต 10.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และรายได้อื่นอยู่ที่ 7.62 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 27.62 ล้านบาท เติบโต 45.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 145.09 ล้านบาท เติบโต 25.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้เปลี่ยนผ่านสู่โมเดลธุรกิจครบวงจรมูลค่าสูง (Integrated Business Model) ส่งผลให้มีรายได้จากการขายและบริการ 112.16 ล้านบาท

โดยมีปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตแบ่งเป็น รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน (API) อยู่ที่ 45.67 ล้านบาท เติบโต 31.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และรายได้การรับจ้างพัฒนาและผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (ODM) อยู่ที่ 94.49 ล้านบาท เติบโต 33.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น และการประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งได้เริ่มวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่าน ทำให้ยอดขายมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด โดยจัดสรรกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2568 และกำไรสะสม ให้แก่ ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับปันผลระหว่างกาล (Record date) ในวันที่ 27 สิงหาคม 2568 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26 สิงหาคม 2568 เพื่อจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 9 กันยายน 2568

“เราอยู่ในตำแหน่งในการคว้าโอกาสจากกระแสสุขภาพโลกซึ่งตลาดสารสกัดสมุนไพรโลกเติบโตจากความต้องการ ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในอุตสาหกรรมยา อาหาร และความงามอย่างต่อเนื่องและการย้ายฐานการผลิตมาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยโมเดลธุรกิจที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล ผสานกับความมุ่งมั่นของเราที่จะรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการขยายอัตรากำไรให้มีเสถียรภาพ ผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่ง ต่อยอดสู่การสร้างรายได้ให้เติบโต 30% ตามแผนที่วางไว้” ดร.ธีรญา กล่าว

ILM เปิดผลงานครึ่งปีแรกยังแกร่ง โชว์กำไร 391.1 ล้านบาท รายได้ 4,768 ล้านบาท เคาะปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น

‘บมจ. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ หรือ ILM เปิดผลงานครึ่งปีแรก เดินหน้าฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ โชว์กำไรสุทธิ 391.1 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 4,768.6 ล้านบาท บอร์ดฯ ใจป้ำเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.25 บาท คาดครึ่งปีหลังเศรษฐกิจยังฝืด แต่พร้อมปรับกลยุทธ์รับมือทุกความท้าทาย เตรียมเปิด Index Living Mall เชียงราย ช่วงไตรมาส 3 ต่อด้วย Little Walk สาขาถนนรามคำแหง รวมถึงเปิดร้าน Flying Tiger Copenhagen จำนวน 5 สาขา ภายในปีนี้

วันที่ 13 ส.ค.68 นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 4,768.6 ล้านบาท ส่งผลให้สามารถทำกำไรสำหรับงวดครึ่งปีแรกได้ที่ 391.1 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโต 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรประจำงวดได้ 379.8 ล้านบาท

ขณะที่ ผลการดำเนินการไตรมาส 2/2568 (เมษายน-มิถุนายน 2568) ของบริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 2,288.8 ล้านบาท ทำกำไรได้ 175.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปี 2567 ที่ทำได้ 171.2 ล้านบาท

โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 จึงได้อนุมัติเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดผลการดำเนินงาน 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยบริษัทฯ เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 สิงหาคม นี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2568

“ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก ทั้งกำไรและรายได้ที่บริษัทฯ ทำได้ ถือเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งขององค์กร ที่ยืนหยัดท่ามกลางปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ อันกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ประกอบกับการแข่งขันของสินค้านำเข้าราคาถูกผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซที่รุนแรงมากขึ้น ความซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งผลต่อยอดขายหน้าร้านค้าปลีกและงานโครงการ แต่การปรับกลยุทธ์รอบด้านอย่างรวดเร็ว ทั้งในช่องทางออนไลน์ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ การปรับเพิ่มพื้นที่ให้เช่า รวมถึงการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รักษาระดับความสามารถการทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง” นางสาวกฤษชนก กล่าว

ทั้งนี้ในส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แม้จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นและมีแรงหนุนจากกิจกรรมส่งเสริมการขาย แต่ประเมินว่ายอดขายในประเทศยังคงมีแนวโน้มจะเผชิญความกดดันไม่ต่างจากครึ่งปีแรก ผู้ประกอบการควรเน้นพัฒนาสินค้าที่มีฟังก์ชันครบในราคาจับต้องได้ ใช้ช่องทางออนไลน์ช่วยขาย รวมถึงใช้สื่อนำเสนอและการรีวิวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชันด้วย ที่สำคัญคือต้องบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ปรับกระบวนการผลิตให้คล่องตัว ลดสต็อก เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน

สำหรับ ILM ได้เล็งเห็นปัญหาล่วงหน้า และมีการเตรียมความพร้อมของแผนธุรกิจในครึ่งปีหลังเพื่อรองรับไว้แล้ว โดยเตรียมที่จะเปิด Index Living Mall สาขาเชียงราย ในไตรมาส 3 ปีนี้ ทั้งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง Little Walk สาขาถนนรามคำแหง ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดบริการได้ภายในปีนี้เช่นกัน และยังมีข่าวดีจาก Flying Tiger Copenhagen แบรนด์ค้าปลีกไลฟ์สไตล์ชื่อดังจากเดนมาร์กที่ ILM คว้าสิทธิ์แฟรนไชส์มาได้นั้น ก็เตรียมจะเปิดร้านอย่างเป็นทางการ 5 สาขา ในศูนย์การค้าชั้นนำใจกลางเมืองภายในปีนี้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ก็มีการลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีผ่านการพัฒนาระบบ RISE with SAP S/4HANA Cloud for Retail ให้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาทุกภาคส่วน ซึ่งจะช่วยยกระดับการบริหารจัดการภายใน ลดต้นทุน และรองรับการเติบโตในรูปแบบ Omni-Channel ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็เชื่อว่าจะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานรวมตลอดปี 2568 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ ILM ยึดมั่นในด้านการสร้างความยั่งยืนภายใต้กรอบ ESG ควบคู่กับการทำธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทำโครงการและมาตรการที่เป็นรูปธรรมในหลายมิติ อาทิ ปรับปรุงระบบและส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน และได้ทำการเปลี่ยนระบบไฟ LED ปรับปรุงระบบทำความเย็น (Cooling Tower) ของสาขาชลบุรี ลดการใช้พลังงานและลดค่าบำรุงรักษาระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังร่วมกับลูกค้าและวัดจากแดงในโครงการแปรรูปพลาสติกเป็นเส้นใยสำหรับใช้ทอจีวรพระและผ้าบังสุกุลอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างพิสูจน์ถึงความตั้งใจจริงในการเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย “Sustainable Living for Future Lifestyle” อย่างมั่นคง

 

 

AH ผลงาน 2Q25 เข้าเป้า รายได้ 6.6 พันล้าน กำไรหลักแตะ 113 ล้าน เคาะปันผล 0.31 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 10 ก.ย.68

บมจ.อาปิโก ไฮเทค ประกาศผลงานงวดไตรมาส 2/2568 เข้าเป้า กำไรสุทธิหลักโต 13.4% แตะ 113 ล้านบาท รายได้รวม 6,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อานิสงค์ยอดผลิตรถยนต์ไทยฟื้น ดันยอดขายธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ – ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายฯในประเทศยังเติบโตได้ดี มุ่งเน้นเดินหน้าเจรจาความร่วมมือพันธมิตรธุรกิจ ลุยขยายฐานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ ต่อยอดการเติบโตแกร่ง ล่าสุดบอร์ดเคาะปันผลงวดครึ่งปีแรก 0.31 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 10 กันยายน 2568  

วันที่ 13 ส.ค.68 นายเย็บ ซู ชวน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 ว่า แม้บริษัทฯจะเผชิญกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างท้าทาย แต่ยังคงสามารถรักษาความแข็งแกร่ง และความพร้อมในการปรับตัวต่อความผันผวนของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภาพรวมผลการดำเนินงานยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น (ไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน) อยู่ที่ 113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน รายได้รวมยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 6,630 ล้านบาท ตามการเติบโตของรายได้ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และธุรกิจตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยเป็นสำคัญ อานิสงค์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยยอดผลิตรถยนต์ในประเทศไทยช่วงไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้น 7.6% ส่งผลให้ปริมาณคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายหลักเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น 7.6% 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้รับแรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าในประเทศไทย ที่เพิ่มขึ้น 29.9% แตะ 65 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลง 6.5% เหลือ 426 ล้านบาท พร้อมรักษาระดับหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับต่ำที่ 0.5 เท่า แม้จะมีต้นทุนเพิ่มจากเหตุไฟฟ้าดับในฐานการดำเนินงานในประเทศโปรตุเกสในช่วงปลายเมษายนที่ผ่านมา

นายเย็บ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้และความสามารถในการทำกำไร โดยผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีชั้นนำ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ และเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุน ควบคู่ไปกับการเติบโตตามกลไกของธุรกิจ ซึ่งบทบาทของประเทศไทยภายใต้กลยุทธ์ China Plus One นับเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทฯ ในการพัฒนาและกระจายโซ่อุปทาน เพิ่มขีดความสามารถในการส่งออก และขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการคาดการณ์ถึงสภาวะการชะลอตัวเล็กน้อยจากปี 2567 แต่เบื้องต้นบริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพในการคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น และมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น 

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีแรก จำนวน 0.31 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล (Dividend Payout Ratio) 25% กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 28 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2568

AIT โชว์ฟอร์มผลงานครึ่งปีแรก 2568 โตต่อเนื่อง รายได้ 3,431 ล้าน กำไรโต 6% บอร์ดฯจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บาทต่อหุ้น

AIT เปิดผลงานการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 ทำรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 1,691 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท ผลักดันผลงานในครึ่งแรกปี 2568 รายได้จากงบเฉพาะกิจการ 3,431 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% บอร์ดฯ ใจป้ำเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.15 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 สิงหาคม 2568 นี้ พร้อมเสริมความมั่นใจต่อการบรรลุเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 6,800 ล้านบาท

วันที่ 8 ส.ค.68 นางศศิเนตร พหลโยธิน รักษาการประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจรับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารอย่างครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 1,691 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,867 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 3,431 ล้านบาท ลดลง 3%จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3,546 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 271 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ที่ทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน บริษัทฯ มีมูลค่างานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) จำนวน 5,200 ล้านบาท ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 และมีมูลค่างานที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) จำนวน 137 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาจากงบเฉพาะกิจการและอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 (มกราคม-มิถุนายน) ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2568 เพื่อสะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น

นางศศิเนตร กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สงครามการค้า บริษัทฯ ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกอยู่ในระดับน่าพอใจ สะท้อนแนวโน้มเชิงบวกในการบรรลุเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 6,800 ล้านบาท”

ผู้ถือหุ้น SNNP อนุมัติปันผลอีก 0.35 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.60 บาท มั่นใจปีนี้โอกาสสร้างการเติบโตต่อเนื่อง 

ผู้ถือหุ้น SNNP อนุมัติปันผลอีก 0.35 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.60 บาท มั่นใจปีนี้โอกาสสร้างการเติบโตต่อเนื่อง 

นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ประธานกรรมการบริษัท นางธัญนีย์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร และนายฐากร ชัยสถาพร (ที่ 1 จากซ้าย แถวหน้า) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) ถ่ายภาพร่วมกันหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในรูปแบบออนไลน์ โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีก 0.35 บาท/หุ้น รวมทั้งปี 0.60 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา และมั่นใจว่าปีนี้มีโอกาสสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 

ผู้ถือหุ้น CCET ไฟเขียวแจกปันผล 0.13 บาท/หุ้น พร้อมนำเทคโนโลยี AI และ RPA เข้ามาช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 

ผู้ถือหุ้น CCET ไฟเขียวแจกปันผล 0.13 บาท/หุ้น พร้อมนำเทคโนโลยี AI และ RPA เข้ามาช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 

นายเจี๋ย ลี่ ซุย ประธานกรรมการ ถ่ายภาพร่วมกับ นายคงสิทธิ์ โจวกิจเจริญ กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะกรรมการ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (CCET) ภายหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติจ่ายปันผลงวดดำเนินงาน 1 กรกฎาคม -31 ธันวาคม 2567 เป็นเงินสดในอัตรา 0.13 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินวันที่ 20 พ.ค. 2568 สำหรับแผนการดำเนินงานปีนี้บริษัทฯ เตรียมสายการผลิตอย่างเข้มข้นเพื่อรองรับโรงงานแห่งใหม่ พร้อมนำเทคโนโลยี AI และ RPA เข้ามาช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร

ผู้ถือหุ้น SA ไฟเขียวปันผล 0.08 บาท/หุ้น เตรียมจ่าย 23 พ.ค.นี้

ผู้ถือหุ้น SA ไฟเขียวปันผล 0.08 บ./หุ้น เตรียมจ่าย 23 พ.ค.นี้

คุณวรพล โสคติยานุรักษ์ ประธานกรรมการ , คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณสุนันทา สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ถ่ายภาพร่วมกันภายหลังจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ รวมทั้งอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ

SFLEX หุ้นดีมีอนาคต อนุมัติจ่ายปันผล 0.073 บ./หุ้น-รับเงิน 23 พ.ค.นี้

SFLEX หุ้นดีมีอนาคต อนุมัติจ่ายปันผล 0.073 บ./หุ้น-รับเงิน 23 พ.ค.นี้

คุณปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริษัท พร้อมด้วยคุณปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร  , พลเอกมนตรี สังขทรัพย์ ประธานกรรมการตรวจสอบ พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ถ่ายภาพร่วมกัน ภายหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ รวมทั้งอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังของปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.073 บาท เป็นเงิน 56.67 ล้านบาท กำหนดจ่ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุม 211-213 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค