‘บิ๊ก ทองภูมิ’ ประกาศขายรถลั่นหาตังค์กินข้าวฟื้นฟูสภาพจิตใจ

ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตไม่น้อย เมื่อนักแสดงหนุ่มคนดัง "บิ๊ก ทองภูมิ"  ออกมาประกาศขายรถตัวเองกลางอินสตาแกรม โดยมีข้อความระบุในภาพว่า "ขายกินจ่ะ (ขายจริงนะ) BMW E34 เครื่อง 2jz แอร์เย็น เพลงเพราะ ตามสภาพ 55,000 ด่วน!!! ไม่มีตังค์กินข้าวแล้วจ่ะ อินบ็อกซ์มาด้วยค่ะ"

พร้อมกับเขียนแคปชั่นอีกว่า "รถข้าพเจ้า ขาย เอาตังค์ไปกินข้าว กินเยอะมากช่วงนี้ ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ มาด่วน!!! ใครรวยมาช่วยซื้อ เครื่อง 2jz ติดแก๊ส แอร์เย็น เพลงเพราะ"

 

 

ขอบคุณ IG-@bigthongpoom

ผู้ชายสุดเรียล! "บิ๊ก ทองภูมิ" เข้าใจสัจธรรมชีวิต ในวันที่ไม่มีงาน ไม่มีเงิน

ผู้ชายสุดเรียล! "บิ๊ก ทองภูมิ" เข้าใจสัจธรรมชีวิต ในวันที่ไม่มีงาน ไม่มีเงิน

ความลับจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะรายการ “แม๊... เม้าท์ ยังไงไหนเล่าซิ” EP.41 นำทีมโดยสองพิธีกรตัวแม่สายเม้าท์ “แม่อ้วน รีเทิร์น” และ “ก๊อตจิ” พาไปเปิดบ้านแขกรับเชิญ “บิ๊ก ทองภูมิ” อดีตนักแสดงตัวท็อปของเมืองไทย พร้อมพาเปิดทุกมุมบ้านและมุมชีวิตที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ที่พร้อมสละทุกอย่างเพื่อสร้างกุศล และล้วงลับ “สถานะหัวใจ” เจ้าตัวแจงชัด “ไม่ถือตัว ขอเป็นว่าที่ผัวของทุกเพศ” พร้อมเผยทุกเรื่องราวแบบหมดเปลือก!!

โดยงานนี้ “แม่อ้วน” เปิดประเด็นกับคำถามที่สังคมอยากรู้ว่า “บิ๊ก ทองภูมิ”เป็นเพศอะไร?

บิ๊ก : คือจริตการพูดขึ้นอยู่กับว่าเราสนทนาอยู่กับใคร ด้วยความที่เราอยู่ใกล้ LGBTQ อยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราพูดได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ ฝั่งนั้นเขาก็จะหัวเราะเบิกบาน แต่ถ้าเราบอกครับ ขอบคุณครับ กลายเป็นว่าเราดูดุ ทุกคนก็ดูเราดุ เราเครียด แต่เปล่า บางทีเราเลือกบริบทให้ดูตลก เฮฮา ดีกว่า  ถ้าอย่างเจอพี่มดดำเราก็ต้องพูดอะไรแบบนี้

พูดถึงมดดำมันไม่ตลก มันมีกระแสข่าวลือบิ๊กเป็นผัวของมดดำ ?

บิ๊ก : ถ้าจะบอกว่าเป็นผัวก็ถือว่าเป็นผัวนะ ถ้าจะบอกว่าเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อน จริงๆเราก็เป็นผัวของกะเทยทั่วทุกคนอยู่แล้ว คือเราก็สนิทกับเขาแล้วเราก็อยู่ในบ้านเขามาตลอดซึ่งจะมานัวเราก็เป็นเรื่องธรรมดามากเลย

ก๊อตจิ : นัวเฉยๆไม่ได้เป็นผัว

บิ๊ก : แต่ถ้าบางคนต่อให้เกินคำว่านัว บางคนก็ไม่เรียกผัวเหมือนกันนะคะ บางคนไปจิ้มเธอยังไม่เรียกว่าแฟนเลยด้วยซ้ำ

จริงๆแล้วสเปคเราชอบแบบไหน ?

บิ๊ก : คือจริงๆแล้วความรักในปัจจุบัน มันไม่ใช่ความรักที่จะมาเป็นแฟน สมมติเรารู้จักกัน มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน ไปมาหาสู่ มีเรื่องอะไรช่วยเหลือกัน มันเป็นความรู้สึกแบบนั้น

แล้วคนที่จะเข้ามาในชีวิตต้องเป็นเพศไหน เพศหญิง เป็นเกย์ เป็นกะเทย ?

บิ๊ก : เรามีความรักความปรารถนาดีให้ แต่ถ้าให้เอาไปเป็นคู่ ไปแต่งงานเราคงทำให้ไม่ได้ คือโฟกัสของเรา ณ ตอนนี้ เอาจริงๆตอนแรกเราบวชแล้ว เราบวชเป็นพระอยู่  แต่พอเราบวชเป็นพระ บังเอิญว่าซีพี เราเป็นนักเรียนทุนของเขา เพราะเราเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเขาตั้งแต่ก่อนบวชก็เลยต้องออกมาทำตรงนี้ กับอีกเรื่องหนึ่งคือคดีเรื่องจ่ายเงินก็ออกมาเพื่อทำงานจ่ายเงินให้เขา เรื่องที่สามตั้งแต่เราทำงานเป็นดารามาเนี่ยเรายังไม่ได้เลี้ยงแม่เลย เราก็เลยออกมาทำหน้าที่เพื่อหาเงิน ทรัพย์สมบัติมาเพื่อให้แม่ ซึ่ง ณ ตั้งแต่เด็กไม่เคยมีอะไรเป็นของตัวเองเลย ซึ่งบ้านหลังนี้ก็ไม่ใช่ชื่อเรา เพราะเราให้ทุกคนไปหมดเกลี้ยงแล้ว และเงินที่เข้าทุกวันนี้ เราก็โอนให้ทุกคนหมดเลยก็ไม่มีอะไรที่เป็นของเราเลย รวมไปถึงทีมทำบุญ 2 ฝั่ง ที่ทำเสื้อทำสร้อย พอขายได้ เงินทั้งหมดนะก็เอาโอนเอาไปให้ทำโรงทานและก็แจกทั้งหมด ถามว่ามีอะไรเป็นของตัวเองมั้ย ไม่มี

ไม่คิดจะเก็บเป็นทรัพย์สินตอนโตขึ้นเหรอ ?

บิ๊ก : ไม่ครับ กะทิ้งแล้วปล่อยตายเลย

ถ้าหมดห่วงแล้วจะบวชมั้ย ?

บิ๊ก : คิดว่าก็บวช หือถ้าไม่บวชก็ไม่ซีเรียส ถ้าปล่อยตาย ก็ปล่อยตาย เพราะว่าเราก็ไม่ได้มีเงินอยู่ทุกวันนี้ ทุกวันนี้ก็หาหมอ 30 บาท

เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ ไปดูกันเต็มๆ ได้ในรายการ เลยจ้า...

รับชมกันแบบเต็มๆได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=cwUnhbGmb4A ติดตามความสนุกและรอลุ้นว่าเหล่าพิธีกรจะไปบุกบ้านดารานักแสดงคนไหน ในรายการแม๊...เม้าท์ ยังไงไหนเล่าซิ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.40 น. ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี

#บิ๊กทองภูมิ

 

'บิ๊ก ทองภูมิ' ประกาศยุติร่วมงานค่าย 'กานต์' เผยรู้สึกไม่ปลอดภัย

ทำเอาแฟนๆงงไปตามๆกัน  เมื่อนักแสดงดัง "บิ๊ก ทองภูมิ สิริพิพัฒน์" ออกมาประกาศขอยุติบทบาทการทำงานร่วมกับทางค่าย Luster Entertainment ที่ "กานต์ วิภากร" ภรรยาของร็อกเกอร์ดัง "เสก โลโซ"  เป็นผู้บริหาร  โดยระบุว่า "ข้าพเจ้า บิ๊ก ทองภูมิ ขออนุญาตใช้พื้นที่ส่วนตัวนี้ชี้แจ้งข้อมูลในกรณีต่างๆ ที่เกิดดังต่อไปนี้

1.ข้าพเจ้าขอยุติบทบาทการทำงานร่วมกับ Luster Entertainment เนื่องจาก สาเหตุทางด้านจิตใจและร่างกายตอนนี้ ที่ยังไม่พร้อมในการทำงาน แต่ผมยังเคารพรักพี่เสก และทางค่ายอยู่เหมือนเดิม

2.ตั้งแต่ผมได้ร่วมงานกับ Luster Entertainment ในฐานะศิลปินนั้น ผมไม่ได้มีการเซ็นสัญญาใดๆ กับทางบริษัทตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน แต่เป็นการทำงานร่วมกันในแต่ละครั้ง ซึ่งทางบริษัท จะเป็นผู้ว่าจ้างมอบหมายงานมาให้แล้วจบเป็นรายครั้งไป

3.เนื่องด้วยตอนนี้มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกหวาดระแวง และรู้สึกไม่ปลอดภัย จากการที่มีบุคคลอื่นกระทำการเลื่อยกุญแจบ้านผม และกระทำการต่างๆ ที่เป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่สามารถพักอาศัยในบ้านตัวเองได้ ผมคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวผมเองมากๆ ครับ

4.ผมขออนุญาตชี้แจงเพียงเท่านี้ และขออนุญาตไม่ตอบคำถามใดๆ เพิ่มเติมอีกแล้วครับ ผมหวังว่าทุกๆ คนจะเข้าใจผมนะครับ ผมขอขอบคุณสำหรับทุกๆ โอกาสในชีวิตของผมที่เข้ามา และยังยินดีเสมอที่จะรับงานในสิ่งที่ความสามารถผมทำให้ทุกๆ คนได้"

"บิ๊ก ทองภูมิ" 20 ปีมีสัญญาแต่ไม่มีความสุข!? ไม่แคร์คำพูดคนมองว่าติดยา

เปิดใจแบบเจาะลึกกับนักแสดงหนุ่มหุ่นแซ่บ "บิ๊ก-ทองภูมิ สิริพิพัฒน์" ในรายการ WOODY FM เรียกได้ว่าอยู่ในวงการมาอย่างยาวนานและแสดงมาแล้วทุกบทบาทในวงการบันเทิง เผย 20 ปีมีสัญญาค่ายแต่ไม่มีความสุข? ทุกข์จนต้องหนีไปบวช ครั้งหนึ่งเคยพบรักกับสาวชาวต่างชาติใน IG ลั่น! ไม่แคร์คนมองว่าพูดจาไม่รู้เรื่องเพราะติดยา

ชีวิตเป็นยังไงบ้างหลังจากที่เราไม่ได้เจอกันมานาน ?

บิ๊ก ทองภูมิ : อยู่ในกฎตลอดเวลา การปฎิบัติตัวของเราตั้งแต่เช้ายันหลับก็ยังเป็นอยู่ตามนั้น ก่อนหน้านั้นที่เรายังอยู่ในบริษัทอยู่ในค่าย เพราะฉะนั้นการปฎิบัติตัวก็จะเป็นไปตามกฎระเบียบ ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย นั่งอ่านสคริปต์ อ่านบท ทุกวัน เข้าการแสดงทุกวันตลอด 20 ปีไม่มีวันหยุดและไม่เคยหยุด ไม่เคยไปเที่ยว ไม่เคยไปไหน

แล้วคุณมีความสุขไหมในโลกนั้น ?

บิ๊ก ทองภูมิ : ไม่มีความสุข (หัวเราะ) ทุกข์มาก

แล้วทำไมถึงยังทำต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ?

บิ๊ก ทองภูมิ : ทำเพราะว่าเรายังมีสัญญาไง มีผู้ใหญ่ที่เรายังต้องเคารพรักษา ตามข้อปฎิบัติขององค์กร แล้วนี่เพิ่งหมดสัญญา

คุณเซ็นกี่ปีหรือว่าต่อไปเรื่อยๆ ?

บิ๊ก ทองภูมิ : เรื่อยๆ จนทั้งหมด ในชีวิตของการอยู่บริษัททั้งหมด 20 ปีเต็ม มีสัญญา 4 ฉบับ อยู่ 2 บริษัทด้วยกัน เหมือนเราเป็นทหารอยู่ในกรมเกือบ 20 ปี แต่ว่าตอนนี้มาเป็นทหารพรานรับจ้าง

เป็นทหารพรานมานานหรือยัง ?

บิ๊ก ทองภูมิ : เป็นทหารพรานมาประมาณ 2 ปี

แล้ว 2 ปีที่ผ่านมา ?

บิ๊ก ทองภูมิ : บวชเลย ตัดสินใจหลังจากที่เคลียร์เสร็จทุกอย่าง จริงๆในช่วงรอยต่อก็จะมีเรื่องชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงจากระบบจากหมาบ้านเป็นหมาป่า หมาบ้านถึงเวลาเราก็จะมีอาหารใช่ไหม แต่หมาป่าเราไม่รู้เลยว่าตรงนี้คือป่า ตรงนี้คือแสงแดด เราก็ออกมา

ออกมาแล้วเราต้องเจออะไรบ้าง ?

บิ๊ก ทองภูมิ : แต่มันมีความสุข ถามว่าต้องเจออะไรบ้าง เจอเรื่องเงินที่เราไม่ได้ เจอเรื่องผลประโยชน์ที่เราจะต้องยอม ปัญหาที่เราไม่ได้สร้าง เราก็ต้องรับเพื่อให้มันจบ ๆ ไป ปัญหาความรับผิดชอบอะไรต่างๆ จาก 2 แสนได้ 2 หมื่นก็มี หรือ 1 แสนได้ 1 หมื่น บางทีไปถึงงานแล้วบอกไม่มีก็มีแบบนี้ เป็นธรรมชาติของชีวิต ผมคิดว่าก็มีคนที่เจอแบบนี้เยอะ แต่ว่าเขาอาจจะอยู่ในจุดที่ออกมาพูดไม่ได้

มีผู้จัดการไหม ?

บิ๊ก ทองภูมิ : ไม่มีสบายใจกว่า เพราะว่ามันมีก็ถึงมีปัญหา ยิ่งบริวารหรือผู้คนเยอะ ความรับผิดชอบก็เยอะ ต้นทุนในการจ่ายถ้าเป็นลูกพี่เราก็ต้องจ่ายเยอะ แต่ว่าปริมาณงานเท่าเดิม ซึ่งแต่ละองค์กรไม่เหมือนกัน เราสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

ไปบวชนานไหม ?

บิ๊ก ทองภูมิ : นาน จริงๆจะบวชไปเรื่อยๆ คือตอนแรกนั่งอยู่ดีๆ ก็เดินเข้าไปแล้วก็โกนผม พระอาจารย์ถามว่าจะบวชไหม เราก็บวช โกนเดี๋ยวนั้นเลย พ่อแม่ยังไม่รู้เลย เราก็อยู่ไปเรื่อย ๆ พระอาจารย์ก็อยากให้เรารับใช้พระพุทธศาสนาต่อไป ก็เลยอยู่ท่านก็พาไปวัดเวฬุวันไปอยู่ที่กาญจนบุรี 1 วัน พาไปเที่ยวไปดูว่าเป็นยังไง นี่คือสถานที่ๆเราจะต้องอยู่สินะ มันคือสนามรบแล้ว หลายคนคิดว่าเราหนีเพื่อไปหาความสุขไม่ใช่ จริงๆแล้วความสุขสงบในวัดก็ไม่สงบหรอก เราจะต้องอดหลับอดนอนแล้วมีหน้าที่ๆจะต้องทำมากมายในแต่ละวัน

ทุกอย่างเล่นมาหมดแล้ว ครบทุกบท ?

บิ๊ก ทองภูมิ : ทุกอย่างทุกบทเล่นมาครบ หนังทุกค่าย ละครทุกช่อง ตัวรอง ตัวร้าย พระเอก ตัวประกอบ สายวายก็เคยเล่น

อะไรต่อไปสำหรับชีวิตของ บิ๊ก ทองภูมิ ?

บิ๊ก ทองภูมิ : ไม่มี เพราะทุกอย่างเราไม่รู้ อะไรจะเกิดก็เกิดไป เพราะว่าเราทำหมดแล้วนิ

10 กว่าปีที่ผ่านมาเรื่องหัวใจเป็นยังไงบ้าง มีแฟนไหม ?

บิ๊ก ทองภูมิ : สงบร่มเย็น แฟนไม่มี เพิ่งจะมามีตอนที่มีเรื่องกันนี่แหล่ะ แล้วผมทำไงรู้ไหม ปัด IG ไปเจอฝรั่งคนหนึ่งก็คุย ดีตรงที่เขาไม่รู้ว่าเราเป็นดารา ก็ไม่คิดว่าจะได้เป็นแฟนกันด้วยนะ ก็คุยกับเขาว่าไปกินข้าวกันไหม เราก็ไปนั่งกินหมูกะทะกัน เพราะเราเหน็ดเหนื่อยจากเรื่องราวบ้าๆบอๆ ที่ไม่มีใครเข้าใจเลย ก็เลยไปหากันบ่อยๆ อยู่ประมาณเดือนหนึ่ง รู้สึกว่าชีวิตเราต้องการแค่นี้ก็โอเค แล้วเขาก็ไม่อยากกลับอเมริกา เขาอยากอยู่เมืองไทย ก็เลยบอกว่าเป็นแฟนกับเราไหม ก็เป็นแฟนกัน โอเคไม่มีปัญหานะ แป๊ปเดียวที่เขามาอยู่กับเราก็ไม่มีงานสิเพราะข่าวอะไรก็ออก เราก็ไม่มีกินก็หันไป ไอไม่มีตังค์ ยูต้องกลับแล้ว สุดท้ายเขาก็ต้องกลับไปอยู่ที่อเมริกา ซึ่งเป็นช่วงที่ก่อนเราจะบวช

ในช่วงที่ผ่านมามีคนมองว่าบิ๊กคุยไม่รู้เรื่องเพราะติดยา ซึ่งวันนี้ที่ผมฟังมันเป็นหนังคนละม้วน คุณเคยได้ยินไหม ?

บิ๊ก ทองภูมิ : เคยได้ยินมันก็เป็นแค่คำพูดไม่ได้คิดอะไร ผมพูดเสมอเวลาน้องๆ มาถามเวลาทุกข์ เขาด่าแกเป็นแมลงสาป แล้วปีกงอกออกมาไหม ตัวแกก็ยังเป็นคนเหมือนเดิม คนเราจะเป็นจริงได้เนื่องจากเหตุที่เราทำไว้ แล้วเราก็รับผลจากสิ่งๆ นั้น 

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=FId1GcGHS7g&t=628s

 

วิกฤติชีวิต! “บิ๊ก ทองภูมิ” ป่วยหนัก วูบหัวฟาดพื้น รักษา 5 หมอ หมดเงิน 5 ล้าน ปัจจุบันสละทรัพย์สินทั้งหมด

“บิ๊ก ทองภูมิ” เปิดใจ ทักให้กำลังใจอดีตคนรัก “เป้ย ปานวาด”พร้อมเคลียร์เทกองละคร ต้องชดใช้เงินหลายล้านบาท เผยสาเหตุที่แท้จริงวิกฤตbชีวิต หายไปจากวงการหลายปี เพราะป่วยหนัก ผมร่วงหมดศีรษะ เกือบตายกลางละคร ล้มหัวฟาดพื้นห้องน้ำ สาเหตุตัดสินใจบวช ไม่เหลือเงินสักบาท ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ทักไปให้กำลังใจเป้ย ปานวาด เกิดอะไรขึ้น?

“ผมก็รอทักคุณหนิง ปณิตาเหมือนกัน แต่คุณหนิงไม่อ่าน (หัวเราะ) เราก็ทักไปว่าเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ยตอนนี้ ถ้าไม่ดีชีวิตของคนเรามันอยู่ไม่นานนะ คนรักยังมีอีกเยอะ ฉะนั้นอย่าคิดมาก เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งสุดท้ายของชีวิต ยังมีคนรักเธออีกมาก เราก็พิมพ์ไปยาว”

คนก็เข้าใจว่าคุณไปจีบคุณเป้ย ปานวาด?

“ไม่เป็นไร เคยจีบมาแล้ว จะจีบอีกสักทีจะเป็นไรไป (หัวเราะ) ไม่ๆ จริงๆ แล้วเราให้กำลังใจ เราคุยไลน์แหย่กันเล่นให้สนุก เป้าหมายของเรา ทำให้เขาหัวเราะ เราถามเขาว่ากินอิ่มนอนหลับมั้ย โอเคมั้ย ถ้าโอเคก็จบแล้ว”

เหมือนคนเป็นเพื่อนให้กำลังใจกัน?

“ใช่ ขนาดผมชอบคุณหนิง ปณิตา ก็ไม่ได้มาทรงจีบตลอดเวลา”

ต้องผ่านด่านธัญญ่าไปก่อน?

“ผมก็รักพี่ธัญญ่าเหมือนกัน สวัสดีพี่เป็กด้วยนะครับผม (ยกมือไหว้) สักเทปมั้ยล่ะ คนละเป็ก”

เราไปให้กำลังใจหรือลึกๆ รู้สึกผิด?

“ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ภาพลักษณ์ออกมาผู้ชายทำชั่ว ผู้หญิงทำดี ก็เลยเลิกกัน เปล่า จริงๆ เป็นเหตุผลของชีวิต”

คุณทักถึงเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณด้วย?

“เขาเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากคนนึงเลยนะ รักจริงๆ เลย เราก็รู้เรื่อง ให้กำลังใจตลอด แต่ก่อนเจอที่ทองหล่อ พูดแล้วคันปากเลยเนี่ย เราไปกินไอติมก็มีแต่ก่อนโซเซียลไม่ได้แรงขนาดนี้ เราถามเรื่องสุขภาพ ชีวิตทั่วไป เรื่องลึกเราก็คุย แต่ไม่ขอพูดตรงนี้ เราก็ให้กำลังใจ รักเขาด้วย เอาตรงๆ (หัวเราะ) รักเป็นสิ่งที่ดี แต่ก่อนมีรูปด้วยกันก็พยายามลบ จะได้ไม่ออกไปในทางที่ไม่ดี แต่จริงๆ คนรักกัน เหมือนผมรักพี่”

งานไนน์เอ็น ประเด็นใหญ่มาก คุณให้สัมภาษณ์ในวงนักข่าว แล้วใช้คำพูดที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สุภาพ หยาบคายมาก นักข่าวสนิทมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

“สนิทสิ เรารู้จักกันมา 20 ปี กลางวงสัมภาษณ์คนอาจเห็นกล้องฝั่งผม แต่ไม่เห็นกล้องข้างหน้า ข้างหน้านี่ฮากันครืนเลย เพราะเรารู้จักหมด ทุกสำนักเรารู้จัก เราเจอกัน เวลาแหย่ไปทุกคนหัวเราะกันหมด คลิปนี้พอออกมา คนเข้ามาชมและคุยกันเยอะแยะเต็มไปหมดเลย ไม่ดราม่า”

คุณสนิทกัน?

“20 ปี จริงๆ มีพาร์ตสุภาพทำไมไม่ตัดออกมาล่ะ ตอนผมพูดเขาก็หัวเราะกันอยู่นะ”

ณ ตรงนั้นบิ๊กอาจรู้สึกว่าสนิท แต่พี่ๆ บางคนเขารู้สึกว่าเขาให้เกียรติในการที่เราอยู่ในงาน ถ้าเขารู้สึกไม่ดีแล้วโกรธขึ้นมา อยากบอกอะไรเขามั้ย?

“เรายังไม่เจอคนโกรธในงานวันนั้นเลย ถ้าโกรธขึ้นมาจริงๆ  เวลาเราเล่นเราก็ดูกาลเทศะนะ ถ้าคนนี้เล่นไม่ได้เราก็ไม่เล่นนะ ถ้าเล่นได้เราเล่นชัวร์ปั้ง เหมือนคุณขวัญ โปรดิวเซอร์ เราไปปุ๊บก็ฮา เราก็เล่นเลย คนไม่สนิทเราก็ไม่เล่น เราต้องดูกาลเทศะ”

เรามีป้ายห้ามแขกรับเชิญพูดคำหยาบ กลัวถูกบิน ตั้งแต่มีแขกรับเชิญไม่เคยมีป้ายนี้เลย?

“(หัวเราะ) เขายังพูดเลยว่าใช้ได้มั้ย เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ตัดไปเถอะ เราก็โอเค”

คนทางบ้านไม่รู้ มีคนมาคอมเมนต์ว่าบิ๊กดูหยาบคาย โดนตัวอะไรมา อยากบอกอะไร?

“เปิดให้ดูเลยว่าเขาด่าจริงมั้ย ทุกคอมเมนต์ไม่มีด่าเลย ชมหมดเลย (อ่านคอมเมนต์) จะด่าได้ยังไง ยังแคปมาให้ดูเลย แต่ถ้าด่าก็ไม่ว่า ถ้าเครียดก็ระบายมาเถอะ เรายินดี เราเป็นคนของประชาชน ประชาชนอยากทำอะไรกับเราก็ให้เขานะ อย่างผมแคปมา จริงใจดี ชอบ พี่แกสุดอยู่แล้ว โคตรชอบคนแบบนี้ ชอบๆ มันจัด เอาเลยพี่บิ๊ก ไม่แอ๊บพูดฯ”

ฝั่งนึงชม แล้วอยากบอกอะไรอีกฝั่งที่มองว่าไม่เหมาะสม?

“จริงๆ มีการให้ความรู้แล้วในการเสพสื่อ ผมปริญญาโทนะ เพื่อนๆ ก็เป็นนักข่าวทั้งนั้น จริงๆ มีเรื่องของสื่อ เรื่องคอนเทนต์ผมว่าเดี๋ยวนี้คนไทยเราฉลาด รู้อะไรดีชั่ว ศีลธรรมรู้หมด เวลาเราดู วันนี้ก็มาคุย หลังเราดูเสร็จ ก็กลับไปทำงานเหมือนเก่า”

ไม่ได้ซีเรียสอะไร?

“ไม่ซีเรียส วงการบันเทิงอ่ะเนอะ”

เรื่องเทกองละคร มีประเด็นคาราคาซังมาเกือบ 2 ปี ผู้จัดเกิดความเสียหาย?

“จริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่มีหลายคน คุยกันแล้ว เขาบอกว่าบิ๊กไม่ต้องไป ถึงเวลาคุยกัน เราก็รอตกลง เขาตกลงกันสองเดือนยังตกลงไม่เสร็จเลย อยู่ดีๆ โผล่มาเป็นหมายศาล งั้นไม่เป็นไร วันนี้ผมเล่าเรื่องจริงแล้วว่าเป็นแบบนี้ มันไม่ใช่การตัดสินใจของผม ถ้าผมตัดสินใจว่าโอเค ผมไม่ไป ผมจะไม่ว่าเลย ถ้าถามว่าผมเท ทำไมวันนี้ผมมาตรง ที่ผ่านมา 20 ปีทำไมผมไม่มีปัญหา ถ้าผมไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย ไม่มีความรับผิดชอบ เป็นดารามาได้ยังไงถึงทุกวันนี้ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันต้องมีอะไรบางอย่าง ลองไปขุดขึ้นมาดูสิ แล้วจะรู้ความจริง”

เรื่องจบหรือยัง?

“ตัวผมจบ พอเกิดเรื่อง ผมไปไหว้ไปกราบขอโทษ กราบเท้าทุกคนเลย ผมยอมทุกคนเลย บอกว่าพี่ต้องการอะไร ฝั่งนี้ต้องการอะไรที่ทะเลาะกัน เราไม่ได้เป็นคนไปทะเลาะกับเขานะ มีคนทะเลาะกันอยู่ แต่พอมีความเสียหาย พี่ต้องการอะไร  เงิน งั้นโอเค มาเอาที่ผม เดี๋ยวผมจ่ายค่าเสียหายให้”

จ่ายไป 7 หลัก?

“รู้มั้ยอยู่ในศาล ผมยกมือบอกผู้พิพากษาว่าเดี๋ยวผมจัดการเองครับท่าน  ต้องการอะไร ท่านบอกว่าอยากให้บิ๊กทำอย่างนี้ๆ เรื่องจะสงบ สันติ ผมก็บอกว่าเดี๋ยวผมทำให้ครับ ผมเป็นคนขอจบ”

ต้องจ่ายเงินมั้ย?

“ต้องรอกันต่อไป” 

เขาบอกบิ๊กรับงานซ้อน?

“ไม่จริง เราทำงานถ่ายละคร 4-5 เรื่อง คิวทับกันยังไม่มีปัญหาเลย ขอโทษนะเมื่อก่อนพระเอกเล่นได้แค่ปีละ 2 เรื่อง แต่เล่นแบบเรา ได้ปีนึง 4-5 เรื่อง เราโผล่ทุกช่อง 3 5 7 พร้อมกัน อีเวนต์ทัวร์ทั่วประเทศ ช่องวันก็ไปนะครับ บีน้ำทิพย์ นางเอกเบอร์หนึ่งเราก็เล่นมาแล้ว อีเวนต์ไปทัวร์ทุกจังหวัดมาแล้ว ถามว่าทำไมไม่มีปัญหาล่ะ แต่จะมามีปัญหาตรงนี้ได้ไง ลองพิจารณาดูสิ”

หายไปจากวงการ?

“เราไม่ได้หายไปไหนหรอก ผมทำงานเพลง เล่นดีเจ เล่นกลางคืน คอนเสิร์ต ร้องเพลงประกอบหนัง ทำเพลง ช่วงที่คนว่าหายไป อันแรกเลยเราป่วย หลังเราทำงานหนักมาก ถึงเราก็ป่วย ผมก็เริ่มร่วง เลือด อายุก็แก่ขึ้น ก็ต้องมีหมอฝังเข็ม หมอแพทย์แผนปัจจุบัน จิตแพทย์คอยเยียวยามารุมเราใน 7 วันคิวหมอแต่ละคนเลยเพื่อรื้อฟื้น ร่างเราพัง พอถึงเวลาสะสม ตั้งแต่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 16 ผมทำงาน นัดตีสามเลิก 7 โมงเช้า แล้วคิดดูเอ็มวียุคนั้นผมเล่นทุกตัว เรียนวิศวะฯ จุฬาฯ กลับมาถึงสี่ทุ่ม อ่านหนังสือถึงเช้า สิบโมงไปเรียน ติดมาแบบนี้ พอเล่นละครก็ 7 วัน วันนึงอยู่บนเวทีก็ร่วง คนพาส่งรพ. หรือกองงานอีเวนต์ก็ร่วงบ่อยแล้ว มีเรื่องที่เป็นลม เรื่องบวช อะไรอีกหลายอย่าง ก็ได้ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ ได้ทำดนตรี ได้บวชให้พ่อแม่ ได้เรียน ได้ทุนจากบริษัทซีพี จริงๆ ได้ทุนตั้งแต่เรียนจุฬาฯ แต่เราติดถ่ายละคร เรียนไม่ไหว ก็ออกมาทำงาน”

มีหลายครั้งที่มีข่าวบิ๊กวูบในกองละคร?

“วูบทุกเรื่อง เขาย้ายเลโกชั่นไปแล้ว ผมนอนรอ อีก 1 ชม.ค่อยตามไป บอกเขาว่าไม่ไหวแล้ว เรื่องล่าสุดจากศัตรูสู่หัวใจ กับพี่อั้ม พัชราภา เป็นซีนโรงงาน เราเป็นเจ้าของโรงงาน เขาย้ายไปหมดแล้ว เราก็นอนอยู่อย่างนั้น อีก 1 ชม.ค่อยย้ายตามไป คุณชายไก่โต้ง ปวดหัว ทีมงานพาไปรพ. ก็ลุก ก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาบอกลุกขึ้นมาขอประโยคเดียว ไฟหิมะก็เหมือนกัน ถึงเวลานายบอกว่าบิ๊กพูดประโยคนี้ก่อน เดี๋ยวจบไม่ลง เราก็ลากแห่กันไปแล้วพูด เรื่องศรีอโยธยา ของหม่อมน้อยด้วย มันแหลกไม่ไหวแล้ว”

วูบหัวฟาดพื้นห้องน้ำที่บ้าน?

“ฟาดปั้ง แจ็ค แฟนฉันยังแซวเลย ว่าหัวไปแล้ว เป็นบ้าไปแล้ว มันแซว แต่พอฟาดปั้ง ตอนนั้นเจ็บมาก สุดท้ายเราอยู่คนเดียว ไม่มีใคร เราก็ลากตัวเองไปรพ. เชื่อมั้ยอันดับแรกไปถึงรพ. กรี๊ดกันทั้งรพ. ถ่ายตั้งแต่รปภ.ยันแผนก ไปถึงถ่ายรูปก่อน สองชม.ถึงได้เจอหมอ คิดดูคนของประชาชน เวลาไปห้วยขวาง ไปฉี่ ลากออกมาพี่ นิดเดียว แตกคากางเกง (อุจจาระ) สาบาน” 

กลับไปทำงาน?

“วันถัดมาเราต้องไปมอบเหรียญให้นักเทนนิสระดับเอเชีย งานการกุศลไม่ได้เงินนะ แต่เราต้องไป หน้าที่หลักทองภูมิคืองานกุศล ส่วนได้เงินคือส่วนที่ได้ เวลาช่วยน้ำท่วมทุกช่องเราไปครบเลยนะ ช่วงโควิดไปลงพื้นที่จริง ไปแจก แต่เราไม่ได้ทำข่าว”

เห็นว่าช่วงนึงขยับปากไม่ได้เลย?

“ตอนนั้นทำงานอีเวนต์ เป็นพิธีกร อีเวนต์ที่สมุทรปราการ เราพูดแล้วพูดไม่ได้ เราหันไปบอกพิธีกรข้างๆ ว่าเฮ้ย เรากำลังจะตายแล้วนะ เราต้องไปรพ. คนนั้นก็โอเคๆ ทุกวันนี้คนนี้ยังออกมาปกป้องเราเลยเวลาเรามีคดี ว่าเราเต็มที่มากจนต้องเข้ารพ. พี่คนนี้ออกมาพูดในติ๊กต๊อก คนไปดูเขาเยอะมาก ก็ขอบคุณนะ สุดท้ายพอคัทปั้ง คนขับรถส่งเข้ารพ. หมอบอกอย่างเดียวเลยว่าให้เลิกทำงานซะ ทุกอย่างมีใบรับรองแพทย์จริง สาบานเลยว่าเป็นเรื่องจริง”

ทุกครั้งทำไมข่าวออกมาเราดูติดลบ น้อยใจมั้ย?

“ไม่น้อยใจเลย มันก็คือคำพูดคน จะให้ถูกใจทุกคนก็คงไม่ได้หรอก อย่างฝรั่งเจอหนิง ปณิตา บอกว่าหนิง ปณิตาไม่สวยนะ แต่ถ้าเจอหมวย บอกหนิง ปณิตาคือราชาของเขา ไม่มีผิดไม่มีถูก ทุกคนไม่ได้ชั่ว ทุกคนดีทั้งหมด”

ภาพลักษณ์เราออกมากลายเป็นคนไม่ดีเท่าไหร่?

“ภาพลักษณ์ก็ส่วนภาพลักษณ์ ความจริงก็คือความจริง ภาพไม่ดีก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาเอาเราไปเล่นร้ายไง พอเล่นร้ายแล้วคนด่าก็ดีเหมือนกัน  เขาดูแล้วก็ชอบ”

ใจไม่ทุกข์?

“ไม่ทุกข์ เจอคอมเมนต์แย่ๆ ก็เข้าไปตอบ ขอบคุณค่ะ ดีนะ มีคนด่าเราสามล้านในติ๊กต๊อก ด่าแบบเละเทะ เราก็บอกว่าดีนะ ที่เหลือมันหลักแสน แต่คอนเทนต์ด่าเราสองล้าน ด่าได้นะ เรายินดีที่ได้รู้จัก ด่ามาเลย เราโอเคขอให้ช่องเธอได้ ได้สปอนเซอร์ เราโอเคมากเลย เราสละได้เรื่องชื่อเสียง เราไม่ได้หวง เราคือคนของประชาชน ดีก็ไม่เที่ยง ด่าก็ไม่เที่ยง ชมก็ไม่เที่ยง”

มีช่วงนึงทำไมผมร่วง เครียดหรือเปล่า?

“เราทำงานแล้วเลือดไม่ดี ผมก็ร่วง นี่ปลูกเป็นครั้งที่สองแล้วนะ ตอนนั้นผมร่วง ฟันผุไปแก้ 10 ซี่ มันเกิดจากเลือดเราเวลาทำงาน พอเราไม่ได้เช็กอัป เราไปเช็กอัปค่าโซเดียม ค่าโน่นนี่ไปหมดเลย แล้วอยากบอกว่าอันตรายมากนะพี่น้องบันเทิงทุกคน ล่าสุด ผกก.จากศัตรูสู่หัวใจเสียชีวิตแล้วนะ พี่อ๊อด กันตนา พี่อีกคนป่วยทุกโรค ของบิ๊กเกี่ยวกับการทำงาน แต่เวลาเช็กตอนนี้ค่อนข้างกลับมา ยังไม่ปกติแต่ทำงานได้ อย่างเช่นวันนี้รับคุยแซ่บงานอื่นก็ไม่รับแล้ว ได้แค่นี้ วันนึง 3 ชม. ได้แค่นี้ หรือเล่นคอนเสิร์ตวันนึงก็ได้แค่ 3 ชม. วันถัดไปเราตื่นเย็นเลย แต่ถ้าตื่นตีสี่เลิกเที่ยงคืน ไม่ไหวแล้ว ร่างกายเราไม่รับแล้ว”

อาการอย่างนี้คนอาจบอกว่าภาวะโรคซึมเศร้าที่บิ๊กไม่ยอมรับหรือเปล่า?

“ซึมเศร้าก็เป็น ติ๊ก 10 ข้อตอนนั้นเป็นทุกข้อ เหลือเรื่องสุดท้ายคือฆ่าตัวตาย ผมไม่ยอมฆ่า ผมขอดูแลแม่ก่อน จริงๆ ต้องกินยาปรับเคมีสมอง เวลาเล่นดราม่า เป็นไบโพลาร์ เป็นบ้า เป็นปีศาจ บทง่ายๆ ไม่เคยมาถึงมือ เล่น 4 คาแรกเตอร์พร้อมกัน ถึงเวลาก็ควรพัง จิตแพทย์ก็ต้องมาดูเราอยู่แล้ว พอช่วงเล่นเป็นไบโพลาร์จิตแพทย์ก็ต้องเยียวยาเรา เราเล่นแล้วก็เป็นเลย”

อาการมันเป็นยังไง?

“มันจะนิ่ง ปกติคุยเก่งและร่าเริง แต่ถ้าเจอแล้วนิ่ง ไม่พูด กินข้าวไม่ลง นอนไม่ได้ ไม่อยากเจอใคร เก็บตัว กินอาหารไม่ลง เหนื่อย พลังงานหมด นอนไม่หลับ เพื่อนเคยพาไปสยาม นอนที่พื้นกลางสยามเลยแล้วลากไป มันปวดหน้าอก แล้วมันเดินไม่ได้ จนสุดท้ายน้องที่เรียนจุฬาฯ เป็นคนลากไป”

คุณไม่มั่นใจว่าจะอยู่บนโลกใบนี้ได้หรือเปล่า เลยเริ่มสั่งเสีย?

“สั่งเสียตลอดอยู่แล้ว ทุกวันนี้ผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ผมบริจาคร่างกายหมดแล้ว ผมทำงานทั้งหมด ผมยกให้แม่ทั้งหมด ไม่เคยเก็บไว้ที่ตัวเลย ตั้งแต่ทำงานมา เพราะฉะนั้นเราผ่านจุดความตายหลายที เราก็บอกครูบาอาจารย์หมดแล้ว เราฝากกระดูกให้ใคร วันแรกที่ซื้อบ้านเราก็บอกว่าเราจะสละให้ใคร เราก็สละตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนี้ผมไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย เสื้อผ้ารองเท้าตอนนี้ก็ไม่ใช่ของผมเลย ไม่มีอะไรเลย ไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆ ทั้งสิ้น”

ใช้เงินรักษาอาการป่วยเยอะมาก หลายล้าน?

“เดือนนึงต้องมี 2 แสน เพราะรักษารพ.เอกชน ขายทรัพย์สินจนสุดท้ายต้องเข้ารพ.รัฐบาล ก็ต้องขอบคุณรัฐบาลด้วย 30 บาทหรืออะไรนี่แหละ”

บ้าน รถยนต์ ที่ดินทั้งหลาย ไม่มีแล้ว?

“ไม่มีของเรา ตอนนี้เป็นชื่อคนอื่น เราก็อยู่ไป เราไม่มีทรัพย์สินอะไร”

ขายบ้าน ขายรถ ขายทุกอย่าง ทำงานก็เอาไปรักษาอาการป่วย?

“ส่วนนึงรักษาอาการป่วย แล้วก็มอบแม่ที่เป็นผู้ดูแลเรา ทำงานสังคม ให้ชุมชน ให้โรงทาน ผมเป็นคนไม่สะสมทรัพย์ สมัยก่อนถ่ายละคร ผมขับอีโก้ค้าร์ คันละ 4 แสน แต่ทุกวันนี้ผมขับกระบะ เด็กๆ เคยขับซูเปอร์คาร์ รถสปอร์ต ตามวัย พอถึงเวลาก็หมด เบื่อไปเอง วันนี้นั่งวินมอเตอร์ไซค์มานี่ เราก็ใช้ชีวิตสบายๆ โทรถามแอ้มีข้าวให้กินมั้ย มีให้กินก็มากินที่นี่เอา”

ใช้เงินรักษาหมดไป 4-5 ล้าน?

“ใช่ โรคมันใช้เงินเยอะนะ พี่คิดดู 4-5 หมอนะ ครั้งละ 2 พันต่อสัปดาห์ต่อหนึ่งหมอ อีกหมอนึงเดือนละแสนห้าต่อหนึ่งหมอ จิตแพทย์ หมอสุขภาพประจำวัน นักวิทยาศาสตร์การกีฬาตรวจอายุร่างกาย ตอนนี้ร่างกายเหมือนคนอายุ 50 ดิ๊ฟเข้าไปทำให้ย้อนกลับไปอายุ 16-17 อีกครั้ง ปกติเขา 5 โดส ผมดิ๊ฟไป 20 โดส อายุยังลงมาแค่ 40 กว่าอยู่เลย ข้างในมันพังไปหมดแล้ว”

ตอนนี้ร่างกายเป็นยังไง?

“ทำงานได้วันละ 3 ชม. ก็ร่วงแล้ว ล่าสุดไปถ่ายรายการนิกกี้ ณฉัตร สองโล เข้าโลที่สองมือสั่นแล้ว ก็ต้องเอากลับบ้าน”

จะกลับมาเป็นปกติได้เมื่อไหร่?

“ทุกวันนี้ความแก่ก็แก่ไปเรื่อยๆ ร่างกายก็ทรงไปเรื่อยๆ แต่สามารถทำได้ อย่างวันนี้ประเมินแล้วเราไม่ตายคากอง เราก็คิดว่าไม่ตายเราก็เลยมา แต่ส่วนมากจะเบี้ยว เรื่องระเบียบวินัย เราไม่เป็นอย่างนั้น อย่างวันนี้เราไหว เรานอนพอ เราประเมินได้ แต่ถ้าส่งเราไปบู๊กลางป่าตีสี่ เราไม่ไหวแล้ว น้องๆ รุ่นใหม่ใครไหวก็ไปก่อน มันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ”

ไม่มีกินจนไปบวช จริงมั้ย?

“จริงๆ เราทำงาน เรารักษาตัว ทำงานเสร็จถึงเวลา จะมีความรู้สึกวันนึงของเรา เมื่อเราสละทุกอย่างของเราแล้ว เรารู้สึกว่าเราถึงเวลาต้องบวช เราต้องโกนหัว ความรู้สึกเราอยากโกน มีใครตามผมช่วงนึง ผมตัดผมสั้นลงเรื่อยๆ มีวันนึงไปวัด พระอาจารย์ถามว่าบวชมั้ย เราก็บอกว่าบวช ก็บวชเดี๋ยวนั้นเลย เราโทรหาแม่บอกว่ากำลังจะโกนหัวนะ มาดู แม่ก็มาดู อาจารย์ถามว่าแม่ พี่สาวขัดมั้ย ไม่ขัดก็บวช บวชเป็นผ้าขาว อยู่วัดป่า จะไปชายแดน แต่ถึงเวลาสุดท้ายบวชเสร็จ วันนึงเราคิดได้ว่าเราทำงานมาตีสี่ตื่น เที่ยงคืนถึงบ้าน ไม่เคยป้อนข้าวแม่ ไม่เคยอาบน้ำให้แม่ พระอรหันต์ในบ้านเราทำให้ไม่ครบ เรารู้สึกว่าเราค้าง ตอนนั้นอยู่กาญจนบุรี เราบอกครูบาเลยว่าใจเราไม่สงบ เราเหลือเรื่องนึง สุดท้ายเรากลับ”

บวชได้กี่เดือน?

“เราอยู่ไปเรื่อยๆ เลย ไม่ได้นับ แต่ที่ออกมา พรีเซ็นเตอร์ซีพีออล์บอกให้ออก สองคดีบอกว่าออกมาเคลียร์ ถ้าเราทิ้งไว้ใครจะเป็นคนจัดการ แม่เหรอ พี่สาวเหรอ เราเป็นผู้ชาย อาสาทำเอง งานนี้ผมได้เงินนะ วิ่งก้าวเพื่อธรรม ผมไปวิ่งก่อนที่ดาราจะไปวิ่งกันเยอะๆ เวลาไปทำงานผมไม่เอาหน้า ผมทำเงียบๆ”

ถ้าสะสางเรื่องทั้งหมด อยากกลับไปสู่ทางธรรมมั้ย?

“ถ้าจบแม่แล้วนะ ไม่เหลือซาก ผมบวชแน่นอน ไม่รู้จะอยู่ทำไม เราเป็นคนภาวนา ทุกคนที่เป็นแฟนคลับตัวจริงจะรู้ว่าที่ผ่านมาเราเดินเส้นทางนี้ตลอด แค่อยู่นอกเครื่องแบบ”

บางคนรู้จักคุณบ้างไม่รู้จักคุณบ้าง คุณเป็นคนดีจากเนื้อแท้?

“เราไม่มีคำว่าเฟก ไม่มีคำว่าเปลือก ไม่มีคำว่าใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนที่เห็นเรา เพิ่งได้เห็นเราที่เราเป็นเรา ก่อนหน้านี้ต้องเข้าใจว่าสังคมไม่ได้ยอมรับขนาดนี้ โซเชียลไม่ได้ขนาดนี้เรายังมีผู้ใหญ่ที่บอกว่าเราต้องเดินแบบนี้เพื่อป้องกันอย่างนี้ อยู่ค่ายก็ต้องทำตามคำบัญชาของนายว่านายจะเอายังไง ตอนนี้เราอยู่คนเดียว เราเป็นเรา คราวนี้จะเกลียดหรือจะรักก็เป็นเรื่อของเขาแล้ว แต่เราจะเปลี่ยนไม่ได้ เพราะเราเป็นคนแบบนี้”

ข้างในรู้เลยเป็นคนจิตสะอาด  ทำไมต้องมีเปลือกให้คนดูเป็นแบด?

“สิ่งนั้นเราไม่ได้สร้าง ผมว่าจริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน พระบางองค์ออกแนวเรียบร้อย บางองค์โหวกเหวกโวยวาย แต่ก็เป็นพระจริง นี่คือจริตของเรา”

ไปไหนก็หยอด หัวใจตอนนี้เป็นยังไง โสดหรือไม่โสด?

“อิสระ อยู่ไปแบบนี้แหละ ไม่รู้หรอก เห็นบอกคนคุยแต่ไปนอนด้วยกัน จะคุยกันยังไงก็ไม่รู้ ตอนนี้อยู่คนเดียว แต่ทุกคนก็เรียกเราเป็นผัวบ้าง เราก็เป็นผัวให้เขา เป็นอะไรให้ก็ได้ แล้วแต่เขา ทุกวันนี้เราเป็นได้ทุกสถานะของทุกคน ถ้าจะจีบก็ได้ แต่ ณ ปัจจุบันนี้นะ ชอบ หนิง ปณิตา ไปดูตัวจริงเขานะ เขาสวยมาก ตอนแรกไม่อะไรเลยนะ แต่ตอนนี้เห็นแล้ว ตายแล้ว กูรักผู้หญิงคนนี้เฉยเลยว่ะ” 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ บิ๊ก ทองภูมิ

https://youtu.be/jS87m985_Ac?si=WNKR3hlt3VK53gHs

“บิ๊ก ทองภูมิ” ขอโทษ “บอย พีรพล” ปมเบี้ยวงาน พร้อมชดใช้เงิน7หลัก

จากกรณีที่ ของผู้จัด “บอย พีรพล” ในนาม บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้จัดทำละคร “วิญญาณแพศยา” ทางช่อง 8 ขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรี ยื่นฟ้องนักแสดง “บิ๊ก ทองภูมิ” ในข้อหาผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหาย และถูกดำเนินคดีทางแพ่งฐานละเมิดสัญญา ต่อมาได้มีการประสานและเจรจาไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทผลปรากฏว่าเป็นผลดี ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน “บิ๊ก ทองภูมิ” พร้อมทนาย คุณยิ่งศักดิ์ แตงฮ่อ ได้มีการแถลงข่าวขอโทษ “บอย พีรพล” และ คุณกนกวรรณ(หุ้นส่วน) ในนาม บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยมีทนาย คุณธนพนธ์ ทองน้อย ทนายของฝั่งผู้จัดร่วมในครั้งนี้ด้วย โดยงานนี้ทางผู้จัดทั้งคุณบอย พีรพล และ คุณกนกวรรณ (หุ้นส่วน) รับคำขอโทษและตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน   และนักแสดงหนุ่มต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 7 หลัก

บิ๊กทองภูมิ เปิดใจสัมภาษณ์ว่า “จากกรณีเรื่องราว เมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ผมเทกองละครนะครับ เราก็รอเวลาที่ออกจะมาพูดอะไร จริง ๆ แล้วจะเล่าที่มาที่ไปเรื่องนึงนะครับ มีผู้ใหญ่มอบหมายให้ผมไปทำงาน พอถึงเวลามันก็เป็นคำสั่งไม่ใช่เรื่องออกมาจากใจผมนะครับ ก็บอกว่าจะไปเคลียร์ทุกอย่างให้จบแต่คราวนี้พอเคลียร์หรืออะไรไปแล้วเราก็มารู้อีกทีว่ามีคดีเรื่องการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น ทีนี้เราก็เลยรอเวลาว่าผู้ใหญ่จะจัดการอะไรยังไง คราวนี้มันถึงเวลาแล้วมันได้รับการกระทบกระเทือนทุกฝ่าย ผมเลยรู้สึกว่าถึงเวลาเราอยากที่จะหาทางออกที่สงบสันติ แล้วทุกคนก็ได้ใช้ชีวิตกันอย่างปกติ และทุกคนก็ได้รับความเป็นธรรม ผมก็เลยอยากที่จะออกมาเพื่อที่จะจบทุกอย่าง เพื่อที่จะทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้ในทุกส่วนซึ่งตัวผมก็มีความยินดีมาก ๆ แล้วก็วันนี้ดีใจมาก ๆ ได้มาเจอพี่ ๆ ทุกคนเพราะว่า หนึ่งเลยผมกับพี่บอยกับทีมงานพี่อ้อ กับทุกคนเราทำงานกันมา ผมก็กล้าสาบานนะถ้าฟ้าผ่าได้ก็ผ่าเอาทีมงานเป็นทีมที่น่ารักนะครับพี่เป็ด ผู้กำกับ เคยทำงานกันมาด้วยเป็นสิบปีแล้วแต่เหมือนที่เราได้บอกกันว่าผมก็ทำตามคำสั่งทุกอย่างมันไม่ได้เป็นการตัดสินใจของผม หลังจากนั้น บิ๊กทองภูมิ ก็ได้เอ่ยถึงคำแถลงเพิ่มเติมต่อว่า กระผม มีเหตุพิพาท กรณี การถ่ายทำละครเรื่อง "วิญญาณแพศยา" กับ บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดละคร เรื่อง "วิญญาณแพศยา" นั้นกระผม ขอกราบขอโทษคุณบอย พีรพล, คุณอ้อ กนกวรรณ และบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัดด้วยความจริงใจ เนื่องด้วยการกระทำและการตัดสินใจที่ผิดพลาดของกระผมในขณะนั้น เป็นเหตุให้การถ่ายทำละครต้องล่าช้า และทำให้บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัดได้รับความเสียหาย รวมทั้งผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดง ทีมงาน ต้องได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำและการตัดสินใจที่ผิดพลาดของกระผมในครั้งนั้นกระผม จึงขอกราบขอโทษคุณบอย พีรพล,  คุณอ้อ กนกวรรณ, บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, ดารานักแสดง และ ทีมงานทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ และหวังว่า คุณบอย พีรพล, คุณอ้อ กนกวรรณ, บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, ดารานักแสดง และ ทีมงานที่เกี่ยวข้อง จะให้อภัย และให้โอกาสแก่กระผมในการทำงานเพื่อนำเงินที่ได้ มาชดใช้ความเสียหายให้แก่บริษัท และกระผมขอขอบพระคุณ คุณบอย พีรพล, คุณอ้อ กนกวรรณ และบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่ให้โอกาสแก่กระผม ในการที่จะเปิดโอกาสทำงานร่วมกันอีกรวมทั้งช่วยหางานให้แก่กระผมด้วย

หลังจากนั้นด้าน คุณบอย พีรพล ผู้จัด ในนามบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เผยว่า “ในมุมมองพี่น้องเค้าก็ได้รับบทเรียนจากในสิ่งที่เค้าทำ เค้าน่าจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และก็รับผิดชอบงานมากขึ้น ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตในการทำงานของน้องเค้ามันก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่จะให้เค้าพัฒนาตัวเองต่อไปได้ด้วยจะได้เป็นประสบการณ์ไม่ต้องผิดพลาดแบบนี้อีก”

ด้าน คุณธนพนธ์ ทองน้อย ทนายความฝั่ง บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เสริมต่อว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมามันก็เป็นเรื่องของการผิดสัญญาอย่างหนึ่งนะครับ เป็นเรื่องปกติธรรมดามากที่เกิดขึ้นทั่วไปในส่วนของคดีนี้จบลงด้วยการยอมความกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งในข้อตกลงตรงนี้มีทั้งในส่วนที่คุณบิ๊ก ทองภูมิตกลงเยียวยาชดใช้ให้กับกองถ่าย ซึ่งรายละเอียดจะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่อย่างไร ผมต้องขออนุญาต ไม่สามารถให้รายละเอียดของตัวสัญญายอมได้นะครับแต่บริษัทก็คงไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำเพราะในส่วนนี้ถ้าเกิดคุณบิ๊กสามารถที่จะกระทำอย่างที่รับปากไว้ทุกอย่างก็คงจะคลี่คลายลงด้วยดีครับ เพราะวันนี้ในเมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิมแล้วก็อยากจะให้บรรยากาศนี้ดีต่อ ๆ ไป บอกคร่าว ๆ ได้เป็นจำนวนเจ็ดหลักนะครับ บริษัทก็พอใจเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจริงนะครับอย่างที่ทราบละครวิญญาณแพศยาเป็นละครพีเรียดและฉากต้นทุนค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง”

 

#บิ๊กทองภูมิ