AWC จับมือบิ๊กซี เปิด “บิ๊กซี ฟีนิกซ์ ประตูน้ำ” โมเดลใหม่ไฮเปอร์มาร์เก็ตใจกลางกรุงเทพฯ

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร และ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ Big C ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี ร่วมเปิดตัว “บิ๊กซี สาขาฟีนิกซ์ ประตูน้ำ” ไฮเปอร์มาร์เก็ตแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บนพื้นที่รวมกว่า 3,000 ตารางเมตร ณ โครงการฟีนิกซ์ ย่านประตูน้ำ หนึ่งในทำเลยุทธศาสตร์กลางเมือง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการสร้างประสบการณ์ด้านการค้าปลีกและอัตลักษณ์ด้านอาหารใจกลางกรุงเทพ ด้วยความมุ่งมั่นสู่การเป็น “Foods Destination For All” สำหรับทุกคน ซึ่งผสานอาหาร การท่องเที่ยว และค้าปลีกที่ครบวงจรได้อย่างกลมกลืน ครอบคลุมทั้งลูกค้ากลุ่ม B2C และ B2B โดยมีสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า 50,000 รายการ เสริมศักยภาพโครงการสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดจำหน่ายอาหารทั้งในรูปแบบค้าปลีกและค้าส่ง รองรับความต้องการของทั้งลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าองค์กรอย่างครบวงจร โดยวันนี้ AWC ได้ร่วมอุดหนุนวัตถุดิบอาหารและสินค้าต่างๆ ในโอกาสฤกษ์มงคลเปิดสาขาใหม่  พร้อมเสริมกลยุทธ์การจัดซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

คุณวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ในการเปิดตัว “บิ๊กซี สาขาฟีนิกซ์ ประตูน้ำ” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของโครงการแฟลกชิปบนทำเลศักยภาพใจกลางย่านประตูน้ำ ความร่วมมือนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ร่วมของเราในการพัฒนาจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ที่บูรณาการประสบการณ์ด้านอาหาร การชอปปิง และการท่องเที่ยวไว้ในที่เดียวด้วยสินค้ามากกว่า 50,000 รายการ  “บิ๊กซี สาขาฟีนิกซ์ ประตูน้ำ” จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งองค์รวมให้กับอุตสาหกรรมอาหาร เชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ซื้อ ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่ง โดยความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนบทบาทของโครงการฟีนิกซ์ในการเป็นศูนย์กลางด้านอาหารชั้นนำ สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนกรุงเทพมหานครสู่จุดหมายปลายทางด้านอาหารระดับโลก พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเติบโตของชุมชนอย่างยั่งยืน”

คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เดินหน้าเสริมทัพค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เปิดสาขาใหม่ “บิ๊กซี สาขาฟีนิกซ์ ประตูน้ำ” อย่างเป็นทางการ เพื่อตอบรับดีมานด์จากลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ บนทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณประตูน้ำ ซึ่งเป็นที่พักอาศัย โรงแรม และคอนโดมิเนียม แวดล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวและการคมนาคมสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS และ Airport Rail Link      

บิ๊กซี สาขาฟีนิกซ์ ประตูน้ำ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. โดยตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของโครงการฟีนิกซ์ ครอบคลุมพื้นที่ชอปปิงรวมขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตารางเมตร พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ “กิน เที่ยว ช้อป” อย่างครบวงจรในจุดเดียว ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมไฮไลท์คือ “Live Promotion Corner” พื้นที่รองรับการไลฟ์สดแบบเรียลไทม์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น TikTok และ Instagram Live เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์การชอปปิงในร้านกับโลกออนไลน์แบบเรียลไทม์ ตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภครุ่นใหม่ และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ บิ๊กซี สาขาฟีนิกซ์ ประตูน้ำ ยังคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคชาวไทยมองหา ไม่ว่าจะเป็นขนมไทย ผลไม้อบแห้ง 

โดยการผนึกกำลังระหว่าง AWC และ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ในครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสององค์กร ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และค้าปลีกของประเทศไทย ผ่านการส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นและการพัฒนาแนวทางค้าปลีกที่ทันสมัย พร้อมสนับสนุนโครงการฟีนิกซ์ให้เป็นจุดหมายด้านอาหารแบบครบวงจรระดับโลก ที่ไม่เพียงตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารและค้าปลีกค้าส่งของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

FSMART โอนเงินผ่านตู้บุญเติม รับเงินสดที่เคาน์เตอร์ “บิ๊กซี” ใช้ง่ายไม่ง้อบัญชีธนาคาร แค่มีบัตรประชาชน&เบอร์โทร

FSMART เจ้าของแบรนด์ “บุญเติม” สานต่อบริการผ่านเคาน์เตอร์ บิ๊กซี ด้วย “โอนง่าย รับไวเวอร์” บริการโอนเงินที่ตู้ และรับเงินสดที่เคาน์เตอร์ บิ๊กซี เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้ด้วยการทำธุรกรรมแบบไม่ต้องใช้บัญชีธนาคาร สามารถใช้งานได้ทันทีเพียงแค่มีบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ ครั้งแรกที่โอนเงินได้ทั้งที่ตู้บุญเติมกว่า 120,000 จุดและเคาน์เตอร์บิ๊กซีกว่า 1,600 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้ลูกค้าได้ใช้บริการแล้ววันนี้

วันที่ 12 เมษายน 2568 นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จากัด (มหาชน) “FSMART” ผู้นำเครือข่ายช่องทางบริการอัตโนมัติและการเงินครบวงจร ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ภายใต้ชื่อ “บุญเติม” เปิดเผยว่า เป็นอีกครั้งที่บริษัทร่วมมือกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดให้บริการ “โอนง่าย รับไวเวอร์” บริการโอนเงิน และรับเงินสดผ่านเคาน์เตอร์บิ๊กซี แบบไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร ใช้เพียงแค่บัตรประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ในการทำธุรกรรม โดยสามารถแจ้งรับเงินสดได้ที่เคาน์เตอร์ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี มาร์เก็ต และมินิบิ๊กซี เป็นต้น

ทั้งนี้ถือเป็นการขยายบริการโอน-ถอนเงินให้กับลูกค้าบุญเติม และบิ๊กซีได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยโอนจากตู้บุญเติม 120,000 จุด และเคาน์เตอร์บิ๊กซี กว่า 1,600 สาขาทั่วประเทศ และสามารถแจ้งรับเงินสดได้ที่เคาน์เตอร์ บิ๊กซี ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ไม่มีบัญชีธนาคาร เพิ่มความสะดวก สบาย ด้วยธุรกรรมทางการเงินที่ง่ายมากกว่าเดิม สอดคล้องกับความพร้อมของตู้บุญเติมที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นไปตามความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการขยายบริการทางการเงินของบุญเติมให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด นอกเหนือจากการเพิ่มบริการภายในตู้ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรขยายช่องทางบริการในฐานะ Banking Agent ของธนาคาร และขยายช่องทางการให้บริการเพิ่มเติมนอกธนาคาร รองรับลูกค้าในกลุ่มที่ไม่มีบัญชีธนาคารมากขึ้น

“ความร่วมมือในครั้งนี้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาที่เปิดให้บริการจ่ายบิล และชำระเงินประกันสังคมผ่านเคาน์เตอร์ บิ๊กซี ที่ถือว่าตอบโจทย์ลูกค้าของบุญเติม และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ บิ๊กซี ได้อย่างดี โดยบริการใหม่ “โอนง่าย รับไวเวอร์” จะช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าทำธุรกรรมมากขึ้น ด้วยการโอน และรับเงินสดที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยเช่นเดียวกับการทำธุรกรรมผ่านธนาคารทั่วไป ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดการใช้บริการของกลุ่มธุรกิจการเงินครบวงจรได้เพิ่มขึ้น” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

นายวรา จาบถนอม ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ซี สมาร์ท โซลูชั่นและกลุ่มธุรกิจบริการ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมืออีกครั้งระหว่าง บุญเติม และ บิ๊กซี แสดงให้เห็นถึงการมุ่งเน้นในการเพิ่มทางเลือก ด้วยการพัฒนาและต่อยอดบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่จะทำให้ลูกค้าทั้งของบิ๊กซี และลูกค้าของบุญเติมสะดวกสบายมากขึ้น โดย บิ๊กซี มีสาขาที่ให้บริการรองรับลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งเชื่อมั่นบริการ “โอนง่าย รับไวเวอร์” จะสร้างความหลากหลาย และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการผ่านทางเคาน์เตอร์แคชเชียร์ของบิ๊กซีมากขึ้น

สำหรับบริการ “โอนง่าย รับไวเว่อร์” ของบุญเติมผ่านเคาน์เตอร์บิ๊กซี เซอร์วิส เป็นบริการโอน-รับเงินสด แบบไม่ใช้บัญชีธนาคาร เพียงแค่ลูกค้าใช้บัตรประชาชน เพื่อโอนเงินได้ตั้งแต่ 1 บาท - 3,000 บาทต่อรายการ ไม่เกิน 5 ครั้งต่อวันต่อหมายเลขบัตรประชาชน มีค่าธรรมเนียมการโอนเงิน 30 บาทต่อรายการ และลูกค้าจะได้รับสลิปเป็นหลักฐานในการโอนเงิน ซึ่งผู้ถอนเงินสามารถไปรับเงินได้ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ผู้โอนทำรายการสำเร็จ หรือได้รับรหัสรับเงินจาก SMS ทั้งนี้ หากผู้รับเงินปลายทางไม่มารับเงินที่เคาน์เตอร์บิ๊กซี เซอร์วิสภายใน 7 วันนับจากวันโอนเงินสำเร็จ ผู้โอนสามารถติดต่อขอรับเงินคืนได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า 1220 ตลอด 24 ชั่วโมง

"บิ๊กซี" ผนึกกรมการค้าภายใน-พันธมิตรผลิตภัณฑ์ข้าว 20 แบรนด์ชั้นนำ คัดสรรข้าวสารถุงคุณภาพดีเยี่ยมขายในราคาพิเศษ

บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี ผนึกกำลัง กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทยที่บิ๊กซี ครั้งที่ 17” ประจำปี 2568 พร้อมเดินหน้าชูแนวคิด “บิ๊กซีร่วมสนับสนุนเกษตรกรไทยทุกภูมิภาค และเป็นศูนย์กลางสินค้าบริโภคแบบครบวงจร” ร่วมกับพันธมิตรผลิตภัณฑ์ข้าวถุงไทย 20 แบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย ได้แก่ ข้าวถุงเบญจรงค์, ข้าวถุงตราฉัตร, ข้าวถุงหงษ์ทอง, ข้าวถุงแสนดี, ข้าวถุงพนมรุ้ง, ข้าวถุงมาบุญครอง, ข้าวถุงปิ่นเงิน, ข้าวถุงบัวชมพู, ข้าวถุงไก่แจ้, ข้าวถุงธรรม, ข้าวถุงกรีนนิช, ข้าวดอยสยามปราณา, ข้าวถุงพิมาย, ข้าวถุงเอไรซ์, ข้าวถุงทุ่งกุลา 101,ข้าวถุงบิ๊กซีทุ่งกุลา, ข้าวถุงบิ๊กซีแฮปปี้ไพรซ์, ข้าวถุงบิ๊กซีแฮปปี้ไพรซ์โปร, ข้าวถุงไทยวงศ์ทอง และข้าวถุงบีเฮิร์บ คัดสรรข้าวสารถุงคุณภาพดีเยี่ยมเพื่อผู้บริโภค และนอกจากนี้ยังมีสินค้าบริโภคชั้นนำมาร่วมออกบูธในงาน อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลาทูน่ากระป๋อง และเครื่องปรุงรสต่างๆ มาร่วมจัดกิจกรรมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ระหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ - 26 มีนาคม 2568 ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.68 นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า “ข้าวเป็นสินค้าการเกษตรที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพราะถือเป็นอาหารหลักในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทย ที่สำคัญคือยังเป็นการส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกรไทย รวมถึงให้ผู้บริโภคไทยได้มีช่องทางในการซื้อข้าวถุงคุณภาพดีในราคาประหยัด ในปี 2568 นี้บิ๊กซีจัดกิจกรรม “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทยที่บิ๊กซี” เป็นครั้งที่ 17 อย่างต่อเนื่องมาทุกปี ภายใต้แนวคิด “บิ๊กซีร่วมสนับสนุน เกษตรกรไทยทุกภูมิภาค และเป็นศูนย์กลางสินค้าบริโภคแบบครบวงจร” โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรผลิตภัณฑ์ข้าวถุงไทยชั้นนำ 20 แบรนด์ นำข้าวสารถุงคุณภาพดีเยี่ยมมาจัดจำหน่ายในราคาประหยัดให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ รวมถึงยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรสินค้าบริโภคชั้นนำ ยกสินค้าบริโภคที่จำเป็น อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลาทูน่ากระป๋อง และเครื่องปรุงรสต่างๆ มาร่วมเติมเต็มให้กับมื้ออาหารของครัวไทยเรา

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า “เราดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนช่วยเหลือทุกภาคส่วนตั้งแต่ต้นน้ำ คือการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวให้สามารถปลูกข้าวและขายออกได้ในราคาที่เป็นธรรม รวมถึงภาคเอกชนและสมาคมการค้าข้าวที่เป็นคนกลางและเป็นตัวแทนจำหน่าย จนถึงผู้บริโภคทั่วประเทศไทย เพื่อให้ได้บริโภคข้าวไทยคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม โดยครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และพันธมิตรผลิตภัณฑ์ข้าวทั้ง 20 แบรนด์ ที่เล็งเห็นความสำคัญเรื่องข้าวไทย จัดงาน “งานข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทยที่บิ๊กซี” มาต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 17 ซึ่งงานนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของการบรรลุเป้าหมายในการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน อีกทั้งยังเป็นอีกส่วนที่ช่วยกระตุ้นให้คนไทยบริโภคข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น

พบโปรโมชั่นสุดคุ้มพิเศษ

-เมื่อซื้อข้าวสารถุงทุกยี่ห้อ ชนิดหรือขนาดใดก็ได้ที่ร่วมรายการ ครบ 499 บาท ขึ้นไป รับฟรีคูปองลดทันทีมูลค่า 50 บาท ที่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ , บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า และ บิ๊กซี ฟู้ดเพลส ทุกสาขาทั่วประเทศ

-เมื่อซื้อข้าวสารถุงทุกยี่ห้อ ชนิดหรือขนาดใดก็ได้ที่ร่วมรายการ ครบ 299 บาท ขึ้นไป รับฟรีคูปองลดทันทีมูลค่า 30 บาท เฉพาะ บิ๊กซีมาร์เก็ต และ บิ๊กซีมินิ ทุกสาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ขอเชิญร่วมอุดหนุนเกษตรกรชาวไทยกับแคมเปญ “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทยที่บิ๊กซี ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568” ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ - 26 มีนาคม 2568 ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ พิเศษ! สมาชิกบิ๊กพอยต์ “สุขไปกันใหญ่ บิ๊กพอยต์ แต้มความสุข แลกง่ายได้ทุกวัน” ยิ่งสะสมมากยิ่งได้มาก ทุกการใช้จ่าย 25 บาท = 1 คะแนน ใช้คะแนนแลกรับส่วนลดทันที เช็คโปรโมชั่นดีๆ ได้ทุกวันที่บิ๊กซี หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bigc.co.th หรือ Facebook Page : Big C   บิ๊กซีคลิกhttps://www.facebook.com/BigCBigService/  หรือโทร. 1756                                                     

 

"บิ๊กซี" ทุ่มงบ 5 พันล้านบาทขยายสาขา ปูพรมพลิกโฉมสาขารูปแบบใหม่ 18 สาขาทั่วประเทศภายในปี 67 เปิดสาขาเพิ่ม 3 สาขาภายในปี 68

"บิ๊กซี" พลิกโฉมธุรกิจเดินหน้ารีโนเวทสาขารูปแบบใหม่ จำนวน 18 สาขาทั่วประเทศ จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 67 พร้อมขยายเปิดสาขาเพิ่ม 3 สาขาในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต ภายในปี 68 และมีการขยายเปิดสาขาบิ๊กซีมินิอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2567 บิ๊กซี ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท เดินหน้ารีโนเวทจำนวน 18 สาขา โดยจะมีการปรับโฉมใหม่ด้วยงบประมาณ 1,700 ล้านบาท และเปิดเพิ่ม 1 สาขา ภายในปี 2567 นอกจากนี้เราวางแผนขยายเพิ่ม 3 สาขาภายในสิ้นปี 2568 และจะขยายสาขาบิ๊กซีมินิอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ที่ไม่ใช่แค่มาเดินซื้อของอย่างเดียวแต่ยังต้องการพื้นที่แฮงเอาต์และพักผ่อน รวมถึงเพื่อเป็นพื้นที่ในการทำกิจกรรมต่างๆให้กับลูกค้าบิ๊กซีเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน บิ๊กซีมีสาขาทั้งสิ้นกว่า 1,800 สาขา ในไทยและยังขยายไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฮ่องกง กัมพูชา ลาว และเวียดนาม

ในขณะเดียวกัน ในปีนี้ มีบิ๊กซีจำนวน 2 สาขา หมดอายุสัญญาเช่าพื้นที่ ซึ่งบิ๊กซีตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเช่า ได้แก่ บิ๊กซี สาขาสุขาภิบาล 3-2 (แยกบ้านม้า) โดยจะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 15 ก.ย. นี้ และบิ๊กซี สาขารังสิต 2 (ใกล้กับตลาดสี่มุมเมือง) โดยจะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 30 ก.ย. นี้ เช่นกัน ทั้งนี้บิ๊กซีได้มีนโยบายดูแลพนักงาน  ทุกคน รวมถึงสามารถโอนย้ายไปทำงานได้ที่บิ๊กซีสาขาใกล้เคียง หรือที่ภูมิลำเนาของพนักงานตามสมัครใจ และสำหรับร้านค้าเช่า ได้มีการเจรจาตกลงร่วมกันกับทางผู้เช่า โดยทางบิ๊กซีได้ดูแลและจัดหาพื้นที่เพื่อไปเปิดในสาขาอื่นๆ ของบิ๊กซีทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บิ๊กซี สาขาราษฎร์บูรณะ จะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 31 ต.ค.นี้ ซึ่งจะย้ายไปยังทำเลใหม่ที่ใกล้เคียง เป็นทำเลทองติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดิน Freehold ในกลุ่ม บีเจซี บิ๊กซี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568

“บิ๊กซี เราเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค เราใช้ Big Data เข้ามาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและตรงกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในปัจจุบัน” นายอัศวิน กล่าวสรุป

"อบาคัส ดิจิทัล" ผนึก "บิ๊กซี" ส่ง “มันนี่ทันเดอร์” รุกสินเชื่อออนไลน์ผ่านแอป Big C PLUS มุ่งสร้างอีโคซิสเท็มด้านการเงิน

บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันมันนี่ทันเดอร์ ประกาศความร่วมกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ขยายบริการด้านสินเชื่อผ่านแอป Big C PLUS เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคออนไลน์ยุคใหม่ พร้อมยกระดับการให้บริการของบิ๊กซี ก้าวสู่ดิจิทัลอีโคซิสเท็มอย่างครบวงจร

นางสาวพรณภัสร์ เฉลิมเตียรณ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ปลอดภัย สะดวก และรวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผ่านแอปพลิเคชันมันนี่ทันเดอร์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้วกว่า 19 ล้านครั้ง โดยในปี 2024 นี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าสินเชื่อต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแรง โดยล่าสุด บริษัทจับมือกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่จะขยายโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังช่วยสนับสนุนและยกระดับบริการของพันธ์มิตรให้ก้าวเข้าสู่ดิจิทัลอีโคซิสเท็มอย่างครบวงจร

นางสาวบุษยา ยินดีสุข ประธานเจ้าหน้าที่สายธุรกิจดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บิ๊กซีมุ่งมั่นเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านตลาดออนไลน์ เพื่อขยายระบบดิจิทัลออนไลน์อีโคซิสเท็มผ่านแอปพลิเคชัน Big C PLUS พร้อมทั้งช่วยยกระดับในทั้งด้านบริการและเชื่อมต่อประสบการณ์การชอปปิ้งของผู้บริโภคให้สอดคล้องกับพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไป ด้วยจุดมุ่งหมายนี้บริษัทอบาคัส ดิจิทัล จำกัด เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์มันนี่ทันเดอร์และมีผู้ใช้บริการจำนวนมากจะสามารถตอบโจทย์การเข้าถึงสินเชื่อออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะทำงานประจำหรือมีอาชีพอิสระก็สามารถสมัครขอสินเชื่อได้ง่ายๆ ในความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากจะคำนึงถึงการตอบสนองความต้องการของลูกค้าบิ๊กซีได้อย่างครบวงจรแล้ว ยังมองถึงการขยายช่องทางและเพิ่มโอกาสให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงสินเชื่อที่ถูกกฎหมายและสามารถนำเงินทุนนี้ไปใช้หมุนเวียนในยามฉุกเฉิน หรือ นำไปต่อยอดอาชีพสร้างรายได้ในอนาคต

ทั้งนี้ ลูกค้าบิ๊กซีสามารถเข้าแอปพลิเคชัน Big C PLUS แล้วทำการคลิกสมัคร “สินเชื่อ อนุมัติไว” ผ่านหน้าหลักของแอป โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนก็สามารถยื่นขอสมัครสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ มันนี่ทันเดอร์ได้ ลูกค้าบิ๊กซีจะได้รับวงเงินสูงสุด 100,000 บาท ผ่อนสบายนานสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ย 33% ต่อปี พิเศษ หากสมัครสินเชื่อผ่านแอป Big C PLUS และได้รับการอนุมัติ พร้อมทำสัญญาสินเชื่อ ระหว่างวันที่ 1 พ.ค. 67 – 31 ก.ค. 67 นี้ จะได้รับโค้ดส่วนลด มูลค่า 100 บาท สำหรับนำไปใช้เป็นส่วนลดเมื่อสั่งซื้อสินค้า Big C Shopping Online ครบ 1,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ อ่านรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ www.money-thunder.com แนะนำให้กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

สำหรับผู้ที่สนใจสมัครสินเชื่อผ่านแอป Big C PLUS สามารถดาวน์โหลด “แอป Big C PLUS” ได้บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ Call Center โทร. 1756 ติดตามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม มันนี่ทันเดอร์ แอปสินเชื่อที่เข้าใจคุณ Website: https://www.money-thunder.com ,Facebook: https://www.facebook.com/MoneyThunderOfficial

 

 

"บีเจซี" จัดทัพองค์กรเตรียมนำ “บิ๊กซี” จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯใช้ชื่อ BRC

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BJC ประกาศแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยจัดพอร์ต โฟลิโอแยกธุรกิจการค้าปลีก การค้าส่ง การสั่งผลิต การนำเข้าและการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาและการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ อันมีส่วนเกี่ยวข้องเกื้อหนุนกับการค้าปลีก และ/หรือการค้าส่ง และธุรกิจเดิมของ Big C ทั้งหมด ให้รวมอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทบิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BRC” ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 87,135,026,800 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 8,713,502,680 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยบริษัทมีแผนการจะนำ BRC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกินร้อยละ 29.98 ของทุนชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนและการออกและเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งรวมจำนวนหุ้นสามัญที่จะจัดสรรให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) (หากมี) หรือจำนวนไม่เกิน 3,729,999,999 หุ้น ส่งผลให้ภายหลังการเพิ่มทุนและการเสนอขายหุ้น IPO จะมีจำนวนหุ้นรวมทั้งสิ้นไม่เกิน12,443,502,679 หุ้น 

โดยในโอกาสนี้บริษัทยังได้แต่งตั้ง คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนแรกของ BRC  โดยคุณอัศวินได้กล่าวถึงทิศทางในการขับเคลื่อน BRC สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนว่า “BRC คือบริษัทเรือธง (Flagship Company)ซึ่งดำเนินธุรกิจการค้าปลีก การค้าส่ง การสั่งผลิต การนำเข้าและการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาและการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ อันมีส่วนเกี่ยวข้องเกื้อหนุนกับการค้าปลีก และการค้าส่ง ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มสินค้าและบริการทางค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 ของรายได้รวมของกลุ่ม BJC อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในเครือ ซึ่งครอบคลุมธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยในปี 2565 BRC มีรายได้รวม 113,573  ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 6,757 ล้านบาท และสินทรัพย์รวม 336,833 ล้านบาท โดยการปรับโครงสร้าง BRC เพื่อรองรับแผน IPO และการนำหุ้น BRC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น จะส่งผลให้ BRC  สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัว เป็นอิสระ สามารถระดมทุนจากตลาดทุนได้ด้วยตัวเอง รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมแบรนด์บิ๊กซีและแบรนด์อื่นๆในเครือ BRC ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจและดึงดูดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถใหม่ๆมาช่วยสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้ธุรกิจทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาคในอนาคต” 

สำหรับการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้จะทำให้ BRC เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้กลุ่ม BJCเติบโตไปข้างหน้าภายใต้กลยุทธ์การปรับโมเดลธุรกิจไปสู่ธุรกิจชั้นนำในตลาดโลก เพื่อส่งมอบสินค้าผ่านช่องทางที่ทันสมัยและให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า และขยายสาขาบิ๊กซีเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ โดยทิศทางการเติบโตของ BRC มีการวางแผนการขยายช่องทางการค้าแบบ Omni-channel ผลักดันยอดขายเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ และการบริการจัดส่งเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ผ่าน แอปพลิเคชัน Big C PLUS, Call-Chat-Shop, Line, Drive thru, บริการจัดส่งด่วนภายใน 1 ชั่วโมง และความร่วมมือผ่านการขยายช่องทางการค้ากับพันธมิตรชั้นนำต่างๆ รวมถึงผลักดันยอดขายสินค้า Private Label ของบิ๊กซี อาทิ We Are Fresh, Besico, Big C Happy Price, Big C Happy Price Pro เป็นต้น  

ปัจจุบัน บิ๊กซี มีฐานลูกค้าผ่านบัตรสมาชิกบิ๊กพอยต์กว่า 18 ล้านราย มีลูกค้าทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกหลากหลายรูปแบบ (Multi-format) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้ง บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซี ดีโป้, บิ๊กซี มินิ, บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส รวมถึงธุรกิจตลาดกลางแจ้งอย่างตลาดทิพย์นิมิตร, ตลาดครอบครัว, ตลาดเดินเล่น ตลอดจนร้านกาแฟวาวี, ร้านหนังสือเอเซียบุ๊คส และร้านยาเพรียว อีกทั้งยังได้ริเริ่มโครงการร้าน “โดนใจ” ซึ่งเป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศไทยผ่านการยกระดับร้านโชห่วยสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ผ่านการให้การสนับสนุนการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านต่างๆให้กับร้านค้าเหล่านี้เพื่อให้สามารถเติบโตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่นของตนเอง 

คุณอัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเงินที่จะได้จากการขายหุ้น IPO ของ BRC จะนำไปใช้ลงทุนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ปรับโครงสร้างทางการเงิน ซึ่งรวมถึงชำระหนี้บางส่วนของ BRC และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของ BRC ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ของ BRC นั้น BJC จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และ BRC จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ BJC ในสัดส่วนร้อยละ 70.02