"วราวุธ" เผยผลงาน "ศูนย์ช่วยกลุ่มเปราะบางพ้นภัยพิบัติ" พม. จ่อขอรัฐบาลหนุนงบฯ

วันที่ 8 มกราคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า การประชุมกระทรวงพม.ประจำเดือนมกราคม 2568  กระทรวงพม.ตั้งศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) เพื่อเตรียมแผนรองรับก่อนเกิดภัยของภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา ในเดือนตุลาคม2567 และต่อมาเมื่อเกิดอุทกภัยขึ้นตามการประเมินระหว่างเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2567 พื้นที่ภาคใต้ประสบอุทกภัยรุนแรงในหลายจังหวัดนั้น ศบปภ. ของกระทรวง พม. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้ 1) เงินสงเคราะห์สำหรับเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย และประชาชนทั่วไปที่ประสบปัญหาทางสังคมและภัยพิบัติ 1,881 คน จำนวน 3,825,900 บาท ยังคงเหลืออีก 6,182 คน  จำนวน 18,546,000 บาท  ,2) เงินทุนประกอบอาชีพ จาก กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และกองทุนผู้สูงอายุ  213 คน จำนวน 8,326,000 บาท 3) ศูนย์พักพิงชั่วคราว  ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย 973 คน แบ่งเป็น ศูนย์พักพิงชั่วคราวของกระทรวง พม. จำนวน 669 คน และศูนย์พักพิงชั่วคราวของจังหวัด ที่กระทรวง พม. ร่วมบริหาร 304 คน  ,4) UNICEF (จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส) สนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือ สิ่งของจำเป็นสำหรับเด็ก เช่น นมผง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าห่ม และชุดสุขอนามัยที่จำเป็น เช่น สบู่ ยาสีฟัน ยากันยุง รวมจำนวน 1,900 ชุด และ 5) อาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลือระหว่างเกิดภัย 2,286 คน

ทั้งนี้จากการดำเนินงานของ ศบปภ. ในช่วงเกิดภัยพิบัติที่ผ่านมาทำให้พบปัญหาเรื่องข้อจำกัดในการใช้งบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณสำหรับการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในระหว่างเกิดภัยพิบัติ เช่น กระทรวง พม. ไม่มีงบประมาณเป็นการเฉพาะในการบริหารจัดการภัยพิบัติ ซึ่งปัจจุบันใช้งบฯปกติจากเงินสงเคราะห์ต่าง ๆ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางไป  1,881 คน จำนวน 3,825,900 บาท ยังคงเหลือที่ต้องให้ความช่วยเหลืออีก 6,182 คน จำนวน 18,546,000 บาท  และเรื่องงบประมาณสำหรับเป็นค่าตอบแทน อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เนื่องจากกระทรวง พม. ไม่มีระเบียบและงบประมาณในการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ อพม. ที่ให้การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในระหว่างเกิดภัยพิบัติ 2,286 ราย รวมถึงเรื่องงบประมาณสำหรับจัดหาสิ่งของช่วยเหลือ เช่น นมผงเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เนื่องจากกระทรวง พม. ไม่มีงบประมาณเพื่อการนี้ จำเป็นต้องขอรับบริจาคจากภาคีเครือข่าย นอกจากนี้ยังพบปัญหาการฟื้นฟูอาชีพระยะหลังเกิดภัยพิบัติ โดยกระทรวง พม. ใช้งบประมาณจากกองทุนต่าง ๆ เพื่อให้การกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพแก่กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 92 คน จำนวน 4,696,000 บาท และ กองทุนผู้สูงอายุ 121 คน จำนวน  3,630,000 บาท

นายวราวุธ กล่าวว่า ศบปภ. จึงได้จัดทำข้อเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) จำนวน 2 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการให้ความช่วยเหลือ โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นเงินสงเคราะห์ ในปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเติม หรือขอรับจัดสรรงบกลาง จำนวน 22,371,900 บาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ และขอความเห็นชอบการจ่ายค่าตอบแทน อพม. ที่ให้การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางระหว่างภัยพิบัติ  และ2.ด้านการฟื้นฟู โดยขอเพิ่มแนวทางการใช้งบทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง จำนวน 10 ล้านบาท สำหรับใช้จัดหาสิ่งของเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางระหว่างประสบภัยพิบัติ เช่น นมผงเด็ก ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมสำเร็จรูป อาหารเสริม อาหารสำเร็จรูปทและยังได้จัดทำข้อเสนอต่อกระทรวง พม. โดยขอให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) และกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) พิจารณาจัดลำดับความสำคัญการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ โดยพิจารณาให้ผู้ประสบปัญหาทางสังคม และได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติเป็นลำดับแรก

สุราษฎร์ฯ-เมืองคอน น้ำยังท่วม ทีม ปภ.ยังคงช่วยเหลือประชาชน-พื้นที่ประสบภัยคลี่คลายโดยเร็ว

ปภ. เผยสถานการณ์อุทกภัย 2 จว. ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,314 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 13 ราย จนท.ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ยังคงสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 

วันที่ 29 ธ.ค.67 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 29 ธ.ค. 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 118 อำเภอ 795 ตำบล 5,909 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 780,272 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 53 ราย ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด รวม 8 อำเภอ 23 ตำบล 98 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,314 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ได้แก่ 

1.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.วิภาวดี และอ.เกาะพะงัน รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน เบื้องต้นความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ปัจจุบันแม่น้ำตาปีระดับน้ำลดลง

2.จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.พระพรหม อ.ปากพนัง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ และอ.ชะอวด รวม 19 ตำบล 94 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,314 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำลดลง

สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่และยังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X@DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์“ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

"ชวน-บัญญัติ- สรรเพชญ" ร่วมลงนามหนังสือเรียกร้อง "รัฐบาล" เร่งเยียวยาภาคใต้หลังน้ำท่วมใหญ่

 

วันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายชวน หลีกภัย  สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมลงนามในหนังสือที่จัดทำโดยนายชวน อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภา เพื่อยื่นถึงรัฐบาล เรียกร้องให้เร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด

นายสรรเพชญ เปิดเผยว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการเยียวยาประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลไม่ควรมองข้าม พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือที่เป็นธรรมและครอบคลุมทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ภาคเหนือ

"ประชาชนในภาคใต้กำลังเผชิญความเดือดร้อนอย่างรุนแรง ไม่เพียงแต่ต้องการการเยียวยาในระยะสั้น แต่ยังต้องการมาตรการที่ยั่งยืนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาพื้นที่ การที่รัฐบาลจะละเลยความสำคัญของภูมิภาคนี้จะส่งผลกระทบในระยะยาว" นายสรรเพชญ กล่าว

หนังสือดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์หลายท่านร่วมลงนามสนับสนุน อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสรรเพชญ นายยูนัยดี วาบา สส. ปัตตานี พร้อมด้วย สส. พรรคประชาธิปัตย์ จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนายชวน หลีกภัย ในฐานะผู้จัดทำหนังสือ ได้เสนอให้รัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาคใต้ควบคู่กับการเยียวยา เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นคงในภูมิภาคต่อไป

น้ำท่วมใต้เริ่มคลี่คลาย! รบ.เตรียมจ่ายเงินเยียวยาก่อนสิ้นปี ยันผู้เช่าได้สิทธิด้วย

น้ำท่วมใต้เริ่มคลี่คลาย “บิ๊กอ้วน” สั่งเร่งสูบน้ำที่ลุ่มต่ำ พร้อมเตรียมจ่ายเงินเยียวยาก่อนสิ้นปี ยืนยันผู้เช่าได้สิทธิด้วย

วันที่ 22 ธ.ค.67 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ผอ.ศปช.) ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานแนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง จากพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11 จังหวัด 118 อำเภอ บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 780,272 ครัวเรือน ขณะนี้เหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 จังหวัด 15 อำเภอ (สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช) มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 47,355 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะนี้กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 70 เครื่อง พร้อมเครื่องผลักดันน้ำ 47 เครื่องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด

“ส่วนความคืบหน้าการเร่งระบายน้ำออกจากสวนส้มโอทับทิมสยาม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้สำนักงานชลประทานเขต 15 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 17 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 12 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำ รวมทั้งขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีก 9 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 12 เครื่อง ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยล่าสุด ระดับน้ำหลายจุดลดลงไม่ท่วมโคนต้นแล้ว”นางสาวศศิกานต์  กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 ขณะนี้ มีการยื่นคำร้องมาแล้ว 857,308 ครัวเรือนซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) นำเสนอมาสู่ระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) ก่อนส่งมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อส่งข้อมูลไปยังธนาคารออมสินและโอนจ่ายไปยังบัญชีพร้อมเพย์ตามเลขบัตรประจำตัวประชาชนภายในสิ้นเดือน ธ.ค.67

“ขณะนี้ มีความกังวลของผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มบ้านเช่าว่าจะได้รับเงินเยียวยาในส่วนนี้หรือไม่ ขอยืนยันว่าสิทธิดังกล่าวให้กับผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่น้ำท่วมทุกครัวเรือน หากผู้เช่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นเรื่อง โดยแนบสัญญาเช่าบ้าน หรือหนังสือรับรองการเช่าจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรับเงินเยียวยา 9,000 บาทได้” นางสาวศศิกานต์กล่าว

"รมต.ศุภมาส" ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ส่งทีม "ผู้พันวิทย์ อว." บริการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ

"รมต.ศุภมาส" ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ส่งทีมผู้พันวิทย์ อว. กรมวิทย์ฯ บริการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ พร้อมปล่อยขบวนรถคาราวานลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

วันที่ 19 ธ.ค.67 ณ ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว. เพื่อประชาชน” กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงาน ร่วมปล่อยขบวนรถคาราวานลำเลียงสิ่งของเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมมอบหมายหน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.” กรมวิทยาศาสตร์บริการ นำทีมโดย นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ลงพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหา เช่น แก้ไขปัญหาเพื่อให้มีน้ำดื่มสะอาดปลอดภัย โดยบริหารจัดการในพื้นที่ ให้มีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำดูแลน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัยในสภาวะวิกฤตจำเป็นเร่งด่วน ในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดชุมพร ก่อนจะกระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่อื่นๆ ครอบคลุมทุกที่พื้นที่ประสบอุทกภัย ให้ทันต่อสถานการณ์และมีประสิทธิภาพ ช่วยเหลือ ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในสังกัด อว. ลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ในจังหวัดชุมพร และ ลงพื้นที่ โดยคาราวานรถลำเลียงสิ่งของจำเป็นนี้จะเดินทางตรงไปยัง จ.ชุมพร 

นางสาวศุภมาส กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วมในพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจำนวนมาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภค โดยที่ผ่านมา กระทรวง อว. ได้ส่งรถคาราวานลำเลียงสิ่งของลงไปพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จังหวัดสงขลา เพื่อกระจายความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเร่งด่วนในพื้นที่ 3 จังหวัด และครั้งนี้เกิดวิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ต่อเนื่องส่งผลกระทบพี่น้องปะชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ตนจึงเร่งสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด อว. ระดมให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.” กรมวิทย์ฯ บริการ ดูแลเรื่องระบบน้ำดื่มในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้มีระบบน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัย โดยนำเครื่องกรองน้ำที่กรมวิทย์ฯ บริการ ได้พัฒนาให้สามารถกรองสนิมเหล็ก ตะกอน กลิ่น คลอรีน หินปูนหรือความกระด้างในน้ำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ ซึ่งเครื่องกรองน้ำนี้ สามารถกรองน้ำได้ถึง 500 ลิตรต่อชั่วโมง เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพดี ประสิทธิภาพสูง ราคาประมาณ 50,000 บาทเท่านั้น การดูแลรักษาทำได้ง่าย โดยพี่น้องประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาปีละประมาณ 1,000 บาท ทำให้ชุมชนมีระบบน้ำดื่มคุณภาพสะอาดปลอดภัยอย่างยั่งยืน 

นอกจากนี้ หน่วยงาน อว. ได้นำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นไปส่งมอบให้ผู้ประสบภัย ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ เช่น เจลล้างมือแอลกอฮอล์ ครีมทากันยุง ยาหมองน้ำ และสิ่งของจำเป็นตามความต้องการ เช่น น้ำดื่ม นมกล่อง ขนม อาหารกระป๋อง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เป็นต้น

สำหรับภารกิจการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดนั้น กระทรวง อว. จะดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนและหน่วยงานในพื้นที่ ในการนำองค์ความรู้เทคโนโลยี นวัตกรรม แก้ไขปัญหา บรรเทาผลกระทบและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ หากผู้ใดประสงค์จะร่วมสนับสนุนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ สามารถติดต่อนำสิ่งของมาร่วมบริจาคได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว.เพื่อประชาชน ” อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. โทรศัพท์ Call center 1313

นายกฯ สั่งยกเลิกงานช่วงบ่ายพรุ่งนี้ บินด่วนลงใต้

นายกฯ ย้ำคืนนี้ให้ ศปช.เร่งแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมสุราษฏร์ฯ-นครศรีฯ ให้เต็มกำลัง พร้อมสั่งยกเลิกงานช่วงบ่ายพรุ่งนี้บินด่วนพื้นที่ใต้หลังประชุม ครม. เสร็จ เน้นแก้ไขข้อติดขัดต่างๆ ย้ำผู้ปฏิบัติส่วนหน้าให้ทำงานตามแผนที่วางไว้ไม่ต้องมารอต้อนรับ

วันที่ 16 ธ.ค.67 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยจากการประชุมผู้นำไทย-มาเลเซีย นางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรีได้ รับรายงานจาก  ศปช. ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้โดยเฉพาะที่จังหวัด สุราษฎร์ธานีและจังหวัด นครศรีธรรมราช

โดย นายกรัฐมนตรีได้ สั่งยกเลิกทุกภารกิจช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ หลังประชุม คณะรัฐมนตรี เพื่อเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราช  เพื่อประชุม ร่วมกับส่วนราชการ ของกระทรวงกลาโหมกระทรวงมหาดไทยกระทรวงสาธารณสุข  และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง พลเรือนและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้างานในพื้นที่เพื่อปรับแผนการช่วยเหลือ และการฟื้นฟูให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณในการเยียวยา ให้ตรงกับสภาพปัญหาของพื้นที่

โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ส่วนหน้า ที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน ให้ปฏิบัติตามกำหนดการ ตามปกติ และเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้ทันท่วงทีตามที่ได้กำหนดแผนการไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิก กำหนดการการเป็นประธานเปิดงาน OTOP City 2024 และ งาน Bangkok Illumination Festival 2024 
 

“พิมพ์ภัทรา” เปิดบ้านตั้งครัวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำสถานการณ์ น้ำท่วมเมืองคอน ยังวางใจไม่ได้

 

วันที่ 16 ธ.ค. 67 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าสถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากมรสุมตะวันออกยังไม่แน่นอน

“ตั้งแต่เมื่อวานซืน ปุ้ยยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และวันนี้ได้เปิดบ้านตั้งครัวช่วยเหลือผู้ประสบภัย เราจะอยู่เคียงข้างกันท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ” นางสาวพิมพภัทรา กล่าว พร้อมย้ำว่าสภาพอากาศยังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในคลองท่าทนและคลองท่าเชี่ยวระบายลงสู่อ่าวไทยได้ยาก เนื่องจากระดับน้ำทะเลหนุนสูงและมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งทุกหน่วยงานท้องถิ่นกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวด้วยว่า เช้าวันนี้ น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงได้เปิดบ้านเพื่อจัดตั้งโรงครัวช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และเตือนว่า สภาพอากาศยังคงไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากแนวร่องมรสุมขยับขึ้นลงผ่านพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ชุมพรจนถึงชายแดนภาคใต้ ทำให้ดินในหลายพื้นที่อิ่มตัวจากฝนตกสะสมหลายวัน เสี่ยงต่อเหตุดินถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่เทือกเขาหลวงตั้งแต่ขนอมจนถึงทุ่งสง ซึ่งมีความเสี่ยงสูง

“พื้นที่บ้านเราที่สิชล ขนอม ท่าศาลา และนบพิตำ ซึ่งมีพื้นที่เกษตรกรรมบนเนินเขาจำนวนมาก ต้องเพิ่มความระมัดระวังสูงสุด หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที” นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าว

“อนุทิน-ซาบีดา” เตรียมลงพื้นที่ “เมืองคอน-สุราษฏร์ฯ” ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม-ให้กำลังใจประชาชนพรุ่งนี้

 

วันที่ 16 ธ.ค.2567 ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง(ยผ.) ถนนพระราม6 กทม. น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในขณะนี้ที่ทวีความรุนแรงว่า รัฐบาลมีความห่วงใยการเกิดเหตุภัยพิบัติต่าง ๆ โดยเฉพาะ เหตุอุทกภัย นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูแลประชาชน ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้มีการสั่งงานอย่างครอบคลุมและให้รายงานสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อให้หน่วยงานส่วนกลางส่งความช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ส่วนในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และตน เตรียมลงพื้นจังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฏร์ธานี เพื่อติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยความห่วงใยประชาชน จะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายพร้อมเยียวยาประชาชน และที่สำคัญไปให้ขวัญกำลังใจ พร้อมย้ำต้องดูแลให้ครบทุกด้าน ทางพื้นที่ประสบปัญหาอะไรบ้างอย่างเร่งด่วน ขณะที่เหตุการณ์ดินโคลนถล่ม ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต ต้องดูแลให้ครอบคลุม ไม่จำเป็นต้องดูเรื่องไหนเป็นพิเศษ แต่ต้องดูให้ครบทุกเรื่อง

รองผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ลุยน้ำท่วมช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัย พื้นที่อำเภอท่าชนะ

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.67 นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายสำนวน ทองศรี นายอำเภอท่าชนะ นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น หน่วยกู้ภัย ทหาร และเจ้าหน้าที่ เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วมขังสูง ในพื้นที่ตำบลวัง ตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ

พื้นที่ประสบภัยดังกล่าว เป็นพื้นที่รับน้ำ ท้ายน้ำก่อนระบายน้ำลงทะเล ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องประสบภัยน้ำท่วมขังระดับสูง ซึ่งการลงพื้นที่นั้นได้นำถุงยังชีพ อาหารแห้ง และน้ำดื่มแจกจ่ายให้แก่ครัวเรือนต่าง ๆ และให้คำแนะนำข้อปฏิบัติในสถานการณ์อุทกภัยให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจประตูระบายน้ำชลประทาน และเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้ที่ตำท่าชนะ อำเภอท่าชนะ

นายกฯ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใต้ คาด 2 วันคลี่คลาย ยันลงพื้นที่แน่ช่วงฟื้นฟู

วันที่ 15 ธ.ค. 67 ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์และการช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้รอบนี้ เราได้ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการท่วมอีก ฉะนั้นการเตรียมการจากทุกหน่วยค่อนข้างพร้อมพอสมควรและได้อพยพคนไปก่อนหน้านี้แล้ว ได้มีการติดตามสถานการณ์คาดว่าน่าไม่เกิน 2 วัน จะคลี่คลาย ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ดูแลอยู่

 

เมื่อถามว่า เท่าที่ทราบได้รับรายงานยังมีปัญหาอะไรอีกหรือไม่ นายกฯ ตอบว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว อย่างกระทรวงสาธารณสุขได้มีการส่งยาไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องอาหารก็ครบ ตอนนี้รอเพียงให้น้ำไป และมวลน้ำก็ไม่ได้ลงไปกระทบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตอนนี้ก็มี 4 จังหวัดที่สถานการณ์ยังหนักอยู่

 

เมื่อถามว่า เรื่องเยียวยาต้องรอให้พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เรียบร้อยก่อนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวดูทั้งหมดว่า จะเยียวยาแค่ไหนอย่างไร แต่ตอนนี้ที่อนุมัติงบฯไปอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว 

 

เมื่อถามว่า นายกฯ จะลงพื้นที่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จะลงช่วงฟื้นฟูแน่นอน เพราะกระทบหลายจังหวัด และช่วงนี้ตนต้องเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจต่างๆ ซึ่งได้มีรัฐมนตรีหลายท่านลงไปในพื้นที่ภาคใต้ และแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การสั่งการอย่างเครื่องสูบน้ำก็นำลงไปในพื้นที่อย่างเพียงพอ

 

เมื่อถามว่า ทาง สส.หลายคนอยากให้ดูในเรื่องของการแก้ไขปัญหาในระยะยาว นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการแถลงในนโยบายรัฐบาลแล้ว ก็จะดำเนินการศึกษาให้จบ