นักศึกษาสาขาวิขาการสื่อสารดิจิทัลฯ ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา รับรางวัล ประกวดคลิปสั้นประกันสังคม

วันที่ 3 กันยายน 2568 นางสาวอารียา แก้วนิวงศ์ นางสาวพลอยไพลิน อัศวโกวิท นายวงศกร เขตขาม นักศึกษาสาขาวิขาการสื่อสารดิจิทัลคอนเทนต์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา รับรางวัลชมเชย หัวข้อ คุ้มครองประกันตนทุกช่วงวัย  และ นาย ธนวรชัย ยิ่งวิทูร นาย วรปวรรศ วัชโรทัย นาย เกียรติชัย ศรีสุข นาย รักษ์สิทธิ์ จินดาเจริญโต นักศึกษาสาขาวิขาการสื่อสารดิจิทัลคอนเทนต์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา รับรางวัลชมเชย หัวข้อ มาตรา 40 จ่ายน้อยสิทธิประโยชน์เยอะ จาก โครงการประกวดคลิปสั้นประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม ทั้งสองทีม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สิงห์ สิงห์ขจร เป็นที่ปรึกษา ณ สำนักงานประกันสังคม สำนักงานใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

สำนักงานสลากฯ มอบรางวัลประกวดหนังสั้น ปลุกพลังนักศึกษาส่งต่อความสุข สร้างสังคมแห่งการให้

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568  สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) นำโดย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) นำโดย นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดพิธีประกาศผลและมอบรางวัล GLO SHORT FILM CONTEST 2025 ภายใต้แนวคิด “Happiness of Give–เป็นผู้ให้ ส่งต่อความสุข สร้างสังคมแห่งการให้” ณ โรงภาพยนตร์ SAMSUNG LED CINEMA @ SIAM PARAGON ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา 

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้ให้การสนับสนุน โครงการประกวดภาพยนตร์สั้น GLO SHORT FILM CONTEST อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมุ่งหวัง ในการสร้างพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงพลังความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาพยนตร์สั้น เพื่อถ่ายทอดมุมมองต่อสังคมแห่งการให้ พร้อมส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใช้สื่อภาพยนตร์เป็นเครื่องมือสื่อสารที่สร้างแรงบันดาลใจและปลุกพลังบวกในสังคม

สำหรับโครงการประกวดภาพยนตร์สั้น GLO SHORT FILM CONTEST ได้รับความสนใจจาก นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดกันเป็นจำนวนมาก โดยปีนี้มีจำนวนผลงานกว่า 140 ผลงาน เป็นจำนวนที่สูงที่สุดจากปีที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งแต่ละผลงานสะท้อนแนวคิดแห่งการให้ และ การส่งต่อความสุขในรูปแบบที่หลากหลาย น่าสนใจ เป็นการส่งต่อคุณค่าแห่งการเกื้อกูลภายใต้บริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดนิ่ง 

สำหรับผลงานภาพยนตร์สั้นที่เข้าร่วมโครงการ จะผ่านการคัดเลือกโดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวงการภาพยนตร์ไทยและวงการโฆษณามาร่วมตัดสินผลงานอย่างเข้มข้น ได้แก่ เบนซ์-ธนชาติ ศิริภัทราชัย Director, Co-Founder - Salmon House, คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา Producer & Film Director, ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ Producer & Film Director เพี่อเฟ้นหาทีมที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 10 ทีม เพื่อรับรางวัลชนะเลิศ, รองชนะเลิศอันดับ 1, รองชนะเลิศอันดับ 2 และรางวัลชมเชยให้กับอีก 7 ทีม รวมมูลค่ากว่า 800,000 บาท

“ขอชื่นชมและแสดงความยินดีน้อง ๆ นักศึกษาทุกท่าน ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับโครงการประกวดภาพยนตร์สั้นในครั้งนี้ สะท้อนถึงการมองเห็นคุณค่าจากความสุขแห่งการให้ร่วมกันกับสำนักงานฯ และเชื่อว่าจะสามารถแปรเปลี่ยนพลังสร้างสรรค์นี้ถ่ายทอดให้กับคนในสังคม เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ นำไปสู่การปฏิบัติต่อไป”   

สำหรับผลการประกวด มีดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม “คาปิบาร่า” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “แค่ให้ด้วยใจ” จาก “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์” รับทุนการศึกษามูลค่า 100,000 บาท, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม “Thungsong Hometown” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Give To Getters : ยิ่งให้ยิ่งได้” จาก “มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, มหาวิทยาลัยศรีปทุม” รับทุนการศึกษามูลค่า 80,000 บาท, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีม “LoOne Film” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “เกื้อๆตักเเกงให้หน่อย” จาก “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” รับทุนการศึกษามูลค่า 50,000 บาท

ส่วนของรางวัลชมเชย ได้แก่ รางวัลชมเชย 7 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ได้แก่ทีม “Stella (สเตลล่า)” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “ให้ เรียนรู้” จาก “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์”, ทีม “คิดเองหัวตื้อ” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “worthless yet worthy-ไร้ค่าแต่ทรงคุณค่า” จาก “มหาวิทยาลัยศรีปทุม”, ทีม “Breakdown” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Generation Give รนุ่ นี้....มีแต่ให้” จาก “มหาวิทยาลัยศิลปากร”
ทีม “เบ้อเร่อ” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “คุณนายคะมีนานุชอยากบอก” จาก “มหาวิทยาลัยแม่โจ้”, ทีม “Summer Orangutan” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Heart Again” จาก “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี”, ทีม “FLOP FILMS” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “ของขวัญส่งต่อ the give must go on” จาก “มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม”, ทีม “Mix Media” ผลงานภาพยนตร์เรื่อง “ยิ้ม ( smile )” จาก “มหาวิทยาลัยขอนแก่น”

กิจกรรม GLO SHORT FILM CONTEST เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้แสดงความสามารถในการผลิตภาพยนตร์สั้น พร้อมส่งต่อแนวคิดดีๆ สู่สังคม ผ่านพลังของการเล่าเรื่องในแบบของคนรุ่นใหม่ สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมและชมผลงานที่ได้รับรางวัลได้ที่ Website : www.glo.or.th , Facebook : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล , gloshortfilmcontest2025 หรือ Major Cineplex 

MARU CHULA จัดโปร Back to School! ฟรีค่าจอง-สัญญา แถม iPad Air M3 สำหรับนักศึกษา 7-8 มิ.ย.นี้

"MARU CHULA" จัดแคมเปญ Back to school ต้อนรับเปิดเทอม จัดโปรโมชันพิเศษ! ซื้อคอนโดในงานนี้ “ฟรี!ค่าจอง+ฟรี!สัญญา”  เพียงแสดงบัตรนักศึกษารับเพิ่ม “I-pad air M3” พิเศษสุดๆ 7-8 มิ.ย.นี้เท่านั้น

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ MARU CHULA (มารุ จุฬา) ได้จัดแคมเปญ Back to school ต้อนรับเปิดเทอมในวันที่ 7-8 มิถุนายน 2568 เพื่อช่วยแบ่งเบารายจ่ายของผู้ปกครองก่อนเปิดเทอม ซื้อคอนโดในงานนี้ รับโปรโมชัน 0 บาท “ฟรี!ค่าจอง+ฟรี!สัญญา” และพิเศษยิ่งขึ้น เพียงท่านแสดงบัตรนักศึกษารับ I-pad air M3 เฉพาะงานนี้เท่านั้น  ณ สำนักงานขาย (Sales Gallery) ตั้งแต่เวลา 9.30 -18.00 น.

โครงการ มารุ จุฬา ตั้งอยู่ใกล้อุทยาน 100 ปีจุฬาฯ และถนนบรรทัดทอง เพียง 200 เมตร ใกล้ทุกสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดัง สามย่านมิตรทาวน์, จามจุรีสแควร์, สยามสแควร์ และ MBK เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า MRT หัวลำโพง และ ทางด่วนศรีรัช ตัวโครงการเป็น Pet friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ และมีความเป็นส่วนตัว เพียง 219 ยูนิต ราคาพิเศษ 1 ห้องนอนใหญ่ 31 ตร.ม. เริ่มเพียง 4.45 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการ มารุ จุฬา มียอดขายประมาณ 65% โดยเริ่มการก่อสร้างชั้นรากฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

สำหรับโครงการมีการเปิด PRE-SALE ไปเมื่อเดือนกันยายน 2567 พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่างจริง และเปิดสำนักงานขาย (Sales Gallery) เป็นครั้งแรก ให้บุคคลทั่วไปได้เยี่ยมชมห้องตัวอย่างในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการ Maru Chula เป็นกลุ่มคนทำงานย่านพระราม 4, สีลม, สาทรรวมถึงกลุ่มบุคลากรและนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาใกล้เคียง ทั้งนี้ ภายใต้แบรนด์ Maru เป็นการเปิดตัวโครงการที่ 3 สืบเนื่องมาจากกระแสตอบรับของทั้ง 2 โครงการก่อนหน้านี้ คือ Maru ลาดพร้าว และ Maru เอกมัยที่ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอกย้ำความสำเร็จในเรื่องของยอดขาย และได้รับการการันตีเรื่องคุณภาพและความเชื่อมั่นจากลูกค้า 

โดยโครงการนี้ บริษัทฯ ได้ต่อยอดนำรูปแบบดีไซน์ ฟังก์ชันของห้องพักอาศัย รวมถึงดีไซน์ภายนอกตัวอาคาร มาพัฒนาต่อสำหรับโครงการใหม่ เน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยทำงานและนักศึกษาได้มากยิ่งขึ้น โดยFacilities หลักๆ ของคอนโด เน้นออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มนักศึกษา หรือ คนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับการติวหนังสือ นั่งทำงาน หรือประชุมเป็นต้นซึ่งบางโซนเปิดใช้งานตลอด 24 ชม.ชูจุดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็มกว่า 20 รายการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับการติวหนังสือ นั่งทำงาน หรือประชุม ฯลฯ ที่ช่วยให้การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเรียน หรือทำงานของผู้อยู่อาศัยง่ายขึ้น สะดวกขึ้น  

ผู้สนใจสามารถเข้าชมโครงการในงาน Back to school วันที่ 7-8 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 9.30 -18.00 น. ณ สำนักงานขาย (Sales Gallery) หรือคลิก https://www.mjd.co.th/maru/chula หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่  MJD Contact Center 1266  Line Official > @mjd.th (https://bit.ly/MJDLine)

"คมนาคม" ต่ออายุส่วนลดค่าตั๋วรถ บขส. 10% ให้นักเรียน-นักศึกษา-อสม.-กลุ่มพันธมิตรอีก 1 ปี ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.68

“สุรพงษ์” มอบของขวัญต่ออายุส่วนลดค่าตั๋วรถ บขส. 10% ให้นักเรียน - นักศึกษา - อสม. - กลุ่มพันธมิตรอีก 1 ปี ตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2568 ช่วยลดค่าครองชีพและสนับสนุนการเดินทาง

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ บขส. อำนวยความสะดวก ส่งเสริมและลดค่าครองชีพให้ประชาชนในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ บขส. จึงได้จัดกิจกรรม “โปรโมชันส่วนลด 10% สำหรับกลุ่มลูกค้าพันธมิตร” เพื่อเพิ่มรายได้จากการใช้บริการรถโดยสารประจำทาง และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ใช้บริการ กลุ่มผู้โดยสารพันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่ปฏิบัติงานให้บริการประชาชน หรือกลุ่มหน่วยงานด้านการศึกษา เพื่อกระตุ้นความต้องการ  ใช้บริการ เพิ่มจำนวนผู้โดยสารและจูงใจให้มาใช้บริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต

สำหรับกลุ่มลูกค้าพันธมิตร ประกอบด้วย 1) บุคลากรสังกัดอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 2) นักเรียน นักศึกษา สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) 3) บุคลากรสังกัดองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) 4) บุคลากรสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ 5) บุคลากรสังกัดกระทรวงคมนาคม เมื่อซื้อตั๋วโดยสารผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว บขส. จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดค่าโดยสาร 10% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ใช้ได้กับทุกเส้นทางภายในประเทศ เดินทางตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 30 กันยายน 2568 ระยะเวลา 1 ปี โดยจะต้องแสดงบัตรประจำตัวบัตรนักเรียน นักศึกษา บัตรข้าราชการ บัตรประจำตัวพนักงาน   ตามสังกัดหน่วยงานควบคู่กับบัตรประชาชน โดยข้อมูลในบัตรต้องเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ใช้สิทธิ์ ซึ่งการใช้สิทธิ์ส่วนลดต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและตามระเบียบที่ บขส. กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่งานการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ในวันเวลาราชการ โทร. 0-2537-8737

#ลดค่าตั๋วรถบขส #ข่าววันนี้ #นักศึกษา #ลดค่าครองชีพ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ซ้อมเต้นก่อนรับน้องใหม่ เกิดอาการเป็นลมหมดสติ 11 คน

เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 25 ก.ค.67 ตำรวจ สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีนักศึกษาหมดสติหลายราย ภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านบางบัว ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมประสานหน่วยกู้ชีพ(ศูนย์เอราวัณ)สำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ตึกที่ 9 อาคาร 30 บริเวณชั้นที่  1 พบลักษณะเป็นห้องกระจกโล่ง พบนักศึกษาทั้งชายและหญิง สภาพนอนเป็นลมหมดสติกว่า 10 คน หน่วยกู้ชีพฯจึงเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนลำเลียงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

จากการสอบถามกลุ่มนักศึกษา ให้การว่า ได้มาทำกิจกรรมซ้อมเต้นรำเพื่อจะรับน้องใหม่อีกไม่กี่วันจะถึงนี้  โดยเริ่มซ้อมตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นที่ผ่านมา มี นักศึกษาชายและหญิง ร่วมซ้อมเต้นรำกันประมาณ 30-40 คน จนถึงช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. จู่ๆนักศึกษาก็เกิดอาการเป็นลมล้มลงหมดสติ กลุ่มเพื่อนๆนักศึกษาจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ 

โดยการทำกิจกรรมดังกล่าวนั้น จะมีรุ่นพี่คอยดูแลอยู่ตลอด ภายในห้องสถานที่ซ้อมนั้นเป็นห้องแอร์ ช่วงขณะที่กำลังซ้อมอยู่นั้น จู่ๆทางฝ่ายอาคารของมหาลัย ได้ปิดแอร์บริเวณตึกดังกล่าวรวมห้องที่ซ้อมเต้นรำ จึงคาดว่าอาจทำให้กลุ่มนักศึกษาที่อยู่ในห้องเกิดอาการร้อนและขาดอากาศหายใจก่อนเป็นลมหมดสติไป 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯระบุว่า อาการเบื้องต้นคือ ภาวะไฮเปอร์เวนทิเลชั่น (Hyperventilation)
คืออาการหายใจหอบเร็วและลึกอยู่นาน ทำให้เกิดอาการชาปลายมือปลายเท้า หรือมือเท้าจีบเกร็ง ซึ่งอาการดังกล่าวมักเกิดขึ้นเมื่อมีความเครียด วิตกกังวล หรือกดดันหนักมากเกินไป  ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่อาจส่งผลรบกวนต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

โดยผู้ป่วยเป็นหญิง 10 คน และชาย 1 คน มีรักษาตัวที่โรงพยาบาลเปาโลเกษตร จำนวน 4 ราย เป็นหญิงอายุประมาณ 18-22 ปี โรงพยาบาลวิภาวดีเป็นหญิง 1 ราย อายุ 19 ปี และโรงพยาบาลซีจีเอชพหลโยธิน  6 ราย เป็น ชาย 1 ราย หญิง 5 ราย อายุประมาณ 18-22 ปีรวมทั้งหมด 11 ราย

 

"อนุทิน" ร่วมลงนาม MOU 3 หน่วยงาน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพนักเรียน-นักศึกษา-คนทุกช่วงวัย

"อนุทิน" ร่วมลงนาม MOU 3 หน่วยงาน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพนักเรียน-นักศึกษา-คนทุกช่วงวัย สอดรับตลาดแรงงานทันต่อเทคโนโลยีในอนาคต สร้างความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ

วันที่ 18 ก.ค.2567 ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย  เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ การส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษาและกำลังคนทุกช่วงวัย ระหว่าง  กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในการนี้  พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน และมีนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา น.ส.บุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และน.ส.จุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมลงนาม และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมพิธี         

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ในฐานะที่กำกับดูแล 4 กระทรวงหลัก ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนากำลังคนของประเทศทั้งระบบในทุกช่วงวัย ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลเน้นการสร้างโอกาสและความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ ส่งเสริมการพัฒนาสมรรถนะให้กับนักเรียน นักศึกษา และกำลังคนทุกช่วงวัยผ่านการพัฒนาทักษะอาชีพ การฝึกอบรม ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ส่งเสริมการสะสมประสบการณ์ทางอาชีพทั้งในระหว่างเรียนและการทำงานเพื่อให้เป็นกำลังคนสมรรถนะสูง ทำให้เกิดความร่วมมือกันของทั้ง 3 ฝ่าย ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เพื่อบูรณาการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา และกำลังคนทุกช่วงวัยในวันนี้ เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์และยกระดับกำลังแรงงานของประเทศในทุกมิติ 

ด้านพล.ต.อ. กล่าวในนามกระทรวงศึกษาธิการ ว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกท่าน รวมทั้งนำนโยบายของรัฐบาลมาขับเคลื่อน เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาเต็มกำลังความสามารถอย่างเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน จึงได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มีเป้าหมายร่วมกัน  ในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาสมรรถนะกำลังคนระดับเทคนิค มุ่งเน้นการผลิตและพัฒนากำลังคน  ในสาขาที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ    ที่มีเป้าหมายการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต เน้นมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) ธนาคารหน่วยกิต  (Credit Bank) ระดับอาชีวศึกษา ทำให้ผู้เรียนมีสมรรถนะ เป็นไปตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ  รองรับวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศ (IGNITE THAILAND) จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง “ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก”

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงแรงงานมีนโยบายส่งเสริมความร่วมมือในการผลิตกำลังคนในภาคการศึกษา และภาคแรงงาน Up - Skill for More Earn เพื่อการมีงานทำรองรับเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกำลังแรงงานรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งระบบ ซึ่งการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือว่ามีเป้าหมายและกลไกในการบูรณาการภารกิจร่วมกันของทั้งสามหน่วยงาน จะร่วมกันพัฒนาศักยภาพกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทันต่ออุตสาหกรรม และเทคโนโลยีในอนาคต สนับสนุนให้มีจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ สนับสนุนการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติไปจนถึงระดับนานาชาติ การเทียบโอนหน่วยกิตเข้าสู่ระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อแรงงานจะได้วุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลภายใต้แพลตฟอร์มอัจฉริยะในการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคน และการพัฒนาสมรรถนะเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย (E-Workforce Ecosystem : EWE) เพื่อใช้ในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน

“โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งเป้าหมายและกลไกในการบูรณาการภารกิจร่วมกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา  และกำลังคนทุกช่วงวัย ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทันต่ออุตสาหกรรมและเทคโนโลยีในอนาคต  และสร้างความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ และจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ การแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติไปจนถึงระดับนานาชาติ และการเทียบโอนหน่วยกิตเข้าสู่ระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อให้แรงงานได้วุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น มีงานทำ มีรายได้ที่สูงขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้า  และประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศชาติต่อไป”รมว.แรงงน กล่าว

โหดเกินวัย นศ.อาชีวะ อ.บัวใหญ่ โคราช ถูกอริฟันหัว มือขาด อาการสาหัส

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. จากกรณี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบัวใหญ่ ได้รับแจ้งมีผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายร่างกายถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะและข้อมือซ้ายฉีกขาด บริเวณอ่างเก็บน้ำปะปา ตำบลบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ นครราชสีมา พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายกฤษฎา อายุ 15 ปี หรือน้องเกมส์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะและข้อมือซ้ายขาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลบัวใหญ่ ต่อมาผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัสโรงพยาบาลบัวใหญ่ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มีภาพจากกล้องหน้ารถของชาวบ้านสามารถบันทึกภาพรถกระบะสีแดง ยานพาหนะของกลุ่มผู้ก่อเหตุก่อนลงมือก่อเหตุ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอย และคราบเลือด สอบถามนายณัฐวุฒิ อายุ 15 ปี หรือน้องตังค์ เพื่อนผู้บาดเจ็บ เล่าเหตุการณ์ว่า รุ่นพี่มีปัญหาทะเลาะกับทางกลุ่มของผู้ก่อเหตุ ได้มีการโพสต์ Facebook ท้าทายกัน เมื่อวานจึงได้นัดมาเคลียร์ปัญหา ปรับความเข้าใจกันซึ่งไม่ได้คิดว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น พอรถกระบะของกลุ่มผู้ก่อเหตุมาถึงได้มีวัยรุ่นคนหนึ่งเดินลงจากรถแล้วพูดว่า “ใครเก่ง“ จากนั้นไม่นานคนที่นั่งอยู่บนรถก็พากันกระโดดลงมาพร้อมกับถือมีดไล่ฟัน เพื่อนต่างพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอดแต่เพื่อนคนที่ถูกฟันวิ่งหนีไม่ทัน จึงถูกฟันเข้าที่ข้อมือจนขาด อีกทั้งเพื่อนที่ถูกฟันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีปัญหากับกลุ่มที่ก่อเหตุแต่อย่างใด ในช่วงเพื่อนถูกฟันตนเองเห็นต่อหน้าต่อตา เพื่อนถูกฟันแล้วล้มลง กลุ่มคนก่อเหตุก็ยังเตะซ้ำ

ด้านนายสุพรรณ อายุ 68 ปี ชาว อ.แก้งสนามนาง นครราชสีมา ตาผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตากับยายเป็นคนเลี้ยงดู หลานชายมาเรียนในตัวอำเภอบัวใหญ่ เนื่องจากว่าระยะทางจากบ้านมาโรงเรียนไกล ได้ให้หลานชายเช่าหอพัก ที่ผ่านมาหลานชายไม่ใช่คนเกเร ไม่เคยมีเรื่องกับใครเป็นคนขี้กลัวแต่จะติดเพื่อน เมื่อวานเพื่อนของหลานชายโทรมาบอกว่าหลานชายถูกฟัน ตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเพราะหลานชายไม่เคยมาเล่าให้ฟังเลยว่ามีปัญหากับใคร  เมื่อสอบถามเพื่อนของหลานชายที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่าหลานชายไม่ได้เป็นคนมาเคลียร์ปัญหา แต่หลังเลิกเรียนได้มากับเพื่อนที่มีเรื่องกับผู้ก่อเหตุ ทำให้หลานชายถูกลูกหลงโดนทำร้ายจนสภาพปางตาย ขณะนี้หลานชายยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ยังอาการสาหัส ทางครอบครัวยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ชาวบ้านงง!! อยู่มาหลายปีไม่เคยมีเหตุ วอนตำรวจเร่งล่ามือถล่มหอพักและรถ นศ.

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น และหอพัก กระสุนทะลุกระจกรถยนต์และประตูหอพัก โดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่ง ใน ซ.อดุลยาราม 7/10 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที 25 มิ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในซอยอดุลยาราม 7/10 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบอร์นเทา คันที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ได้รับความเสียหาย ยังคงจอดอยู่ที่บริเวณถนนหน้าหอพัก โดยพบว่าเจ้าของรถได้นำไปเปลี่ยนกระจกด้านข้างฝั่งคนขับเป็นที่เรียบร้อย แต่บริเวณประตูรถยังเห็นเป็นร่องรอยกระสุน โดยจากการสอบถามทราบว่า เจ้าของรถยนต์ฯ ไม่ขอให้สัมภาษณ์โดยให้เหตุผลว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนก่อน และเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ขณะทีลุงเอ กล่าวว่า  ขณะเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงและไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น มาทราบอีกทีตอนเช้า พบว่าเจ้าของรถ ได้เดินตรวจสอบรถ แต่ตนเองไม่ได้สนใจอะไรคิดว่านักศึกษาจะไปเรียนเพราะเห็นแต่งตัวนักศึกษาลงมา 

"รถยนต์ที่พักในหอพักนี้จะจอดแถวริมถนนว่างตรงไหนก็จะจอดตรงนั้น ที่หน้าบ้านผมรถของนักศึกษาก็จอดประจำ ซึ่งตั้งแต่อยู่ที่นี่มาไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนไม่เคยมีวัยรุ่นมาทะเลาะกัน เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ที่มาพักก็ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง แต่เท่าที่ดูพบว่าหอพักแห่งนี้ตำรวจมาบ่อยแต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นจึงไม่ทราบว่าสาเหตุของการก่อเหตุยิงกันขนาดนี้นั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร" ลุงเอ กล่าว

 

อยากให้ลูกเข้าเรียนที่ไหน! "20 มหาวิทยาลัย" ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2567

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.67 เว็บไซต์ Unirank จัดอันดับมหาวิทยาลัยของไทยทั่วประเทศ โดยในปี 2567 นี้ มี 123 สถาบันของไทยที่เข้าเกณฑ์คัดเลือกของ Unirank ซึ่งพิจารณาจากความนิยมของเว็บไซต์ โดยพิจารณาจาก 3 เกณฑ์ ดังนี้ 1.ความนิยมของเว็บไซต์ 2.ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และ 3.มีข่าวสารใหม่อยู่เสมอ โดยมหาวิทยาลัยที่อยู่อันดับ 1 ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล

ขณะที่ 20 มหาวิทยาลัยยอดนิยมในปี 2567 ได้แก่

1.มหาวิทยาลัยมหิดล

2.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

3.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

4.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

5.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

6.มหาวิทยาลัยขอนแก่น

7.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

8.สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

9.มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

10.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

11.มหาวิทยาลัยรามคำแหง

12.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

13.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

14.มหาวิทยาลัยบูรพา

15.มหาวิทยยาลัยนเรศวร

16.มหาวิทยาลัยศิลปากร

17.มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

18.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

19.มหาวิทยาลัยศรีปทุม

20.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

 


#มหาวิทยาลัย #นักศึกษา #ข่าววันนี้

”ดร.เอ้-ตั๊น จิตภัสร์“ นำทีมคนรุ่นใหม่ปชป.ตามส่องไอเดียนักศึกษา RBAC ประกวดยูนิฟอร์มปชป.

”ดร.เอ้-ตั๊น จิตภัสร์“ นำทีมคนรุ่นใหม่ปชป.ตามส่องไอเดียนักศึกษา RBAC ประกวดยูนิฟอร์มปชป.

วันที่ 9 ก.พ.2567 ที่กทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ภาคกทม.  และน.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองหัวหน้าพรรคด้านภารกิจ พร้อมนายธนิตพล ไชยนันทน์ อดีตสส.ตาก นำสมาชิกพรรคปชป.ยุคใหม่ ชมผลงานการประกวดกิจกรรม “ประชาธิปัตย์ FASHION CONTEST”  ที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต(RBAC) โดยมีผศ.ดร.เจนจิรา รัตนเพียร ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยารัตนบัณฑิต และรองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรม, ที่ปรึกษามหาวิทยาลัย และคณบดีคณะอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การออกแบบ ร่วมต้อนรับ  

โดยนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า การให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของพรรคการเมืองสำคัญที่สุดเพื่อได้ปรับเปลี่ยนมุมมอง และพาพรรคการเมืองเปลี่ยนแปลงไปในความทันสมัย  เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายก็เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่บ่งบอกตัวตน และสื่อสารให้คนภายนอกได้เห็นพรรคที่อย่างชัดเจน ตนประทับใจที่เห็นนักศึกษาให้ความร่วมมือ และตื่นเต้นกับกิจกรรมดีๆ ที่จะผลักดันพรรคปชป.เปลี่ยนแปลงเข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน

ด้าน น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร กล่าวว่า พรรคจัดกิจกรรมเดินสายผลักดันตามรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ แต่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ต้องการให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วม และเปิดโอกาสให้กรรมการบริหารพรรค เข้ามาสัมผัสพูดคุยกับคนรุ่นใหม่และพี่น้องประชาชน กิจกรรมนี้เป็นไปตามมติของหัวหน้าพรรคปชป.ที่อยากจะให้มีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชน ทั้งที่เป็นคนรุ่นใหม่ เยาวชน โดยพรรคปชป.จะเดินหน้าจัดเวิร์คช็อปไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก่อนวันที่ 29 ก.พ.

“พรรคพร้อมที่จะรับผลงานไอเดียของทุกคน ทุกวัยไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ไม่จำกัดเพศและวัย โดยส่งผลงานได้ที่ democrat.or.th/fashioncontest พร้อมอัปโหลดไฟล์ผลงาน รวมถึงอธิบายความหมาย รายละเอียด ที่ปรากฏในผลงาน ระยะเวลาการส่งผลงานตั้งแต่วันนี้ -29 ก.พ. 2567และประกาศผลวันที่ 9 มี.ค.