สร้างปรากฏการณ์ Race Day! แฟนคลับคึกคัก กระทบไหล่นักบิด กิจกรรม Pit Walk

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ NEXZTER BRIC Superbike Championship ประจำปี 2025 ได้เดินทางมาถึง สนามที่ 3 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยในครั้งนี้สร้างปรากฎการณ์แรงไม่หยุด เมื่อพระเอกดัง “โอม” ภวัต จิตต์สว่างดี ลงประลองความเร็วในการแข่งขันระดับชิงแชมป์ประเทศไทย เป็นครั้งแรกของชีวิต 

โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก เมื่อแฟนความเร็วจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสนาม เพื่อร่วมกิจกรรม Pit Walk สุดพิเศษ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เข้าถึงเสน่ห์เบื้องหลังสนามแข่งอย่างใกล้ชิด และรับของที่ระลึกจากทีมแข่งต่างๆ นำมาแจกให้แบบฟรีๆทั้ง เสื้อทีมแบบลิมิเต็ด, ร่ม, หมวก, พวงกุญแจ, สติ๊กเกอร์ของนักแข่ง ฯลฯ ที่ขนมาแจกแบบจุใจ ซึ่งเป็น "กำไรของแฟนความเร็ว" โดยผู้ชมที่มีบัตรชมการแข่งขันทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Grandstand ราคา 100 บาท หรือ VIP 500 บาท ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรม Pit Walk ได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

โดยในสนามที่ 3 ของฤดูกาล ไฮไลต์อยู่ที่การลงสนามของนักแข่งดีกรีระดับพระเอกอย่าง “โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี” ในรุ่น Superstock 1000 ซีซี (ST3) รวมทั้งยังมี ”เบนซ์ เรซซิง“ อริย์ธัช วรโรจน์เจริญเดช ที่ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลในรุ่น Superbike 1000 ซีซี (SB2) ที่ดึงกระแสแฟนคลับเข้าสู่สนาม และยังตอกย้ำคอนเซ็ปต์ของรายการแข่งขัน “Anyone Can Be A Hero” ซึ่งสื่อสารว่า การแข่งขันนี้ จับต้องได้ เข้าถึงผู้คน และเป็นเวทีที่เปิดกว้างให้คนธรรมดาที่มีความฝัน ดาวรุ่ง และนักบิดมากฝีมือ มีเวทีแข่งขันร่วมดวลในรายการเดียวกัน สามารถพัฒนาจนถึงนักบิดระดับโลกได้ อย่างไม่ไกลเกินเอื้อม รวมถึง นักบิดต่างชาติ จากหลายประเทศ (อังกฤษ, อเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิตาลี, รัสเซีย, อินเดีย, ญี่ปุ่น ฯลฯ) ทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น และรายการนี้ยังเป็น บันไดก้าวสำคัญ เพราะผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดเข้าร่วมรายการใหญ่ระดับทวีปอย่าง "เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ" อีกด้วย

ทั้งนี้ ความมันส์ของปี 2025 ยังไม่จบลง แฟนมอเตอร์สปอร์ตเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งขันสนามตัดสินแชมป์ประจำปี ในศึก NEXZTER BRIC Superbike สนามสุดท้ายของปี คือ สนามที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยในรอบชิงชนะเลิศจะมีการแข่งขันถึง 2 เรซ เพื่อตัดสินว่าใครคือ แชมป์ประเทศไทยตัวจริง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ Chang Circuit Buriram และ BRIC Superbike 2025

ดาวบิดดังของโลกพร้อมหน้า! เตรียมกระหึ่มศึก "โมโตจีพี" นัดเปิดฤดูกาล 2025 ที่ไทย

ศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กำลังจะเปิดฉากขึ้นที่ประเทศไทย บรรยากาศทั้งในและนอกสนาม สุดคึกคักกว่าทุกปี  โดย 2 ตัวเต็ง “มาร์ค มาร์เกซ” และ “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า” ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันรายการ “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” อย่างเป็นทางการ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางสื่อมอเตอร์สปอร์ตยักษ์ใหญ่จากทั่วโลกหลายร้อยสำนัก  ขณะ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ โจอัน เมียร์ พร้อมลงสนามกอบกู้สถานการณ์ให้ค่ายญี่ปุ่น ด้าน“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ อดใจรอไม่ไหวที่จะลงดวลพรีเมียร์คลาสครั้งแรกในชีวิตต่อหน้าแฟนๆ ในบ้านเกิด

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 68 การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2025 สนามแรกของฤดูกาล ภายใต้ชื่อรายการ "พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์" เข้าสู่สุดสัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตแล้ว ถือเป็นวันแห่งการเซ็ตอัพ และเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ของนักบิดและทีมงาน รวมถึงการแถลงข่าวก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ ภายใต้การติดตามจากแฟนความเร็วทั่วโลก

บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้านักบิดทยอยเข้าสู่สนาม เดินสำรวจแทร็กของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันสนามแรกในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะเป็นสนามแรกที่ทุกทีมจะส่งรถแข่งเวอร์ชั่นใหม่ลงสู่สนามแข่งอย่างเป็นทางการ และช่วงบ่ายเป็นการถ่ายภาพกลุ่มนักบิดทุกรุ่น ทั้ง โมโตจีพี, โมโตทู และ โมโตทรี เข้าร่วมการถ่ายภาพหมู่สำหรับฤดูกาล 2025

ไฮไลต์ของ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ในสุดสัปดาห์นี้ อยู่ที่การดวลความเร็วของนักบิดระดับพระกาฬของ โมโตจีพี นำโดย “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลก 8 สมัยชาวสแปนิชจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม และทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า” ที่มีดีกรีแชมป์โลก 3 สมัย โดยทั้งคู่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 และ 2 ในการคว้าแชมป์โลกปีนี้

ขณะที่ค่ายอื่นๆ ก็มีการขยับตัวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร” แชมป์โลกปี 2021 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ที่ทำผลงานในการทดสอบออกมาได้อย่างน่าพอใจ รวมถึง ฮอนด้า ที่ นำโดย “โจอัน เมียร์” แชมป์โลกในปี 2020 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี คาสตรอล ที่มีสัญญาณยอดเยี่ยมกับรถแข่งคันใหม่ในปีนี้

ส่วนดาวดังคนอื่นๆ ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ “มาร์โก เบซเซ็คคี” นักบิดอิตาเลียนจาก อพริเลีย เรซซิ่ง ซึ่งมีผลการทดสอบใน บุรีรัมย์ ที่ยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง “ฮอร์เก มาร์ติน” แชมป์โลกคนปัจจุบันต้องถอนตัวจากการแข่งขันสนามแรก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ด้าน “เปโดร อคอสต้า” ดาวดังชาวสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่งก็มีการพัฒนารถแข่งที่ดีร่วมกับทีมเช่นกัน

นอกจากนี้การวัดผลงานของกลุ่มรุกกี้หน้าใหม่ 3 คนก็น่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ซึ่งจะลงแข่งขันในพรีเมียร์ คลาส เป็นครั้งแรกต่อหน้าแฟนชาวไทยในโฮมเรซ รวมถึง “เฟร์มิน อัลเดเกร์” นักบิดสแปนิชจาก เกรซินี เรซซิ่ง และ “ไอ โอกูระ” นักบิดญี่ปุ่นจาก แทร็กเฮาส์ เรซซิ่ง

"ก้อง-สมเกียรติ" เผยว่า ตื่นเต้นมากกับครั้งแรกในรุ่นโมโตจีพี กับสนามในบ้าน แต่ก็จะทำให้ดีที่สุดครับ อยากประเดิมแต้มในสนามบ้านเราให้ได้ ตอนนี้รอไม่ไหวแล้วสำหรับการลงสนาม อยากรู้ว่าเมื่อซ้อมครั้งแรกในวันศุกร์นี้จะออกมาแบบไหน เพื่อจะดูว่าสิ่งที่ฟิตซ้อมมาทั้งหมดจะสามารถมาปรับใช้ในวันจริงได้มากน้อยแค่ไหน

ด้าน “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร” อดีตแชมป์โลกปี 2021 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี กล่าวว่า “การทดสอบพรีซีซั่นของเราออกมาค่อนข้างดี ส่งสัญญาณบวกต่อพวกเรา ตอนนี้ถึงเวลาลงแข่ง ถือเป็นช่วงเวลาที่สนุกมาก และจะได้ดูว่าเราอยู่ในจุดไหน เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลแข่งขันจริงๆ เพราะการทดสอบก็เป็นอีกเรื่อง แต่การแข่งขันจริง จะบอกว่าเรามีศักยภาพแค่ไหน ผมคิดว่าเราจะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยสถานการณ์ที่ดีกว่าเดิม”

ทั้งนี้ ศึก พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2025 จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและแข่งขันรอบ “สปรินต์” ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม และดวลความเร็วรอบ “เมน กรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมนี้ สามารถรับชมผ่านช่องทาง แอพพลิเคชั่น TrueVisions Now และชมถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง True4U ได้ในวันที่ 2 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 15:00 น. เป็นต้นไป

สกู๊ป...."สมเกียรติ จันทรา" อนาคตที่สดใสกำหนดด้วยตัวเราเอง

สมเกียรติ จันทรา
อนาคตที่สดใสกำหนดด้วยตัวเราเอง
 
"ผมมักจะคิดถึงอนาคตของตัวเองอยู่เสมอ ความปรารถนาของผมคือการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักแข่งรุ่นใหม่ และเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า ผมต้องการสนับสนุนการเติบโตของพวกเขา เหมือนที่ผมได้รับจากฮอนด้า ตั้งแต่การเข้าฝึกฝน พัฒนา จาก “ฮอนด้าเรซซิ่ง สคูล”ก้าวไปทีละขั้นตามโร้ดแมพ “เรซ ทู เดอะ ดูรีม”ผมพัฒนาจากหลักสูตรและการฝึกที่เข้มข้นของฮอนด้า จนทำให้มีวันนี้ อีกความปรารถนาคือ มีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้มีบทบาทในระดับโลก การทำงานอย่างหนักความหลงใหล และความมุ่งมั่น คือกุญแจสำคัญในการสร้างอนาคตที่เราใฝ่ฝัน" สมเกียรติ จันทรา กล่าว


 
สมเกียรติ จันทรา
วันเกิด: 15/12/1998
สถานที่เกิด: ชลบุรี, ประเทศไทย
ความสูง: 171 ซม.
น้ำหนัก: 63 กก.
อินสตราแกรม: @somkiatchantra
ชายหนุ่มวัย 26 ปี ผู้เป็นดังรอยยิ้มแห่งความหวังในวงการมอเตอร์สปอร์ต ในฤดูกาล 2022 เขาได้แสดงให้เห็นถึงความอดทนและความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง โดยสามารถเป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการกรังด์ปรีซ์ ณ สนามแข่งเมืองMandalica ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมทั้งทำผลงานได้ถึง 4 โพเดียมในฤดูกาลนั้น

ในฤดูกาล 2023 สมเกียรติยังคงไม่หยุดยั้งในการก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง โดยสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศญี่ปุ่นและทำผลงานยอดเยี่ยมถึง 2 โพเดียมในฤดูกาลนี้

ในปี 2025 เขากำลังสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย ด้วยการเข้าร่วมแข่งขันในคลาสหลักสูงสุดกับทีมอิเดมิตสึแอลซีอาร์ ฮอนด้า ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักบิดชาวไทยคนแรกที่ประสบความสำเร็จในระดับนี้การเดินทางของสมเกียรติเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความพยายามอย่างหนักและความมุ่งมั่นที่แท้จริงสามารถนำพาไปสู่อนาคตที่แตกต่าง สวยงามและน่าประทับใจได้เสมอ
สุดยอดขุมพลัง
 
ฮอนด้า RC213V
 
ความยาว : 2052 (มม)
ความกว้าง : 645 (มม)
ความสูง : 1,100 (มม)
ฐานล้อ : 1,435 (มม)
ระยะห่างจากพื้นถนน : 115 (มม) 
น้ำหนัก (กก.) : ตามข้อกำหนดของ FIM
ประเภทเครื่องยนต์ : ระบายความร้อนด้วยของเหลว, สี่จังหวะ, DOHC 4 วาล์ว, V-4
ความจุกระบอกสูบ : 1000 ซีซี
กำลังสูงสุด: มากกว่า 180 กิโลวัตต์
ประเภทตัวถัง : อลูมิเนียมแบบทวินทูบ
ล้อหน้า : 17 (นิ้ว)
ล้อหลัง 17 (นิ้ว)
ระบบกันสะเทือนหน้า : เทเลโคปิก (Telescopic fork)
ระบบกันสะเทือนหลัง : โปรลิงก์ (Pro-link)
ระบบเบรก : ปั๊มเบรกของ Brembo GP4 อลูมิเนียมโมโนบล็อกแบบมีครีบ
ความจุถังน้ำมัน : 22 (ลิตร)

ผู้วาดฝัน
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ ความตึงเครียดที่แผ่ซ่าน เสียงเครื่องมือที่ดังในโรงซ่อม และความตื่นเต้นที่เกิดจากอะดรีนาลีนที่หลั่งไหล เมื่อรวมกับความรุ่งโรจน์และความท้าทายในการทำงานเป็นทีม เหล่านี้ล้วนเป็นวัสดุที่หล่อหลอมอนาคตอันเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ความสุข และช่วงเวลาที่ประทับใจไม่รู้ลืม

ผมมุ่งมั่นและผลักดันตัวเองเพื่อเรียนรู้และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่า ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ผมก้าวต่อไปในทุกๆ วัน ผมเชื่อมั่นในการเติบโตและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาแนวทางใหม่ ๆเพราะสิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญของประสบการณ์ที่ผมได้ใช้เวลาสั่งสมมาในปีที่ผ่าน ๆ มาในการชิงชัยชนะในสนามต่าง ๆ

ปัจจุบัน เป็นตัวกำหนดอนาคต และเราร่วมกันกำหนดอนาคตของเราเองได้ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะบุคคลหรือในฐานะทีม ทุกคนมีบทบาทและส่วนร่วมที่แตกต่างกัน แต่ล้วนมีความสำคัญต่อครอบครัวนักบิดที่เราได้ร่วมกันสร้างขึ้นในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

ความตื่นเต้นจากชัยชนะในอดีตและบทเรียนที่เราได้รับจากความพ่ายแพ้ต่าง ๆ คือเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนเราในทุกวัน และสิ่งเหล่านี้จะยังคงเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ในฐานะผู้อำนวยการทีมอิเดมิตสึ แอลซีอาร์ฮอนด้า ผมกำลังเก็บรวบรวมความรู้และประสบการณ์จากทุกคนเพื่อสร้างอนาคตที่สดใสแต่ละฤดูกาลมีความเป็นเอกลักษณ์ และในฤดู2025 นี้จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราจะได้มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายของเรา ทุกคนมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ และความพยายามร่วมกันของเราจะเป็นตัวกำหนดทิศทางแห่งอนาคตที่สดใสของพวกเราอย่างแน่นอน


 
ทีมสร้างสรรค์ผลงาน
Christophe Bourguignon - ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค
Dakota Mamola - ผู้ประสานงานทีม MotoGP
Klaus Nöhles - หัวหน้าทีม
Daniel Bonmatí - วิศวกร FI
Patricia Pacheco - วิศวกรข้อมูล
Federico Vicino - ช่างเทคนิค
Filippo Brunetti - ช่างเทคนิค
Marc Cañellas - ช่างเทคนิค
Johnathan Romero - ช่างเทคนิค
Serge Andrey – วิศวกร Videometry
Akmal Johari - ช่างเทคนิค HRC

นักบิดร่วม Pre Event ต้อนรับสู่ MotoGP ระเบิดศึกสุดสัปดาห์นี้ ภายใต้ธีมเสน่ห์ อีสานใต้ สุดอบอุ่น-ประทับใจ

6 สุดยอดนักบิดของโลก ตะลุยกิจกรรมต้อนรับ และถ่ายวีดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทย พาทัวร์ย้อนยุค “ปราสาทหินเมืองต่ำ” สัมผัสมนต์ขลังแดนอีสาน  ทอผ้าพื้นเมืองภูเขาไฟ พร้อมทั้งคัดสรร “เมนูเชิดชูอาหารท้องถิ่น” หาทานยาก อย่าง“ขนมตดหมา” อาหารถิ่นประจำ จ.บุรีรัมย์ เมนูชื่อแปลกแต่สุดแสนอร่อย ภายใต้การต้อนรับอบอุ่น ครบเครื่อง อลังการ

ประเทศไทยจัดกิจกรรม Pre Event ต้อนรับนักแข่ง โมโตจีพี สนามประเทศไทย รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567 โดยนักบิดชื่อดัง ได้แก่ อเล็กซ์ รินส์, ลูก้า มารินี่, มาร์โก้ เบซเซคกี้, เฟอร์มิน อัลเดอร์แกร์ รวมทั้ง 2 นักบิดไทยที่ลงทำการแข่งขัน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และธัชกร บัวศรี ในธีมเสน่ห์อีสาน พาท่องเที่ยวย้อนยุค ชมปราสาทหินเมืองต่ำ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยเหล่าคณะผู้บริหารฝ่ายจัดการแข่งขัน แฟนคลับและกองทัพสื่อมวลชนร่วมงานมากมาย

ทั้งนี้ถ่ายทำวีดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยทีมงานดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ จะนำไปเผยแพร่ในช่วงการแข่งขัน ระหว่าง 25- 27 ตุลาคม 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์  สู่สายตาแฟนมอเตอร์สปอร์ตกว่า 220 ประเทศ 800 ล้านคนทั่วโลก

กิจกรรมเริ่มจากคณะนางรำ ต้อนรับด้วยดนตรีพื้นบ้าน “กันตรึมประยุกต์” ที่มีท่วงทำนองสนุกสนาน โดยมีคณะผู้บริหารร่วมให้การต้อนรับและมอบพวงมาลัยคล้องมือ ได้แก่ นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, มงคล วัตตะโร ผู้อำนวยการกองเผยแพร่โฆษณาต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายฉลอง ติรไตรภูษิต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), ว่าที่ร้อยตรีณรงค์เดช แจ้งดี ผู้จัดการขาย-ออนเทรด ศูนย์บุรีรัมย์ ตัวแทนน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และนายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

จากนั้นเหล่านักบิดชมการทอ “ผ้าอัคนี” ของดีจากดินภูเขาไฟ หรือ ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความมหัศจรรย์ สวยงามและ “ผ้าบารายพันปี สีกลีบบัว” ของดีประโคนชัย  ผ้าไทยพื้นถิ่นที่มีเรื่องราว มีตำนาน สืบสานรุ่นสู่รุ่น ด้วยกรรมวิธีการผลิตจากสีธรรมชาติ มีสีสวยหวาน ใครสวมใส่ก็ดูดี ทั้งหญิงชาย ทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันผ้าทั้ง 2 ชนิดนี้ได้รับการสนับสนุนผลักดันเป็นสินค้า OTOP ของชุมชน สร้างอาชีพสร้างรายได้มากมายให้แก่คนในชุมชน 

นอกจากนี้ยังมีการคัดสรรเมนู “เชิดชูอาหารท้องถิ่น” บางเมนูหารับประทานยากและอาจเลือนหายไปตามกาลเวลา ได้แก่ “ขนมตดหมา” หรือ ภาษาถิ่นเรียกว่า "เวือระพอม" ที่มีส่วนผสมของน้ำจากเครือ “ต้นตดหมา” พืชสมุนไพรพื้นบ้านสรรพคุณหลายอย่าง เป็นยาอายุวัฒนะ รักษาโรคได้หลายชนิด เนื้อสัมผัสขนมนุ่มหนึบ หอมอร่อยลักษณะคล้ายกับขนมจาก, “ทองม้วนสดข้าวนกกระเรียน” ที่ทำจากข้าวหอมมะลิอินทรีย์พื้นเมืองที่ปลูกในแหล่งอยู่อาศัยของนกกระเรียนพันธุ์ไทยหายาก โดยสร้างนิเวศน์ให้เป็นแหล่งอาหาร ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง รวมทั้งเมนู “กระยาสารท” ขนมโบราณ ของฝากขึ้นชื่อของถิ่นอีสานใต้ให้นักบิดได้ลองลิ้มชิมรส

บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน อบอุ่น และประทับใจทั้งกับทีมงานดอร์น่า สปอร์ตและเหล่านักบิดที่ร่วมงานอย่างมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกในการจัดพิธีต้อนรับ Pre Event ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาจัดในกรุงเทพมหานคร ได้นำเสนอภาพลักษณ์และสนับสนุนการท่องเที่ยวภาพรวมของประเทศ ขณะที่ในปีนี้โยกมาจัดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้นักบิดชื่อดังได้มีโอกาสสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายและเสน่ห์ความงดงามของถิ่นอีสานใต้ นำไปเผยแพร่สู่สายตาผู้ชมทั่วโลกในช่วงการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้

แฟนความเร็วที่สนใจเข้าชมการแข่งขัน ยังสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซด์ All Ticket โดยบัตรชมการแข่งขัน สามารถเข้าชมพื้นที่กิจกรรม (Commercial Area) ได้ฟรี ด้วยความบันเทิงจัดเต็มทั้งคอนเสิร์ต, มวยและร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกช้อป ชิม พาวิลเลียนขนาดยักษ์ของแบรนด์สินค้าและหน่วยงานราชการให้ร่วมสนุกร่วมชมมากมาย  หรือซื้อบัตรแอดมิชชั่น(ADMISSION) สำหรับเข้าชมพื้นที่กิจกรรม ราคา 100 บาทต่อวัน หรือเหมา 3 วัน 200 บาท โดยซื้อบัตรได้ที่บูธ All Ticket หน้างาน วันที่ 25-27 ต.ค. เท่านั้น! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram 

นักบิด Honda CBR Series ซ้อมวันแรก “ไม้คิว” คว้าท็อป 4 “ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี” “ชิพ“ รั้งท็อป 6 “เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี”

 
ทัพนักแข่ง Honda CBR Series จาก “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ลงสนามซ้อมวันแรกศึก FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 5 ณ สนาม ปิโตรนาส เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ทำเวลารวมขึ้นกลุ่มนำได้ทันทีจากการลงซ้อมในวันแรก 3 ช่วง

รุ่น “ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี” (SS600) นักบิดดาวรุ่งไทย “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ บิดรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 85 ทำเวลารั้งท็อป 4 ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด 2.10.873 นาที ด้าน “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 ทำเวลารั้งอันดับที่ 6 ด้วยเวลาต่อรอบที่ 2.11.377 นาที

รุ่น “เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี” (ASB1000) “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ บิดรถแข่ง  Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 ภายใต้สังกัด “ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสติโม” ทำเวลารั้งท็อป 6 ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด 2.07.249 นาที
 

ทั้งนี้ ศึก FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 5 จะทำการควอลิฟายเพื่อหาอันดับการออกสตาร์ตในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 14 กันยายน และช่วงบ่ายเป็นการแข่งขันชิงชนะเลิศเรซที่ 1 ก่อนจะมาปิดท้ายด้วยการแข่งขัน เรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน นี้

ทัพนักบิด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” พร้อมรถแข่ง Honda CBR Series ลงดวลความเร็ว เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง 2024 สนาม 5 ที่มาเลเซีย

ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยกทัพยอดรถแข่ง Honda CBR Series ลงทำศึกรายการ FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 5 ณ ปิโตรนาส เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน นี้
 

รุ่น “เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี” (ASB1000) ด้วยรถแข่ง Honda CBR1000RR-R ลงสนามต่อสู้กับคู่แข่งรุ่นใหญ่ นำโดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ หมายเลข 41 ภายใต้สังกัด “ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสติโม” ที่รั้งอยู่ในท็อป 3 ของตารางคะแนนสะสม เก็บไปแล้ว 92 คะแนน
 
นอกจากนี้ยังมีนักแข่งชาวญี่ปุ่น  Kosuke Sakumoto หมายเลข 30 ลงแข่งขันในสนามนี้ ภายใต้สังกัดทีม “แอสติโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทยฮอนด้า” ซึ่ง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ นั้นยังไม่หายจากการบาดเจ็บไม่พร้อมสำหรับการแข่งขัน


 
รุ่น “ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี” (SS600) ด้วยรถแข่ง Honda CBR600RR ดาวรุ่ง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยกระดับผลงานต่อเนื่อง นำโดย “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ หมายเลข 85 ที่บิดต่อสู้กับนักแข่งระดับตัวท็อปของเอเชีย รั้งอยู่ในท็อป 5 ของตารางคะแนนสะสม มี 74 คะแนน ด้าน “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 รั้งอยู่อันดับที่ 8 ของตารางคะแนนสะสม มี 58 คะแนน


 
ทั้งนี้ศึก FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 5 จะลงซ้อมครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน และทำการควอลิฟายเพื่อจัดอันดับการออกสตาร์ตในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 14 กันยายน ก่อนจะดวลคันเร่งแข่งขันเรซที่ 1 ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และปิดท้ายการแข่งขันเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน นี้

อุ่นเครื่องครั้งใหญ่! MotoGP Fan Festival 2024 แฟนความเร็วแห่ร่วมชม-เชียร์ นักบิดคนโปรดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผนึกพันธมิตร ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG, น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง และ ค่ายรถจักรยานยนต์ชื่อดังฮอนด้า ยามาฮ่าและดูคาติ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่และกระแสความนิยมโมโตจีพีในประเทศไทย จัดใหญ่จัดเต็มกิจกรรม MotoGP Fan Fest 2024 Road to PT Grand Prix of Thailand ที่ ร้านจับแพะชลแกะ  ราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ เพื่อขยายฐานแฟนคลับและอุ่นเครื่องก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของโลก โมโตจีพีวิถีไทย ระหว่าง 25– 27 ตุลาคม 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

บรรยากาศภายในงานมีกองทัพแฟนคลับโมโตจีพีและสื่อมวลชน ร่วมงานมากกว่า 500 คน ร่วมชม-เชียร์ ร่วมลุ้นนักบิดที่ชื่นชอบกับการแข่งขัน สนามที่ 12 อรากอน จีพี ประเทศสเปน พร้อมช่วยกันส่งเสียงเชียร์ นักบิดที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทย “ก้อง”สมเกียรติ จันทรา และลุ้นรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ส่งมอบประสบการณ์สุดล้ำค่าให้กับแฟนคลับโมโตจีพี อาทิ บัตร Paddock สำหรับกระทบไหล่นักบิดดังแบบใกล้ชิด, บัตร Pit Walk ที่ผู้ถือบัตรจะสามารถชมรถแข่งมูลค่าหลายร้อยล้านและพิตการทำงานของทีมชื่อดังของโลก, ของที่ระลึก ThaiGP Collection ลิขสิทธิ์แท้และของรางวัลอื่นๆมากมาย โดยมีคอนเสิร์ตจากศิลปินรุ่นใหญ่ วงร็อกหัวดำ นำโดย ปู-อานนท์ สายแสงจันทร์  และวง BLACKHEAD ที่นำเพลงฮิตมากมายมาให้ฟังอย่างจุใจ

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการสานต่อความสำเร็จกับการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพีอีกครั้ง เทศกาลกีฬายักษ์ใหญ่ระดับเวิลด์คลาส ที่จัดเป็นปีที่ 5 ซึ่งสนามประเทศไทยเคยสร้างสถิติด้วยการเป็นแชมป์สนามแข่งที่มีผู้ชมสูงสุด และถือเป็นสนามที่มีผู้ชมจำนวนมากสนามหนึ่งของโลก ตลอด 4 ปีที่จัดการแข่งขัน MotoGP สร้างปรากฎการณ์มากมาย ทุกปีหลังเปิดจำหน่ายบัตร เพียงเปิดจองวันแรก บัตรที่นั่งแกรนด์สแตนด์ก็ถูกจองเต็มในเวลาไม่กี่นาที รวมถึงบัตรที่นั่งไซด์สแตนด์, สแตนด์พิเศษของนักแข่งต่างๆ ก็ถูกจับจองหมดก่อนถึงการแข่งขันเช่นกัน  รวมถึงที่พักในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง ถูกจองเต็มล่วงหน้าตั้งแต่ดอร์น่า สปอร์ต ประกาศปฏิทินการแข่งขันในแต่ละปี เรียกว่าที่พักถูกจองเต็ม ก่อนที่จะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเสียอีก ทั้งยังได้รับคำชื่นชมในส่วนการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ทั้งในและนอกสนาม ดึงเสน่ห์ท้องถิ่นสู่งานมหกรรมกีฬาระดับอินเตอร์ ต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตหลายแสนคนจากทั่วโลก ต่อยอดจนไปถึงการที่นักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมชมการแข่งขันโมโตจีพี รวมถึงผู้ติดตาม ได้จับจ่าย ซื้อสินค้าและบริการในพื้นที่ ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 4-5 พันล้านบาทต่อปี

“ในการนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ต้องการจะขยายฐานแฟนคลับ รวมทั้งสร้างกระแสการรับรู้ อุ่นเครื่องความสนุกให้กับแฟนๆโมโตจีพีในประเทศไทย ซึ่งโมโตจีพีเป็นอีกชนิดกีฬายอดนิยมของโลก สร้างความสนุกสนานและประทับใจ ถ่ายทอดสู่ 207 ประเทศ ผู้ชมกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก  จึงได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมทั้งต้องการเชิญชวนคนไทย ร่วมชมและเชียร์การแข่งขันไปจนถึงวาระที่ไทยเป็นเจ้าภาพในสนามที่ 18 รวมทั้งร่วมแสดงพลังเข้าชมที่สนามแข่ง เชียร์และส่งกำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยให้สามารถคว้าชัยโฮมเรซ เป็นการส่งท้ายในรุ่นโมโตทู ก่อนขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับพรีเมียร์คลาส สร้างชื่อเสียง ความภาคภูมิใจ นำกีฬามาสร้างประโยชน์มหาศาลสู่ประเทศชาติอย่างยั่งยืน”

ส่วนบัตรชมการแข่งขันยังสามารถจับจองกันได้ผ่านช่องทาง Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซด์ allticket ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Chang Circuit Buriram

เยาวชนร่วมคัดเลือก“Honda Academy Thailand” ปีที่ 9 สานฝันสู่นักบิดระดับโลก

“ไทยฮอนด้า” ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยสายงานกีฬายานยนต์ เปิดคัดเลือกเยาวชนนักบิดเข้าสู่โครงการ Honda Academy Thailand 2025” ซึ่งเป็นบันไดก้าวแรกภายใต้แผนงาน “Honda Race To The Dream” ผลักดันนักบิดหน้าใหม่เข้าสู่เวทีระดับโลก “The Next Successor To Become The World Class Riders” โดยเหล่าเยาวชนที่มีใจรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ตเดินทางเข้าร่วมทดสอบความสามารถในหลักสูตรพัฒนาศักยภาพนักบิดมาตรฐานระดับโลกแห่งเดียวในเมืองไทย “Honda Academy Thailand” ปีที่ 9 อย่างคึกคัก ณ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า สมุทรปราการ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การร่วมทดสอบความสามารถในหลักสูตรพัฒนาศักยภาพนักบิด “Honda Academy Thailand” ปีที่ 9 นักแข่งเยาวชน อายุระหว่าง 9-13 ปี ไม่จำกัดสัญชาติ ที่ผ่านการคัดเลือกหลังจากการสมัคร ได้เดินทางเข้ารับการอบรม พร้อมทดสอบสมรรถนะร่างกายเข้าฐานฝึกซ้อม (กลุ่ม) และทดสอบทักษะการขับขี่ ที่ใช้รถจักรยานยนต์ มินิไบค์ สไตล์สปอร์ต (Mini Sport Bike) Honda MSX125 ใน 3 สถานี คือ สถานีขับขี่เลขแปด (Figure 8) สถานีขับขี่สลาลม (Slalom) สถานีขับขี่จิมคาน่า (Gymkhana) โดยได้ 15 เยาวชนนักบิดที่ผ่านไปลุ้นต่อในรอบต่อไป ณ สนาม Go-Kart (Chang International Circuit) จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันศุกร์ ที่ 9 สิงหาคมนี้ ด้วยเรซแมชชีน Honda NSF100 ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับทำการแข่งขันในสนามโดยเฉพาะ เพื่อลุ้นเป็น 10 ตัวจริง ของ “Honda Academy Thailand 2025”

สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการฝึกฝนทักษะรวมถึงเทคนิคการขับขี่โดย Head Coach มืออาชีพ นำโดย “โค้ชฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ “โค้ชมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช “โค้ชดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง และรับการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากนักแข่งในสังกัด “Honda Racing Thailand” พร้อม Adviser Coach “Mr. Shinichi Ito” อดีตนักแข่ง World GP ที่กวาดรางวัลมาแล้วหลายสมัย ทั้งนี้เพื่อมุ่งหวังผลักดันนักแข่งไทยสู่สนามระดับโลก เพื่อสร้างให้กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทยทุกเพศทุกวัยและให้คนไทยได้เชียร์นักแข่งไทยในสนามระดับโลก

“ก้อง-สมเกียรติ” เจองานหนักอีกครั้ง ล่าผลงาน โมโตทู สนาม 9 จากแถว 6

ศึก โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 9 รายการ เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ผ่านการแข่งขันรอบควอลิฟายเมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา

โดย “ก้อง”​ สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่ได้สร้างประวัติศาตร์อีกครั้ง ทุบสถิติความเร็วของซัคเซนริง ในรุ่น โมโตทู ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 22.698 วินาที จากการซ้อม

อย่างไรก็ดี “ก้อง-สมเกียรติ” มาพลาดล้มในการซ้อมช่วงเช้าวันเสาร์ ก่อนจะคว้ากริดที่ 17 มาครองในรอบควอลิฟาย ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 23.340 วินาที ได้เริ่มเกมจากแถวที่ 6 ต้องเจองานท้าทายในการไล่ล่าอันดับกลุ่มหน้า กล่าวว่า “มีความผิดพลาดเล็กน้อย โชคดีที่ผมไม่ได้รับบาดเจ็บมาก พรุ่งนี้ผมจะสู้และทำอย่างเต็มที่ ฝากเชียร์และเป็นกำลังให้ผมในการแข่งขันด้วยครับ”
 
ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทยหมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย คว้ากริดที่ 20 ในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 27.618 วินาที


 

ทั้งนี้ ศึก ซัคเซนริง มีคิวดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคมนี้ เริ่มต้นด้วยรุ่น โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ SPOTV

"ก้อง-สมเกียรติ" รีดฟอร์มเก่ง! รั้งท็อป 4 ตีตั๋ว Q2 บาร์เซโลน่า

"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" รีดฟอร์มเก่ง ทะยานคว้าท็อป 4 การซ้อมรวมด้วยเวลาต่อรอบ  1 นาที 42.294 วินาที ตีตั๋วเข้าสู่การควอลิฟายรอบ Q2 แบบไดเร็กต์ ของศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 6 รายการ คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ก่อนลุ้นกริดสตาร์ตคืนวันเสาร์นี้

ขณะนักบิดรุ่นน้องอย่าง "ก๊องส์" ธัชกร บัวศรี เดินหน้าเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมปี้ยนชิพ โดยคว้าอันดับ 26 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 48.952 วินาที ยกระดับความเร็วของตัวเองได้ดี

ทั้งนี้ 2 นักบิดไทยอย่าง "ก้อง-สมเกียรติ" และ "ก๊องส์-ธัชกร" จะแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมนี้ และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคมนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง True SPOTV