Form Recovery and Wellness เดินหน้าแผนขยายเครือข่าย มาตรฐานระดับมืออาชีพสำหรับนักกีฬา นักวิ่ง และคนรักสุขภาพ

22 กันยายน 2568 Form Recovery and Wellness ยกระดับการเข้าถึงบริการฟื้นฟูสุขภาพของคนกรุงเทพฯ เพื่อรองรับชุมชนคนแอคทีฟที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประกาศแผนขยายเครือข่ายครั้งใหญ่ เปิด 3 สาขาใหม่ภายใน 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้บริการฟื้นฟูแบบสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Care) ครอบคลุมพื้นที่สำคัญของเมือง โดยสาขาใหม่จะเปิดที่ KINGSQUARE Community Mall (ถนนพระราม 3) ศูนย์กีฬาแห่งใหม่ในย่านพร้อมพงษ์ และ นานา (ใกล้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์) ซึ่งจะทำให้ฐานการให้บริการของ Form Recovery and Wellness ในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว รองรับความต้องการที่พุ่งสูงของคนไทยที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ทั้งนี้ สาขาใหม่ในพื้นที่ตามดังกล่าวจะเข้ามาเสริมเครือข่ายคลินิกปัจจุบันที่อโศก (สุขุมวิท 20) ทองหล่อ (สุขุมวิท 49) และที่ Urban Wellness Centre โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ

ในขณะที่กระแส ‘แอคทีฟไลฟ์สไตล์’ กำลังมาแรงในหมู่คนกรุงเทพฯ ความต้องการด้านการฟื้นฟูได้เปลี่ยนไปเช่นกัน จากการผ่อนคลายที่ร้านนวดหรือสปา สู่การดูแลที่ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง โดยมีคลินิกอย่าง Form Recovery and Wellness เป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนที่ยกระดับมาตรฐานการดูแลหลังออกกำลังกายหรือหลังการผ่าตัด

เตรียมพบกับสาขาใหม่ยานพระราม 3 พร้อมพงษ์ และนานา

สำหรับแผนขยายเครือข่ายของ Form Recovery and Wellness มีเป้าหมายเพื่อให้คนกรุงเทพฯ สามารถเข้าถึงบริการกายภาพบำบัด (Physiotherapy) แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine: TCM) และแพทย์แผนไทยประยุกต์ (Applied Thai Traditional Medicine) ได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด การฉีดยา หรือการผ่าตัดโดยไม่จำเป็น

โดย Form Recovery and Wellness จะยกระดับมาตรฐานการให้บริการในคลินิกตามแบบแผนที่พัฒนาจากงานกีฬามวลชนขนาดใหญ่ เพื่อให้การเข้ารับบริการมีประสิทธิภาพ ชัดเจน และช่วยให้ผู้รับบริการสามารถกลับไปออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมาตรฐานการทำงานของ Form Recovery and Wellness ถูกพิสูจน์ให้เห็นแล้วในภาคสนามของการแข่งขันระดับแนวหน้าอย่าง BYD HYROX Bangkok 2025 ซึ่งทางคลินิกฯ ได้ทำหน้าที่ในฐานะพันธมิตรด้านกายภาพบำบัดอย่างเป็นทางการ (Official Physiotherapy Partner) โดยตลอด 48 ชั่วโมงของการแข่งขัน ทีมงานสามารถดูแลนักกีฬาได้มากกว่า 650 เคส ภายในโซนฟื้นฟู 10 เตียง โดยมีบุคลากร 14 คน ทั้งนักกายภาพบำบัด แพทย์แผนจีน และผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม พร้อมรักษาเวลารอคิวเฉลี่ยไม่ถึง 6 นาที และไม่มีรายงานข้อร้องเรียนด้านการบาดเจ็บจากหน้างาน โดยการนำโมเดลดังกล่าวไปสู่ทำเลชุมชน จะช่วยให้กลุ่มนักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย สามารถเข้าถึงการดูแลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพได้ใกล้บ้านยิ่งขึ้น

Form Recovery and Wellness พันธมิตรอย่างเป็นทางการของ BYD HYROX Bangkok 2025

คุณ Rikhi Anandsongkit ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Form Recovery and Wellness กล่าวว่า การได้รับเลือกให้เป็นพันธมิตรด้านกายภาพบำบัดอย่างเป็นทางการของ BYD HYROX Bangkok ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันฟิตเนสที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเรา ตลอด 2 วันของการแข่งขัน ทีมงาน Form Recovery and Wellness ดูแลนักกีฬามากกว่า 650 คน ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามไปจนถึงการฟื้นตัวหลังจบรายการ เพื่อให้นักกีฬาทุกคนแข่งขันได้อย่างมั่นใจและกลับไปซ้อมต่อได้อย่างปลอดภัย การได้เห็นทีมรับมือกับข้อจำกัดด้านเวลาและปริมาณงาน พร้อมรักษามาตรฐานการดูแลไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของพวกเรา

ถัดมาในเดือนมิถุนายน Form Recovery & Wellness ได้พิสูจน์ความเชี่ยวชาญอีกครั้งในศึก APPT Challenger Bangkok ที่ Pad Thai Padel ทัวร์นาเมนต์กีฬาพาเดล (Padel) มืออาชีพระดับแถวหน้าของเอเชีย โดยทีมงานได้ลงพื้นที่ดูแลนักกีฬาต่อเนื่องเป็นจำนวนหลายวันติดต่อกัน พร้อมแสดงให้เห็นมาตรฐานงานคลินิกในสถานการณ์จริง ตั้งแต่การคัดกรองอาการอย่างรวดเร็ว การรักษาเฉพาะจุดอย่างแม่นยำ ไปจนถึงการส่งต่อการดูแลอย่างต่อเนื่องแบบไม่สะดุด ซึ่งผลงานในครั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางการทำงานของคลินิกใช้ได้จริงภายใต้แรงกดดันและเวลาที่จำกัด ซึ่งผู้รับบริการในกรุงเทพฯ สามารถสัมผัสได้แล้ววันนี้ที่สาขาปัจจุบัน รวมถึงในอีก 3 สาขาใหม่ที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้

คุณ Rikhi กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เราอยากให้การดูแลฟื้นฟูที่ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางเข้าถึงได้มากขึ้นทั่วกรุงเทพฯ Form Recovery and Wellness ยึดมาตรฐานเดียวกับที่ทีมงานเราใช้ในงานใหญ่อย่าง BYD HYROX Bangkok 2025 และ APPT Challenger สำหรับคลินิกทุกสาขา รวมถึงสาขาใหม่ที่จะเตรียมเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ เพราะการฟื้นฟูระดับมืออาชีพ ไม่ควรถูกจำกัดอยู่เฉพาะนักกีฬามืออาชีพเท่านั้น

 

ปลอดโด๊ป! เพาะกายโลกเอาจริง สั่งฟันนักกีฬาใช้สารกระตุ้น 4 ปี พร้อมโดนปรับเกือบ 2 แสนบาทต่อคน

เพาะกายโลกและเอเชีย เอาจริง เตรียมลงโทษ หากนักกีฬาคนไหนตรวจพบสารต้องห้าม นอกจากโดนแบนห้ามแข่งขันเป็นเวลา 4 ปี แล้ว ยังจะโดนปรับอีก คนละ 2 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ 64,830 บาท ส่วนประเทศต้นสังกัด โดนอีก 4 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ 129,660 บาท รวม แล้ว 6 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ 194,670 บาท ดีเดย์ใช้ลงโทษทุกรายการในปีหน้า 2026 เพื่อให้กีฬาเพาะกายปลอดโด๊ป

วันที่ 28 สิงหาคม 2568 นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย และ นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับในโอกาส ที่สมาคมฯ ครบรอบ 72 ปี ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 2 รายการใหญ่ มี การแข่งขันเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 19 ที่จัดทดแทน การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพวันที่ 9-20 ธ.ค.ที่ไม่มีการบรรจุเพาะกาย เข้าแข่งขัน และอีกรายการ การแข่งขันเพาะกายและฟิตเนส ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 57 ที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์

การแข่งขันทั้ง 2 รายการนี้ ทางสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก และ สหพันธ์ กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย โดยทาง ดาโต๊ะพอล ชัว ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก ได้เห็นความสำคัญของเรื่องมาตรการการควบคุมสารต้องห้ามในกีฬาเพาะกาย ด้วยการจัดสัมมนาในเรื่องการรณรงค์เรื่องการป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้ง 2 รายการ ที่ห้องสกาย ชั้น 18 โรงแรมอเล็กซานเดอร์  ถนนรามคำแหง  ซึ่งในการสัมมนาครั้งนี้ มีนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมการแข่งขันได้มาร่วมรับฟังการสัมมนาคนรั้งนี้ เป็นจำนวนมาก กว่า 300 คน 

นอกจากนี้ ในการแข่งขันทั้ง 2 รายการ ก่อนแข่งขันนักกีฬาไทยทุกคน จะมีการตรวจหาสารกระตุ้นก่อนแข่งขันด้วย รวมทั้งมีการสัมมนาให้ความรู้ ฝเกี่ยวกับสารต้องห้ามโดยเฉพาะสำหรับนักกีฬาไทย ก่อนแข่งขันอยู่แล้วทุกรายการ นอกจากนี้ทางฝ่ายการแพทย์ของ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ยังมีการสุ่มตรวจหาสารกระตุ้นของนักกีฬาที่เข้าแข่งขันด้วย

สำหรับการสัมมนา เรื่องการรณรงค์เรื่องการป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา นั้น ทางทางสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก และ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ได้มอบหมายให้ฝ่ายแพทย์นำโดย นายแพทย์จตุรพร ณ นคร อดีตรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ประธานฝ่ายการแพทย์และควบคุมสารต้องห้ามของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย และ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก เป็นวิทยากร ผู้นำการสัมมนาครั้งนี้ ร่วมกับ ฝ่ายการแพทย์ของสหพันธ์ฯ อีก 3 ท่าน ที่มาร่วมเป็นวิทยากรด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ ดร.อับดุล ราห์มัน ฮามีด เลขานุการ ฝ่ายคณะกรรมการผู้ตัดสิน สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ส่วนของไทย มี นพ. อี๊ด ลอประยูร อีกคน ที่มาร่วมให้ความรู้ ในการสัมมนาครั้งนี้ ด้วย

เรื่องการป้องกันการใช้สารต้องห้ามสำหรับกีฬาเพาะกายนั้น เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในปัจจุบันนี้ วงการกีฬามีการตื่นตัวในเรื่องการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม การให้ความรู้เกี่ยวกับสารต้องห้ามจึงถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะกีฬาเพาะกาย เนื่องจากทาง สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ต้องการให้การแข่งขันกีฬาเพาะกายมี การรณรงค์เรื่องนี้ อย่างจริงจัง และอยากให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของกีฬาเพาะกาย ได้นำองค์ความรู้ จากการสัมมนาเรื่องนี้ ไปต่อยอดให้นักกีฬาของประเทศต่างๆ ได้เกิดการตระหนักรู้และตื่นตัว เพื่อป้องกันและต่อต้านการใช้สารต้องห้าม

อดีตทางสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก และ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ถ้าพบนักกีฬาที่ใช้สารต้องห้าม สำหรับบทลงโทษ สมัยก่อน มีแค่ห้ามแข่งขันเป็นเวลา 4 ปี แต่ในอนาคต การลงโทษ จะมีเพิ่มมากขึ้น ทางสหพันธ์ฯ ได้กำหนดไว้แล้วว่า ในปีหน้า ปี 2026 ทุกการแข่งขันทุกรายการที่ทางสหพันธ์ฯ จัดการแข่งขันขึ้น ถ้าพบว่า นักกีฬาคนไหน ตรวจพบว่า มีการใช้สารต้องห้าม นอกจากจะโดนแบนห้ามแข่งขันเป็นเวลา 4 ปี แล้ว ยังจะโดนปรับอีก คนละ 2 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินไทย  64,830 บาท  นอกจากนี้ ยังจะปรับเงินประเทศที่พบว่ามีนักกีฬาใช้สารต้องห้ามอีก 4 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินไทย 129,660 บาท รวมแล้วนักกีฬาและประเทศ นั้นจะโดนปรับ 6 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ เงินไทย 194,670 บาท ต่อคนที่ตรวจพบว่ามีการใช้สารกระตุ้น

"กัมพูชา" ยืนยัน พร้อมส่ง "นักกีฬา-เจ้าหน้าที่" ลุยซีเกมส์ 800 คน ย้ำเป็นพื้นที่ปลอดการเมือง

 

วันที่ 20 สิงหาคม 2568 ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ประธานการประชุมหัวหน้านักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ มีการชี้แจงความคืบหน้าในการเตรียมการเป็นเจ้าภายในทุกด้าน และแจ้งเรื่องระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่แต่ละชาติต้องรู้ก่อนการแข่งขันในช่วงมหกรรม ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ที่กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สงขลา 

ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าว สกวิสาน ยาน หัวหน้านักกีฬากัมพูชาไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง แต่เข้าร่วมประชุมในรูปแบบออนไลน์ รวมทั้งวัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกกัมพูชา ร่วมประชุมทางออนไลน์ด้วย โดยทีมกัมพูชาได้แจ้งจำนวนนักกีฬามาแข่งขันประมาณ 600 คน รวมเจ้าหน้าที่อีกกว่าร้อยคน รวมแล้วประมาณ 800 คน จากเดิมที่ส่งแข่งขันทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่รวมกว่า 1,600 คน ถ้าไม่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งไปจนถึงวันแข่งขัน ก็เป็นเรื่องที่ดีกับทุกฝ่าย แต่ถ้าการเมืองมีปัญหา ไม่มีใครคาดเดาอนาคตได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งซีเกมส์ถูกจับตาจากโลกสากลอยู่แล้ว มีธรรมนูญของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี) ที่ค้ำคอเราอยู่ ว่าพื้นที่ของกีฬาที่ปราศจากเรื่องการเมือง สหพันธ์กีฬาซีเกมส์จะพยายามรักษากติกานี้ ภายใต้มาตรฐานที่ทุกคนต้องปลอดภัย จะพยายามทำให้ลดจำนวนนักกีฬาของกัมพูชาลง เพื่อให้อยู่ในสังคมกีฬาของเราได้

นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซีอีโอสหพันธ์ซีเกมส์ กล่าวว่า ทั้งนี้ถ้ากัมพูชาอยากอยู่ในสังคมได้ ก็อย่าให้การเมืองมายุ่งกับกีฬา ต้องเคลียร์เรื่องการเมืองให้เรียบร้อยกับฝ่ายไทย ต้องให้ความมั่นคงปลอดภัยกับคนไทย กีฬาเปิดกว้างให้เข้ามาอยู่แล้ว แต่อย่าสร้างปัญหานอกกีฬา เพราะเมื่อเกิดขึ้นไปกระทบนักกีฬาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ได้มองแค่ครั้งนี้ แต่ถ้ายังทะเลาะกันไปในอนาคต เจ้าภาพชาติอื่นๆ ก็ต้องกังวลกับความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชาด้วย มีคนพยายามที่พยายามบอกว่าไทยไม่ปลอดภัย ขอยืนยันว่าเรารับมือความปลอดภัยได้ดีมากแน่นอน

"พลิกโฉมคิกบ็อกซิ่งไทย" ศึกชิงแชมป์ประเทศไทย 2025 ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ผนึกกำลังกับกรุงเทพมหานคร จัดศึกชิงแชมป์ประเทศไทย "Thailand Kick Boxing Championship 2025" ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา กับเบื้องหลังความทุ่มเทสู่การเป็นเจ้าภาพร่วม และก้าวสำคัญในการปลุกกระแสคิกบ็อกซิ่งให้ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ สร้างนักกีฬาพันธุ์ใหม่ให้วงการพร้อมก้าวสู่ระดับสากล

วันที่ 18 สิงหาคม 2568 สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรุงเทพมหานคร สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับวงการกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ด้วยการจัดการแข่งขันรายการ "Thailand Kick Boxing Championship 2025" ณ ศูนย์กีฬาบางกอก อารีน่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จและการเติบโตแบบก้าวกระโดดของกีฬาชนิดนี้ในประเทศไทย

นางสาวทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ได้เผยว่า การแข่งขันครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มีนักกีฬาเข้าร่วมประลองฝีมือมากกว่า 700 คน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬาสมัครเล่นและเยาวชนทั่วประเทศ

"ความสำเร็จของการแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงจำนวนผู้เข้าร่วม แต่ยังเป็นการยกระดับและพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา บุคลากร และสร้างประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศที่ได้มาตรฐาน การจัดงานครั้งนี้ได้กลายเป็นรากฐานสำคัญในการผลักดันให้การแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทยเป็นรายการประจำปีที่มั่นคงและยั่งยืน"

นางสาวทิรา กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะมีนักกีฬาเข้าร่วมมากกว่า 700 คน ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนา กีฬาคิกบ็อกซิ่งของประเทศไทย และขยายผลไปยังนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งในระดับสมัครเล่นเยาวชน และกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ

ความมุ่งมั่นทุ่มเทของสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาคส่วนต่างๆ ทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมถึงความร่วมมือในฐานะเจ้าภาพร่วมจากกรุงเทพมหานคร ที่ให้การสนับสนุนด้านสถานที่และอำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้าน คือหัวใจสำคัญที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การแข่งขัน Thailand Kick Boxing Championship 2025 ไม่เพียงแต่สร้างแชมป์คนใหม่ให้กับวงการ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้นักกีฬารุ่นใหม่ได้เดินตามแนวทางที่ถูกต้องในการพัฒนาทักษะ และเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าวงการคิกบ็อกซิ่งของไทยกำลังก้าวไปสู่จุดที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้อย่างแน่นอน

"โกจุ๊บ" นายกส.กีฬากระดานโต้คลื่น พอใจนักกีฬาคว้าโควต้า 4 ที่นั่ง ศึกกระดานโต้คลื่นในเอเชียนเกมส์

"โกจุ๊บ" นายกสมาคมกีฬากระดานโต้คลื่นแห่งประเทศไทย พอใจ หลังโต้คลื่นไทย คว้าโควต้าเต็มจำนวน 4 ที่นั่ง ในการแข่งขันกระดานโต้คลื่นในเอเชียนเกมส์ 2026 ที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจบการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศอินเดีย

วันที่ 12 สิงหาคม 2568 นายชนินทร์ อัยรักษ์ นายกสมาคมกีฬากระดานโต้คลื่นแห่งประเทศไทย กล่าวหลังจากที่นักกีฬากระดานโต้คลื่นสาวไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าอันดับ 3 ของเอเชียในประเภท Open รองจากญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ขณะที่รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ทีมหญิงไทยคว้าอันดับ 2 รองจากจีน ส่วนทีมชายไทยอยู่อันดับ 10 ในประเภท Open และอันดับ 6 ในรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ทีมไทยสามารถคว้าโควต้าเพิ่มอีก 2 ที่นั่งในประเภท Open ทั้งชายและหญิง รวมกับผลงานจากการแข่งขันที่มัลดีฟส์ปีที่แล้ว ทำให้ไทยได้โควต้าครบเต็มจำนวน คือชาย 2 โควต้า หญิง 2 โควต้า

นายชนินทร์ อัยรักษ์ นายกสมาคมกีฬากระดานโต้คลื่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป้าหมายของเราในการแข่งขันครั้งนี้หลักๆ คือต้องได้โควต้าไปเอเชียนเกมส์ให้ครบเต็มจำนวน คือชาติละสี่โควต้า ซึ่งทีมไทยเราก็ทำได้ และทำผลงานได้ดีเกินเป้า ทำให้อันดับในเอเชียล่าสุดเราขยับขึ้นมาติดท็อปทรีในทีมหญิง ซึ่งมีโอกาสลุ้นเหรียญในเอเชียนเกมส์สูง

นายกสมาคมยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากทีมชาติชุดนี้ มีนักกีฬาทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุ 16-18 ปี นักกีฬาที่อายุยังน้อยทำให้สมาคมสามารถวางแผนระยะยาวในการพัฒนานักกีฬาในอนาคต ผมต้องขอขอบคุณนักกีฬา ผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่ และที่สำคัญคือผู้ปกครองของนักกีฬา เพราะสมาคมเองต้องทำงานร่วมกับผู้ปกครองกันหลังบ้านหนักมาก แต่ก็หายเหนื่อยเพราะผลงานออกมาดีมาก

กีฬากระดานโต้คลื่นเป็นกีฬาชนิดเดียวในเอเชียนเกมส์ 2026 ที่ใช้ระบบคัดโควต้า ซึ่งเป็นระบบเดียวกับการคัดเลือกเข้าโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น ปารีส และโอลิมปิก 2028 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

จากนี้นักกีฬาทีมชาติไทยจะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกระดานโต้คลื่นชิงแชมป์โลก ณ ประเทศเอลซัลวาดอร์ ในเดือนกันยายน ก่อนจะเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเอเชียนเกมส์ 2026 ต่อไป

ส.กีฬาทางน้ำเปิดแผนงาน 5 เดือน เน้นเตรียมนักกีฬาลุยศึกซีเกมส์

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับศึกซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ทางสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ที่มี 4 ชนิดกีฬาบรรจุชิงชัยในซีเกมส์คือ ว่ายน้ำ, โปโลน้ำ, กระโดดน้ำ และ ว่ายน้ำลีลา ได้เปิดแผนงาน 5 เดือน เตรียมซีเกมส์

วันที่ 23 กรกำาคม 2568 “โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภารกิจหลักของสมาคมฯในช่วง 5 เดือนหลังสุด จากการที่ได้รับนโยบายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ คือ การเตรียมนักกีฬาชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ให้ดีที่สุด เพื่อเป้าหมายเหรียญทองที่ประเมินกันไว้ โดยได้หารือกับโค้ชของแต่ละชนิดกีฬาไปแล้ว สำหรับว่ายน้ำนั้นจะส่งนักกีฬาความหวังไปเก็บที่ต่างประเทศตามที่นักกีฬาทำแผนเสนอมา เช่น “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด จะไปเก็บตัวที่ประเทศเนเธอร์แลนด์, “เงือกเนย” กมนชนก ขวัญเมือง และ “ฉลามเป้” รัฐวิทย์ ธรรมนันทโชติ ที่มีลุ้นทั้งว่ายน้ำและโอเพ่นวอเตอร์จะไปเก็บตัวที่ประเทศฝรั่งเศส

ส่วนต้นน้ำ กันตีมูล จะไปซ้อมที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน เช่นเดียวกับกระโดดน้ำจะส่งไปเก็บตัวที่ประเทศจีน เพื่อเรียนรู้เทคนิค โปโลน้ำหญิงจะไปเก็บตัวที่ประเทศฮังการี โปโลน้ำชายอาจจะไปเก็บตัวที่ประเทศจีน หรือเชิญคู่ซ้อมจากจีนมาซ้อมที่ไทย ต้องพิจารณาว่าแบบไหนได้ประโยชน์กว่ากัน ส่วนว่ายน้ำลีลาจะส่งแข่งศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่ประเทศอินเดีย เพื่อทดสอบศักยภาพของนักกีฬา 

โค้ชตึก กล่าวอีกว่า นอกจากการเตรียมนักกีฬาแล้ว สมาคมฯยังเตรียมการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ด้วย โดยได้จัดการแข่งขันทดสอบสนามในบางประเภท เช่น การแข่งขันว่ายน้ำโอเพ่นวอเตอร์ รุ่นมาสเตอร์ ชิงแชมป์อาเซียน 2025 ที่หาดจอมเทียน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสนามแข่งขันจริงในซีเกมส์ และเตรียมสนามแข่งขัน ผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ ในด้านต่างๆ ให้พร้อมที่สุดก่อนการแข่งขันซีเกมส์

สำหรับแผนงานของ สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ในช่วง 5 เดือนหลังของปี 2568 ระหว่างเดือนสิงหาคม - ธันวาคม ดังนี้ 

วันที่ 26-31 สิงหาคม การแข่งขันทดสอบเวลาว่ายน้ำ ที่ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ , วันที่ 7-14 สิงหาคม ส่งนักว่ายน้ำมาสเตอร์ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศสิงคโปร์

วันที่ 9-12 กันยายน จัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย(สระสั้น) ประจำปี 2568  ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ และการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำลีลาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก, วันที่ 20-21 กันยายน จัดการแข่งขันกีฬากระโดดน้ำชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ที่ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ 20-21 กรกฎาคม จัดการแข่งขันว่ายน้ำโอเพ่นวอเตอร์ชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 3 ที่ จ.ชลบุรี

วันที่ 1-15 ตุลาคม ส่งนักว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ, ว่ายน้ำลีลา เข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2025 และการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่ประเทศอินเดีย, วันที่ 11-13 ตุลาคม จัดการแข่งขันกีฬาโปโลน้ำรุ่นเยาวชน ที่ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, วันที่ 22-31 ตุลาคม ส่งนักว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนยูธเกมส์ 2025 ที่ประเทศบาห์เรน

เดือนพฤศจิกายน จัดการแข่งขันว่ายน้ำโอเพ่นวอเตอร์ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ซีรีส์ 3 ที่ จ.ชลบุรี และจัดการแข่งขันว่ายน้ำโอเพ่นวอเตอร์ รุ่นมาสเตอร์ ชิงแชมป์อาเซียน 2025 ที่ จ.ชลบุรี, วันที่ 9-20 ธันวาคม ส่งนักกีฬาว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ, ว่ายน้ำลีลา, ว่ายน้ำโอเพ่นวอเตอร์ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

“สปาร์ตัน เรซ 2025” ประกาศสนาม 2 ที่พาโค่ บาย เดอะโบนันซ่า เขาใหญ่ นักกีฬาเกือบ 4 พันคน กว่า 35 ประเทศทั่วโลก ร่วมบู๊

“สปาร์ตัน เรซ 2025” ประกาศศักดาสู่สนาม 2 ที่พาโค่ บาย เดอะโบนันซ่า เขาใหญ่ นักกีฬาเกือบ 4 พันคนกว่า 35 ประเทศทั่วโลก รัฐบาลไทยโดย ก.ท่องเที่ยว ผนึกกำลัง. กกท.-กองทุนกีฬา-สสปน - ททท.-กองทัพบก ภาครัฐและเอกชนกว่า 10 องค์กรร่วมผลักดัน Inter Sport Tourism เต็มพิกัดสู่เมืองมรดกโลกครั้งแรก!! คาดเงินสะพัดมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ณ Parco by The Bonanza จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเทศกาลการแข่งขันวิ่งวิบากฝ่าด่านลิขสิทธิ์อันดับหนึ่งของโลก “2025 Spartan Race Thailand” สนามที่สองแห่งปี 2025 ในรายการ “2025 Khao Yai Spartan Race Weekend (Thailand National Series) Presented by AccessXtreme” โดยมี น.ส.ภิม นครศรี หัวหน้างานส่วนกองทุนกีฬา รักษาการแทนรองผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฝ่ายบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, น.ส.ปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ  สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), นางรุ่งทิพย์ บุอย฿่กขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา, น.ส.ธีรารัตน์ ร่มรื่น และ  ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา, นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้ง นายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ CEO - RunRIO Thailand เจ้าของลิขสิทธิ์ Spartan Race และ Tough Mudder ประเทศไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย, Ms.Fusako Kasai International Race Director/Quality Manager, Spartan Race, คุณกัลยา ศรีนันทวงศ์ และ Shen Max ตัวแทน Official Spartan Race Thailand Brand Ambassadors 2025 และตัวแทนผู้สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ประกอบด้วย AccessXtreme, Dairy Home, สมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่, เป็นลาว, Sunnto, Amino Vital, Isuzu, Pocari Sweat, Ginzy, Bangkok Sports Massage, The Bonanza Resort Khaoyai, Parco by The Bonanza, Capital J และ The Movement Playground เข้าร่วมด้วยภายในงานอย่างคับคั่ง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กองทัพบก ภาครัฐและเอกชนกว่า 10 องค์กรร่วมผลักดัน Inter Sport Tourism ผนึกกำลังจัดเทศกาลการแข่งขันวิ่งวิบากฝ่าด่านลิขสิทธิ์อันดับหนึ่งของโลก “2025 Spartan Race Thailand” สุดยอดซีรีส์ครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยการเปิด 5 เมืองเจ้าภาพ ประกอบด้วย หัวหิน, เขาใหญ่, ชลบุรี, เชียงใหม่ และพัทยา ซึ่งได้เดินทางเข้าสู่

สนามที่สองลุยเต็มพิกัดสู่เมืองมรดกโลกครั้งแรก! กับรายการ 2025 Khao Yai Spartan Race Weekend (Thailand National Series) Presented by AccessXtreme ซึ่งจะจัดขึ้นที่ Parco by The Bonanza เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568 และวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 โดยจะมีระยะการแข่งขันประกอบด้วย SPRINT ระยะ 5 กิโลเมตร + 20 ด่าน, SUPER ระยะ 10 กิโลเมตร + 25 ด่าน และ KIDS ระยะ 0.8 - 3.2 กิโลเมตร + ด่าน 

สำหรับรายการ 2025 Khao Yai Spartan Race Weekend (Thailand National Series) Presented AccessXtreme เป็นครั้งแรกกับการเปิดประตูสู่ภาคอีสานในงานวิ่งลิขสิทธิ์ระดับโลก! และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์กับสนาม Thailand National Series ในประเทศไทย ระยะ SPRINT ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสนามแข่งขันที่รอทุกคนไปพิสูจน์ สนามที่สองข้างทางเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติและขุนเขา ส่วนหนึ่งของพื้นที่ป่าไม้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่มรดกโลก และถือเป็นความท้าทายสุดขีดสำหรับเหล่านักกีฬาสปาร์ตัน กับการพิชิตเส้นทางเขาใหญ่ มาท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง ไปให้สุดทุกลิมิต วิ่งฝ่าธรรมชาติมรดกโลกสองข้างทาง สู่จุดหมายที่ใจเรียกหา ใส่ให้สุดทุกแรงกายแรงใจ ไปให้สุดที่เขาใหญ่ เพราะเส้นทางนี้…เพื่อคนกล้าเท่านั้น โดยมีนักกีฬาเกือบ 4 พันคนกว่า 35 ประเทศทั่วโลก ร่วมชิงชัย คาดเงินสะพัดมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งนอกจากนักสู้สปาร์ตันทั่วไปแล้ว ยังมีการแข่งขันสำหรับสปาตันคิดส์รอน้องๆ ทุกคนอยู่ และเป็นการเลือกประสบการณ์ที่เหมาะสมกับเด็กๆ ก้าวผ่านด่านอุปสรรคที่พวกเขาต้องก้าวออกไป เรียนรู้และเอาชนะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แล้วคุณจะรู้ว่าเด็กๆ ทำได้ดีกว่าที่คุณคิดไว้

การแข่งขัน 2025 Khao Yai Spartan Race Weekend (Thailand National Series) Presented by AccessXtreme ได้เปิดรับสมัครแข่งขัน และ SOLD OUT! ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยจะชิงชัยระยะการแข่งขัน SUPER ระยะ 10 กิโลเมตร + 25 ด่าน ในวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568 ตามด้วยระยะการแข่งขัน SPRINT ระยะ 5 กิโลเมตร + 20 ด่าน และระยะ KIDS ระยะ 0.8 - 3.2 กิโลเมตร + ด่าน ในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 โดยนอกจากเหรียญและเสื้อฟินิชเชอร์ที่รอสปาร์ตันทุกคนที่หลังเส้นชัยแล้ว มากกว่านั้นยังมีรางวัลมอบให้กับ Top 3 ในแต่ละประเภทการแข่งขันอีกด้วยคือ ประเภท ELITE ได้รับโล่และเงินรางวัลตามลำดับ และประเภท AGE GROUP ได้รับเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง ตามลำดับ!!!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊คเพจ Spartan Race Thailand (https://www.facebook.com/share/14DQpqDfc6m/?mibextid=wwXIfr)

สองนักหวดสาวลูกครึ่ง "อลิชา-เบลินด้า" คว้าแชมป์คู่หญิง  ศึกคัดนักกีฬาซอฟท์เทนนิสทีมชาติไทย 

สองนักหวดสาวลูกครึ่ง อลิชา มายา ซีกเลอร์ ลูกครึ่งไทย-เยอรมันและ เบลินด้า เอนจิ ลูกครึ่งไทย-กาน่า คว้าแชมป์คู่หญิง ส่วนแชมป์คู่ชาย ธัชพงษ์ สะอาด และ ด.ช.คณิศร พูนผล โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมคว้าแชมป์ไปครองในการแข่งขันคัดนักกีฬาซอฟท์เทนนิสทีมชาติไทย 

วันที่ 23 มิถุนายน 2568 สนามเทนนิสมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก จังหวัดปทุมธานี สมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทย เปิดคัดเลือกนักกีฬา Soft Tennis ทีมชาติไทยรุ่นเยาวชนและรุ่นทั่วไปวันที่สามในประเภทคู่ชาย-หญิงทั่วไป และรุ่นเยาวชน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา 

การคัดเลือกนักกีฬา Soft Tennis ทีมชาติไทย โดยในประเภทคู่หญิงมีนักกีฬาเข้าร่วม 4 คู่แข่งแบบพบกันหมด และได้สองคู่ที่มีสถิติชนะรวด 2 นัดมาพบกันในนัดสุดท้ายระหว่างคู่ของสองสาวลูกครึ่ง อลิชา มายา ซีกเลอร์ "น้องชาช่า" ลูกครึ่งไทย-เยอรมันวัย 15 ปีจากศรีสะเกษจับคู่กับ ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ ลูกครึ่งไทย-กาน่าวัย 13 ปีจากพิจิตรพบคู่ของ ด.ญ.ศิริกร พูลผล "น้องปาล์มมี่"วัย 12 ปีจากพิษณุโลก จับคู่กับนางสาวรสิตา กูลหนองแดงจาก กทม.เกมคู่นี้ รสิตา และ  ด.ญ.ศิริกร เปิดเกมรุกได้ดุดัน ในขณะที่"ชาช่า"และเบลินด้า ตีเสียเองจนถูกคู่ของ รสิตา และ"น้องปาล์มมี่" หนีห่างไป 4 ต่อ 1 แต่ปิดเกมไม่ลง ถูก"น้องชาช่า"อาศัยจังหวะโฉบทำคะแนนหน้าเน็ท และลูกโต้ท้ายคอร์ทที่เหนียวแน่น ค่อยๆทำคะแนนตามตีเสมอจนต้องดวลไทร์เบรกและเป็นคู่ของ อลิชา มายา ซีกเลอร์ และเบลินด้า เอนจิ เอาชนะ รสิตา กูลหนองแดง และ ด.ญ.ศิริกร พูลผล 5 ต่อ 4 ไทร์เบรก 7 ต่อ 1

ส่วนประเภทคู่ชาย เด็กชายคณิศร พูลผล จากพิษณุโลก จับคู่กับนายธัชพงษ์ สะอาด จากศรีสะเกษ ดวลกับคู่ของ ด.ช.ภูมิภัทร เธียรชัยพงษ์ จากพิจิตรจับคู่กับ นายคงภัค คำทวี จากสมุทรสงคราม คู่นี้ดวลกันด้วยพลกำลัง , ความเร็ว และไหวพริบ และเป็นคู่ของ ธัชพงษ์ สะอาด กับ ด.ช.คณิศร พูลผล คว้าแชมป์คู่ชายด้วยการชนะ ด.ชภูมิภัทร เธียรชัยพงษ์ และนายคงภัค คำทวี ไป 5 ต่อ 1

สำหรับนักกีฬาเยาวชน 15 ปี ชาย-หญิง และนักกีฬาเยาวชน 18 ปี ชาย-หญิง ก็ได้ทำการคัดรุ่นละ 10 คนเพื่อไปทำการคัดเลือกรอบสุดท้ายในช่วงเดือนกันยายนต่อไป

ในพิธีปิดการแข่งขันและมอบรางวัลลำดับต่างๆแก่นักกีฬาทั้งรุ่นเยาวชนและรุ่นทั่วไป โดยได้รับเกียรติจากนางอุดมลักษณ์ ศิริกุลเลิศรัฐ นายกสมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทย และนายบรรลือชัย ผิวสานต์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทย ให้เกียรติมอบเกียรติบัตรและร่วมแสดงความยินดีกับนักกีฬาทุกคน

นางอุดมลักษณ์ ศิริกุลเลิศรัฐ นายกสมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสฯ กล่าวว่า ขอบคุณนักกีฬา , ผู้ปกครอง , ผู้ตัดสิน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ช่วยให้การคัดเลือกนักกีฬา Soft Tennis ทีมชาติไทยในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ และขอให้ทุกคนเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ พร้อมเชิญนักกีฬาเข้าการแข่งขันซอฟท์เทนนิสเก็บคะแนนสะสม ซึ่งสมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพิจิตรจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 26-28 ก.ค.68 ต่อไป

"นักกีฬาบริดจ์ไทย" ผวาดคว้าแชมป์ประเภทคู่ ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025

"พีรชา-จิตตกานต์" สองนักกีฬาบริดจ์ทีมชาติไทย ผลงานสุดปัง ผงาดครองแชมป์ประเภทคู่ ศึกบริดจ์ชิงแชมป์เอเชีย "54th Asia Pacific Bridge Federation 2025" ที่จีน

วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ สมาคมฯ ได้ส่งนักกีฬาบริดจ์ทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาบริดจ์ รายการ "54th Asia Pacific Bridge Federation 2025" ระหว่างวันที่ 17-25 พ.ค.68 ที่ประเทศจีน โดยรายการนี้เป็นการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียย และคัดเลือกตัวแทนสหพันธ์กีฬาบริดจ์แห่งเอเชีย ไปแข่งขันบริดจ์ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศโปแลนด์ ในช่วงปลายปีนี้ โดยสมาคมฯ ส่งนักกีฬาทีมชาติไทย 3 ทีม เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมทั่วไป, ทีมหญิง และทีมผสม รวมนักกีฬา 18 คน นั้น ผลการแข่งขันปรากฏว่า นักกีฬาบริดจ์ของไทย ทำผลงานยอดเยี่ยม คว้ามา 1 เหรียญทอง ในประเภทคู่ จาก พีรชา สุริยา กับ จิตตกานต์ ปัจจิมสวัสดิ์

ขณะที่ประเภททีมทั่วไป ไทย คว้าอันดับ 4 ของเอเชีย พร้อมทั้งผ่านเข้ารอบไปเพลย์ออฟ เพื่อแย่งสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนสหพันธ์กีฬาบริดจ์เอเชีย ไปร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลก ซึ่งมีตั๋วแค่ 3 ใบ สำหรับโซนเอเชียแปซิฟิก  ซึ่งทีมบริดจ์ไทย เอาชนะ ญี่ปุ่น มาได้ในรอบเพลย์ออฟที่ 1 และเข้ารอบเพลย์ออฟที่ 2 ไปแพ้ ไต้หวัน ทำให้พลาดตั๋วไปชิงแชมป์โลกอย่างน่าเสียดาย

"ต้องชื่นชมนักกีฬาทีมนี้ว่าสามารถผ่านเข้ามาเพลย์ออฟ ได้ถือว่าเก่งมาก เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในการชิงแชมป์เอเชีย และคัดเลือกตัวแทนสหพันธ์ฯ นักกีฬาไทย มักจะจอดป้ายที่รอบคัดเลือก และจบที่อันดับ 7-8 เท่านั้น"

นายชยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กีฬาบริดจ์ของไทย เรามีนักกีฬาที่เก่งและมีความสามารถ แต่มักจะขาดการสนับสนุน และเวทีที่ประชันฝีมือ หากผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจสนับสนุน ผลักดันให้ได้บรรจุในการแข่งขันระดับนานาชาติรายการต่าง ๆ คิดว่านักกีฬาบริดจ์ไทย จะสามารถทำผลงานได้ดีอย่างแน่นอน

IFMA ประกาศจุดยืนความปลอดภัยนักกีฬา รุดพบ ปธ.ไอโอซี แจงเหตุนักมวยชาวอังกฤษเสียชีวิตที่สมุย

สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ประกาศจุดยืนคำนึงถึงความปลอดภัยของนักกีฬามวยไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยาวชน พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ความสูญเสีย โจเซฟ อิไท ริโนโมต้า นักมวยชาวอังกฤษ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นสำคัญ หลังจากนี้เตรียมเข้าชี้แจงต่อ เคิร์สตี้ โคเวนทรี ประธานคณะกรรมโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เพื่อปกป้องไม่ให้มวยไทยโอลิมปิกถูกทำลาย

จากกรณีที่ นายโจเซฟ อิไท ริโนโมต้า (MR.JOSEPH ITAI RINOMHOTA) อายุ 30 ปี สัญชาติอังกฤษ เสียชีวิตหลังจากขึ้นเวทีครั้งแรกต่อยมวยไทย 5 ยก กับซุปเปอร์เล็ก ที่สนามมวยอินเตอร์สมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งทางด้านของ เคิร์สตี้ โคเวนทรี ประธานคณะกรรมโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ชาวซิมบับเว ได้มีการแสดงความห่วงใย และสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทาง สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) นั้น

วันที่ 1 เมษายน 2568 สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ร่วมกับ สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย (AMTAT) และสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย (PAT) จัดงานแถลงข่าว "Not in Our Olympic Muaythai" ประกาศจุดยืนและนำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัยของนักกีฬา ตลอดจนการหารือเกี่ยวกับอุบัติเหตุการเสียชีวิตของ นายโจเซฟ อิไท ริโนโมต้า จนเป็นข่าวครึกโครมทั่วโลก ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อกีฬามวยไทย รวมทั้งการแถลงข่าวยังครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุศิลปะมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิก เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงแนวทางและมาตรฐานที่เหมาะสมในการพัฒนากีฬามวยไทยระดับสากล โดยมี ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธาน IFMA, นายสเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาธิการ IFMA และนายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพฯ ร่วมกันแถลงรายละเอียด 

ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธาน IFMA กล่าวว่า เรื่องการแข่งขันมวยไทยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นหลัก ต้องได้รับการตรวจร่างกายช่วงเช้าก่อนชก นักกีฬาต้องมีน้ำหนักใกล้เคียงกัน หรือเท่ากัน ต้องมีสถิติการชกใกล้เคียงกัน และผู้ควบคุมการแข่งขันบนเวทีต้องมีความรู้ความสามารถ จากเหตุการณ์ที่สมุย ทางเราพยายามจะสอบถามไปว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฏระเบียบที่คณะกรรมการมวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำหนดไว้หรือไม่ เรากำลังพยายามตามเรื่องอย่างเต็มที่ เพราะสิ่งที่ระลึกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการชกระดับเยาวชนก็ดี หรือระดับทั่วไปก็ดี คือนักกีฬาต้องปลอดภัย โชคดีที่เรื่องนี้มี IFMA เข้ามาร่วมดำเนินการตรงนี้ ซึ่งในต่างประเทศทั่วโลกรู้จักแต่ IFMA เท่านั้น พอเกิดเรื่องก็ได้รับการติดต่อมามากมาย เราจึงขอมาชี้แจงในส่วนนี้

“มวยไทยแพร่หลายไปทั่วโลก 157 ประเทศสมาชิกปฎิบัติตามกฎของ IFMA อย่างเคร่งครัด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สมุยมีกฎหมายอยู่ แต่ไม่ถูกนำไปใช้อย่างจริงจัง เราก็ได้มีการสอบถามไปยังคณะกรรมการกีฬามวย กกท. และยังต้องรอรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวมาจากทาง กกท.สุราษฎณ์ธานี ที่ต้องใช้เวลา ผมขอแสดงความเสียใจอีกครั้งต่อครอบครัวของโจเซฟ ซึ่งในระดับนานาชาติมวยไทยมีความปลอดภัย เราไม่มีทางได้รับการบรรจุในกีฬาโอลิมปิก หากมาตรฐานความปลอดภัยของนักกีฬาภายใต้ IFMA ไม่ได้อยู่ในระดับโอลิมปิก สิ่งที่ผมกังวลอย่างแรก IFMA จะไม่ยอมให้ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เหมาะสมไปอีกนานแค่ไหน และสิ่งที่สองเรากำลังใฝ่ฝันถึงการเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิก แต่หากเราไม่สามารถพิสูจน์ความปลอดภัยของเยาวชนได้ แล้วทำไมคุณจะต้องส่งเยาวชนมาแข่งขันที่ไทย? เรื่องนี้ต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง และเยาวชนต้องถูกวางเป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจของเรา” ดร.ศักดิ์ชาย กล่าว

ขณะที่ นายสเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาธิการ IFMA กล่าวว่า ถือเป็นความโศกเศร้ากับการสูญเสียครั้งนี้ การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการโจมตีองค์กรใด แต่อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องความปลอดภัยของนักกีฬา และการป้องป้องเยาวชน ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนตนได้นำเสนอกรณีศึกษาเกี่ยวกับการปกป้องนักกีฬาเยาวชน แต่กลับถูกจับที่สนามบิน และโดนฟ้องร้องหมิ่นประมาท อย่างไรก็ตาม เรายังขอยืนหยัดกับความถูกต้อง ไม่มีการประนีประนอมเรื่องความปลอดภัยในกีฬามวยไทย

“เราขอแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นเรื่องการคุ้มครองความปลอดภัยของนักกีฬาโดยเฉพาะรุ่นเยาว์ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนเองจะเดินทางไปที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเข้าพบกับ เคิร์สตี้ โคเวนทรี ประธานคณะกรรมโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และสรุปข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องไม่ให้มวยไทยโอลิมปิกถูกทำลายไป เพราะ IFMA ต้องการผลักดันนโยบายอย่างชัดเจน เพื่อปกป้องเยาวชนที่เล่นกีฬามวยไทยให้มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งต้องขอบคุณพาร์ตเนอร์ที่จับมือร่วมกันทำให้เกิดเป็นรูปธรรม” นายสเตฟาน กล่าว

ด้าน นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทาหรณ์อย่างดี ที่เราต้องหาวิธีป้องกัน และมีมาตรการที่เข้มงวดเพราะกีฬามวยไทย มีโอกาสที่จะได้รับการบรรจุโอลิมปิก เราต้องพยายามทำให้เห็นว่า มวยไทย เป็นกีฬาที่มีมาตรฐาน มีการป้องกัน และดูแลนักกีฬาอย่างดี เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ฝากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย และสำนักงานมวยแต่ละจังหวัด เข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับนักมวยที่จะขึ้นชกในรายการต่างๆ ต้องดูให้ดีว่าผู้แข่งขันทำตามระเบียบ อยางเข้มงวดหรือไม่ อยากให้ช่วยกันดูแล และสอดส่องในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด

“ผมรู้สึกยากที่จะเข้าใจว่าทำไมใครๆ ถึงสามารถเปิดองค์กรระดับโลกได้ในประเทศไทย โดยไม่มีการยอมรับจากใครนอกจากตัวเอง ผมได้พูดคุยเรื่องนี้กับรัฐบาลหลายครั้ง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ หากเราไม่มีการกำหนดกฏเกณฑ์และความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน เหตุการณ์ที่น่าเศร้าเหล่านี้จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป วันนี้ผมขอเพียงให้รัฐบาลลงมาพูดคุยกับสององค์กรที่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่ในประเทศไทยคือ AMTAT และ PAT เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยที่เหมาะสม โดยเฉพาะสำหรับเยาวชน ในระดับนานาชาติ IOC ได้ยอมรับมวยไทยแล้ว ดังนั้นทำไมเราถึงต้องพยายามขัดแย้งกับองค์กรกีฬาที่มีอำนาจสูงสุดของโลก? ตอนนี้เราหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นต่อไป” นายสมชาติ