ธอส.โชว์ความสำเร็จ 10 ผลงานแบบบ้านประหยัดพลังงาน “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” ยกระดับที่อยู่อาศัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยความสำเร็จ “แบบบ้านประหยัดพลังงาน” ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” โชว์ 10 ผลงานสร้างสรรค์ ยกระดับการอยู่อาศัย บ้านยุคใหม่ “อยู่สบาย” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” จากการประกวดเพื่อคว้ารางวัล มูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท พร้อมให้ดาวน์โหลดแบบบ้าน ฟรี!!!  ขับเคลื่อนเป้าหมาย “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่ยั่งยืนต่อไป

นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานการตลาด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันสถาปนาครบรอบ 70 ปี ธอส. และประกาศความสำเร็จของการประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” ธอส. จึงได้จัดงาน “Roadshow ประชาสัมพันธ์การดาวน์โหลดแบบบ้านประหยัดพลังงาน โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” ขึ้น ณ ลานน้ำพุ ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ระหว่างวันที่ 23-24 กันยายน 2566 หลังจากการประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงานดังกล่าว ได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษา บุคคลทั่วไป และคณะบุคคลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปนิกทั่วประเทศ ร่วมส่งผลงานการออกแบบบ้านที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และประหยัดพลังงาน ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2566 มากกว่า 265 ผลงาน ก่อนประกาศผล 10 ผลงานของผู้ได้รับรางวัลในการตัดสินรอบสุดท้ายในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566

โดยแบบบ้านที่ชนะเลิศผ่านการตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาวิศวกร สภาสถาปนิก สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันอาคารเขียวไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม แบบบ้านที่ชนะการประกวดได้รับเงินรางวัลมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านบาท และประกาศเกียรติคุณรับรองผ่านการประเมินเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานในโครงการบ้านเบอร์ 5 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ประชาชนสามารถดาวน์โหลดแบบบ้านประหยัดพลังงานไปใช้ได้ฟรีผ่านทาง www.ghbank.co.th เพื่อนำไปปลูกสร้างได้จริง โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกสร้าง อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นทางเลือกและสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานเป็นของตนเอง และสามารถดูแบบบ้านจากผลงานสร้างสรรค์ที่ชนะการประกวดได้ที่  https://fb.watch/neA-ILu1-v/?mibextid=Nif5oz

สำหรับแบบบ้านที่ชนะการประกวดในรางวัลแบบบ้านขนาดเล็ก ได้แก่ “บ้านโอบกอด” ที่มีจุดเด่นของการออกแบบอาคารให้มีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม การใช้ทิศทางของลมและแสงแดดให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม, บ้าน “EVERYHOME” ที่ชนะใจกรรมการตัดสินด้วยแนวคิด Flexible ความยืดหยุ่นที่พร้อมตอบรับผู้ใช้งานคนไทย “ทุกคน” ให้ได้มีบ้านอยู่เย็นเป็นสุขใน “ทุกที่”, “บ้านเล็กในเมืองใหญ่” ที่ออกแบบบ้านบ้านประหยัดพลังงานสำหรับพื้นที่แคบในเมือง,“บ้าน ชาน เอิ้น” ที่นำภูมิปัญญาของคนอีสานมาออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ตรงกลาง หรือใต้ถุนบ้านสำหรับทำกิจกรรมของครอบครัว และ “บ้านกินลม” ที่ออกแบบบ้านโปร่งโล่ง ลมและแสงเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย มีใต้ถุนที่อากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง

ด้านแบบบ้านที่ชนะการประกวดในรางวัลแบบบ้านขนาดใหญ่ ได้แก่ บ้าน “Well Being House” โดยออกแบบบ้านให้คนทั้งครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีสุขภาวะที่ดี และประหยัดพลังงาน, “บ้านระเบียงเคียงดิน” ที่เน้นการหาวัสดุที่หาได้ง่ายในชนบท ช่วยประหยัดค่าก่อสร้าง, บ้าน “GREENHAUS” ที่ออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกแง่มุม, “บ้านเรือนกลางสวน” โดยใช้นวัตกรรมใหม่ๆเป็นเครื่องมือในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน Active Design และ บ้าน “SBYE HOUSE” ที่มีแนวคิดการออกแบบจากสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น และใกล้ชิดธรรมชาติผสมผสานอย่างลงตัว  

ทั้งนี้ ภายในงาน Roadshow ประชาสัมพันธ์การดาวน์โหลดแบบบ้านประหยัดพลังงาน โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข ยังมีกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย ทั้งโซนให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ต้องการขอคำปรึกษาในเรื่องของการปลูกสร้างบ้านประหยัดพลังงาน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ จาก ธอส., โซนบ้านมือสอง ธอส. ที่นำทรัพย์ NPA มาร่วมในงาน, โซนจัดแสดง Model บ้านประหยัดพลังงานที่ได้รับรางวัลจำนวน 10 แบบ, โซนให้คำปรึกษาเรื่องการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน โดยทีมสถาปนิก พร้อมกันนี้ยังมีพันธมิตร Q-CHANG (คิวช่าง) แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจร ครอบคลุมทุกบริการเรื่องบ้าน...ครบจบในที่เดียว “ล้าง ซ่อม ติดตั้ง ต่อเติม” และพบกับสิทธิประโยชน์ภายในงานอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมที่ให้ความรู้ และสร้างความสนุกสนาน ได้แก่  DIY กระเป๋ารักษ์โลก กิจกรรม Special Talk ผู้เชี่ยวชาญด้านที่อยู่อาศัย ในหัวข้อ “ ครบ เด็ด สร้างบ้าน” โดย “พี่ตุ้ม”นายธนวัฒน์ สุขัคคานนท์ นักออกแบบมืออาชีพแห่งบริษัท Interior Visions , Special Talk ให้ความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ Special Talk โดย “หมอวั้ง” วรางคณา อัชชะกิจ ศาสตร์ฮวงจุ้ยผสานวิชา Interior Design พิเศษผู้เข้าร่วมงานลุ้นรับสิทธิ์ Lucky draw จำนวน 2 ท่าน ดูดวงฟรีด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยแบบ Exclusive รวมทั้งชมการ LIVE จาก Influencer อาภา ภาวิไล (แม็กกี้ อาภา) นักแสดงชื่อดังจากช่อง 7 และอีกกิจกรรมที่พลาดไม่ได้กับเล่นเกมส์แจกของรางวัล ในวาระการฉลองครบรอบ 70 ปี ธอส. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคาร ได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

ธอส. เพิ่ม 10 ฟังก์ชันใหม่ แอพฯ GHB ALL GEN ย้ำ Digital Bank เริ่ม 22 ก.ย.นี้

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พัฒนาการให้บริการด้านดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มฟังก์ชันการให้บริการผ่าน Application : GHB ALL GEN ในเฟสที่ 3 จำนวน 10 ฟังก์ชัน ประกอบด้วย 1. e-Donation บริการสแกน QR e-Donation หรือเลือกรูปภาพ QR ที่บันทึกไว้ เพื่อโอนเงินบริจากให้กับสถานศึกษา ศาสนสถาน โรงพยาบาล และองค์กรสาธารณสุขอื่น ๆ 2. Request To Pay (RTP) บริการตั้งเตือนการชำระเงินกู้บนระบบพร้อมเพย์ ไปยังธนาคารต่าง ๆ 3. Bank Certificate บริการขอหนังสือรับรองฐานะทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อขอวีซ่าหรือศึกษาต่อต่างประเทศ 4.เปิดทะเบียนสลากออมทรัพย์ สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยมีทะเบียนสลากออมทรัพย์ ธอส. มาก่อน

5. ปลดสถานะ (Dormant) บริการปลดสถานะบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหว เป็นบัญชีสถานะปกติ (Active) 6. ทบทวนข้อมูลลูกค้าด้วยตนเอง แสดงข้อมูลการแสดงตนก่อนการสร้างความสัมพันธ์หรือทำธุรกรรมกับธนาคาร  7. สมัครและยกเลิก Promptpay เปิดให้บริการสมัครและยกเลิก PromptPay เพื่อให้บริการ รับ-โอนเงินระหว่างธนาคารโดยไม่ต้องใช้เลขที่บัญชีธนาคาร  8. ประวัติการไถ่ถอนสลาก บริการแสดงประวัติรายการไถ่ถอนสลากออมทรัพย์ 9. NDID บริการขอใช้ข้อมูลเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารอื่นด้วยภาพถ่ายใบหน้าในรูปแบบดิจิทัล  และ 10. dStatement บริการรับส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก (Bank Statement) ในรูปแบบดิจิทัลระหว่างสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถสัมผัสบริการใหม่ ๆ ของ ธอส. ได้ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2566 เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคาร ได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th   

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจ 22 ก.ย.66

-ธอส.โชว์ผลงานปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 162,760 ล้านบาท มั่นใจทั้งปี 66 ได้ตามเป้า 235,480 ล้านบาท NPLไม่เกิน4% ประกาศตรึงดอกเบี้ยนานสุด หนุนคนรายได้น้อยมีบ้าน

-รมว.คมนาคมมั่นใจทุกสนามบินพร้อมรับ VISA Free ตม.จัดเจ้าหน้าที่ประจำการเต็มช่องตรวจ รองรับได้ 7,140 คน/ชั่วโมง ทอท.คาด ผู้โดยสารเพิ่มเฉลี่ย เป็น 18,656 คน/วัน คาดปี 66 นักท่องเที่ยวจีนเกือบถึงเป้า 5 ล้านคน

-กบข.เตรียมเงินจ่ายคืนสมาชิกเกษียณอายุราชการปีนี้ 2.7 หมื่นล้านบาท พร้อมจ่ายเงินคืนได้ภายใน 7 วันทำการหลังเอกสารถูกต้องครบถ้วน พร้อมเสนอทางเลือก "ออมต่อ" ให้ กบข. บริหารเงินลงทุนให้ต่อเนื่องหลังจากเกษียณอายุราชการ 4 รูปแบบ โดยมีสมาชิกให้ความสนใจเพิ่มขึ้นทุกปี

-บริษัทตั้งใหม่ ส.ค.66 มีจำนวน 7,424 ราย เพิ่ม 0.08% ทำสถิติเป็นยอดตั้งใหม่เฉพาะเดือนสูงสุดในรอบ 10 ปี ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 มีทุนจดทะเบียน 24,905.75 ล้านบาท ส่วนยอดเลิก 2,007 ราย เพิ่ม 3.40% รวม 8 เดือน ตั้งใหม่ 61,558 ราย เพิ่ม 14.90% เหตุท่องเที่ยวฟื้น ธุรกิจเกี่ยวเนื่องเติบโตแรง และยอดเลิก 10,971 ราย เพิ่ม 10.90%

-กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากางแผนเสริมแกร่งร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นปี 67 เตรียมลุยพัฒนาร้านค้าที่มีพื้นฐานแข็งแรงเป็นร้านค้าต้นแบบ 30 ร้านค้า และเข้าไปช่วยอบรมร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย ก่อนดันต่อยอดเป็นสมาร์ทโชห่วย 20 ราย

- ETDA ยกทัพผู้บริหารจัดใหญ่ "TIME TO CHANGE 13 ปี ETDA #ชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล โชว์ผลงานเด่นรอบปี 66 กับภารกิจครั้งสำคัญพาคนไทยเปลี่ยนสู่ชีวิตดิจิทัลที่ดี มั่นใจ ปลอดภัยขึ้น พร้อมติดสปีดไทย พิชิต 30:30

-SCB FM มองเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าขึ้นช่วงปลายปี แนะผู้นำเข้าป้องกันความเสี่ยงในระยะสั้น ด้านบอนด์ยีลด์มีโอกาสสูงขึ้นต่อ

-เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.03 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.13 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แต่ปรับตัวแข็งค่ามากสุด ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ35.99 - 36.25 บาท/ดอลลาร์ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 35.95 - 36.20 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งช่วงกลางสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งยังมีความเห็นก้ำกึ่งเรื่องทิศทางดอกเบี้ยว่าจะมีการปรับขึ้น หรือคงอัตราเดิมไว้ หลังมีเสียงคัดค้านจากภาคเอกชน

-ผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ลง 0.50 บาท/ลิตร ส่วนดีเซลคงเดิม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 66 หลังเวลา 05.00 น.เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 47.74 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 39.95 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 39.68 บาท E20 ลิตรละ 37.64 บาท E85 ลิตรละ 37.29 บาท ดีเซล B20 และดีเซล B7 ลิตรละ 29.94 บาท

-สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง(ทองคำ 96.5%) ในประเทศเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.28 น. ราคาปรับขึ้น 50 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 32,850 บาท ขายออก 32,950 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่บาทละ 32,260.48 บาท ขายออก 33,450 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 1,925.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

-SET ปิดวันนี้(22 ก.ย.)ที่ 1,522.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด (+0.55%) มูลค่าซื้อขาย 57,160.61 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ รับ Sentiment บวกตลาดภูมิภาค จากความหวังต่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว และ BoE คงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่บ้านเรามีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดแกว่งไซด์เวย์ อัพไซด์จำกัด โดยยังมีหลายปัจจัยกดดัน ให้แนวรับไว้ที่ 1,520-1,515 จุด และแนวต้าน 1,530 จุด

 

 

ธอส.ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้วกว่า 162,760 ล้านบาท พร้อมรับนโยบายรัฐบาลช่วยคนมีรายได้น้อยมีบ้านเป็นของตนเองมากขึ้น 

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฉลองครบรอบสถาปนา 70 ปี ในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.4 ล้านครอบครัว ล่าสุด ณ วันที่ 19 กันยายน 2566 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้สูงถึง 162,760 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ทั้งปี พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐ ช่วยเหลือคนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น พร้อมออกโปรโมชันผลิตภัณฑ์ทางการเงินฉลองครบรอบ 70 ปี โดยได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก นำโดย สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 6 เดือนแรกเพียง 0.70% ต่อปี, เงินฝากออมทรัพย์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 7.70% ต่อปี, สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดขาลเพิ่มพูน ปี 2566 เพิ่มผลตอบแทนหน้าสลากเป็น 1.40% ต่อปี และบ้านมือสอง ธอส. ลดราคาสูงสุด 50% กว่า 500 รายการ พร้อมรับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 7,000 บาท ในงานมหกรรมบ้านมือสอง ธอส. ออนไลน์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 

นายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการธนาคาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันครบรอบสถาปนา 70 ปี ธอส. ในวันที่ 24 กันยายน 2566 ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้มีบทบาทในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการปล่อยสินเชื่อให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.4 ล้านครอบครัว และในปี 2566 ที่เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว ธอส. จึงยังคงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 151,813 ล้านบาท จำนวน 121,016 บัญชี คิดเป็น 64.47% ของเป้าหมายสินเชื่อใหม่ในปี 2566 ที่ตั้งไว้ที่ 235,480 ล้านบาท 

ทั้งนี้ส่งผลให้เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2565 ธอส. มียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,658,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.74% มีสินทรัพย์รวม 1,698,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.35% เงินฝากรวม 1,452,142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.52% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 71,389 ล้านบาท หรืออยู่ที่ 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.57% จากสิ้นปี 2565 ที่มี NPL อยู่ที่ 3.74% ของยอดสินเชื่อรวม โดยได้มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 140,725 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 197.12% สะท้อนความมั่นคงและความพร้อมในการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 15.18% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด และล่าสุด ณ วันที่ 19 กันยายน 2566 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 162,760 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของเป้าหมายสินเชื่อใหม่ในปี 2566 ส่วนสภาพคล่องในปัจจุบันเพียงพอเพื่อปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ธอส.ยังพร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ผู้ด้อยโอกาส และผู้ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Loan) โดย ณ วันที่ 19 กันยายน 2566 ได้ปล่อยสินเชื่อ Green Loan จำนวนมาก อาทิ สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2566 มีลูกค้าได้รับสินเชื่อแล้ว 
จำนวน 6,170 บัญชี วงเงิน 8,514.02 ล้านบาท, สินเชื่อบ้านเบอร์ 5 ลูกค้าได้รับสินเชื่อแล้วจำนวน 270 บัญชี วงเงิน 519.22 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อ Green Loan สูงถึง 120.44% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7,500 ล้านบาท รวมถึงโครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ (Project Loan For Carbon Reduction Building) สำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารอนุมัติวงเงินกู้แล้วจำนวน 7 โครงการ วงเงินรวม 259.50 ล้านบาท คิดเป็น 28.83% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 900 ล้านบาท และอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาสินเชื่ออีกจำนวน 9 โครงการ วงเงินรวม 850 ล้านบาท สะท้อนบทบาท ธอส. มุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน (The Best Housing & Sustainable Bank) โดยให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อ Green Loan ต่อไป 

ทั้งนี้ เพื่อสนองนโยบายของรัฐอย่างต่อเนื่อง และฉลองครบรอบวันสถาปนา 70 ปี ธอส. ได้จัดทำโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับลูกค้า ทั้งด้านสินเชื่อ เงินฝาก สลากออมทรัพย์ และบ้านมือสอง ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน 70 ปี ธอส. อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 3 ปีแรก โดยเดือนที่ 1 - 6 เท่ากับ 0.70% ต่อปี เดือนที่ 7 - 24 เท่ากับ 2.70% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี หรือเฉลี่ย  3 ปีแรกเพียง 2.70% สำหรับลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระต่อเดือนเพียง 3,500 บาท นานถึง 2 ปี!! ผลปรากฏว่า มีลูกค้าให้ความสนใจยื่นขอสินเชื่อแล้ว 5,555.76 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 9 วันเท่านั้น!

ขณะเดียวกันสำหรับลูกค้าที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสอง วงเงินขอกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ธอส.มอบโปรโมชันค่าธรรมเนียม โดยลดภาระค่าใช้จ่ายจากการที่ธนาคารรับภาระค่าธรรมเนียมแทนผู้กู้ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนอง ในอัตรา 0.01% ของวงเงินจำนองและไม่เกินตามที่จ่ายจริง สำหรับลูกค้าที่ทำนิติกรรมแล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 30 พฤศจิกายน 2566 และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ หรือห้องชุด ไม่เกิน 25% ของค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ หรือห้องชุด ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 0.25% ของวงเงินจำนอง สำหรับลูกค้าที่ทำนิติกรรมแล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 1 - 29 กันยายน 2566 (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) ด้านเงินฝากออมทรัพย์ครบรอบ 70 ปี ธอส. อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดสูงสุดถึง 7.70% ต่อปี โดยตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.70% ต่อปี และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2568 จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 7.70% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยรวมสูงถึง 2.43 - 2.53% ต่อปี บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) 

ส่วนการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดขาลเพิ่มพูน ปี 2566 ผ่านช่องทาง Mobile Application : GHB  ALL GEN  และ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หน่วยละ 1,000 บาท ฝากครบ 3 ปี รับผลตอบแทนหน้าสลากเพิ่มขึ้นอีก 0.25% ต่อปี หรือ สูงถึง 1.40% ต่อปี (เงื่อนไขรับผลตอบแทนเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) พร้อมกันนี้ ยังมีโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัลสูงถึง 2 ล้านบาท ทุกเดือนรวม 36 ครั้ง โดยมียอดจำหน่าย ณ วันที่ 19 กันยายน 2566 จำนวน 1,949.18 ล้านบาท และ บ้านมือสองฉลองครบรอบ 70 ปี ธอส.ที่มอบบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 7,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์บ้านมือสอง ธอส. ในงานมหกรรมบ้านมือสอง ธอส. ออนไลน์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 (GHB ALL HOME ONLINE 2023) ผ่านทาง Application : GHB ALL HOME หรือเว็บไซต์บ้านมือสองของธนาคาร www.ghbhomecenter.com ระหว่างวันที่ 22 - 26 กันยายน 2566 จำนวน 14 รายแรก แบ่งเป็น ซื้อทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 7 รายแรก และทรัพย์ในเขตภูมิภาค 7 รายแรก ที่ทำสัญญาภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยในงานจะได้พบกับทรัพย์เด่นทั่วประเทศกว่า 500 รายการ ลดสูงสุดถึง 50% ของราคาประเมิน พร้อมรับสิทธิ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสุด นานสูงสุดถึง 24 เดือน โดยผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th 

 


 

ธอส.ฉลองครบรอบ 70 ปี จองซื้อบ้านในงาน GHB ALL HOME ONLINE 2023  14 รายแรกรับบัตรกำนัลแทนเงินสด มูลค่าสูงถึง 7,000 บาท 

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฉลองครบรอบ 70 ปี เพิ่มโอกาสพิเศษเอาใจคนอยากมีบ้าน นำทรัพย์เด่นกว่า 500 รายการทั่วประเทศ มาลดสูงสุดถึง 50% ของราคาประเมิน ในงานมหกรรมบ้านมือสอง ธอส. ออนไลน์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 (GHB ALL HOME ONLINE 2023) โดยธนาคารจัดโปรโมชันเด็ด โดนใจ สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์บ้านมือสอง ธอส. ผ่านทาง Application : GHB ALL HOME หรือ www.ghbhomecenter.com ระหว่างวันที่ 22 - 26 กันยายน 2566 จะได้รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 7,000 บาท จำนวน 14 รายแรก แบ่งเป็น ซื้อทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 7 รายแรก และทรัพย์ในเขตภูมิภาค 7 รายแรก ทั้งนี้ ภายในงานยังมีทรัพย์ราคาจำหน่ายต่ำสุดเพียง 80,000 บาท เท่านั้น ได้แก่ ทรัพย์ประเภทห้องชุด ขนาดเนื้อที่ 23.63 ตารางเมตร ใน อ.บางพลี  จ.สมุทรปราการ พิเศษต่อที่ 2!! ผู้ที่จองซื้อทรัพย์จะได้รับสิทธิ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสุด นานสูงสุดถึง 24 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่www.ghbhomecenter.com, 
Application : GHB ALL HOME และ Line Official Account : @GHBALLHOME

 

"ธอส." ตอบแทนลูกค้าฉลองครบรอบ 70 ปี เงินฝากดอกเบี้ยสูงถึง 7.70% ต่อปี

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตอบแทนลูกค้าเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี ด้วยการจัดทำผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ครบรอบ 70 ปี ธอส. รับผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดสูงสุดถึง 7.70% ต่อปีเพียงเปิดบัญชีเงินฝากขั้นต่ำ 10,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน - 31 ตุลาคม 2566 ที่สาขาธนาคารทั่วประเทศ โดยตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.70% ต่อปี และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2568 จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 7.70% ต่อปี ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยรวมสูงถึง 2.43 - 2.53% ต่อปี (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) พิเศษ!! รับดอกเบี้ยรายเดือนและไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

 

ธอส.ฉลองครบรอบ 70 ปี จัดโปรโมชันสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 0.70% นาน 6 เดือน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฉลองครบรอบ 70 ปี มอบโปรโมชันสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เอาใจคนอยากมีบ้าน กับ “สินเชื่อบ้าน 70 ปี ธอส.” กรอบวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 3 ปีแรก เดือนที่ 1 - 6 เท่ากับ 0.70% ต่อปี เดือนที่ 7 - 24 เท่ากับ 2.70% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี หรือเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 2.70% ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระต่อเดือนเพียง 3,500 บาท นานถึง 2 ปี!! ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 

นอกจากนี้ ธอส. ยังช่วยรับภาระค่าธรรมเนียมแทนลูกค้าที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสอง วงเงินขอกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ทุกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนอง ในอัตรา 0.01% ของวงเงินจำนองและไม่เกินตามที่จ่ายจริง สำหรับลูกค้าที่ทำนิติกรรมแล้วเสร็จตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2566 และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ หรือห้องชุด ไม่เกิน 25% ของค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ หรือห้องชุด ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 0.25% ของวงเงินจำนอง สำหรับลูกค้าที่ทำนิติกรรมแล้วเสร็จตั้งแต่วันนี้ถึง 29 กันยายน 2566 (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

 

กคช.ผนึก ธอส. MOU ร่วมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติ

การเคหะแห่งชาติผนึก ธอส. MOU ร่วมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติ

นายทวีพงษ์  วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและโครงการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนของการเคหะแห่งชาติ ระหว่างการเคหะแห่งชาติกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดย นางฐิตาภรณ์  ลาภเกียรติเสรี รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ลงนามร่วมกับ นางภานิณี  มโนสันติ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกิจการนโยบายสินเชื่อและภาครัฐ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 ณ ห้องประชุมสันทนาการ ชั้น 3 อาคาร 5 สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ 
 
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นหน่วยงานที่บูรณาการการทำงานร่วมกันมาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากทั้งสองหน่วยงานมีเป้าหมายเดียวกันคือ ช่วยเหลือประชาชนคนไทยได้มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย โดยเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 การเคหะแห่งชาติได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและโครงการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนของการเคหะแห่งชาติ มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 3 ปี และได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564 ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับรายย่อย (Post Finance) ในโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ รวมทั้งจัดวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้เรื่องการสร้างวินัยทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในชุมชน ทั้งยังอำนวยความสะดวกในการให้สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการสำหรับผู้ประกอบการ (Pre Finance) ตลอดจนประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประเมินมูลค่าโครงการเป็นหลักประกันสินเชื่อ ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์กำหนด เป็นต้น 
 
สำหรับการลงนามฯ ในครั้งนี้ นับเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องในการสร้างโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงระบบการเงินและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขยายช่องทางการลงทุนแก่ผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญา และคู่สัญญาโครงการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นการสนองนโยบายรัฐในการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ทั้งโครงการบ้านเคหะสุขประชา โครงการบ้านเคหะสุขเกษม โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวโครงข่ายคมนาคม (Transit Oriented  Development : TOD) และโครงการบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุ (Wellness Center) เป็นการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการสำหรับผู้ประกอบการ (Pre Finance) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับรายย่อย (Post Finance) รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่อง โดยบูรณาการความร่วมมือการดำเนินงานกับภาคีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 

“การเคหะแห่งชาติต้องขอขอบคุณธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานกับการเคหะแห่งชาติมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงระบบการเงินและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทำให้พวกเขามีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ภายใต้วิสัยทัศน์ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579 (Housing for All)” นายทวีพงษ์ กล่าวย้ำ
 
นางภานิณี มโนสันติ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกิจการนโยบายสินเชื่อและภาครัฐ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิต มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยมากขึ้น ดังนั้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ซึ่งตลอดระยะเวลา 70 ปี ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วกว่า 4.4 ล้านครอบครัว จึงพร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการสำหรับผู้ประกอบการ (Pre Finance) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อย (Post Finance) ในโครงการนี้ ดังนั้นเชื่อว่าการลงนามความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยฯ ในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมเป็นของตนเอง คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคมได้ต่อไป
 
“ธอส. พร้อมสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการจัดหาที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เหมาะสมกับตนเองได้ ขณะเดียวกันยังจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่ขาดโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ได้รับสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้สอดคล้องพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ของธนาคาร โดยตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วกว่า 4.4 ล้านครอบครัว”นางภานิณีกล่าว

ธอส.เผยประมูลขายบ้านมือสองออนไลน์เพียง 1 ชั่วโมงเดียว ขายได้แล้ว 91 รายการ มูลค่ารวมกว่า 107 ล้านบาท

ธอส. เผยผลการจัดงานประมูลขายบ้านมือสองออนไลน์ เพียง 1 ชั่วโมงเดียว จำหน่ายได้แล้ว 91 รายการ มูลค่ารวมกว่า 107 ล้านบาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการจัด “งานประมูลขายบ้านมือสองออนไลน์ GHB’S NPA Online Auction”  ผ่าน  Application : GHB ALL HOME”  ที่จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 ระหว่างเวลา 12.00-13.00 น.ทั่วประเทศ สามารถจำหน่ายบ้านมือสองได้จำนวน  91 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 107 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนกว่า 23 รายการ  และในส่วนภูมิภาค  68 รายการ โดยรายการทรัพย์ที่ประมูลได้ในราคาต่ำที่สุดเพียง 100,000 บาท ได้แก่ ห้องชุด ขนาดเนื้อที่ 23.63 ตารางเมตร  ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขณะที่ทรัพย์ที่ประมูลในราคาสูงสุด ได้แก่ บ้านเดี่ยว 68.10 ตารางวา ใน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ในราคา 5.05 ล้านบาท เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่มีขนาดเนื้อที่กว้างขวาง อยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว และเดินทางสะดวกสบาย 

ทั้งนี้ ผู้ชนะการประมูลต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ตามจำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในวันที่ 19 กันยายน 2566 สามารถใช้โปรโมชันผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด นานสูงสุดถึง 24 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด) 

สำหรับผู้ที่พลาดงานครั้งนี้ ธนาคารจะมีการฉลองครบรอบ 70 ปี ธอส. โดยภายในงานจะจัดให้มี “มหกรรมบ้านมือสอง ธอส. ออนไลน์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566” (GHB ALL HOME ONLINE 2023) กว่า 500 รายการ ผ่านทาง Application : GHB ALL HOME และเว็บไซต์บ้านมือสองของธนาคาร www.ghbhomecenter.com ระหว่างวันที่ 22 - 26 กันยายน 2566  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com และ Mobile Application : GHB ALL HOME

 

ธอส.ร่วมงาน THAILAND INSURTECH FAIR 2023 จัดโปรโมชันสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษปีแรกเพียง 2.45% ต่อปี 

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดโปรโมชันร่วมงานมหกรรมประกันภัยสุดยิ่งใหญ่แห่งปี  “THAILAND INSURTECH FAIR 2023” เพิ่มโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารมากขึ้น นำโดยสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรกเท่ากับ MRR-4.45% ต่อปี (ปัจจุบันเท่ากับ 2.45% ต่อปี) เฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 3.45% (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส.ในปัจจุบันเท่ากับ 6.90% ต่อปี) ค่าประเมินราคาหลักประกันอัตราพิเศษ ผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 40 ปี ให้กู้ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์หลัก อาทิ ซื้อบ้าน/คอนโดมิเนียม ปลูกสร้าง และรีไฟแนนซ์ โดยหลักประกันในการยื่นคำขอกู้ต้องอยู่ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการเท่านั้น จองสิทธิ์ภายในงาน ยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน – 16 ตุลาคม 2566 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 พิเศษ!! สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีวงเงินทำนิติกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก รับของสมนาคุณฟรี ดังนี้ วงเงินสูงสุดอันดับที่ 1 - 2 รับเครื่องดูดฝุ่น Robot และอันดับที่ 3 - 5 รับเครื่องชงกาแฟแบบหยดจาก Buono 

โดยภายในงานยังมีสลากออมทรัพย์ ธอส. ให้ผลตอบแทนและโอกาสถูกรางวัลสูง ประกอบด้วย ชุดขาลเพิ่มพูน ปี 2566 หน่วยละ 1,000 บาท ผลตอบแทนหน้าสลาก 1.00% ต่อปี และรับผลตอบแทนผันแปร 0.15% ต่อปี รวมรับผลตอบแทนสูงสุด 1.15% ต่อปี โอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 2 ล้านบาท และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัวทุกงวด รวม 36 งวด ชุดพิมานมาศ Plus Phase 2 หน่วยละ 50,000 บาท ผลตอบแทนหน้าสลาก 1.25% ต่อปี พร้อมโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 รางวัลละ 3 ล้านบาท และรางวัลเลขท้าย 4 ตัว, 3 ตัว, 2 ตัว และ 1 ตัวทุกงวด รวม 24 งวด และชุดเกล็ดดาว พลัส หน่วยละ 5,000 บาท ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.65% ต่อปี โอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว, 2 ตัว และรางวัลเลขสลับเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว รวม 24 งวด จองสิทธิ์ภายในงานและซื้อสลากได้ระหว่างวันที่ 8 - 17 กันยายน 2566 ณ สาขาในจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการเท่านั้น (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์และซื้อสลากออมทรัพย์ จำนวนเงินตั้งแต่ 5 แสนบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อรายการ จะได้รับบัตร Starbucks มูลค่า 150 บาท จำนวน 1 ราย ต่อ 1 ใบ ต่อผลิตภัณฑ์ และซื้อจำนวนเงินมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อรายการ จะได้รับเซ็ตกล่องสำหรับใส่อาหาร Super Lock มูลค่า 699 บาท จำนวน 1 ราย ต่อ 1 ชุด ต่อผลิตภัณฑ์ หรือจนกว่าของสมนาคุณจะหมด

ทั้งนี้งาน THAILAND INSURTECH FAIR 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 10 กันยายน 2566 เวลา 9.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th