การเคหะแห่งชาติ ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเยียวยาลูกบ้านในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้รับการยกเว้นค่าเช่า-พักชำระหนี้

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ ย้ำบทบาทเชิงรุกในการดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน

วันที่ 4 ส.ค.68 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในยามวิกฤติ ด้วยมาตรการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย และส่งเสริมความมั่นคงในการดำรงชีวิตของผู้ได้รับผลกระทบมาตรการเร่งด่วนให้ลูกบ้านของการเคหะแห่งชาติใน 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ตราด จันทบุรี และสระแก้ว ครอบคลุมความช่วยเหลือหลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1. ยกเว้นค่าเช่ารายย่อยและเช่าจัดประโยชน์สำหรับลูกค้าการเคหะแห่งชาติ ฟรีค่าเช่า 3 เดือน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568 รวมถึงยกเว้นค่าปรับ 100% สำหรับผู้ที่มาชำระหนี้ค้าง ในช่วงเวลาดังกล่าว 2. พักชำระหนี้กลุ่มเช่าซื้อ ลูกค้าเช่าซื้ออาคารของการเคหะแห่งชาติในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับสิทธิพักชำระค่าเช่าซื้อ 3 เดือน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568 พร้อมยกเว้นค่าปรับ 100% กรณีที่มาชำระหนี้ค้างเช่นเดียวกัน 3. สนับสนุนการยังชีพ การเคหะแห่งชาติได้จัดเตรียมถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) ลูกค้าที่พักอาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติในพื้นที่ชายแดน  2) กลุ่มเปราะบางที่อยู่ในโครงการ 3) ผู้ที่อพยพเข้ามาพักอาศัยกับญาติในโครงการเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าว

นายทวีพงษ์ กล่าวว่า “มาตรการนี้สะท้อนถึงภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์โดยการเคหะแห่งชาติในการยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤติ เพื่อให้ทุกคนมีความมั่นคงในการอยู่อาศัย และได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ทั้งผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง และผู้ที่มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่นในชุมชนเดียวกัน” ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง ทั้งด้านที่อยู่อาศัย การยังชีพและการฟื้นฟูชุมชนในระยะยาว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานการเคหะแห่งชาติในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน 1615

#การเคหะแห่งชาติ #เยียวยา #ทหารไทยปะทะกัมพูชา #พักชำระหนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ข่าววันนี้

"การเคหะแห่งชาติ" ขยายโปรฯ บ้านดีราคาดี “ฉลองครึ่งปีทอง” ถึง 15 ก.ค.68 ให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น

กคช. ขยายโปรฯ บ้านดีราคาดี “ฉลองครึ่งปีทอง” ถึง 15 ก.ค. 68 ให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น

การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เดินหน้าสานต่อภารกิจเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยคุณภาพในราคาจับต้องได้ ล่าสุดประกาศขยายระยะเวลาแคมเปญใหญ่แห่งปี “ฉลองครึ่งปีทอง กับการเคหะแห่งชาติ” ออกจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2568

โอกาสนี้ กคช. พร้อมนำเสนอที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกประเภทโครงการทั่วประเทศทั้ง บ้านเอื้ออาทร, เคหะชุมชน, โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเชิงสังคมและเชิงพาณิชย์ ราคาเริ่มต้น 250,000 – 390,000 บาท ด้วยสิทธิพิเศษแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น อัตราดอกเบี้ย 0%, ส่วนลดสูงสุด 20%, ฟรีค่ามุ้งลวดเหล็กดัด รวมถึงมาตรการ ผ่อนปรนด้านเครดิต เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถมี “บ้านหลังแรก” หรือ “บ้านหลังใหม่” เป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น

สำหรับรายละเอียดของแคมเปญ “ฉลองครึ่งปีทอง กับการเคหะแห่งชาติ” ประกอบด้วย 

-อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อพิเศษ 0% ปีแรกทุกโครงการ 

-ส่วนลดพิเศษ 5-20% จำนวน 106 โครงการ

-ลดราคาพิเศษสำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทรจำนวน 48 โครงการ ราคาเริ่มต้น 250,000 - 390,000 บาท

-ฟรีมุ้งลวดเหล็กดัด สำหรับห้องชุดขนาดพื้นที่ประมาณ 33 ตารางเมตร มูลค่าไม่เกิน 15,000 บาทต่อหน่วย, ขนาดพื้นที่ประมาณ 24 ตารางเมตร มูลค่าไม่เกิน 12,000 บาทต่อหน่วย ยกเว้นโครงการมิตรไมตรีได้มูลค่าไม่เกิน 10,000 บาทต่อหน่วย

-วางเงินจองเริ่มต้น 1,000 บาท

-ทำสัญญาเช่าซื้อผ่อนบ้านตรงกับการเคหะฯ ได้ทุกโครงการ

-กรณีลูกค้าโครงการเช่า 999 บาท ในโครงการเพื่อขาย สามารถเปลี่ยนเป็นเช่าซื้อได้ทันที

-ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การพิจารณาสำหรับลูกค้าที่ติดเครดิตบูโร แต่ยังคงพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ

ผู้สนใจจองบ้านกับแคมเปญ “ฉลองครึ่งปีทอง กับการเคหะแห่งชาติ” สามารถจองได้ที่สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ ศูนย์ขายสำนักงานเคหะนครหลวง และสำนักงานเคหะจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 หรือ Facebook: NHA marketing, Facebook: การเคหะแห่งชาติ ถึงวันที่  15 กรกฏคม 2568 

#การเคหะแห่งชาติ #โปรบ้านดี #คนไทยมีบ้าน #ฉลองครึ่งปีทอง #บ้านพร้อมอยู่ #โครงการรัฐ #กคช #โปรโมชั่นบ้าน #บ้านราคาถูก #บ้านเพื่อคนไทย #ที่อยู่อาศัยคุณภาพ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ 

 

 

 

 

 

 

การเคหะแห่งชาติ จับมือ สปสช. เดินหน้าติดตั้ง “ตู้ห่วงใย” ดูแลสุขภาพชุมชน สู่สวัสดิการที่ยั่งยืน

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “เพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและนวัตกรรมบริการ” สำหรับประชาชนภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในโครงการที่พักอาศัยภายใต้การกำกับดูแลของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดย ตน และ นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมลงนาม และในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  และนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ พร้อมกล่าวแสดงความยินดี  ณ ศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย (NHA INNOVATION CENTER) เคหะชุมชนห้วยขวาง ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ 

            นายทวีพงษ์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. และกระทรวงสาธารณสุข ในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง กคช. และ สปสช. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่ม โดยต่อยอดขยายผลจากนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากรของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้วยการขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญ (Flagship Projects) 9 ด้าน ในด้านที่ 5 มุ่งเน้นการสร้างหุ้นส่วนทางสังคม สู่สวัสดิการที่ยั่งยืน ด้วยการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในการเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุข เพราะการมีสุขภาพกาย - ใจที่ดีถือเป็นรากฐานในการดำเนินชีวิตประจำวันที่จะทำให้เรามีกำลังในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนของประเทศต่อไป

        การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง พม. ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยต่างๆ เป็นจำนวนกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศ ได้ร่วมกับ สปสช. ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “เพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและนวัตกรรมบริการ” สำหรับประชาชนภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทองที่อาศัยอยู่ในโครงการของ กคช. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรับรู้สิทธิและเข้าถึงบริการสาธารณสุขและนวัตกรรมบริการได้อย่างครอบคลุมและเท่าเทียม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงบริการหรือเข้าถึงได้น้อย รวมถึงจะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายการจัดบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) บริการเชิงรุกในชุมชน ด้วยโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ครอบคลุม 42 กลุ่มโรค เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว สามารถลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเดินทางไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล

        นายทวีพงษ์ กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลของ กคช. พบว่า ชุมชนที่อยู่ในความดูแลส่วนใหญ่ ยังเข้าไม่ถึงบริการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมีปัญหาในการเดินทางไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล ทาง กคช. จึงได้ร่วมกับ สปสช. ดำเนินการติดตั้ง “ตู้ห่วงใย” ภายในชุมชนของ กคช. เพื่อให้บริการด้านสุขภาพฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวเสียบที่ตู้ห่วงใยเพื่อขอรับบริการ ตรวจสุขภาพ พบแพทย์ผ่านระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)  และรอรับยาฟรีได้ที่ ตู้ห่วงใยหรือที่บ้านภายใน 30 - 60 นาที เรียกว่าเป็นบริการที่เบ็ดเสร็จครบจบในตู้ห่วงใย โดยเบื้องต้นจะนำร่องติดตั้งตู้ห่วงใยในพื้นที่โครงการเคหะชุมชนห้วยขวางและโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 และเพื่อความสะดวกของประชาชนจะขยายความร่วมมือเพื่อติดตั้งตู้ห่วงใยไปในทุกชุมชนของ กคช. ต่อไป


         
 นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช. มีความยินดีอย่างยิ่งในการดำเนินการด้านสุขภาพขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ ร่วมกับการเคหะแห่งชาติในพื้นที่พักอาศัยที่การเคหะแห่งชาติกำกับดูแลเพื่อดูแลผู้ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขตามสิทธิ์ โดยเน้นที่การสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพในระดับปฐมภูมิเพื่อมีทางเลือกให้กับประชาชนและช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยการสนับสนุนจัดบริการสาธารณสุขด้วยนวัตกรรมการแพทย์ทางไกลเชิงรุกภายในชุมชนการเคหะ เช่นการติดตั้งตู้ห่วงใย หนึ่งในนวัตกรรมบริการด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกลร่วมให้บริการ และรอรับยาจัดส่งถึงบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาจากการติดตั้งตามจุดต่างๆในพื้นที่กทม. มีประชาชนตอบรับเข้าใช้บริการแล้วกว่า 1,500 คนโดยจะทำการติดตั้งที่ชุมชนการเคหะภายใต้ความร่วมมือนี้ซึ่งจะขยายไปทั่วประเทศ รวมถึงบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขเชิงรุกอื่นๆด้วยเช่น เปิดพื้นที่ให้มีคลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่นและคลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น เพื่อให้ประชาชนหาหมอได้สะดวกขึ้นไปจนถึงการให้บริการเชิงรุกในรูปแบบรถหัตถกรรมเคลื่อนที่และการเจาะเลือดผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่บ้าน เป็นต้น

         

กคช.ออกแคมเปญเสริมรับวันสงกรานต์ "ลดแรง ดอกเบี้ยเบา ผ่อนสบาย" พร้อมช่วยประชาชนเป็นเจ้าของบ้านง่ายขึ้น

การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เผยกระแสตอบรับจากแคมเปญ "บ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ รับปีใหม่ 2568" ด้วยส่วนลดสูงสุด 20% โดยจะสิ้นสุด 31 มีนาคมนี้ และจากสภาวะทางเศรษฐกิจอยู่ช่วงกำลังฟื้นตัว ประกอบกับหนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังคงสูง จึงเตรียมออกแคมเปญเสริม รับวันสงกรานต์ ทั้งลดราคา ลดดอกเบี้ย และผ่อนบ้านตรงกับการเคหะฯ ได้ทันที เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้นในอัตราผ่อนชำระต่อเดือนที่ลดลง

วันที่ 28 มีนาคม 2568 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดตัวแคมเปญ "บ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ รับปีใหม่ 2568" ที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งมียอดขายตั้งแต่ต้นปีงบประมาณแล้วกว่า 2,000 หน่วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง แต่ยอดขายยังถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว สถานการณ์หนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังคงสูง ประกอบกับสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ การเคหะแห่งชาติ จึงเตรียมออกแคมเปญเสริมรับวันสงกรานต์ ทั้งลดราคา ลดดอกเบี้ย และผ่อนบ้านตรงกับการเคหะฯ ได้ทันที เพื่อช่วยให้ประชาชนได้มีบ้านได้ง่ายขึ้นในอัตราผ่อนชำระต่อเดือนที่ลดลง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน 2568

ส่วนลดสูงสุด 20% และลดดอกเบี้ยพิเศษ หนุนคนไทยมีบ้านง่ายขึ้น

แคมเปญนี้จะยังคงมอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 20% ของราคาขายแปลงมาตรฐาน จำนวน 103 โครงการ ซึ่งมีโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมทั้งโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค และสำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทร 47 แห่ง โดยราคาห้องชุดขนาด 24 ตารางเมตร เริ่มต้นที่เพียง 250,000 บาท และห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร เริ่มต้นที่ 390,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ช่วยให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น หากไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ดอกเบี้ยพิเศษ 1.5% ใน 4 ปีแรกสำหรับลูกค้าทั่วไป และสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ และพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.5% ใน 5 ปีแรก พร้อมระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 40 ปี

กรณีมีคุณสมบัติไม่เป็นไปเกณฑ์ของโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย ก็ยังคงสามารถผ่อนตรงกับการเคหะแห่งชาติ ซึ่งลดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อพิเศษ จากเดิมปีที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ย 4.25% ลดเหลือเพียง 2.50% ในส่วนปีที่ 4-5 ลดดอกเบี้ยจาก 5.25% เหลือเพียง 4.00% ปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.75% และปีที่ 11 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 6.70% ส่วนกลุ่มเปราะบางได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.50% ในช่วง 4 ปีแรก ปีที่ 5 อัตราดอกเบี้ย 4.00% ปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ย 5.75% และปีที่ 11 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 6.70% ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 40 ปี ทั้งนี้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และโครงการที่เข้าร่วมโปรโมชั่นเป็นไปตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด

กคช. เดินหน้าสร้างโอกาสการมีบ้านอย่างยั่งยืน

"กคช. ยังคงเดินหน้าตามภารกิจในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อคนไทยทุกคน ตามภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย และตามนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ที่มุ่งเน้นบ้านสำหรับคนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้อยู่อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยแคมเปญนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญของขวัญที่ช่วยให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น และ กคช. ยังมีแผนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติมตลอดปี 2568 เพื่อรองรับความต้องการของตลาดและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่กำลังมองหาบ้านและต้องการใช้สิทธิพิเศษในแคมเปญนี้ แนะนำให้รีบตัดสินใจและจองบ้านภายในระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากที่อยู่อาศัยในราคาพิเศษมีจำนวนจำกัดประชาชนที่สนใจสามารถจองบ้านออนไลน์ได้ที่ https://house.nha.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 ฝ่ายบริหารงานขาย สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ หรือ Facebook: NHA marketing, Facebook: การเคหะแห่งชาติ นอกจากนี้ สามารถติดต่อสำนักงานเคหะนครหลวงและสำนักงานเคหะจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ

​​​​​​​

 

ฟื้นฟูแฟลตรามอินทรา สู่คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน เร่งยืนยันสิทธิ พัฒนาพื้นที่

การเคหะแห่งชาติขอเชิญชวนเจ้าของกรรมสิทธิห้องพักอาศัยโครงการเคหะชุมชนรามอินทรายืนยันสิทธิการอยู่อาศัยและแสดงความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา ภายใน 15 มีนาคม 2568 นี้ โทร 092-7502856 หรือ Line: @nha_superpollการเคหะแห่งชาติ มีแผนสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของกรรมสิทธิห้องพักอาศัยโครงการเคหะชุมชนรามอินทราต่อการเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา ทั้ง 490 หน่วย จึงขอเชิญชวนเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ยังไม่ได้ตอบแบบสำรวจข้อมูลการอยู่อาศัยและความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมโครงการ โปรดติดต่อกลับการเคหะแห่งชาติเพื่อยืนยันสิทธิการอยู่อาศัยและแสดงความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา ภายในวันที่ 15 มีนาคม 2568   

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการเคหะชุมชนรามอินทรา ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 ซึ่งมีการจัดสร้างอาคารพักอาศัยสูง 5 ชั้น จำนวน 490 หน่วย ปัจจุบันสภาพอาคารมีความชำรุดทรุดโทรมและมีสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมเป็นไปตามกาลเวลา เนื่องจากโครงการดังกล่าวก่อสร้างมานานกว่า 49 ปี ประกอบกับระดับพื้นที่โครงการต่ำกว่าถนนรามอินทราประมาณ 1.50 เมตร ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังส่งผลให้โครงสร้างอาคารได้รับความเสียหาย รวมทั้งปัญหาสภาพสังคมและการอยู่อาศัยค่อนข้างแออัด การเคหะแห่งชาติมีความห่วงใยและใส่ใจในคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของชาวชุมชน จึงมุ่งมั่นจะดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย มีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยให้ดีขึ้น  

“การเคหะแห่งชาติ ได้มีการศึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทโครงการฯและดำเนินงานด้านสังคมและกระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเมืองให้ผู้อยู่อาศัยเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการฯ อาทิ การประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการงานด้านสังคมและการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดโครงการอบรมเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจด้านการฟื้นฟูเมือง นอกจากนี้ได้ร่วมกับซูเปอร์โพล ดำเนินการลงพื้นที่ทำความเข้าใจพร้อมชี้แจงถึงความจำเป็นและความสำคัญของการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา พร้อมสำรวจความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยในชุมชนต่อการเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาโครงการให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนเป็นสำคัญ”  

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล  กรรณิกา ผู้จัดการโครงการศึกษาและสำรวจความคิดเห็นต่อโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมอบหมายให้ซูเปอร์โพล  ดำเนินการติดตามและสำรวจความคิดเห็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องพักอาศัยโครงการเคหะชุมชนรามอินทรา จึงขอเชิญชวนท่านเจ้าของกรรมสิทธิ์ จำนวน 490 ราย ตอบแบบสำรวจข้อมูลการอยู่อาศัยและยืนยันสิทธิต่อการเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา เพื่อให้การเคหะแห่งชาติสามารถขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทราได้สำเร็จเป็นรูปธรรม สร้างอนาคตที่ดี ทั้งด้านที่อยู่อาศัย สังคมและสภาพแวดล้อมชุมชนให้กับผู้อยู่อาศัยต่อไป 

ทั้งนี้ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของท่านในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ ขอให้ท่านที่ยังไม่ได้ตอบแบบสำรวจและยืนยันสิทธิการอยู่อาศัยโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันสิทธิ ภายในวันที่ 15มีนาคม 2568 โดยสามารถติดต่อกลับได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2351 6021 ,0 2351 6166 หรือ 092-7502856 หรือ 095-4714444 หรือผ่านช่องทาง Line: @nha_superpol

"กคช." สั่งพักหนี้-หยุดเก็บค่าเช่า-ลดค่าปรับนาน 3 เดือน ช่วยลูกบ้านน้ำท่วมภาคใต้นาน 3 เดือน

การเคหะแห่งชาติออกมาตรการช่วยเหลือชาวชุมชนที่พักอาศัยอยู่ในโครงการของการเคหะแห่งชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ “พักหนี้ หยุดเก็บค่าเช่า/ลดค่าปรับนาน 3 เดือน” เริ่มตั้งแต่วันนี้-31 มีนาคม 2568

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติ มีนโยบายช่วยเหลือชาวชุมชนที่พักอาศัยอยู่ในโครงการของการเคหะแห่งชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โดยออก 2 มาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าเป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2568  ดังนี้ มาตรการที่ 1 พักชำระหนี้ผู้เช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ และเช่าซื้อผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เฉพาะกรณีรายที่น้ำท่วมห้องพักอาศัยส่งผลให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ได้แก่ โครงการหาดใหญ่ 2 ระยะ 2, โครงการหาดใหญ่ ระยะ1/1 (หาดใหญ่ 2 น้ำน้อย), โครงการสงขลา (หาดใหญ่ – น้ำน้อย) ส่วนที่ 1-2 และโครงการสุไหงโกลก มาตรการที่ 2 ปลอดค่าเช่าผู้เช่ารายย่อย/เช่าจัดประโยชน์ เฉพาะกรณีที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้แก่ โครงการปัตตานี (รับโอน) และโครงการนครศรีธรรมราช ระยะ 1 นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทั้ง 2 มาตรการดังกล่าว ตามรายชื่อโครงการฯ ข้างต้น หากลูกค้าเข้ามาชำระหนี้ที่ค้างชำระในอดีตตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 การเคหะแห่งชาติจะลดค่าปรับ 100% ให้ทันทีอีกด้วย

นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับชาวชุมชน ช่วยเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวที่สำคัญจะสร้างความมั่นใจให้ชาวชุมชนว่าจะได้รับการดูแลจากการเคหะแห่งชาติ โดยในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ พร้อมผู้ปฏิบัติงานได้ลงพื้นที่เพื่อมอบถุงยังชีพ สิ่งของจำเป็น อาหารและน้ำดื่มให้ผู้ประสบภัยเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้น 

“ภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะอุทกภัย สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจและประชาชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก การเคหะแห่งชาติจึงเร่งดำเนินการเยียวยาพี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนที่พักอาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติอย่างเร่งด่วนและดีที่สุด” นายทวีพงษ์กล่าว

#การเคหะแห่งชาติ #พักหนี้ #ข่าววันนี้ #หยุดเก็บค่าเช่า #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

กคช.มอบของขวัญสำหรับคนอยากมีบ้าน จัดโปรโครงการ "บ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ รับปีใหม่ 2568"  รับส่วนลดสูงสุด 20% ดอกเบี้ยพิเศษ

การเคหะแห่งชาติ (กคช.) มอบของขวัญปีใหม่ 2568 จัดแคมเปญพิเศษภายใต้โครงการ "บ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ รับปีใหม่ 2568" ยกทัพโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมทั้งโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้มีบ้านในราคาพิเศษ พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 20% ผู้ที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษได้แล้ววันนี้ถึง 31 มีนาคม 2568 จำนวนกว่า 5,700 หน่วย 

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.68 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ การเคหะแห่งชาติได้มอบของขวัญรับปีใหม่ 2568 ให้กับประชาชน ตามภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย และตามนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ที่มุ่งเน้นบ้านสำหรับคนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้อยู่อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยได้จัดทำโครงการ “บ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ รับปีใหม่ 2568” ยกทัพโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมทั้งโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค จัดโปรโมชั่นส่วนลดราคาพิเศษ จำนวนกว่า 5,700 หน่วย โดยมีส่วนลดพิเศษตั้งแต่ 5-20% จากราคาขายมาตรฐาน จำนวน 102 โครงการ สำหรับมูลค่าส่วนลดจะแตกต่างกันตามประเภทโครงการ และโปรโมชั่นลดราคาขายโครงการบ้านเอื้ออาทร 47 โครงการ โดยห้องชุดขนาด 24 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 250,000 บาท และห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 390,000 บาท


 

นอกจากส่วนลดพิเศษแล้ว ยังมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับการเช่าซื้อ โดยลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแล้วไม่ได้รับอนุมัติ สามารถยื่นขอสินเชื่อกับโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (เช่าซื้อ คบส.) โดยลูกค้าทั่วไปรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.5% ใน 4 ปีแรก และปีที่ 5 เป็นต้นไปรับอัตราดอกเบี้ย 2.25% ส่วนกลุ่มเปราะบาง (คนพิการ ผู้สูงอายุ พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือบุตรที่ประสงค์จะซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการที่พ่อแม่อาศัยอยู่เดิม หรือผู้ที่มีภาระต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ทุพพลภาพ) ในช่วง 5 ปีแรกรับดอกเบี้ย 1.5% และปีที่ 6 เป็นต้นไป รับอัตราดอกเบี้ย 2.25% เช่นกัน โดยให้ระยะเวลาผ่อนนานถึง 40 ปี กรณีหากไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ลูกค้ายังสามารถยื่นขอทำสัญญาเช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติได้อีก (เช่าซื้อ กคช.) โดยลูกค้าทั่วไปได้รับอัตราดอกเบี้ย 4.25% ในช่วง 3 ปีแรก ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.25% ปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 6.50% และปีที่ 11-40 อยู่ที่ 6.75% 

​​​​​​​ ​​​​​​​

ส่วนกลุ่มเปราะบางได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.25% ในช่วง 5 ปีแรก ในปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ย 6.50% และปีที่ 11 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 6.75% ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 40 ปี ทั้งนี้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และโครงการที่เข้าร่วมโปรโมชั่นเป็นไปตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด ผู้สนใจสามารถจองบ้านออนไลน์ได้ที่ https://house.nha.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 ฝ่ายบริหารงานขาย สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ Facebook: NHA marketing, Facebook: การเคหะแห่งชาติ หรือสำนักงานเคหะนครหลวงและสำนักงานเคหะจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ

#การเคหะแห่งชาติ #ข่าววันนี้ #กลุ่มเปราะบาง #ดอกเบี้ยพิเศษ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 


 

การเคหะฯ Final Call! “โปรตามใจ เลือกตามชอบ” สิ้นสุด 30 ก.ย.นี้ เริ่มเพียง 250,000 บาท พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 25% ของแถมเพียบ

การเคหะแห่งชาติ ประกาศเชิญชวนครั้งสุดท้าย สำหรับคนอยากมีบ้านต้องห้ามพลาดกับ “โปรตามใจเลือกตามชอบ” ที่ยกทัพโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพทั่วประเทศจำนวน 171 โครงการ มามอบส่วนลดสูงสุดถึง 25% ในราคาเริ่มต้นเพียง 250,000 บาท พร้อมเลือกรับของแถมแบบจุใจ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน สำหรับบุคลากรภาครัฐรับ Top up เพิ่มทันทีสูงสุด 15,000 บาท จองเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท  ผู้สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยคุณภาพ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษได้จนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า จากนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากรของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มุ่งเน้นบ้านสำหรับคนทุกช่วงวัยทุกกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้อยู่อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี การเคหะแห่งชาติในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ทั้งด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มครัวเรือนเปราะบาง ตลอดจนกลุ่มบุคลากรภาครัฐ จึงได้จัด “โปรตามใจ เลือกตามชอบ” โดยยกทัพที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม อาคารชุดทั่วประเทศในทำเลคุณภาพ อาทิ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ เชียงใหม่ อุบลราชธานี สระบุรี ชลบุรี ตรัง ภูเก็ต เป็นต้น จำนวน 171 โครงการ มามอบส่วนลดสูงสุดถึง 25% พร้อมของแถมที่มีให้เลือกตามความต้องการ และสำหรับบุคลากรภาครัฐจะได้รับ Top up เพิ่มสูงสุด 15,000 บาท ในราคาเริ่มต้น 250,000 บาท จองเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ซึ่งจะสิ้นสุดโปรโมชั่นในวันที่ 30 กันยายน 2567

“จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้การเข้าถึงที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มครัวเรือนเปราะบางเป็นไปได้ยากมากขึ้น การเคหะฯจึงได้จัด “โปรตามใจ เลือกตามชอบ” ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น ในราคาที่เหมาะสม สามารถผ่อนชำระได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ว่า สร้างบ้าน สร้างสุขเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมมอบส่วนลดและข้อสุดพิเศษมากมาย และเพื่อไม่ให้หลายคนพลาดโอกาสอันดีนี้ จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย เข้าไปเยี่ยมโครงการหรือค้นหาโครงการในพื้นที่ที่สนใจ ผ่านทางเว็บไซต์หรือเพจของการเคหะฯ ว่าโครงการที่สนใจเข้าร่วมโปรโมชั่นหรือไม่ ก่อนตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวการเคหะฯ” นายทวีพงษ์ฯ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการของการเคหะแห่งชาติ จะได้รับสิทธิประโยชน์และส่วนลดตาม “โปรตามใจ เลือกตามชอบ” ดังนี้ สำหรับลูกค้าทั่วไปเลือกรับส่วนลด 5-20% สำหรับสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ได้แก่ คนพิการ/ผู้สูงอายุ/พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวเลือกรับส่วนลด 10-25% หรือเลือกรับส่วนลดร่วมกับของแถม อาทิ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน เป็นต้น (มูลค่าของแถมรวมกับส่วนลดไม่เกินส่วนลดเงินสดของแต่ละโครงการ) สำหรับบุคลากรภาครัฐที่จองซื้อโครงการที่เข้าร่วมประเภทโครงการเชิงสังคมจะได้รับส่วนลดเพิ่ม 5,000 บาท ประเภทโครงการเชิงพาณิชย์ที่มีราคาขายไม่เกิน 2,500,000 บาท รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท และประเภทโครงการเชิงพาณิชย์ที่มีราคาขายมากกว่า 2,500,000 บาทขึ้นไป รับส่วนลดเพิ่ม 15,000 บาท นอกจากนี้ทางการเคหะฯ ยังได้ปรับลดราคาโครงการบ้านเอื้ออาทรลงอีก โดยแบ่งเป็นห้องชุดขนาด 24 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นเพียง 250,000 บาท และห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 390,000 บาท ทั้งนี้หลักเกณฑ์เงื่อนไขและโครงการที่เข้าร่วมในแต่ละโปรโมชันเป็นไปตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด

โดยผู้สนใจสามารถจองบ้านออนไลน์ได้ที่ https://house.nha.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 ฝ่ายบริหารงานขาย สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ Facebook: NHA marketing, Facebook: การเคหะแห่งชาติ หรือสำนักงานเคหะนครหลวงและสำนักงานเคหะจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ

"การเคหะฯ" มอบรางวัล "โครงการชุมชนสดใส จิตใจงดงาม" ดึงชุมชนที่มีความโดดเด่นครบทุกมิติ

“การเคหะฯ” มอบรางวัล “โครงการชุมชนสดใส จิตใจงดงาม” ประจำปี 2567 ดึงชุมชนที่มีความโดดเด่นครบทุกมิติ ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมเกือบ 4 แสนบาท “สุพจน์” หวังทุกคนร่วมมือกันดูแล-พัฒนาชุมชนของตนเองให้น่าอยู่ตตลอดไป


วันที่ 26 ส.ค.2567 พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “โครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม” ประจำปี 2567 โดยมีนายอณุศาสณ์  อรรถวิทยา กรรมการการเคหะแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้า ผศ.ดร.นพดล พันธุ์พานิช กรรมการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้า (ผู้ทรงคุณวุฒิ)  นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ พร้อมคณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ และผู้อยู่อาศัยในชุมชนเข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2567 ที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 5 (สันทนาการ) สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ


พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้กำกับดูแลการเคหะแห่งชาติในการดำเนินงานเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยมุ่งเน้นดำเนินงานตามนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร คือ เสริมสร้างพลังวัยทำงาน เพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน สร้างพลังผู้สูงอายุ เพิ่มโอกาสและเสริมสร้างคุณค่าคนพิการ และสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนทุกมิติ ทั้งด้านกายภาพ สภาพแวดล้อมในชุมชน รวมไปถึงการจัดตั้งกลุ่มต่าง ๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อสร้างความอบอุ่น ความเข้มแข็งให้กับครอบครัว ตามนโยบาย รมว.พม. เนื่องจากพื้นฐานของชุมชน สังคมที่ดี ต้องเริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่าครอบครัว

 

“ต้องขอแสดงความยินดีกับชุมชนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าการดูแลชุมชนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีชาวชุมชนอาศัยอยู่จำนวนมากไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกคนต้องเสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ และเวลาส่วนตัวในบางครั้ง แต่ทุกชุมชนก็สามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะช่วยกันดูแลและพัฒนาชุมชนของตนเองให้ดียิ่งขึ้น เพราะการพัฒนาชุมชนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจกันของคนในชุมชน เพื่อพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับชุมชน และสิ่งเหล่านี้จะทำให้ชุมชนน่าอยู่อาศัยตลอดไป”

นายทวีพงษ์ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีภารกิจด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนอย่างครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งสอดรับกับนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ของรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว การเคหะแห่งชาติจึงจัดให้มีโครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2567 เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ชาวชุมชนเกิดจิตสำนึกรักษ์ในชุมชน ที่อยู่อาศัย ร่วมกันพัฒนาชุมชนไปในทิศทางที่ชุมชนเป็นผู้กำหนดร่วมกันให้เกิดความยั่งยืน เสริมสร้างพลังครอบครัวและวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันมีความเอื้ออาทรต่อกัน และมีความสุขในการอยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติตามวิสัยทัศน์ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี”โครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2567 ได้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกชุมชนที่เข้าร่วมแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ อาคารแนวราบ อาคารแนวสูง และอาคารเช่า โดยชุมชนที่เข้าร่วมประกวดจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์การให้คะแนน 4 ด้าน คือ ต้องมีการบริหารจัดการด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมชุมชน ด้านกระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชน ด้านการบริหารจัดการชุมชน และมีกิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านครอบครัว นอกจากนี้ยังต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน และจัดตั้งกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มอาสาสมัคร และกลุ่มอาชีพ เป็นต้น


นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารอบในโครงการประกวด “ชุมชนสดใส จิตใจงดงาม” ประจำปี 2567 มีทั้งสิ้น 18 ชุมชน ซึ่งโครงการประเภทอาคารแนวราบที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงราย (ริมกก) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรรัฐเอื้อราษฎร์ (กองทัพเรือ) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรจังหวัดฉะเชิงเทรา (บางปะกง) รางวัลชมเชย ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรจังหวัดร้อยเอ็ด โครงการบ้านเอื้ออาทรนครศรีธรรมราช (อ้อมค่าย) และโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดปทุมธานี (รังสิตคลอง 10/3)

โครงการประเภทอาคารแนวสูงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดสมุทรปราการ (เทพารักษ์ 3) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน ลพบุรีราเมศวร์ จังหวัดสงขลา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม รางวัลชมเชย ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดเชียงใหม่ (ไนท์ซาฟารี) ระยะ 2 โครงการบ้านเอื้ออาทรหนองจะบก จังหวัดนครราชสีมา และโครงการเคหะชุมชนแหลมฉบัง วาระ 1 ระยะ 1-2

โครงการประเภทอาคารเช่าที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จังหวัดนครสวรรค์ 2 ระยะ 1-2 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โครงการอาคารสงเคราะห์ยมราช (สิริสาสน์) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โครงการบ้านพักข้าราชการ (แฟลตเช่า) จังหวัดตราด รางวัลชมเชย ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนหาดใหญ่ ระยะ 1, 3 และ 4 (อาคารเช่า) โครงการเคหะชุมชนนวมินทร์ (อาคารเช่า) และโครงการบ้านพักข้าราชการ (อาคารเช่า) เทศบาลนครอุดรธานี ส่วนที่ 2 สำหรับเงินรางวัลที่ชุมชนจะได้รับ แบ่งออกเป็น รางวัลชนะเลิศได้รับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล จำนวน 20,000 บาท และรางวัลชมเชยได้รับเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท ทุกรางวัลจะได้รับโล่รางวัลและเกียรติบัตร รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นเกือบ 400,000 บาท 

“โครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงามเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของการเคหะแห่งชาติที่มีความมุ่งหวังในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ควบคู่กันไปในทุกมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป” นายทวีพงษ์ กล่าว   


การเคหะแห่งชาติชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร จับกุม รปภ.

การเคหะแห่งชาติชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร จับกุม รปภ. พื้นที่ก่อสร้างโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดชุมพร ค้ายาเสพติด และพบอาวุธปืน 

 นายทวีพงษ์  วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ชี้แจงกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจเมืองชุมพร เข้าทำการจับกุมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จำนวน 4 คน ในพื้นที่ก่อสร้างโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดชุมพร พบยาเสพติด และอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก และได้ขยายผลการจับกุม เข้าทำการตรวจค้นพบว่าผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในโครงการบ้านเอื้ออาทรชุมพร 

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัท รักษาความปลอดภัยและบริการเอาท์ซอร์สเคหะ จำกัด (KSS) โดยการเคหะแห่งชาติได้ว่าจ้างบริษัทดังกล่าวให้รักษาความปลอดภัยทรัพย์สินภายในโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคมจังหวัดชุมพร เพื่อดูแลทรัพย์สินภายในพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ เบื้องต้นการเคหะแห่งชาติได้ขอให้บริษัทฯ ตรวจสอบประวัติเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ของการเคหะแห่งชาติทุกโครงการฯ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นซ้ำ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ของการเคหะแห่งชาติ   

 ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รายงานให้ นายวราวุธ  ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) รับทราบแล้ว ซึ่ง รมว.พม. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่การเคหะแห่งชาติร่วมกับผู้อยู่อาศัยในชุมชนช่วยกันสอดส่องดูแลเรื่องที่ผิดกฎหมาย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมอบหมายให้การเคหะแห่งชาติอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีอีกด้วย