ธอส.เปิดแคมเปญพิเศษในมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19 พร้อมข้อเสนอสินเชื่อบ้านและสลากออมทรัพย์สุดคุ้ม

ธอส.จัดเต็มโปรโมชันสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.89% ต่อปี, สลากออมทรัพย์ ธอส. ให้ผลตอบแทนสูง พร้อมลุ้นโชครางวัลใหญ่ และบ้านมือสองลดราคาสูงสุด 50% ในงาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19” Money Expo 2025 Korat ชวนชาวอีสานเข้าถึงโอกาสทางการเงินพร้อมสิทธิประโยชน์และของที่ระลึกภายในงาน

วันที่ 7 ส.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ยังคงให้ความสำคัญกับทุกความต้องการของประชาชนเดินหน้าขยายการให้บริการในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารได้อย่างสะดวกและทั่วถึง ด้วยการจัดแคมเปญพิเศษ ร่วมงาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19” Money Expo 2025 Korat ระหว่างวันที่ 8 – 10 สิงหาคม 2568 ณ เดอะมอลล์ โคราช ประกอบด้วย (1) สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นำโดย สินเชื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินตนเอง : สำหรับ ลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง กรณีลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) รับอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เพียง 0.89% ต่อปี เดือนที่ 7 – 12 เท่ากับ 2.89% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 3.39% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.99%), ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ ฯ เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ที่ 6.495% ต่อปี) ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดนาน 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,500 บาท

สินเชื่อบ้านสุขสันต์ปี 2568 : สำหรับลูกค้าที่ต้องการไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย หรือชำระหนี้พร้อมไถ่ถอนจำนอง กรณีลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเพียง 0.99% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.50% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.20% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.90%), ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ ฯ / ชำระหนี้ ฯ เท่ากับ MRR ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,600 บาท สินเชื่อบ้านสวัสดิการ : สำหรับลูกค้าสวัสดิการที่หน่วยงานทำข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากกับธนาคาร ครอบคลุมการกู้ทุกวัตถุประสงค์ รวมถึงชำระหนี้พร้อมไถ่ถอนจำนอง อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.30% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 2.90% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เพียง 2.90%), ปีที่ 4 -5  เท่ากับ MRR-2% ต่อปี และ ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ ฯ/ชำระหนี้ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,200 บาท  พิเศษ! ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เพิ่มอีก 0.25% เพียงสมัครสมาชิกของเว็บไซต์ ซื้อที่อยู่อาศัย และ แจ้งความประสงค์การขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com และ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย : สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซม อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.10% ต่อปี,ปีที่ 3 เท่ากับ 4.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.20%) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,300 บาท ผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์ภายในงานผ่าน Line GHB Buddy ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 8 – 31 สิงหาคม 2568 ทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 พิเศษ!!! สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินนิติกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก รับของสมนาคุณฟรี พัดลม TOWER อันดับละ 1 เครื่อง และอันดับที่ 6 – 15 รับหม้อหุงข้าวดิจิทัล จำนวน 1 เครื่อง และ Gift Card TOPS มูลค่า 500 บาท จำนวน 1 ใบ อันดับละ 1 สิทธิ์ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) 
  
(2) สลากออมทรัพย์ ธอส. ที่ให้ผลตอบแทนดี และมีโอกาสในการถูกรางวัลสูง ประกอบด้วย สลากออมทรัพย์ ธอส.ชุด นาคราช 2 หน่วยละ 1,000 บาท อายุสลาก 3 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.75% ต่อปี (เมื่อฝากครบกำหนด) ออกรางวัลทุกเดือน รวม 36 ครั้ง โดยมีรางวัลที่ 1 มูลค่า 3 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัลต่อหมวด, รางวัลที่ 2 รางวัลละ 50,000 บาท จำนวน 4 รางวัลต่อหมวด, รางวัลที่ 3 รางวัลละ 5,000 บาท จำนวน 40 รางวัลต่อหมวด, รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 100 บาท (หมุน 1 ครั้ง),  รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 30 บาท (หมุน 1 ครั้ง) และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ของรางวัลที่ 1 รางวัลละ 30 บาท โดยมีโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่สูงถึง 0.00045% (คิดเป็น 45 รางวัลต่อ 10 ล้านหน่วย)หากลูกค้าลงทุน 1 แสนบาท รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 1.47% ต่อปี และหากลงทุน 1 ล้านบาท รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 1.59% ต่อปี และ สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568 หน่วยละ  50,000 บาท อายุสลาก 2 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 1.25% ต่อปี (เมื่อฝากครบกำหนด) ออกรางวัลทุกเดือน รวม 24 ครั้ง ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 3 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล (เสี่ยงหมวด), รางวัลที่ 2 มูลค่า 30,000 บาท จำนวน 25 รางวัล ต่อหมวด, รางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 10,000 บาท (หมุน 1 ครั้ง), รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท (หมุน 1 ครั้ง), รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 220 บาท (หมุน 1 ครั้ง) และรางวัลเลขท้าย 1 ตัว รางวัลละ 110 บาท (หมุน 1 ครั้ง) คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่สูงถึง 0.025% (คิดเป็น 25 รางวัลต่อ 1 แสนหน่วย) ผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์ ผ่าน Line GHB Buddy วันที่ 8 – 10 สิงหาคม 2568 และซื้อสลากออมทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 8 - 17 สิงหาคม 2568 ลูกค้าที่จองสิทธิ์และซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ตามระยะเวลาที่กำหนด ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ หรือ Mobile Application : GHB ALL GEN ตั้งแต่ 250,000 บาท แต่ไม่ถึง 1,000,000 บาท ต่อรายการ จะได้รับ Gift Voucher จากร้าน Black Canyon มูลค่า 250 บาท ต่อ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ หรือจนกว่าของสมนาคุณจะหมด และลูกค้าที่ซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ตั้งแต่ 1,000,000 บาท ขึ้นไป ต่อรายการ จะได้รับชุดเซ็ตกล่องสำหรับใส่อาหาร Super Lock มูลค่า 699 บาท จำนวน 1 ท่าน ต่อ 1 ชุด หรือจนกว่าของสมนาคุณจะหมด (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)


(3) บ้านมือสอง ธอส. คุณภาพดี ทำเลเด่นหลากหลายประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ จากจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียงมาจำหน่ายกว่า 600 รายการ ในราคาพิเศษด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50% จากราคาปกติ โดยมีทรัพย์ที่มีราคาต่ำสุดเพียง 250,000 บาท เป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น เนื้อที่ 100 ตารางวา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ และทรัพย์ที่มีราคาสูงสุดเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 174 ตารางวา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จำหน่ายราคา 5,395,000 บาท พิเศษ !! รับบัตรกำนัลแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10 รางวัล สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด 10 ท่านแรก (1 ราย ต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น) และสามารถใช้โปรโมชันผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 0% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งนี้สามารถจองซื้อทรัพย์ได้ในงาน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. และสามารถจองซื้อทรัพย์และทำสัญญาจะซื้อจะขายได้ที่ทำการสาขาภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 8 – 19 สิงหาคม 2568 
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายการทรัพย์ได้ที่ Application : GHB ALL HOME หรือ www.ghbhomecenter.com

งาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19” Money Expo 2025 Korat มีกำหนดจัดขึ้น ณ เดอะมอลล์ โคราช ระหว่าง
วันที่ 8 – 10 สิงหาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ 
G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

#ธอส #มหกรรมการเงินโคราช #MoneyExpo2025 #สินเชื่อบ้าน #สลากออมทรัพย์ #การเงิน #การลงทุน #บ้านมือสอง

 

ธอส.หนุนนโยบายก.คลัง ช่วยเหลือลูกค้าผลกระทบปัญหาชายแดน กู้ซ่อมแซมบ้านเสียหาย ดบ. 1% นาน 3 ปีแรก

ธอส.ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง จัดทำสินเชื่อสำหรับลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดน ช่วยเหลือให้ครอบคลุมกรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายให้กู้ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ย 1% นาน 3 ปีแรก สามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ  

วันที่ 6 สิงหาคม 2568 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจาก ธอส. จัดทำมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ที่อยู่อาศัยหรือหลักประกันเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ โดยลูกค้าสถานะปกติจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.01 % ต่อปีตลอดอายุสัญญา และสำหรับลูกค้าสถานะ NPL สามารถพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี จากนั้นผ่อน 0.01% ตลอดระยะเวลาคงเหลือ เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง ที่มีความมุ่งมั่นในการช่วยบรรเทาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ธอส. จึงสานต่อความช่วยเหลือให้ครอบคลุมกรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายบางส่วน ดังนี้ (1) ลูกค้าปัจจุบันของธนาคารสามารถกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ภายใต้โครงการสินเชื่อซ่อม – แต่ง และสินเชื่อซ่อม- แต่ง Plus วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 5 ปี โดยวงเงิน 1 แสนบาทแรก อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีเพียง 1% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ในวงเงิน 200,000 บาทถัดมา โดยไม่ต้องจดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน

และ (2)  ลูกค้าใหม่สามารถกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้นานสูงสุดนาน 40 ปี อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 - 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.495% ต่อปี) พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักประกัน (1,900 – 2,800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถยื่นกู้หรือเข้าร่วมมาตรการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th
         

ธอส.ลดหนัก! คอนโดมือสองกว่า 500 รายการทั่วประเทศ สูงสุด 50% พร้อมสิทธิพิเศษ 3 ต่อ

ธอส.นำคอนโดมิเนียมมือสองจำนวนกว่า 500 รายการทั่วประเทศ ออกจำหน่ายในงาน “มหกรรมคอนโดมิเนียมออนไลน์ ราคาพิเศษ” ลดราคาสูงสุด 50% จากราคาปกติ ผ่าน Application : GHB ALL HOME ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 น. พิเศษ 3 ต่อ! ต่อที่ 1 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 3 วันทำการ รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท ต่อที่ 2 : สำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท และ ต่อที่ 3 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายมีสิทธิ์รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% คงที่นาน 2 ปีแรก 

วันที่ 6 ส.ค.68 นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. จัดงาน “มหกรรมคอนโดมิเนียมออนไลน์ ราคาพิเศษ” โดยนำคอนโดมิเนียมมือสองคุณภาพดี ออกจำหน่ายกว่า 500 รายการทั่วประเทศ ลดราคาสูงสุด 50% จากราคาปกติ ผ่าน Application :  GHB ALL HOME ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 น. โดยเป็นคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 361 รายการอาทิ คอนโดมิเนียม ชั้น 20 จาก 26 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 32.22 ตารางเมตร ในโครงการริชพาร์ค @เตาปูน เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,610,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่อยู่ในเขตเมือง เดินทางได้อย่างสะดวก และมีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย และคอนโดมิเนียมในส่วนภูมิภาค จำนวน 145 รายการ อาทิ คอนโดมิเนียม ชั้น 3 จาก 8 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 38.98 ตารางเมตร ในโครงการทรีบูทีคคอนโด 2  อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,700,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่เหมาะแก่การซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยหรือเป็นห้องพักตากอากาศ

พิเศษ 3 ต่อ!  โดยต่อที่ 1 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 3 วันทำการ รับบัตรกำนัลแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท (รางวัลละ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ) จำนวน 100 ใบ (แบ่งเป็นทรัพย์ในเขตกรุงเทพ-ปริมณฑล 50 ใบ และทรัพย์ในเขตภูมิภาค 50 ใบ) ต่อที่ 2 : สำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (รางวัลละ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ) และต่อที่ 3 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงาน และยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายมีสิทธิ์รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% คงที่นาน 2 ปีแรก 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อออนไลน์ได้ที่ Application : GHB ALL HOME โดยสามารถรับชมภาพทรัพย์จริงได้ทาง Application : GHB ALL HOME หรือ www.ghbhomecenter.com ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทรัพย์ NPA ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ซึ่งลูกค้าที่จองซื้อบ้านมือสอง ธอส. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com, Mobile Application : GHB ALL HOME และ Line Official Account : @GHBALLHOME  

#ธอส #คอนโดมือสอง #บ้านมือสองธอส #GHBALLHOME #ลดราคาคอนโด #ดอกเบี้ย0เปอร์เซ็นต์ #อสังหาริมทรัพย์ #ทำให้คนไทยมีบ้าน #บ้านราคาพิเศษ #บ้านธอส
           
         

ธอส. ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็น ให้ทหารในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา

ธอส. ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นให้ทหารในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อสนับสนุนผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนและประเทศชาติ ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้การช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ผ่าน “มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าจากเหตุการณ์ชายแดน” 

วันที่ 4 สิงหาคม 2568 ดร.ดรุฒ คำวิชิตธนาภา ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CG&CSR) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) อย่างต่อเนื่อง จึงลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นจำนวนกว่า 5,000 ชุด อาทิ น้ำดื่ม, เสื้อยืดรองใน, กางเกงในชาย, ถุงเท้า และผ้าเช็ดตัว ให้แก่ทหารที่ปฏิบัติภารกิจ ในพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งมีนายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานธนาคาร ร่วมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของดังกล่าว โดยพลตรีนรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนความมุ่งมั่นของ ธอส. ในการช่วยเหลือทหารในพื้นที่เสี่ยงอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องอธิปไตยให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน 

นอกจากการช่วยเหลือด้านการสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นให้แก่ทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงแล้ว ธอส. ยังได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าจากเหตุการณ์ชายแดนเป็นการเร่งด่วน สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือที่อยู่อาศัยเสียหาย อัตราดอกเบี้ยลดลงจากอัตราปัจจุบันเหลือ 0.01% ต่อปี นาน 5 ปี, สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ หรือทุพพลภาพถาวร หรือเสียชีวิต อัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปีตลอดอายุสัญญา และสำหรับลูกค้าในพื้นที่ที่ต้องการกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการดังกล่าว

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 4 ส.ค.68

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 4 ส.ค.68 

-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ห่วงใยประชาชนออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา 3 มาตรการ นำโดยมาตรการพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจติดต่อขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาธนาคารได้ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2568 

-นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา 3 ช่วงผ่านฟ้า-สะพานพุทธ เริ่มเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา หลังงานโยธาล่าสุดคืบหน้า 59.49% เร็วกว่าแผนที่กำหนด ระบุช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ เปิดใช้ปี 2571 พร้อมเร่งรัดเสร็จตลอดเส้นปี 2573

-กระทรวงอุตสาหกรรมบุกจับโรงงานกระดาษจีนเถื่อน ลอบปล่อยน้ำเสียลงลำน้ำสาธารณะที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังประชาชนร้องเรียนน้ำเสียผ่านไลน์แจ้งอุต โดยโรงงานแห่งนี้ลักลอบดำเนินการกิจการ เดินเครื่องจักรโดยไม่ได้ขออนุญาตเป็นเวลากว่า 2 ปี ไม่มีระบบบำบัดใดๆ แอบปล่อยน้ำเสียที่อาจจะเจือปนโลหะหนักลงลำรางสาธารณะ ซึ่งจะส่งผลเสียกับสุขภาพของประชาชน 

 

 

ยื่นได้เลย! ธอส.ออก 3 มาตรการช่วยลูกค้าชายแดนไทยกัมพูชา พักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี

ธอส.ห่วงใยประชาชนออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา จำนวน 3 มาตรการ นำโดยมาตรการพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจติดต่อขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาธนาคารได้ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2568 

วันที่ 4 ส.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมครอบคลุมลูกค้ารายย่อยที่มีสถานะ NPL กับ “มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา” จำนวน 3 มาตรการ ประกอบด้วย  

มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร หรือหลักประกันได้รับความเสียหายทั้งหลัง จนไม่สามารถพักอาศัยได้ โดยเดือนที่ 1-12 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% พร้อมปลอดการผ่อนชำระเงินงวด จากนั้นให้ผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ย 0.01% ตลอดระยะเวลาคงเหลือ

มาตรการที่ 2 สำหรับลูกค้าที่บาดเจ็บสาหัส หรือหลักประกันได้รับความเสียหาย สามารถประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยเดือนที่ 1 - 12 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% พร้อมปลอดการผ่อนชำระเงินงวด เดือนที่ 13 - 60 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.01% และผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือนและเมื่อผ่อนชำระครบกำหนดแล้ว ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมของลูกค้าก่อนใช้มาตรการนี้ 

มาตรการที่ 3 สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเรื่องรายได้ ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยเดือนที่ 1 - 6 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% และผ่อนชำระเงินงวด 1,000 บาท โดยนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด เดือนที่ 7 - 12 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 1% ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบกำหนดแล้วให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมของลูกค้าก่อนใช้มาตรการนี้

ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา สามารถติดต่อขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาธนาคารได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 พร้อมแสดงหลักฐานที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ / ธุรกิจ / การค้าจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน อาทิ หลักฐานรายได้ หรือหนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่ายกิจการ หรืออื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างชัดเจน และเอกสารต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์  และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

#ธอส #ช่วยเหลือลูกค้าชายแดน #พิพาทไทยกัมพูชา #มาตรการบรรเทาหนี้ #NPL #สินเชื่อบ้าน #GHB #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวการเงิน

 

ธอส.ขอบคุณทีมไทยแลนด์ หลังได้ดีลภาษีสหรัฐ 19%

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขอขอบคุณทีมเจรจาการค้า นำโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายพิชัย ชุณหวชิร) ที่เดินหน้าผลักดันให้สหรัฐ ฯ ลดภาษีนำเข้าไทยสำเร็จ!!! ที่ระดับ 19% สะท้อนถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างไทย–สหรัฐ ฯ และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย

ธอส. ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน

วันที่่ 30 กรกฎาคม 2568 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจากพายุโซนร้อน “วิภา” ส่งทีมสาขาลงพื้นที่มอบถุงยังชีพจำนวน 150 ชุด ให้ลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ณ  ศูนย์รับบริจาคสิ่งของ และเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดน่าน พร้อมให้คำแนะนำแนวทางการให้ความช่วยเหลือตามมาตรการ “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย” และ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2568” ซึ่ง ธอส. ยืนยันพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบ
ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป และสำหรับผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการความช่วยเหลือของธนาคาร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

 

ธอส.ออกมาตรการช่วยลูกค้าที่รับผลกระทบชายแดนไทยกัมพูชาเร่งด่วน ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา จัดทำ “มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าจากเหตุการณ์ชายแดน” เป็นการเร่งด่วน ทั้งลดอัตราดอกเบี้ยและมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าปลูกสร้าง ประกอบด้วย (1) ลูกค้าปัจจุบันที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือที่อยู่อาศัยเสียหาย อัตราดอกเบี้ยลดลงจากอัตราปัจจุบันเหลือ 0.01% ต่อปี นาน 5 ปี (2) ลูกค้าปัจจุบันที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ หรือทุพพลภาพถาวร หรือเสียชีวิต อัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และ (3) สำหรับลูกค้าในพื้นที่ที่ต้องการกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิม ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน สามารถแสดงหลักฐานประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ      

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดผลกระทบและความสูญเสียแก่ครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้ประสบเหตุเป็นอย่างมาก ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน พร้อมดำเนินการตามนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จัดทำ “มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าของธนาคารจากเหตุการณ์ชายแดน” เป็นการเร่งด่วน จำนวน 3 มาตรการ ประกอบด้วย 

(1) สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือที่อยู่อาศัยเสียหายจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนได้รับอัตราดอกเบี้ยลดลงจากอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเหลือเพียง 0.01% ต่อปี นาน 5 ปีแรก และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกรณีซื้ออุปกรณ์ / ชำระหนี้ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันอยู่ที่ 6.495% ต่อปี)

(2) สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ หรือทุพพลภาพถาวร หรือเสียชีวิต ได้รับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา 

(3) สำหรับลูกค้าในพื้นที่ที่ต้องการกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิม ได้รับอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0% ต่อปี เดือนที่ 7 – 12 เท่ากับ 0.50% ต่อปี ปีที่ 2 – 3 เท่ากับ 2.50% ต่อปี ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ 3.50% ต่อปี ปีที่ 6 – 10 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 11 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี 

นายกมลภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธอส. มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา จึงมีนโยบายในการสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคตลอดจนสิ่งของจำเป็นให้แก่หน่วยทหารในพื้นที่แนวชายแดน ผ่านกองทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติดังกล่าว

สำหรับผู้ที่ต้องการขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และขอสินเชื่อตามมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าของธนาคารจากเหตุการณ์ชายแดน สามารถแสดงหลักฐานความเสียหายจากสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

ธอส. MOU ร่วมกับ บก.ตชด. สร้าง/ซ่อมอาคารเรียน และที่อยู่อาศัย นักเรียน-ครู ในพื้นที่โรงเรียนตชด.

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการความร่วมมือ ธอส. เพื่อโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ประจำปี 2568 ยกระดับคุณภาพชีวิต การศึกษาและที่อยู่อาศัยให้แก่นักเรียนและครูในสังกัดโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการด้าน การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) ของธนาคาร 

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” มุ่งมั่นส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อย ผู้ขาดโอกาสในด้านต่าง ๆ ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะนักเรียนและครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ธอส. จึงได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการความร่วมมือ ธอส. เพื่อโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ประจำปี 2568 เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพชีวิต การศึกษาและที่อยู่อาศัยให้แก่นักเรียนและครูในสังกัดโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ที่เคยให้การสนับสนุนงบประมาณจัดสร้าง/ซ่อมแซมอาคารเรียนให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนรวมแล้ว 39 แห่ง ทำให้ครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ ธอส. ให้การสนับสนุนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่า 5,960 คน การดำเนินการดังกล่าวทำให้ ธอส. ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards)  ประจำปี 2567 ประเภทรางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ซึ่งการันตีถึงประสิทธิภาพ
ในการดำเนินการด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) ของ ธอส. โดยการลงนาม MOU ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการใน 4 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการสร้างหรือซ่อมแซมอาคารเรียนในถิ่นทุรกันดารโรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 7 โรงเรียน (2) โครงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้แก่ครอบครัวของนักเรียน จำนวน 20 ครอบครัว (3) โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษา (พัฒนาครู) ต่อยอดความรู้ให้กับครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และ (4) โครงการสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้โรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ 

พลตำรวจโท นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) กล่าวว่า ในนามนักเรียนและครู ตชด. ขอขอบคุณ ธอส. ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ สร้างหรือซ่อมแซมอาคารเรียน และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุณภาพทางการศึกษาของนักเรียนและครู ตชด. และหวังว่าทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมมือกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเช่นนี้ต่อไป 

ทั้งนี้พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือ ธอส. เพื่อโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ประจำปี 2568 เป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร จัดขึ้น ณ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร