กรุงเทพประกันชีวิต ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่จ.พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ จึงส่งตัวแทนพนักงานจิตอาสาลงพื้นที่ส่งมอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็น ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยบรรเทาความลำบากระหว่างการใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือส่งตรงถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของกรุงเทพประกันชีวิต ภายใต้แนวคิด “ใส่ใจเพื่อความสุขที่ยั่งยืน” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดูแลสังคมไทยในทุกสถานการณ์ ไม่เพียงแต่ในยามปกติ แต่ยังพร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนในยามวิกฤต เพื่อร่วมฟื้นฟูและสร้างกำลังใจให้ผู้ประสบภัยสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ กรุงเทพประกันชีวิตขอร่วมส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกครอบครัว และยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสานต่อภารกิจแห่งความใส่ใจ เพื่อร่วมสร้างรอยยิ้มและความอุ่นใจให้กับคนไทยในทุกช่วงสถานการณ์

ธอส.มอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ จัดมาตรการพักหนี้-ลดเงินงวด-ลดดบ.–เคลมสินไหมเร่งด่วน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ห่วงใยประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนจำนวน 1,100 ชุด พร้อมจัดทำ 7 มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2568 ผู้ที่สนใจติดต่อ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

วันที่ 4 กันยายน 2568 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือขณะนี้ ส่งผลให้หลายจังหวัดภาคเหนือเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ จึงได้ส่งทีมลงพื้นที่เป็นการเร่งด่วนเพื่อมอบถุงยังชีพจำนวน 1,100 ชุด ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก พร้อมกันนี้ ธอส. ยังเดินหน้าให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยแก่ผู้ได้รับผลกระทบผ่าน “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2568” 
โดยมีรายละเอียด ดังนี้

มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าปัจจุบัน ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยพักชำระหนี้นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 - 12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน เมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไป และลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อซ่อม – แต่ง และสินเชื่อซ่อม- แต่ง Plus วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 5 ปี โดยวงเงิน 1 แสนบาทแรก อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีเพียง 1% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ในวงเงิน 200,000 บาทถัดมา โดยไม่ต้อง
จดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน

มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม วงเงินกู้สูงสุดต่อราย ต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1 - 3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด, อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 4 - 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (2.945% ต่อปี), ปีที่ 4 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี (3.845% ต่อปี) และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี, ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.245% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,100 บาทต่อเดือนเท่านั้น ฟรีค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักประกัน (1,900 – 2,800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้น เดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 5 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระ โดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 6 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 7 : พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาท ต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์) 

ลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการดังกล่าว สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

ธอส. ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน

วันที่่ 30 กรกฎาคม 2568 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจากพายุโซนร้อน “วิภา” ส่งทีมสาขาลงพื้นที่มอบถุงยังชีพจำนวน 150 ชุด ให้ลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ณ  ศูนย์รับบริจาคสิ่งของ และเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดน่าน พร้อมให้คำแนะนำแนวทางการให้ความช่วยเหลือตามมาตรการ “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย” และ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2568” ซึ่ง ธอส. ยืนยันพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบ
ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป และสำหรับผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการความช่วยเหลือของธนาคาร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

 

อำเภอเมืองพังงา มอบถุงยังชีพให้แก่ครอบครัวกลุ่มเปราะบาง

อำเภอเมืองพังงา มอบถุงยังชีพให้แก่ครอบครัวกลุ่มเปราะบาง

วันที่ 10 มกราคม 2568 นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอเมืองพังงา ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้แก่ครอบครัวกลุ่มเปราะบาง ในพื้นที่ ม.1 ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา จ.พังงา จำนวน 1 ราย และ ม.2 ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา จ.พังงา จำนวน 1 ราย โดยมี สาธารณสุขอำเภอเมืองพังงา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯ รพ.สต. ในพื้นที่ร่วมด้วย

​​​​​​​ ​​​​​​​

 

นายกรัฐฯ ลงใต้ เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ ผู้ประสบภัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รองนายกฯ อนุทิน  ลงใต้ เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ ผู้ประสบภัย ที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ย้ำเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย 9,000 บาท ต้องถึงมือประชาชนเร็วที่สุด

วันนี้ (17 ธ.ค.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัย พร้อมกับ มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยมีนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และส่วนราชการ ร่วมต้อนรับ ท่ามกลางประชาชน ที่มารอพบนายกรัฐมนตรีนับพันคน ที่ศาลาประชาคม อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ทำให้เกิดอุทกภัยเป็นวงกว้าง มีพื้นที่ประสบภัยรวม 17 อำเภอ 94 ตำบล 672 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน กว่า 20,000 ครัวเรือน 45,000 คน ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์ หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย คงเหลือพื้นที่และพื้นที่ชายฝั่ง ที่มีน้ำท่วมขังระดับสูงรอระบายลงสู่ทะเล โดยอำเภอท่าฉาง มีพื้นที่ประสบภัย 46 หมู่บ้าน 1,300 ครัวเรือน กว่า 5,700 คน และไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต


     
 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีครั้งนี้ เป็นการมาเยี่ยมให้กำลังใจ แก่พี่น้องประชาชนที่ประสบภัย โดย ตนเองขอเป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศมาส่งกำลังใจและความห่วงใย ให้กับพี่น้องคนใต้ พร้อมทั้งได้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์มามอบให้ แต่สิ่งสำคัญ คือเงินช่วยเหลือภัยพิบัติฉุกเฉินครัวเรือนละ 9,000 บาท จะต้องถึงมือพี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนโดยเร็วที่สุด พร้อมชื่นชมทุกคน ที่เข้มแข็ง ฝ่าฟันความยากลำบากในช่วงนี้ แต่รัฐบาลจะยืนเคียงข้าง และช่วยฟื้นฟูให้กลับมาประกอบอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

      จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพ พร้อมกับพบปะประชาชนที่มาต้อนรับอย่างใกล้ชิด ก่อนจะออกมาพบปะกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม. ตลอดจน ส่วนราชการ ที่มาออกบูธ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งการบริการทางการแพทย์ อาชีพและการซ่อมแซม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ เครื่องจักรกลการเกษตร

"ธอส." มอบถุงยังชีพ และผ้าห่ม บรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัย ณ ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มอบถุงยังชีพ และผ้าห่ม จำนวนรวม 200 ชุด ให้ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในงาน “ปรับ ฟื้น คืนสุข เมืองล้านนา” ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และภารกิจของกระทรวงการคลัง ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) ด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน 

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า  ธอส. ขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดย ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้า และประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ โดยมีการจัดงาน “ปรับ ฟื้น คืนสุข เมืองล้านนา” ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ รวมถึงการมอบเครื่องอุปโภค บริโภค แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ โดย ธอส. มอบถุงยังชีพ และผ้าห่มจำนวนรวม 200 ชุด เพื่อส่งกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยในปี 2567 ธอส. มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายแล้วกว่า 600 ชุด และได้มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศรวมแล้วกว่า 1,950 ชุด

โดยการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ เป็นหนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้านสังคม ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ด้าน ของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ที่ธนาคารให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการดำเนินงานตามภารกิจหลักในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มาตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี โดยงาน “ปรับ ฟื้น คืนสุข เมือล้านนา” จัดขึ้น ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) ด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 

 

"พิพัฒน์" ระดมเครือข่ายแรงงานลงช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ด้านปลัดบุญสงค์ ส่ง 5 เสือแรงงานมอบถุงยังชีพสร้างขวัญกำลังใจ

'พิพัฒน์' ระดมเครือข่ายแรงงานลงช่วยน้ำท่วมภาคใต้  ด้าน ‘ปลัดบุญสงค์’ ส่ง 5 เสือแรงงานมอบถุงยังชีพสร้างขวัญกำลังใจ

เมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้อยู่ในขณะนี้ และฝนยังตกอย่างต่อเนื่องทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างนั้น ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ตามที่ผมได้ให้ปลัดกระทรวงแรงงานสั่งการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานหรือ 5 เสือแรงงานในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่นำสิ่งของถุงยังชีพซึ่งเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิตไปมอบให้แก่น้องประชาชนผู้ประสบภัย รวมทั้งบัณทิต อาสาสมัครแรงงาน ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ได้รับความเดือดร้อน

“ผมมีความห่วงใยพี่น้องแรงงาน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน รวมถึงอาสาสมัครแรงงานและบัณฑิตแรงงาน ในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งกระทรวงแรงงานขออยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนในการดูแลขวัญกำลังใจ พร้อมมอบสิ่งของที่จำเป็นแก่บุคลากรที่ประสบภัย ทั้งที่เป็นผู้ประสบภัยและผู้ที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง และประชาชน ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ซึ่งลูกจ้าง ผู้ประกันตน นายจ้างสถานประกอบการ และประชาชนที่ประสบอุทกภัย ที่ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนและต้องการขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506” นายพิพัฒน์ กล่าว

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผมได้รับรายงานจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน หรือ 5 เสือแรงงาน ประกอบด้วย สำนักงานแรงงานจังหวัด สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงาน/สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดในพื้นที่ที่ประสบภัย ว่าได้ลงพื้นที่นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร น้ำดื่ม ถุงยังชีพ ไปมอบพร้อมเงินช่วยเหลือจากครอบครัวแรงงานในนามกระทรวงแรงงาน  เรียบร้อยแล้ว โดยมอบ ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย รวมทั้งบัณทิต อาสาสมัครแรงงาน ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ได้รับความเดือดร้อน ตั้งแต่จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา สตูล พัทลุง ลงไปมอบช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ เมื่อน้ำลดลงกระทรวงแรงงานก็จะเข้าไปช่วยช่วยเหลือฟื้นฟู เช่น การระดมทีมช่างเข้าไปซ่อมแซมบ้านเรือน ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมรถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์เล็กทางการเกษตรต่อไป

#กระทรวงแรงงาน #น้ำท่วมภาคใต้ #ข่าววันนี้ #ถุงยังชีพ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

สุพรรณบุรี สว.ศรายุทธ ร่วมกับ อบต.หนองผักนาก มอบถุงยังชีพให้กลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ

สุพรรณบุรี สว.ศรายุทธ ร่วมกับ อบต.หนองผักนาก มอบถุงยังชีพให้กลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ

นายศรายุทธ ยิ้มยวน สมาชิกวุฒิสภาสุพรรณบุรี ร่วมกับนายอำนาจ เพ็ชรวงษ์ นายก อบต.หนองผักนาก อ.สามชุก ส.ต.อ.ทศพล (จ่าดม) ยิ้มยวน นางสาวปราณี ขำสุวรรณ รองนายก อบต.หนองผักนาก นายจีรสิทธิ์  (เลขาอ๊อฟ) ไทรย้อย เลขานายก อบต.หนองผักนาก นายพนม ขำสุวรรณ ประธานสภา พร้อมด้วยคณะบริหาร อบต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี นำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคมอบให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและผู้พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พื้นที่ หมู่ 3,4,5 และหมู่ 6 ต.หนองผักนาก รวมจำนวน 12 ครัวเรือน เพื่อเป็นการเพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและผู้พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เบื้องต้น

ผู้ว่าฯอ่างทองลงพื้นที่มอบถุงยังชีพพร้อมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย 4 ชุมชน ในตำบลโผงเผง

ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองลงพื้นที่มอบถุงยังชีพพร้อมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย 4 ชุมชน ในตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก พร้อมตรวจคันดินกั้นน้ำเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์

วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 14.00 น. ณ ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยนางมณฑา ฉันทดิลก นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง ปลัดจังหวัดอ่างทอง ท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอ่างทอง นายอำเภอป่าโมก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดอ่างทอง ร่วมกันลงพื้นที่หมู่ 1, 2, 3 และ หมู่ 6 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จำนวน 50 ชุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองยังได้พูดคุยให้กำลังใจกับประชาชนที่ประสบอุทกภัยด้วย

จากนั้นเวลา 15.20 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองและคณะยังได้เดินทางไปตรวจสอบคันดินป้องกั้นน้ำท่วมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในจังหวัดอ่างทองให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 หนองขาม เปิดบ้านนำข้าวสาร อาหารแห้ง ลงถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือ              

อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 หนองขาม เปิดบ้านนำข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยารักษาโรค ขนม น้ำดื่ม ปลากระป๋อง เทียนไข ลงถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือ
             

เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน 2567 ที่บ้านเลขที่ 83/3 ม.4 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นางมาลี ทรัพย์ดี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม. 2 หนอขาม  เปิดบ้านนำข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยารักษาโรค ขนม น้ำดื่ม ปลากระป๋อง เทียนไข เครื่องมือทำความสะอาด และผ้าห่ม  นำขึ้นรถบรรทุกกตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือ โดยมีผู้สนับสนุน อาทิเช่น  พระครูญาณประยุทธ์ เจ้าอาวาส วัดเขาตะแบก  พันตำรวจเอก เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผู้กำกับการ สภ.หนองขาม นายปพนพัชญ์ ณัฐดุลย์พานิช (ปิง)ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลหนองขาม  นายมาโนช วงษ์ชะอุ่ม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาตะแบก และผู้นำชุมชน พากันมาบรรจุสิ่งของ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยารักษาโรค ขนม น้ำดื่ม ปลากระป๋อง เทียนไข ลงถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือ

ซึ่งสิ่งของที่นำมาบรรจุในถุงยังชีพนี้ มาจากผู้ใจบุญนำมาร่วมกันบริจาค รวมถึงใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวจัดหามา และนำมาบรรจุลงถุงยังชีพให้ได้ 1,000 ถุง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทางภาคเหนือโดยเมื่อบรรจุถุงเสร็จจะนำขึ้นรถบรรทุกกตู้คอนเทนเนอร์ ทางนายอำเภอศรีราชาได้ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเอาไว้แล้ว ซึ่งจะเดินทางไปมอบของในวันที่ 27 ก.ย.2567เพื่อแจกถุงยังชีพได้อย่างทั่วถึง


นางมาลี ทรัพย์ดี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม. 2 หนอขาม  เปิดเผยว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม "ถุงยังชีพ" เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สามารถช่วยในการดำรงชีวิตเบื้องต้นของผู้ประสบภัย เพื่อรอความช่วยเหลืออื่น ๆ ที่จะตามมาให้ จึงได้จัดหาสิ่งของเครื่องใช้มาบรรจุลงถุงยังชีพ โดยที่จะเดินทางไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จังหวัดเชียงราย เพื่อนำไปช่วยพี่น้องประชาชนหลังประสบปัญหาอุทกกระภัยน้ำท่วมทั้งภาคเหนือ ที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก 
       

นายปพนพัชญ์ ณัฐดุลย์พานิช (ปิง)ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เปิดเผยว่า  จึงได้ใช้โอกาสนี้ตั้งจุดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้รับผลกระทบ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับทุกท่านได้ ซึ่งขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพตนเองและขอให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กลับมาเป็นปกติโดยเร็ววัน ทั้งนี้พร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้โดยเร็ว