สุขภาพดีในวัย 45+ ทำได้ง่ายๆ แค่ปรับพฤติกรรม

เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 45 ปีขึ้นไป ร่างกายและฮอร์โมนเริ่มทำงานช้าลง ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและใจ เช่น น้ำหนักเกิน มวลกล้ามเนื้อลดลง ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงผิวพรรณที่ไม่กระชับเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม หากเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ทั้งการเลือกกินอาหารที่เหมาะสม ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ ก็สามารถ ชะลอวัย, ป้องกันโรคเรื้อรัง และ คงความแข็งแรง ได้ยาวนาน

เคล็ดลับดูแลสุขภาพวัย 45+ ให้แข็งแรง

1. กินครบ 5 หมู่ พลังงานพอดี

ผู้ชายวัยกลางคน: 1,800–2,200 กิโลแคลอรี/วัน

ผู้หญิงวัยกลางคน: 1,500–1,800 กิโลแคลอรี/วัน
เน้นโปรตีนคุณภาพสูง เลี่ยงไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% และควรจำกัดน้ำมันปรุงอาหารไม่เกิน 6 ช้อนชา/วัน

2. คุมน้ำหนักด้วยค่าดัชนีมวลกาย (BMI)

เกณฑ์เหมาะสม: 18.5 – 22.9 กก./ม²
เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง, โฮลวีท, ธัญพืช
ลดน้ำตาลแฝงและจำกัดน้ำตาลเติมเพิ่มไม่เกิน 6 ช้อนชา/วัน

3. กินผักผลไม้วันละ 400 กรัม

ผลไม้ไม่เกิน 2–3 ส่วน/วัน และหลีกเลี่ยงรสหวานจัด
ผักผลไม้มี ใยอาหาร, วิตามิน, แร่ธาตุ และ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ควบคุมน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล

4. เสริมโอเมกา 3

รับจากปลา อาหารทะเล เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดเจีย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และต้านการอักเสบในร่างกาย

5. ปรุงอาหารอย่างพอดี

หลีกเลี่ยงอาหาร หวานจัด มันจัด และเค็มจัด
เลือกสินค้าที่มี “สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ” เพื่อมั่นใจว่าผ่านเกณฑ์โภชนาการ

6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ควรดื่ม 1.5 – 2 ลิตร/วัน จิบบ่อย ๆ ระหว่างวัน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ป้องกันท้องผูก และลดภาวะขาดน้ำ

7. ขยับร่างกายสม่ำเสมอ

ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่งเบา ว่ายน้ำ หรือทำงานบ้าน
ช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เสริมมวลกล้ามเนื้อ และลดความเสี่ยงการหกล้ม

แม้ร่างกายวัย 45+ จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แต่การใส่ใจเรื่อง อาหาร การออกกำลังกาย  และการพักผ่อน จะช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ป้องกันโรค และทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีพลัง สดใส และแข็งแรงในทุกๆวัน

 

 

found & found จับมือ GrabMart ยกระดับการดูแลสุขภาพและความงาม ส่งตรงสินค้าถึงบ้านภายใน 25 นาที

found & found จับมือ GrabMart ยกระดับการดูแลสุขภาพและความงาม ส่งตรงสินค้าถึงบ้านภายใน 25 นาที ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล

คุณณัฐพล ชูจิตารมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออาร์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส จำกัด และคุณจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย ร่วมจับมือเปิดตัวบริการใหม่ ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจาก found & found ร้านจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามชั้นนำจากญี่ปุ่น-เกาหลี ได้แล้วผ่านทาง GrabMart มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบทันสมัยให้กับผู้บริโภค พร้อมส่งตรงถึงหน้าบ้านภายในเวลาเพียง 25 นาที ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความสวยงาม และความรวดเร็วในชีวิตประจำวัน

คุณณัฐพล ชูจิตารมย์ เปิดเผยว่า found & found มุ่งมั่นในการคัดสรรสินค้าคุณภาพจากไทย ญี่ปุ่น และเกาหลี เพื่อนำเสนอประสบการณ์การดูแลสุขภาพ และความงามแบบครบวงจรให้กับคนรุ่นใหม่ โดยความร่วมมือกับ GrabMart จะช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของความสะดวก รวดเร็ว และการเข้าถึงสินค้าจากแบรนด์โปรดได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องออกจากบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของทางร้านที่ต้องการทำให้การดูแลตัวเองเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

ทั้งนี้สามารถพบสินค้าหลากหลายในร้าน found & found ที่วางจำหน่ายบน GrabMart นำโดย 7 แบรนด์ดังยอดฮิตจาก OLIVE YOUNG ประเทศเกาหลี ที่นำเข้ามาจำหน่ายแบบพร้อมกันมากที่สุดครั้งแรกในไทย ได้แก่ BIO HEAL_BOH, BRING GREEN, ROUND A’ROUND, WAKE MAKE, Colorgram, FILLIMILL และ IDEAL FOR MEN นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์คุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม DR ZERO สกินแคร์ตัวดัง Cica Method และ S Select ผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อการดูแลตัวเองในทุกมิติ รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิว เมคอัพ อาหารเสริม วิตามิน ไปจนถึงอุปกรณ์ความงาม ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทุกการดูแลตัวเองเป็นเรื่องง่าย สนุกและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมช้อปได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ก็สามารถสวย สุขภาพดี ได้ในไม่กี่คลิก

ด้าน คุณจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ กล่าวเสริมว่า GrabMart ในฐานะผู้นำด้านบริการสั่งซื้อสินค้าแบบออนดีมานด์จากซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป ถือเป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการการันตีส่งไวใน 25 นาที ซึ่งกลุ่มผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจทั้งเรื่องสุขภาพ ความงาม และความสะดวกในการใช้ชีวิต โดยสินค้ายอดนิยมในหมวดสุขภาพและความงาม เช่น ผลิตภัณฑ์เช็ดล้างเครื่องสำอาง แชมพูย้อมผม สบู่ล้างมือ ต่างเป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูง GrabMart รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ found & found ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามชั้นนำจากญี่ปุ่น-เกาหลี เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพได้สะดวกมากขึ้น ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดให้ GrabMart กลายเป็น “One Stop Solution” สำหรับสินค้าในหมวดสุขภาพและความงามได้อย่างครบครัน

ปัจจุบัน found & found มีสาขารวมทั้งสิ้น 9 แห่ง โดยล่าสุดได้เปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขาเดอะกลาสมาร์เก็ต บางนา และเดอะมอลล์ บางแค เพื่อตอบรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายผ่าน GrabMart จากทุกสาขาอย่างเป็นทางการ ผ่านแอปพลิเคชัน Grab นอกจากนี้ found & found ยังมอบความคุ้มค่าด้วยโปรโมชันพิเศษ รับส่วนลดทันที 20% สำหรับการสั่งซื้อผ่าน GrabMart ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 – 8 มิถุนายน 2568 นี้ พร้อมติดตามข่าวสาร กิจกรรม และไอเทมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้คุณดูดีได้ทุกวัน ได้ที่ Line: @foundnfound หรือคลิก https://bit.ly/foundnfound-line

#found&found #SimpleEasyEveryskin #ORHW #genderless #GrabMart #No1JandKBeautyต้องfoundnfound #ร้านจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามจากเกาหลีญี่ปุ่น


 

โคเวย์เปิดตัว “COWAY Villaem III” ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันแน่น ตอบโจทย์ทั้งการปรุงอาหาร ทำเครื่องดื่ม ดูแลสุขภาพในหนึ่งเดียว

บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (Coway) แบรนด์เครื่องกรองน้ำและเครื่องฟอกอากาศอันดับหนึ่งจากประเทศเกาหลีใต้ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “COWAY Villaem III” (วิลลาเอ็ม 3) นวัตกรรมเครื่องกรองน้ำดื่มระบบ RO รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย พร้อมดีไซน์หรูหราแนวใหม่ที่เข้ากับการตกแต่งบ้านทุกสไตล์อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยฟังก์ชันปรับอุณหภูมิน้ำมากถึง 8 ระดับและปริมาณน้ำ 6 ระดับ คุณจึงสามารถตั้งค่าการกดน้ำที่แตกต่างกันได้มากถึง 48 รูปแบบ ด้วยถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ จึงตอบโจทย์ตั้งแต่การทำอาหารไปจนถึงการปรุงเครื่องดื่ม ทั้งร้อน และเย็นของทุกคนในบ้านได้ในเครื่องเดียว ทำให้ “COWAY Villaem III” เป็นเครื่องกรองน้ำสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและไลฟ์สไตล์เหนือระดับที่แท้จริง

วันที่ 5 เมษายน 2568 มร.คิ รยง ชอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โคเวย์ ประเทศไทย กล่าวว่า “โคเวย์ ไม่เคยหยุดยั้งการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพ พร้อมส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน การนำเสนอเครื่องกรองน้ำ COWAY Villaem III ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเรา เพิ่มความสะดวกสบายด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว Villaem III ถือเป็นรุ่นต่อยอดประสิทธิภาพจากรุ่น Villaem I และ Villaem II โดยทั้งสองรุ่นก่อนหน้าเป็นรุ่นที่นิยมมากในกลุ่มครอบครัว โดยรุ่นใหม่ล่าสุดเป็นรุ่นที่อัปเกรดและยกระดับฟังก์ชันการทำน้ำร้อน-เย็น และการกำหนดปริมาณน้ำให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากในการปรุงอาหารและทำเครื่องดื่มสำหรับผู้บริโภคในวัยที่แตกต่างกัน ทำให้ COWAY Villaem III ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของทุกคนในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

COWAY Villaem III สามารถเลือกกดน้ำได้ถึง 8 อุณหภูมิ (น้ำอุณหภูมิห้องปกติ/น้ำเย็น/น้ำอุ่น 3 ระดับ/น้ำร้อน 3 ระดับ) และตั้งปริมาณได้ถึง 6 ระดับอย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับเป็นตัวช่วยในการปรุงอาหารและการทำเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ เช่น

น้ำร้อนจัด 95°c สามารถต้มไข่ได้สุกกำลังดี พร้อมทานในไม่กี่นาที

น้ำร้อนจัด 80°c เหมาะกับการชงกาแฟร้อนหอมกรุ่น เริ่มต้นวันใหม่ของคุณอย่างสดชื่น

น้ำร้อน 70°c ให้คุณชงชาสมุนไพรอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับทุกช่วงเวลาพักผ่อน

น้ำอุ่นจัด 60°C เหมาะกับการทำชาฮันนี่เลมอน เพื่อสร้างความผ่อนคลายได้ทุกช่วงของวัน

น้ำอุ่นจัด 50°C ใช้ในการทำเบเกอรี่แสนอร่อย ด้วยน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่เหมาะสม

น้ำอุ่น 40°C เพิ่มความสะดวกสบายในการเตรียมนมสำหรับลูกน้อยของคุณ

ด้วยถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ผู้ใช้งานจึงมีความยืดหยุ่นในการใช้น้ำร้อนและน้ำอุ่นได้มากขึ้น อาทิ การดูแลสุขภาพช่องปากและลำคอด้วยการกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายคอ เป็นต้น

และแน่นอนว่า COWAY Villaem III ยังมาพร้อมเทคโนโลยีกรองน้ำ Reverse Osmosis (RO) ด้วยนวัตกรรมไส้กรองที่สามารถกรองขจัดสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าทั้งเชื้อโรค คลอรีน โลหะหนัก และสารตกค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมระบบฆ่าเชื้อถังเก็บน้ำด้วยแสง UV อัตโนมัติ (ทำงานทุก 12 ชม. รอบละ 3 ชม.) ช่วยกำจัดแบคทีเรียอันตรายได้ถึง 99.9% เช่น E. coli, S. aureus และ P. aeruginosa เพื่อให้น้ำสะอาดและปลอดภัยสำหรับทุกคนในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนก๊อกน้ำเป็นแบบถอดได้ สามารถถอดทำความสะอาดได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ตัวเครื่องติดตั้ง ECO MODE โหมดประหยัดพลังงาน โดยจะปรับการทำงานอัตโนมัติตามแสงสว่างโดยรอบ รวมถึง DUAL LOCK MODE ปุ่มล็อกน้ำร้อน ป้องกันอันตรายจากเด็ก และสามารถเปิดใช้งาน All Lock Mode เพื่อปิดการจ่ายน้ำทั้งหมด หรือ Hot Lock Mode เพียงกดปุ่มค้างไว้ 3 วินาที เพื่อเปิดใช้งาน เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มความอุ่นใจและความปลอดภัยการใช้งาน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก

COWAY Villaem III มีให้เลือก 2 สี Porcelain White และ Pebble Gray ผู้สนใจสมัครใช้งานวันนี้ รับราคาโปรโมชันสุดคุ้มทันที เมื่อสมัครสมาชิก 7 ปี ลดราคาพิเศษ 25% นาน 12 เดือน จ่ายเพียงเดือนละ 592.50 บาท หลังจากนั้นเดือนละ 790 บาท ตลอดระยะสัญญา โดยทุกแพ็กเกจจะได้รับบริการดูแลรักษาเครื่องฟรีด้วยทีมงาน CODY ที่จะติตต่อนัดหมายเข้าไปทำความสะอาดเครื่องให้ทุก 2 เดือนและเปลี่ยนไส้กรองทุก 6 เดือน พร้อมซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตลอดอายุสัญญา

“การนำเสนอเครื่องกรองน้ำอัจฉริยะรุ่นนี้ ถือเป็นเพียงก้าวแรกในการเดินหน้าสู่วิสัยทัศน์ในการเป็น Lifestyle Wellness Subscription Brand ของเรา ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ โคเวย์ ประเทศไทย ยังมีแผนนำเข้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ เก้าอี้นวดสุขภาพ (Coway Massage Chair) ที่ผสานนวัตกรรมเทคนิคการนวด 5 รูปแบบ เพื่อการบำบัดและผ่อนคลายทั่วร่างกายที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจในหนึ่งเดียว โดยเราเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในเร็ว ๆ นี้” มร. คิ รยง ชอย กล่าวปิดท้าย”

เปิด! ศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย ดูแลสุขภาพปชช.ถ้วนหน้า ‘หน่อง-ปลื้มจิตร์’ เผยเทคนิคดูแลสุขภาพให้แข็งแรง-ฟื้นฟูร่างกาย

เทศบาลเมืองลาดสวาย ทำพิธีเปิด “ศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย” บนเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา สอดรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกาศความพร้อมดูแลสุขภาพประชาชน และสามารถเข้าถึงบริการด้านการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง เดินหน้าส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข รวมทั้งเป็นศูนย์รวมดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และช่วยเหลือด้านอื่นๆ แบบองค์รวม ด้าน “หน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย มาร่วมเผยเทคนิคดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และการฟื้นฟูร่างกายหลังแข่งขันแมทช์หนักๆ

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย” โดยมี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี, นายกเทศมนตรีเมืองลาดสวาย, นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำลูกกา, ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมด้วยอย่างพร้อมเพรียง โดยภายในงานมี “หน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เข้าร่วมในพิธีเปิด พร้อมกับให้สัมภาษณ์พิเศษถึงการการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแกร่งในฐานะนักกีฬา และการฟื้นฟูร่างกายหลังเจอการแข่งขันแมทช์หนักๆ 

นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดการขยายตัวของเมือง ทำให้อัตราประชากรในแต่ละพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสภาวะทางสังคมสภาพแวดล้อม รวมถึงพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน ตามข้อมูลสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้เจ็บป่วยมีจำนวนเพิ่มขึ้นทำให้โรงพยาบาลของรัฐบาลมีผู้ป่วยเข้ารับบริการจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาความแออัด บุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้รับบริการ ทั้งนี้ การได้รับการบริการด้านสาธารณสุข ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนในชาติควรเข้าถึงและได้รับอย่างเท่าเทียม 


 
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งมาพร้อมความต้องการที่จะได้รับการดูแลที่มากขึ้นไปอีกขั้น การดูแลสุขภาพประชาชนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข เพื่อพัฒนาการให้บริการสุขภาพในระดับพื้นที่เพื่อตอบสนองต่อปัญหาและความจำเป็นด้านสุขภาพและสิทธิประโยชน์ของประชาชนในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งศูนย์การแพทย์แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์บริการทางการแพทย์ของจังหวัดปทุมธานีที่มีส่วนช่วยรองรับการบริการด้านสุขภาพของคนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
 
ขณะที่ นายวินัย สังวาลย์เงิน นายกเทศมนตรีเมืองลาดสวาย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบกับปัญหาด้านการให้บริการสาธารณสุขในหลายด้าน จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีประชากรเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกในปี พ.ศ.2556 จำนวน 171 ล้านครั้ง และในปี พ.ศ.2565 จำนวน 202 ล้านครั้ง ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนมากกว่าร้อยละ 50 ของผู้ป่วยนอกที่เข้ามารับบริการในโรงพยาบาลรัฐ เป็นการเจ็บป่วยที่สามารถรับบริการจากสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิได้ ส่งผลให้โรงพยาบาลของรัฐเกิดความแออัด การให้บริการขาดประสิทธิภาพ เทศบาลเมืองลาดสวาย เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงวางนโยบายด้านสาธารณสุขให้สอดรับกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยจำนวนประชากรในเขตเทศบาลทั้งหมด 74,060 คน หน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ มีผู้ป่วยมารักษาจำนวนมาก ทำให้เกิดความแออัด ระยะเวลารอคอยนาน ประชาชนขาดความสะดวก 

“ดังนั้น เทศบาลเมืองลาดสวาย จึงได้จัดตั้งศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวายขึ้นเพื่อให้มีสถานที่สำหรับการดูแลสุขภาพของประชาชน และสามารถเข้าถึงบริการด้านการรักษาพยาบาลเบื้องต้น การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสุขภาพอย่างทั่วถึง ส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข ตลอดจนเป็นศูนย์รวมการดูแลสุขภาพให้แก่ผู้สูงอายุและการช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่เป็นการดูแลแบบองค์รวมพัฒนาศักยภาพในการจัดระบบบริการสุขภาพเชิงรุกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับการดูแลด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง โดยให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม กายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และการดูแลระยะยาวสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน” นายวินัยกล่าว
 
ด้าน “หน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า สำหรับการก่อตั้งศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย ถืออป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ที่ประชาชนจะได้รับการดูแลสุขภาพร่างกาย และให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ รวมไปถึงการรักษาต่างๆ อย่างทั่วถึง ซึ่งส่วนตัวในฐานะนักกีฬาก็จะต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยเทคนิคของตัวเองในการดูแลสุขภาพคือ พยายามออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และสิ่งที่สำคัญก็คือ การพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งมีผลต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ส่วนเทคนิคในการฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังจากที่ต้องเจอกับการแข่งขันแมตช์หนักๆ นั้น ก็จะมีการไปทำ Cryotherapy บำบัดด้วยความเย็น และนวดผ่อนคลาย แล้วก็รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย เปิดให้บริการทางการแพทย์ในปี พ.ศ.2568 โดยเทศบาลเมืองลาดสวายได้รับการบริจาคที่ดินก่อสร้างอาคาร บริเวณถนนโชติเวช 2 มีเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา ก่อสร้างศูนย์การแพทย์แห่งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการด้านการรักษาพยาบาลที่จะให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด และให้มีสถานที่ให้บริการดูแลสุขภาพประชาชน และเป็นพื้นที่สำหรับดำเนินกิจกรรม หรือโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนตำบลลาดสวาย รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่ผู้สูงอายุสามารถมารวมกลุ่มดำเนินกิจกรรมทางสังคมและฟื้นฟูสุขภาพให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย บูธนิทรรศการจากเครือข่ายสุขภาพ ตลาดนัดสุขภาพชุมชน ดนตรีในสวน เจาะเลือดตรวจสุขภาพประจำปี และเอกซเรย์ปอด 

สำหรับบุคลากรภายในศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย ประกอบด้วย 1.แพทย์ 2 คน 2.ทันตแพทย์ 3 คน 3.เภสัชกร 2 คน 4.นักกายภาพบำบัด 4 คน 5.แพทย์แผนไทย 3 คน 6.แพทย์แผนจีน 1 คน 7.พยาบาลวิชาชีพ 6 คน และ 8.พนักงานประจำแผนก 22 คน ซึ่งในอนาคต เทศบาลเมืองลาดสวาย วางแผนการพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ.2570 จะดำเนินการก่อสร้างศูนย์สุขภาพและบริการทางการแพทย์เมืองลาดสวาย เพื่อให้การบริการประชาชนด้านสุขภาพ และบริการทางการแพทย์สำหรับประชาชนทุกกลุ่มวัยอย่างครอบคลุมต่อไป

ระดมผู้ทรงคุณวุฒิทั่วโลก! ถก "ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขสภาพ" ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายมิติ

ระดมผู้ทรงคุณวุฒิทั่วโลก ถก “ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขสภาพ ในโลกแห่งความเหลื่อมล้ำ” ในการประชุมนานาชาติว่าด้วยสุวรรณภูมิแห่งสุขสภาพ ICGW 2024

วันที่ 28 มิ.ย.2567 สถาบันการสร้างชาตินานาชาติ (Nation-Building Institute International (NBII)) และองค์กรพันธมิตรระดับโลก ร่วมจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยสุวรรณภูมิแห่งสุขสภาพ 2567 (The International Conference on GoldenZone Wellness (ICGW) 2024) ในหัวข้อ “สุขสภาพในโลกแห่งความเหลื่อมล้ำ” (Wellness in the World of Disparity) ในวันที่ 27 มิ.ย. 2567 โดยมีผู้นำ ผู้บริหารระดับสูง ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ และผู้สนใจจากทั่วโลกเข้าร่วมประชุมกว่า 3,500 คน ทั้งในระบบออนไซต์และออนไลน์ เพื่อระดมความเห็นและนำเสนอผลงานวิชาการล่าสุดจากนานาชาติ เกี่ยวกับการศึกษาความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างตัวแปรต่าง ๆ และความเหลื่อมล้ำด้านสุขสภาพ รวมถึงการนำเสนอแนวทางการสร้างโอกาสด้านสุขสภาพอย่างเท่าเทียม โดยพิจารณาจากการดำเนินงานของชุมชน นโยบายสาธารณสุขเพื่อส่งเสริมสุขสภาพของประชาชน กลยุทธ์ในการสนับสนุนสุขสภาพที่ครอบคลุมทุกด้าน และการส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสุขสภาพอย่างยั่งยืน

การประชุม ICGW 2024 ได้รับเกียรติจากผู้นำและผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูง ร่วมกล่าวปาฐกถา อาทิ ผผู้แทน รมว.สมศักดิ์ เทพสุทิน, นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข,  ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, ศ.ดร.ซาวาธอว์เร่ ดิ ซอมมา, ผอ.องค์การอนามัยโลก ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส, ศ.นพ.ธันยชัย สุระ, รศ.ดร.สุขกิจ ยะโสธรศรีกุล, ดร.ชาลส์ เอ็น. โรทิมี, ดร.ธิดาทิพย์ วงศ์สุรวัฒน์, ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา, ดร.ฟาเติน เบน อับเดลาซิซ, ทิโบลต์ ดานจู, ดร.ยงยุทธ มัยลาภ, ดร. เอกชัย เพียรศรีวัชรา, นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์, ดร.แพทย์หญิง ประภา วงศ์แพทย์, นพ.สมพงษ์ ชัยโอภานนท์, รองศาสตราจารย์ ดร.ทวิดา กมลเวชช, รศ.ดร.วรรณฤดี อิสรานุวัฒน์ชัย, พญ.กัลยรัตน์ สุขเรือง

​ทั้งนี้ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และประธานสถาบันการสร้างชาติ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “Health & Wellness Equality in the World of Disparity” ในงานประชุมครั้งนี้ว่า การพัฒนาเพื่อลดความเหลื่อมด้านสุขสภาพ ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่ ความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในขณะที่ระบบทุนนิยมยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างกลุ่มคนกว้างขึ้น ความจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพราะแนวคิดสุขสภาพเป็นการพัฒนาแบบเป็นองค์รวมและครอบคลุมหลายมิติ ในขณะที่โลกแยกออกเป็นหลายขั้วและมีความร่วมมือลดลง อีกความท้าทายหนึ่ง คือ การสร้างความเท่าเทียมด้านสุขสภาพต้องใช้เวลายาวนาน โดยเฉพาะการพัฒนาพฤติกรรมและวัฒนธรรมที่เอื้อต่อสุขสภาพ แต่ก็ต้องเผชิญการแข่งขันกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่ทำลายสุขสภาพ และนักการเมืองมักไม่สนใจประเด็นระยะยาว และความท้าทายประการสุดท้าย คือ ต้นทุนการสร้างระบบสุขภาพถ้วนหน้าจะสูงขึ้น จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุจะมีอายุยืนขึ้น แต่มีช่วงเวลาที่สุขภาพไม่ดียาวนานขึ้น ความเสี่ยงจากโรคอุบัติใหม่ และแรงกดดันด้านอุปสงค์และอุปทานในบริการสุขภาพ เนื่องจากการเข้ามาใช้บริการของนักท่องเที่ยว คนต่างด้าว และผู้อพยพ


ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวถึงข้อเสนอการสร้างความเท่าเทียมด้านสุขสภาพ ภายใต้ความท้าทายดังกล่าวว่า “ผมมีข้อเสนอว่า ควรจำแนกความเท่าเทียมด้านสุขสภาพเป็น 2 แบบ ความเท่าเทียมแบบพื้นฐาน คือ ทุกคนต้องมีโอกาสมีสุขสภาพดีอย่างน้อยในระดับพื้นฐาน (Basic Wellness Equality) และความเท่าเทียมอุตมภาพ (Optimal Wellness Equality) กล่าวคือ ประชาชนสามารถพัฒนาสุขสภาพในระดับสูงขึ้นได้ แต่ในภาพรวมไม่ควรแตกต่างกันมากเกินไป และควรหารายได้จากการให้บริการระดับสูง เพื่อนำรายได้มาช่วยยกระดับสุขสภาพของคนที่เสียเปรียบ ข้อเสนอประการต่อมา คือ การพัฒนาความเท่าเทียมด้านสุขสภาพแบบเบ็ดเสร็จ 3 ระดับ คือ ระดับประเทศ เพื่อยกระดับสุขสภาพของทุกคน ระดับกลุ่มคน เพื่อแก้ปัญหาสุขสภาพเฉพาะกลุ่มที่เสียเปรียบ และระดับบุคคล เพื่อแก้ปัญหารายบุคคลแบบตัดเสื้อพอดีตัว”
“ข้อเสนอประการต่อมา คือ การพัฒนาอย่างครบถ้วนและบูรณาการ ทั้งปัจจัยด้านพันธุกรรม พฤติกรรม สภาพแวดล้อมชุมชน และนโยบาย การพัฒนาคน ระบบ บริบทที่เอื้อต่อสุขสภาพ และสร้างการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง และข้อเสนอประการสุดท้าย คือ การกระจายความรับผิดชอบด้านสุขสภาพ เช่น การส่งเสริมการดูแลสุขสภาพด้วยตัวเอง และภายในครอบครัว การสร้างกลุ่มครอบครัว (Wellness Fraternity Unit) เพื่อช่วยเหลือในการดูแลสุขสภาพให้กันและกัน การพัฒนามาตรฐานและวัฒนธรรมด้านสุขสภาพในองค์กร และการพัฒนาชุมชนที่พึ่งพาตัวเองได้ด้านสุขสภาพ เป็นต้น”

เตรียมพบกับ Galaxy Watch รุ่นใหม่ ที่มาพร้อม Galaxy AI ตัวช่วยให้ทุกคนดูแลสุขภาพได้ดีขึ้นไปอีกขั้น

ช่วงต้นปี 2567 ซัมซุงได้เริ่มต้นยุคของ AI บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้แพร่หลายขึ้น ด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series พร้อมคำมั่นสัญญาของซัมซุงที่จะนำ Galaxy AI1 ไปใช้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ซัมซุงจะนำ Galaxy AI มาปรับปรุงฟีเจอร์การดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมบน Galaxy Watch ด้วยการผสมผสานความสามารถของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model : LLM) แบบ on-device เข้ากับแอป Samsung Health ทำให้ซัมซุง สามารถสร้างประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่มีความปลอดภัยและตอบโจทย์ชีวิตผู้ใช้งานแต่ละคนโดยเฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ความฉลาดขั้นสูงเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแรงจูงใจที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขั้นสูงให้แก่ผู้ใช้ โดยเริ่มต้นจากการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญและนำไปใช้ได้จริง มาช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบสุขภาพของคุณได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้มีการรวม Galaxy AI เข้ากับ Samsung Health ฟีเจอร์ใหม่ด้านสุขภาพที่จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นในทุกวันด้วย Energy Score2 ที่ออกแบบมาให้คุณเข้าใจสภาวะร่างกายของคุณในแต่ละวันได้ดี ผ่านการวิเคราะห์ตัวชี้วัดสุขภาพส่วนบุคคลร่วมกับข้อมูลการนอนหลับ การทำกิจกรรม และอัตราการเต้นของหัวใจ3 ช่วยให้คุณดำเนินชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ การรวม LLM แบบ on-device4 เข้ามายังช่วยให้คุณได้รับข้อมูลส่วนบุคคลในเชิงลึกมากขึ้น และอธิบายรายละเอียดค่าคะแนนของคุณ รวมทั้งยังมี Wellness Guide (TBD)5 ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพ โดยให้ข้อมูลและเคล็ดลับที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ

แม่นยำและถูกต้องมากยิ่งขึ้น
มาตรวัดสุขภาพที่ถูกต้องและครอบคลุมทุกมิติเป็นพื้นฐานในการสร้างประสบการณ์ด้านสุขภาพอันชาญฉลาดที่สุด ด้วยอัลกอริทึมด้านการดูแลสุขภาพที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และเครื่องมือติดตามขั้นสูงช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม พร้อมข้อมูลเฉพาะบุคคลที่นำไปใช้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำงานร่วมกับ AI เนื่องจากสุขภาพที่ดีเริ่มต้นด้วยการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มในเวลากลางคืน ซัมซุงจึงพัฒนาอัลกอริทึม AI สำหรับ Sleep Score เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับ ช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการนอนของตนเองและสร้างนิสัยการนอนที่ดีขึ้น โดยมีตัวชี้วัดที่ใส่เข้ามาเพิ่ม ได้แก่ การเคลื่อนไหวระหว่างการนอนหลับ ระยะเวลาที่ใช้อยู่บนเตียง อัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับ ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับ อัตราการหายใจระหว่างการนอนหลับ นอกเหนือจากตัวชี้วัดเดิมที่มีอยู่อย่าง เวลานอน วงจรการนอนหลับ และเวลาตื่นนอน

ฟีเจอร์ออกกำลังตัวใหม่ มอบประสบการณ์การวัดสมรรถภาพทางกายที่ชาญฉลาดและใช้งานง่ายดาย เพื่อให้ออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม  
•สามารถตรวจวัดระดับความเข้มข้นในการวิ่งได้ถึง 5 ระดับ 

•ใน Personalized Health Rate Zone มีตัววัดโซนอัตราการเต้นของหัวใจ Aerobic Threshold (AT) / Anaerobic Threshold (AnT) Heart Rate Zone6 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้มีความละเอียดมากขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการวิ่งให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการวิ่งอย่างรวดเร็วไปด้วย 

•นักปั่นจักรยานสามารถคำนวณตัววัด Functional Threshold Power (FTP) ได้อย่างง่ายดายภายในเวลาเพียง 10 นาที7 และออกกำลังกายได้อย่างมืออาชีพโดยใช้ดัชนีพลังงาน (Power Index) ส่วนบุคคลที่อิงจากการวิเคราะห์ข้อมูล AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด 

•มีเครื่องมือติดตามการออกกำลังกายที่ช่วยให้คุณติดตามผลการออกกำลังกายและความคืบหน้าของกิจกรรมที่กำลังทำได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น และด้วยฟีเจอร์ Workout Routine แบบใหม่ คุณสามารถออกแบบผสมผสานการออกกำลังกายต่าง ๆ ในรูปแบบเฉพาะของตัวเอง หรือเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายจากประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่งได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดพัก 

•ฟีเจอร์ Race8 ช่วยเติมกำลังใจให้คุณ และติดตามความคืบหน้าในการวิ่งหรือปั่นจักรยานได้อย่างสะดวก ตลอดจนสามารถดูข้อมูลประสิทธิภาพการออกกำลังกายในปัจจุบันเปรียบเทียบกับรอบที่ผ่านมาบนเส้นทางเดียวกันได้ 

“จากการที่ซัมซุงได้แผ่ขยายพลังอำนาจของ Galaxy AI ไปทั่วทั้งระบบนิเวศ เรามุ่งมั่นที่จะเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ใหม่ทั้งหมดด้วยประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะสมและเชื่อมต่อกันไปอีกขั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น” Junho Park, VP and Head of the Galaxy Ecosystem Product Planning Team, MX Business ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “การนำ Galaxy AI มาใช้ใน Galaxy Watch เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการเหล่านี้ และเราตื่นเต้นมากที่จะแสดงให้เห็นการทำงานร่วมกันเพิ่มเติมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy ของเราในไม่ช้านี้”

เตรียมสัมผัสประสบการณ์การใช้งานฟีเจอร์ใหม่ทั้งหลายเหล่านี้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy Watch รุ่นใหม่ ผ่าน One UI 6 Watch ปลายปีนี้ สาวก Galaxy Watch จำนวนจำกัดจะได้รับโอกาสเข้าถึง One UI 6 Watch Beta9 ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป นับเป็นประสบการณ์เล็ก ๆ ที่เราจะมอบให้จากการทดลองสินค้า ซึ่งเราตื่นเต้นมากที่จะแสดงให้เห็นพลังอันเต็มเปี่ยมของ Galaxy AI เมื่อผนวกเข้ากับฮาร์ดแวร์ขั้นสูงที่ได้รับการอัปเกรดสำหรับ Galaxy Watch Series ใหม่ โปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เร็วๆนี้

#ข่าววันนี้ #GalaxyWatch #GalaxyAI #ดูแลสุขภาพ