8 ยอดฝีมือ “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” เกาะขอบ “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 เมเจอร์เก่าแก่ที่สุดของโลก พร้อมออกรอบที่ลอนดอน

8 ยอดฝีมือจากกิจกรรม “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์” บินเกาะขอบสนามรอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ สังเวียน“ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 พร้อมใกล้ชิด สดมภ์ แก้วกาญจนา หนึ่งเดียวของไทยใน ดิ โอเพ่น รายการเมเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมออกรอบที่ ลอนดอน กอล์ฟ คลับ สนามระดับยูโรเปียนทัวร์ในประเทศอังกฤษ

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ โกลบอล สปอร์ต พาร์ทเนอร์ชิพ การแข่งขันกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง “ดิ โอเพ่น” ซึ่งจัดการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1860 จัดกิจกรรม “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์” เพื่อหายอดฝีมือจำนวน 8 คนรับรางวัล  “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” เดินทางไปชมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ที่สนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ พร้อมออกรอบที่สนามลอนดอน กอล์ฟ คลับ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 17-24 กรกฎาคม 2568 

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมากมาย รวมถึงกอล์ฟรายการเก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งของโลกอย่าง “ดิ โอเพ่น” เผยว่า สิงห์ และ ดิ โอเพ่นได้ร่วมงานกันเข้าสู่ปีที่ 3 ปีนี้เราได้ขยายเวลาจัดการแข่งขัน สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์กว่า 1 เดือน ทำให้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 1,200 คน จนสามารถคัดเลือกสุดยอดนักกอล์ฟร่วมเดินทางไปชมการแข่งขันกอล์ฟระดับตำนานอย่างดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งสิงห์เชื่อว่าจะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชนะในการมาชมและเชียร์โปรกอล์ฟชาวไทยอย่าง “สดมภ์ แก้วกาญจนา” ที่ได้แข่งขันกอล์ฟรายการที่ยิ่งใหญ่และได้ออกรอบที่ประเทศอังกฤษ ที่สำคัญกิจกรรมดังกล่าวได้เกิดขึ้นในฐานะที่สิงห์เป็น Official Beer Partner ของ “ดิ โอเพ่น” (The Open) ตอกย้ำแบรนด์สิงห์ ในการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ที่เป็นตำนานในวงการกีฬากอล์ฟ พร้อมตอกย้ำจุดแข็งการเป็นแบรนด์ไทย ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

8 ยอดฝีมือที่เดินทางไปชม ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ถึงขอบสนามนั้น 4 คนมาจากการแข่งขันเวอร์ชวลกอล์ฟ ประกอบด้วย ธนกร ตัณฑเวส, อภิชา อรนิชรตนพร, วันชนะ อุดมศรี และ วรวีร์ ปริยวงศ์ และอีก 4 คน จากการเล่นสนามจริง 9 หลุม หรือ 9 HOLES COURSE CHALLENGE” ได้แก่ นพรัตน์ มาศนพคุณรัตน์, โจเซฟ เฮนเล, นิธิกิตติ์ ชัยวรธนพันธ์ และพุทธินันท์ ศรีอ่อนรอด

โดยทั้ง 8 คนที่คว้ารางวัล “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” ได้เข้าไปชม ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ถึงสนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ร่วมเชียร์ สดมภ์ แก้วกาญจนา ที่เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียนทัวรรายการที่สามของตนเองที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและได้สิทธิลงแข่งขัน ดิ โอเพ่น เป็นสมัยที่สองของตนเอง หลังก่อนหน้านี้เคยร่วมแข่งขันเมเจอร์รายการนี้เมื่อปี 2022 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์จบอันดับ 11 ร่วมที่ เซนต์ แอนดรูวส์

นอกจากนั้น ผู้โชคดีจากกิจกรรม “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” ยังได้ออกรอบที่ ลอนดอน กอล์ฟ คลับ สนามที่ออกแบบโดยตำนานอย่าง แจ็ค นิคลอส เป็นสนามที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยูโรเปียนทัวร์อย่าง รายการยูโรเปียน โอเพ่น และ วอลโว่ เวิลด์แมตช์เพลย์ แชมเปียนชิพ รวมถึงรายการระดับซีเนียร์ พีจีเอ ซีเนียร์ แชมเปียนชิพ 2018 และ 2019

"โปรเพชร" แชมป์ "โคเรีย โอเพ่น" คว้าสิทธิ์เล่นเมเจอร์ "ดิ โอเพ่น"

วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 “โปรเพชร” สดมภ์ แก้วกาญจนา คว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการ “โคเรีย โอเพ่น” รับเงินรางวัล 362,811 เหรียญฯ (ราว 12 ล้านบาท) และสิทธิ์เล่นรายการเมเจอร์ “ดิ โอเพ่น” ณ สนามดุน คอร์ส พาร์ 71 ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

โปรหนุ่มจากนราธิวาส ซึ่งจบรอบสามตามหลังผู้นำ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ หนึ่งสโตรก ทำรอบสุดท้าย 1 อันเดอร์ จาก 4 เบอร์ดี้ 3 โบกี้ คว้าแชมป์ที่สกอร์รวม 7 อันเดอร์ ซึ่งนับเป็นแชมป์ที่ 3 ในเอเชียนทัวร์ต่อจาก บังกาเทศ โอเพ่น 2019 และ สิงคโปร์ โอเพ่น 2022

ขณะที่ ภูมิ ได้รองแชมป์ที่สกอร์รวม 5 อันเดอร์ หลังจากรอบสองตี 2 โอเวอร์ รับเงินรางวัล 87,082 เหรียญฯ (ราว 2.9 ล้านบาท) 

สดมภ์ รับเงินรางวัล 362,811 เหรียญฯ (ราว 12 ล้านบาท) พร้อมสิทธิ์ในการเล่นเมเจอร์รายการ “ดิ โอเพ่น” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-20 กรกราคม 2568 ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 3 สำหรับสดมภ์จะได้เล่นรายการเมเจอร์ โดยก่อนหน้านั้นได้เคยเล่นทั้ง ยูเอส พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2022 และ ดิ โอเพ่น 2022  โดยเฉพาะในรายการ ดิ โอเพ่น นั้น สดมภ์ ทำผลงานเยี่ยมด้วยอันดับ 11 ร่วม ในปี 2022 

“ตื่นเต้นมากครั้ง ก็พยายามมีสมาธิกับเกมให้มากกว่า 3 รอบแรก ในที่สุดก็ทำได้ ดีใจมากครับ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งเพราะนี่เป็นรายการกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่รายการหนึ่งในภูมิภาคนี้” โปรวัย 26 ปี ซึ่งเล่นรายการที่ 6 ในฤดูกาลนี้ กล่าว 

สดมภ์ เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 3 ที่ได้แชมป์รายการนี้ต่อจาก ธงชัย ใจดี (2000) และแจ๊ส เจนวัฒนานนท์ (2019)

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ โกลบอล สปอร์ต พาร์ทเนอร์ชิพ การแข่งขันกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งอย่าง “ดิ โอเพ่น” กำลังหา 8 ผู้ชนะจาก “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์”รับรางวัล “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” เดินทางไปชมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ที่สนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ เพื่อร่วมเชียร์ “โปรสดมภ์” โปรกอล์ฟชาวไทยหัวใจสิงห์ ในการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์อย่าง “ดิโอเพ่น” โดยรอบสุดท้ายเพื่อหา 4 คนสุดท้ายจะมีขึ้นที่วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟคลับ

“สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” ได้ 116 คนสุดท้ายชิงดำริเวอร์เดล ตะลุย “ดิโอเพ่น

116 นักกอล์ฟที่ผ่านการคัดเลือกจากการแข่งขันเวอร์ชวลกอล์ฟ “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์ เวอร์ชวล ไฟนัล สเตจ” ลุยกันต่อกับ 9 HOLES COURSE CHALLENGE การแข่งขันกอล์ฟออกรอบสนามจริงจำนวน 9 หลุม ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เพื่อหา 4 ที่นั่งสุดท้ายไปชม ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ถึงขอบสนามรอยัล พอร์ตรัช ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ พร้อมออกรอบที่สนามลอนดอน กอล์ฟ คลับ สนามแข่งระดับ ยูโรเปียนทัวร์ ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 17-22 กรกฎาคม 2568

วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ โกลบอล สปอร์ต พาร์ทเนอร์ชิพ การแข่งขันกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งอย่าง “ดิ โอเพ่น” จัดการแข่งขันเวอร์ชวลกอล์ฟ ในรายการสิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์ ซึ่งการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่ สนามโพธาลัย แบงค็อก ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้ 4 นักกอล์ฟคว้าสิทธิ์ไปชมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ที่ประเทศไอร์แลนด์เหนือ เรียบร้อยแล้วประกอบด้วย ธนกร ตัณฑเวส, อภิชา อรนิชรตนพร, วันชนะ อุดมศรี และ วรวีร์ ปริยวงศ์

ส่วนนักกอล์ฟที่จบอันดับ 5-120 จากการแข่งขันรอบเวอร์ชวล ไฟนัล สเตจ ยังได้ลุ้นกันต่อกับรอบพิเศษ “9 HOLES COURSE CHALLENGE” การแข่งขันออกรอบสนามกอล์ฟจริงจำนวน 9 หลุม ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เพื่อหาอีก 4 คนสุดท้ายที่จะได้รับรางวัล  “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” บินไปชม ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ที่สนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ พร้อมออกรอบที่สนามลอนดอน กอล์ฟ คลับ สนามแข่งระดับ ยูโรเปียนทัวร์ ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 17-22 กรกฎาคม 2568

9 HOLES COURSE CHALLENGE จะทำการแข่งขันจำนวน 9 หลุมที่สนามริเวอร์เดล โดยแบ่งสนามออกเป็น 2 คอร์ส ได้แก่ คอร์ส เอ และ คอร์ส บี เพื่อหาผู้ชนะคอร์สละ 2 คนรับรางวัล “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” ช็อตกันสตาร์ตเวลา 13.00 น. เล่นแบบสโตรกเพลย์นับคะแนนกรอสสกอร์ กรณีเสมอกันจะใช้การแข่งขันตีใกล้ธงที่หลุมพาร์ 3  เพื่อหาผู้ชนะ 2 อันดับแรกที่จะได้สิทธิไปชมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น พร้อมออกรอบที่สนามดังประเทศอังกฤษ สามารถยืนยันสิทธิ์ และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook - Singha World of Sport

“สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เฟ้นหาสุดยอด 8 นักกอล์ฟไทย ตามติด “ดิ โอเพ่น”

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ต่อยอด "โกลบอล สปอร์ต พาร์ทเนอร์ชิพ" และความสำเร็จจากการแข่งขันเวอร์ชวลกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุด “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์” ปีนี้เพิ่ม 19 สนามทั่วประเทศ หาสุดยอด 8 นักกอล์ฟไทยร่วมสัมผัสประสบการณ์ทัวร์นาเมนต์ระดับโลกอย่าง “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 ถึงขอบสนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ พร้อมออกรอบถึงสนามลอนดอน กอล์ฟ คลับ หนึ่งในสนามแข่งระดับ ยูโรเปี้ยนทัวร์ ระหว่างวันที่ 13-22 กรกฎาคม 2568 

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมากมาย รวมถึงกอล์ฟรายการเก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งของโลกอย่าง “ดิ โอเพ่น” เผยว่า เป็นปีที่ 3 ที่ “สิงห์” และ “ดิ โอเพ่น” ได้ร่วมงานกัน และปีนี้เราต่อยอดความสำเร็จจากการแข่งขัน “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” ในปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มสนามรอบคัดเลือกเป็น 19 สนามทั่วประเทศ ซึ่งผู้ชนะจะร่วมเดินทางไปชมการแข่งขัน “ดิ โอเพ่น” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นปีที่ 2 และจะได้ไปออกรอบที่สนามลอนดอน กอล์ฟ คลับ หนึ่งในสนามแข่งระดับ ยูโรเปี้ยนทัวร์ เชื่อว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับนักกอล์ฟชาวไทย ที่จะได้ไปร่วมชมการแข่งขันกอล์ฟรายการที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ร่วมกับ “สิงห์” ในฐานะแบรนด์ไทยหนึ่งเดียวที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ “ดิโอเพ่น”

สิงห์ ในฐานะโกลบอล พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ ของสุดยอดการแข่งขันกอล์ฟรายการเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง “ดิ โอเพ่น” (The Open) ซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 153 ปี ซึ่งในปีที่ 3 ของการเป็นออฟฟิเชียล เบียร์ ซัพพลายเออร์ (Official Beer Supplier) “สิงห์” สร้างประสบการณ์กอล์ฟทัวร์นาเม้นต์ระดับโลก จัดการแข่งขัน "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" ปี 2 เพื่อเฟ้นหายอดฝีมือคนไทยร่วมชม “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 แบบติดขอบสนามรอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ พร้อมออกรอบไกลถึงสนามกอล์ฟ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 13-22 กรกฎาคม 2568

สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์ เป็นการแข่งขันเวอร์ชวลกอล์ฟ “9 Holes Virtual Golf Challenge” ผ่านเครื่อง TRACKMAN 4 จำนวน 9 หลุมบนสนามจำลองของ รอยัล พอร์ตรัช สังเวียนดิ โอเพ่นในปีนี้ คิดคะแนนแบบสโตรกเพลย์ เพื่อหานักกอล์ฟทั้งหมด 200 คน จากทั้งหมด 19 สนามทั่วประเทศ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไฟนัล สเตจ ต่อไป โดยรอบคัดเลือกจะแข่งขันระหว่างวันที่ 1-31 มีนาคมนี้ 

รอบคัดเลือก “9 Holes Virtual Golf Challenge” ทั้งหมด 19 สนามทั่วประเทศ ได้แก่ โพธาลัย แบงค็อก, กอล์ฟ พ้อยต์ เซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ, โฮม ออฟ กอล์ฟ, เดอะ เพลย์เยอร์ คลับ, CCK GIC, แฟร์เวย์ กอล์ฟ, FRONT 9,  อีเกิ้ล วัน, เกมส์ สมิธ, UDI กอล์ฟ, ซีเคร็ท บีเคเค กอล์ฟ, สวิง เอ็นจิ้น, กอล์ฟ พาร์ทเนอร์ อาคารเคียนหงวน 3, กอล์ฟ พ้อยต์ เซ็นเตอร์เชียงใหม่, กอล์ฟ โซน ร้อยเอ็ด, สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น, ลิมิตเลส กอล์ฟ สตูดิโอ ภูเก็ต, กอล์ฟฮับ ภูเก็ต และ 88 กอล์ฟคลับ ภูเก็ต

รอบชิงชนะเลิศ “9 Holes Virtual Golf Challenge Final Stage” จะเล่นกันที่สนามโพธาลัย แบงค็อก ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ผู้ทำคะแนนดีที่สุด 4 อันดับแรกจะได้รับรางวัล “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” เดินทางไปชมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ที่สนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือทันที ขณะที่อันดับ 5-120 จะได้สิทธิผ่านเข้าสู่รอบพิเศษ “9 HOLES COURSE CHALLENGE” การแข่งขันออกรอบสนามกอล์ฟจริงจำนวน 9 หลุม โดยแบ่งสนามออกเป็น 2 คอร์ส เก้าหลุมแรกและเก้าหลุมหลัง คิดคะแนนแบบสโตรกเพลย์ ผู้ที่จบสองอันดับแรกของแต่ละคอร์สจะได้รางวัล “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” บินไปชม ดิ โอเพ่น เช่นเดียวกัน โดยทั้ง 8 คน จะได้ออกรอบไกลถึงสนามกอล์ฟ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 13-22 กรกฎาคม 2568 สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line : @singhagolf และ Facebook : Singha World of Sports  

            

กลยุทธ์ "โกลบอล สปอร์ต พาร์ทเนอร์ชิพ" หรือการเป็นพันธมิตรของกีฬาระดับโลก นอกเหนือจากเป็น ออฟฟิเชียล เบียร์ ซัพพลายเออร์ กับทาง ดิ โอเพ่น กอล์ฟเมเจอร์รายการเก่าแก่ที่สุดของโลก ตั้งแต่ปี 2023 แล้ว การแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ F1 กับการเป็น ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ กับทีมแข่งดังอย่าง Infiniti Red Bull Racing ระหว่างปี 2010-2015 และหลังจากนั้นกับอีกหลายทีม ทั้ง Scuderia Ferrari ระหว่างปี 2016-2018, Alfa Romeo F1 Team ระหว่างปี 2019-2023 และล่าสุดกับ Stake F1 Team Kick Sauber ระหว่างปี 2024-ปัจจุบัน นอกจากนั้นในปี 2014 ยังเป็นพาร์ทเนอร์ ออฟ โมโตจีพี หรือการแข่งขัน มอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่มีผู้ติดตามชมมากเป็นอันดับ 1 ของโลก จาก 220 ประเทศทั่วโลก และล่าสุด ในปี 2025 กับการเป็น ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ ของ ONE Championship องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่ง ซึ่งเผยแพร่ไปยังผู้ชมกว่า 195 ประเทศทั่วโลก

"สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" ได้ 4 สุดยอดนักกอล์ฟออกรอบ "ดิ โอเพ่น" สกอตแลนด์

"สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" ได้ 4 สุดยอดนักกอล์ฟฝีมือดี ที่ผ่านการดวลวงสวิงรอบสุดท้าย 9 Holes Course Challenge Final Stage ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ ในวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสุดยอดนักกอล์ฟทั้ง 4 คนจะได้รางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ไปออกรอบตามรอยโปร ซึ่งเป็นสนามที่ใช้แข่งขัน “ดิ โอเพ่น” ในปี 2024 ถึงสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ 

เข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้าย 9 Holes Course Challenge Final Stage ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ นักกอล์ฟทั้ง 183 คนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 9 หลุม โดยกลุ่ม A จะออกสตาร์ทหลุม 1-9 ส่วนกลุ่ม B จะดวลวงสวิงที่หลุม 10-18 แชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม จะรับรางวัลสุดพิเศษไปออกรอบถึงสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ 

ผลการแข่งขันหลังผ่าน 9 หลุม กลุ่ม A "โบ๊ท" นฤดล ยี่จีน คว้าแชมป์ด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์ เป็นแต้มที่สูงที่สุดของการแข่งขัน ส่วนรองแชมป์กลุ่มเอ ได้แก่ ธวัชชัย เฉลิมทรัพย์ สกอร์ 1 โอเวอร์

"โบ๊ท" นฤดล แชมป์กลุ่ม A ที่ตีสกอร์สูงสุดของการแข่งขัน เผยว่า ดีใจมากครับ ผมคัดเลือกที่สนามโพธาลัย กรุงเทพฯ ได้อันดับ 4 ผ่านเข้ามาเล่นรอบนี้ ผมทุ่มเทซ้อมหนักมาก แทบทุกวัน เพราะการแข่งขันดิ โอเพ่น ถือเป็นหนึ่งความฝันของคนตีกอล์ฟที่จะได้ไปสัมผัส ยิ่งได้ไปออกรอบที่สนามรอยัล ทรูน นี่มันยิ่งกว่าความฝัน ขอบคุณสิงห์มากครับที่ทำฝันของผมให้เป็นจริง"

ส่วนกลุ่ม B หลังจากขับเคี่ยวกัน 9 หลุม ปรากฎว่าต้องครองแชมป์ร่วมกันด้วยสกอร์ 1 อันเดอร์ เป็น 2 ผู้เข้ารอบจาก 3 Holes Driving Challenge สนามโพธาลัย กรุงเทพฯ ได้แก่ ทัศนีย์ กำแพงนิล และ วิศรุต ไมตรียืนยง ทั้งคู่จะรับรางวัลสุดพิเศษไปออกรอบถึงสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ 

"ข้าวหอม" ทัศนีย์ เผยว่า ดีใจมาก ถือเป็นความฝันของนักกอล์ฟทุกคน ที่จะได้ไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ในการแข่งขันกอล์ฟดิ โอเพ่น และได้เดินทางไปร่วมทริปกับน้องสาวอย่าง "น้ำหวาน" นรีรัตน์ กำแพงนิล ที่เป็นแชมป์ 3 Holes Driving Challenge สนามโพธาลัย กรุงเทพฯ ส่วนตัวข้าวหอมเข้ารอบมาเป็นอันดับ 8 ในสนามนั้น ก็ตั้งใจซ้อมเตรียมตัวสำหรับรายการนี้ ดีใจมากๆ เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะไม่มีวันลืม ขอบคุณ สิงห์ มาก ๆ ค่ะ สำหรับกิจกรรมดี ๆ แบบนี้

สรุปผู้ชนะจากการแข่งขันรอบสุดท้าย 9 Holes Course Challenge Final Stage ได้เดินทางไปชม “ดิโอเพ่น” ครั้งที่ 152 และออกรอบที่สนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ สนามแข่งขันได้แก่ นฤดล ยี่จีน, ธวัชชัย เฉลิมทรัพย์, ทัศนีย์ กำแพงนิล และ วิศรุต ไมตรียืนยง ส่วนผู้ที่จะเดินทางร่วมทริปไปชมกอล์ฟ “ดิ โอเพ่น” แชมป์จาก 3 Holes Driving Challenge ทั้ง 5 ภูมิภาคได้แก่ นรีรัตน์ กำแพงนิล จากสนามโพธาลัย กรุงเทพฯ, กิตติพงศ์ บุบผา รองแชมป์จากสนามภาคตะวันออก สยามคันทรีคลับ พัทยา, อีแวน เบอฟอร์ด จากสนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต, จิรัฏณัฏฐ์ โชคไพบูลย์ จากสนามเอ็มสปอร์ต เชียงใหม่ และภูษณิศา เอกก้านตรง จากสนามไดร์ฟ สิงห์ ปาร์ค จังหวัดขอนแก่น โดยมีคุณวิรุฬห์ ภัทรมนัสกุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกิจกรรม และ Sport Sponsorship บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เป็นผู้มอบรางวัล

สิงห์ ในฐานะโกลบอล พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ ของสุดยอดการแข่งขันรายการเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง "ดิ โอเพ่น" (The Open) ซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 152 ปี ซึ่งในปีที่ 2 ของการเป็นออฟฟิศเชียล เบียร์ พาร์ทเนอร์ (Official Beer Partner) "สิงห์" สร้างประสบการณ์กอล์ฟทัวร์นาเม้นต์ระดับโลก จัดการแข่งขัน "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" เฟ้นหายอดฝีมือคนไทยร่วมชมแบบติดขอบสนาม และพาไปออกรอบถึงสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ โดยนักกอล์ฟยอดฝีมือทั้ง 9 คน จะออกเดินทางระหว่างวันที่ 19-23 กรกฎาคม 2567 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.singhathailandchallenge.com

"สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" สนาม 3 จ.ภูเก็ต "หนุ่มออสซี่" คว้าตั๋วเตรียมบินชม "ดิ โอเพ่น" ติดขอบสนาม

"อีแวน เบอฟอร์ด" (Evan Burford) ชาวออสเตรเลีย ผู้ชนะในสนาม 3 จ.ภูเก็ต "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" เฟ้นหายอดฝีมือคนไทยร่วมชมแบบติดขอบสนาม และพาไปออกรอบถึงสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นสนามแข่งขันในปี 2024 สิงห์ ในฐานะพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ ของสุดยอดการแข่งขันรายการเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง “ดิ โอเพ่น” (The Open) ซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 152 ปี ซึ่งในปีที่ 2 ของการเป็นออฟฟิศเชียล เบียร์ พาร์ทเนอร์ (Official Beer Partner)  “สิงห์” สร้างประสบการณ์กอล์ฟทัวร์นาเม้นต์ระดับโลก จัดการแข่งขัน "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" 

ผู้ชนะในสนาม 3 เป็น "อีแวน เบอฟอร์ด" ชาวออสเตรเลีย ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จบ 3 หลุม 3 Holes Driving Challenge  สกอร์  1 อันเดอร์ การันตีการได้สิทธิ์บินลัดฟ้าไปชมกอล์ฟ ดิโอเพ่น แบบติดขอบสนาม โดยมีคุณวิรุฬห์ ภัทรมนัสกุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกิจกรรม และ Sport Sponsorship บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เป็นผู้มอบรางวัล ยิ่งไปกว่านั้นยังคัด 40 อันดับแรก รวมแต่ละสนาม 200 คน ได้ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้าย 9 Holes Course Challenge Final Stage เพื่อชิงชัยการเป็นสุดยอดนักกอล์ฟ Top 4 ออกรอบตามรอยโปรที่สนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นสนามแข่งขัน The Open ในปีนี้

สำหรับการแข่งขัน "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" เปิดรับสมัครนักกอล์ฟสมัครเล่นที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เข้าร่วมแข่งขันทั้ง 5 ภูมิภาคในรูปแบบใหม่ 3 Holes Driving Challenge  โดยจะเป็นการจำลองการตีสโตรคเพลย์ 3 หลุม คือหลุม 6-8 ของสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ ผ่านเครื่อง Trackman ที่จะโชว์ภาพจำลองและระยะของสนามจริง ณ สนามไดร์ฟ 5 จังหวัดทั่วประเทศ ต่อเนื่องสนาม 3 ที่สนามไดร์ฟ ลากูน่า จ.ภูเก็ต ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา

การแข่งขัน "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" สนามต่อไปจะจัดขึ้นวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 สนาม เอ็ม สปอร์ต จังหวัด เชียงใหม่ และวันที่ 1 มิถุนายน 2567 สนามไดร์ฟ สิงห์ ปาร์ค จังหวัดขอนแก่น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.singhathailandchallenge.com

"สิงห์" จัด "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" หายอดฝีมือกอล์ฟ ลุยรอยัล ทรูน สกอตแลนด์ พร้อมชม "ดิ โอเพ่น" ติดขอบสนาม

สิงห์ ในฐานะโกลบอล พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ ของสุดยอดการแข่งขันรายการเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง “ดิ โอเพ่น” (The Open) ซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 152 ปี ซึ่งในปีที่ 2 ของการเป็นออฟฟิศเชียล เบียร์ พาร์ทเนอร์ (Official Beer Partner) ล่าสุด “สิงห์” สร้างประสบการณ์กอล์ฟทัวร์นาเม้นต์ระดับโลก จัดการแข่งขัน "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" เฟ้นหายอดฝีมือคนไทยร่วมชมแบบติดขอบสนาม และพาไปออกรอบถึงสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นสนามแข่งขันในปี 2024

คุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมากมาย เปิดเผยว่า เป็นปีที่ 2 แล้วที่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับ ดิโอเพ่น ซึ่งความพิเศษของปีนี้ก็คือเราเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้มีโอกาสไปชมใกล้ชิดแบบติดขอบสนามของการแข่งขันกอล์ฟที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งได้มีโอกาสออกรอบที่สนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์

สำหรับการแข่งขัน "สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์" เปิดรับสมัครนักกอล์ฟสมัครเล่นที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เข้าร่วมแข่งขันทั้ง 5 ภูมิภาคในรูปแบบใหม่ 3 Holes Driving Challenge powered by TRACKMAN โดยจะเป็นการจำลองการตีสโตรคเพลย์ 3 หลุม คือหลุม 6-8 ของสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ ผ่านเครื่อง Trackman ที่จะโชว์ภาพจำลองและระยะของสนามจริง ณ สนามไดร์ฟ 5 จังหวัดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 27 เมษายน สนามโพธาลัย กรุงเทพฯ, วันที่ 4 พฤษภาคม สนามไดร์ฟ สยาม คันทรีคลับ พัทยา จ.ชลบุรี, วันที่ 11 พฤษภาคม สนามไดร์ฟ ลากูน่า จังหวัดภูเก็ต, วันที่ 25 พฤษภาคม สนาม เอ็ม สปอร์ต จังหวัด เชียงใหม่ และวันที่ 1 มิถุนายน สนามไดร์ฟ สิงห์ ปาร์ค จังหวัดขอนแก่น 

ผู้ชนะในแต่ละสนามจะการันตีการได้สิทธิ์บินลัดฟ้าไปชมกอล์ฟ ดิโอเพ่น แบบติดขอบสนาม ยิ่งไปกว่านั้น 40 อันดับแรกในแต่ละสนาม 3 Holes Driving Challenge รวม 200 คน จะถูกแบ่งเป็น 4 กลุ่ม และได้ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบ 9 Holes Course Challenge Final Stage การแข่งขันออกรอบ 9 หลุมแบบสโตรคเพลย์ ที่สนามริเวอร์เดล และบางกอก กอล์ฟคลับ จ.ปทุมธานี ในวันที่ 8 มิถุนายน 2567 โดยผู้ชนะในแต่ละกลุ่มจะได้รับรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บินไปเชียร์และมีโอกาสได้ตีตามรอยโปรกอล์ฟระดับโลกในสนามรอยัล ทรูน ประเทศสกอตแลนด์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.singhathailandchallenge.com

กระหึ่ม! "ดิ โอเพ่น" กอล์ฟเมเจอร์เก่าแก่ที่สุด ประกาศ "สิงห์" เป็น ออฟฟิเชียล เบียร์ พาร์ทเนอร์

คุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า สิงห์ มีโอกาสร่วมงานกับพาร์ทเนอร์วงการกีฬาระดับโลกมานาน ทั้งสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี้ การเป็นพาร์ทเนอร์กับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี และการเข้าสู่วงการแข่งรถสูตรหนึ่ง หรือ เอฟวัน ซึ่งถือเป็นเบียร์สองแบรนด์แรกที่เข้ามาสนับสนุนวงการแข่งรถเอฟวัน โดยสิงห์ได้เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนทีมแข่งที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก อย่าง ทีมเรดบูล เรซซิ่ง หรือ เฟอร์รารี่ จนถึงทีมระดับตำนานอย่าง อัลฟ่า โรมิโอ ในปัจจุบัน ทำให้สิงห์เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับโลก จนเมื่อปีที่ผ่านมา "ดิ โอเพ่น" ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อเสนอการทำงานร่วมกับเราในฐานะ ออฟฟิเชียลเบียร์พาร์ทเนอร์ จนบรรลุข้อตกลง ในระหว่างปี 2023-2025

"วันนี้สิงห์ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น เป็นแบรนด์ไทยที่คนทั่วโลกรู้จัก และเข้าไปมีส่วนร่วมในกีฬายอดนิยมหลายๆชนิดที่มีผู้ติดตามทั่วโลก ทำให้แบรนด์สิงห์ และสินค้าของเราได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอังกฤษและทวีปยุโรป ซึ่งน่าจะทำให้ภาพรวมของสินค้าจากประเทศไทยเป็นที่รู้จักและมั่นใจในคุณภาพมากขึ้นด้วย การเข้ามาสนับสนุน ดิ โอเพ่น ซึ่งเป็นกอล์ฟระดับเมเจอร์รายการที่เก่าแก่ที่สุด จัดเป็นครั้งที่ 151 เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันกอล์ฟมีแฟนๆกีฬาทั่วโลกเฝ้ารอคอย เหมือนเป็นอีกก้าวสำคัญในการมีส่วนร่วมในวงการกีฬาระดับโลกของสิงห์อีกครั้ง"

นีล อาร์มิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด อาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขัน ดิ โอเพ่น กล่าวว่า สิงห์ เป็นเบียร์พรีเมี่ยมของไทยที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา พวกเรารับรู้ว่า สิงห์ เป็นผู้สนับสนุนหลักของวงการกอล์ฟไทยมาตลอด ทั้งในการสร้างนักกอล์ฟระดับอาชีพ รวมถึงสมัครเล่น จนนักกอล์ฟไทยหลายคนประสบความสำเร็จในระดับโลก เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้ได้ร่วมงานกับ สิงห์ ในฐานะ ออฟฟิเชียล เบียร์ พาร์ทเนอร์ ของการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ตั้งแต่ปี 2023-2025