เนสท์เล่ จับมือ สผ. ดำเนินงานด้านอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ สู่เป้าหมาย OECMs ในระดับโลก

บ.เนสท์เล่ (ไทย) จับมือ สผ. ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตพื้นที่คุ้มครอง ผลักดันโครงการ "เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ" ให้เป็นต้นแบบของการดำเนินงานการอนุรักษ์ฟื้นฟูด้านความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับพื้นที่บนบกและแหล่งน้ำบนบก

วันที่ 19 ก.ย. 2567 นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เนสท์เล่ มีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา หรือ Good for the Planet โดยได้ดำเนินการด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ความยั่งยืนของแหล่งเพาะปลูกในกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ ได้ดำเนินโครงการดูแลและฟื้นฟูแหล่งน้ำจนมีความสำเร็จเป็นรูปธรรม สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สผ. ได้เล็งเห็นถึงความตั้งใจและความสำเร็จของโครงการเนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ และจะร่วมกันใช้ความเชี่ยวชาญในการต่อยอดโครงการเพื่อสร้างความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่ระบบนิเวศบริเวณคลองขนมจีน และสร้างความยั่งยืนได้อย่างครบทุกมิติ  อีกทั้งยังเป็นการสร้างเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพแก่สังคมในวงกว้างอีกด้วย

นายประเสริฐ ศิรินภาพร เลขาธิการสผ. เผยว่า สผ.มีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และ สผ. ได้มีโอกาสสร้างความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการสำหรับการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม การดำเนินงานนโยบายเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยในปัจจุบัน มุ่งหมายที่จะตอบสนองทิศทางตามกรอบงานคุนหมิง – มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก (Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework) หรือ "Biodiversity Plan" ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ความร่วมมือในวันนี้จะเป็นตัวช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ของแผนการดำเนินงานทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

5 มิ.ย. วันสิ่งแวดล้อมโลก "ทรู-ดีแทค" เปิดแนวทางรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ รอบเสาสัญญาณครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย

หนึ่งในภารกิจหลักหลังการควบรวมทรู-ดีแทค คือ การส่งมอบเครือข่ายสัญญาณที่ดียิ่งกว่า ครอบคลุมยิ่งขึ้นทั่วไทย โดยที่ผ่านมา การติดตั้งเสาสัญญาณ นอกเหนือจากจะต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่กสทช.กำหนดไว้แล้ว ทุกพื้นที่ที่ทรูและดีแทคติดตั้งเสาสัญญาณจะมีการนำปัจจัยเรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ Biodiversity มาใช้ในการวางแผน โดยทีมปฏิบัติการจะทำการสำรวจสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ในระบบนิเวศรอบพื้นที่เสาสัญญาณ ควบคู่กับการปลูกต้นไม้เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสมบูรณ์ของสัตว์และพันธุ์พืช เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียคุณค่าด้านความหลากหลายทางชีวภาพสุทธิ และไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้สุทธิ ภายในปี 2573 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ หรือ SDGs "เป้าหมายที่ 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และส่งเสริมการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน" โดยมีกระบวนการที่ชัดเจน ตั้งแต่

1. คัดกรองและคัดเลือกพื้นที่ตั้งเสาสัญญาณ หากพิจารณาว่าพื้นที่โดยรอบที่ตั้งเสาสัญญาณนั้นมีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็น สัตว์สายพันธุ์เล็ก สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ความหลากหลายของพันธุ์พืช ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ก็จะส่งประเมินความเสี่ยงต่อไป

2. ประเมินและจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่เสี่ยง โดยนำไปประเมินเชิงลึกผ่านโปรแกรมมาตรฐานระดับโลก คือ Biodiversity and Ecosystem Services Trends and Conditions Assessment Tool (BESTCAT) เพื่อทำการคัดกรองพื้นที่อ่อนไหว ซึ่งมีมาตรกำหนดวัดระดับความรุนแรงของผลกระทบตั้งแต่ต่ำสุดถึงสูงสุดที่ 0 – 100  อาทิ มีชนิดพันธุ์ถูกคุกคามมากน้อยแค่ไหนในพื้นที่รัศมี 10 ตารางกิโลเมตรจากเสาสัญญาณที่ติดตั้ง

3. ดำเนินตามแผนแก้ไข ป้องกัน เพื่อลดผลกระทบ โดยยึดหลักบรรเทาผลกระทบตามลำดับชั้น ตั้งแต่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบ ลดผลกระทบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  ฟื้นฟูสภาพพื้นที่ด้วยการปลูกพรรณไม้ท้องถิ่น และชดเชยด้วยการปลูกต้นไม้นอกพื้นที่โครงการ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทั้งทรูและดีแทคได้ดำเนินการในพื้นที่ที่ใกล้ชิดแหล่งธรรมชาติ คือการจัดทำเสาสัญญาณที่ออกแบบเป็นเสาต้นไม้ เพื่อให้กลมกลืนกับทัศนียภาพ เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบข้างและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่

4. สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยรอบ โดยชักชวนผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในสังคมยุคดิจิทัลเพื่อสร้างแหล่งที่อยู่อันอุดมสมบูรณ์ให้แก่สิ่งมีชีวิตผ่านแอป We Grow โดยในปี 2564 ได้สร้างพื้นที่สีเขียวได้ถึง 165 ไร่ และคาดว่าจะดูดซับก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ถึง 2,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2573

จากผลการศึกษาในปี 2564 พบว่ามีพื้นที่เสาสัญญาณที่อาจอยู่ในระดับเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ คิดเป็นสัดส่วนที่ 0.38% ซึ่งจะต้องนำไปประเมินเพิ่มเติม พร้อมหารือผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนดำเนินการแก้ไข ป้องกัน และลดผลกระทบอย่างเคร่งครัด