ททท.จับมือ ส.คิกบ็อกซิ่ง และ จ.กำแพงเพชร จัดกิจกรรม KIDS KAT TOURISM AND TRAINING CAMP 2025

วันที่ 27 กันยายน 2568 เรืออากาศตรีหญิง ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ เลขาธิการสมาคมคิกบ็อก ซิ่งแห่งประเทศไทย และ นาย กมล สิมเมือง อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานร่วม ในโครงการ KIDS KAT TOURISM AND TRAINING CAMP 2025 ณ โรงแรม ชากังราว ริเวอร์วิว จ.กำแพงเพชร โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกำแพงเพชร จัดขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และ สนับสนุนให้ชุมชนร่วมมือกันและใช้เอกลักษณ์ของชุมชน พัฒนาโอกาสในการสร้างรายได้จากการจัดกิจกรรมกีฬาในจังหวัด โดยร่วมกันพัฒนาชุมชนให้สามารถรองรับการจัดกิจกรรมกีฬาที่น่าสนใจ เพื่อรองรับการเป็นชุมชนกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวในอนาคต

เรืออากาศตรีหญิง ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ เลขาธิการสมาคมคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ต้องการส่งเสริมเยาวชน ให้มีความรู้ และความเข้าใจใน กฎกติกาของกีฬา kickboxing เพราะเป้าหมายของสมาคม ต้องการที่จะเป็น Kickboxing Hub ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในระดับเอเชียให้ได้ ด้วยประเทศไทยมีฐานกีฬาต่อสู้ที่เป็นที่นิยมมากคือ มวยไทย และกีฬาต่อสู้ต่อ ทั้ง MMA, เทควันโด้, ยูยิตสู เป็นต้น

ดังนั้น KIDS KAT TOURISM AND TRAINING CAMP 2025 ครั้งที่ 1 ถือเป็นโอกาสที่ดีมากในการให้ความรู้แก่นักกีฬาเยาวชน และส่งเสริมการต่อยอดจากการที่กีฬาคิกบ็อกซิ่ง ที่ได้ถูกบรรจุในกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ และกิจกรรมนี้ถือเป็นการจัดงานแบบ (Sport Tourism) ที่ทำให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว จากเมืองหลัก ไปสู่เมืองรองมากขึ้นตาม โครงการ ‘เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration’ ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของเรา ซึ่งเรียกว่าเป็นการบูรณาการให้เกิดการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยใช้กีฬาเป็นสื่อ อันจะนำมาซึ่งการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร 

 

ครั้งแรกในไทย!!  ระเบิดศึก "คิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก" นักชกทั่วโลกกว่า 800 ชีวิต พาเหรดร่วมประชันกำปั้น เพื่อชิงแชมป์โลก  

สมาคมกีฬาคิกบ๊อกซิ่งแห่งประเทศไทย และสหพันธ์คิกบ๊อกซิ่งนานาชาติ หรือ วาโก้ (WAKO) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย เดินหน้าจัดการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก รายการ “1st Thailand Kickboxing World Cup 2025” (ไทยแลนด์ คิกบ๊อกซิ่ง เวิลด์คัพ 2025 ครั้งที่ 1) นักชกจากทั่วโลกกว่า 800 ชีวิต พาเหรดเข้าร่วมประชันกำปั้นสุดมันส์ เพื่อชิงแชมป์โลกครั้งแรกในประเทศไทย 

การแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก รายการ“1st Thailand Kickboxing World Cup 2025” (ไทยแลนด์ คิกบ๊อกซิ่ง เวิลด์คัพ 2025 ครั้งที่ 1) ที่ อาคารกีฬาเวสน์ 1ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 โดยมี นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานเปิดการแข่งขีน ร่วมด้วย นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร และ นาย ไผ่ ลิกค์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ๊อกซิ่งแห่งประเทศไทยในฐานะผู้จัดการแข่งขัน

รายการนี้ สมาคมกีฬาคิกบ๊อกซิ่งแห่งประเทศไทย และสหพันธ์คิกบ๊อกซิ่งนานาชาติ หรือวาโก้ (WAKO) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จัดขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมจัดการแข่งขัน เพื่อเก็บคะแนนสะสมชิงตำแหน่งแชมป์โลกคิกบ๊อกซิ่งประจำปี 2025 สร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็น“ซอฟท์พาวเวอร์ ด้าน“กีฬา” ให้โดดเด่นในเวทีโลก และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศไทย กำหนดรวมพลนักชกจากทั่วโลกกว่า 800 คน ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย.นี้ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ดินแดง

นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า “การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติจาก World Association of Kickboxing Organizations หรือ WAKO (วาโก้) ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่ง“1st Thailand Kickboxing World Cup 2025” ในครั้งนี้นับเป็นเรื่องน่ายินดี และเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งในการยกระดับประเทศไทยให้มุ่งสู่การเป็น จุดหมายปลายทางแห่งการแข่งขันกีฬาระดับโลก หรือ “Sport and Entertainment Destination” ตามนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือประสานงาน และศักยภาพของสมาคมกีฬาคิกบ๊อกซิ่งแห่งประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับจาก World Association of Kickboxing Organizations หรือ WAKO (วาโก้) ซึ่งเป็นเป็นสหพันธ์กีฬานานาชาติที่กำกับดูแลนักกีฬาคิกบ๊อกซิ่งทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ WAKO เลือกให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพสนามแข่งขันระดับโลกซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยด้วยแล้ว นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่ประเทศไทยจะได้โอกาสสร้างชื่อเสียงโดดเด่นในเวทีคิกบ๊อกซิ่งโลก ก็ต้องขอขอบคุณ Mr. Roy Baker WAKO President (มิสเตอร์ รอย เบเกอร์ ประธานสหพันธ์คิกบ๊อกซิ่งนานาชาติ)  ที่มองเห็นศักยภาพและใว้วางใจประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขัน ครั้งนี้

นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร เผยว่า ในฐานะเจ้าบ้านกรุงเทพมหานคร มีศักยภาพ และความพร้อมอย่างสูงสุดที่จะเป็นเจ้าภาพจัด มหกรรมการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น การแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่ง“1st Thailand Kickboxing World Cup 2025”ครั้งนี้ ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการแข่งขัน สถานที่แข่งขัน การต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรีของคนไทย การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ การคมนาคมที่มีความสะดวกปลอดภัย ห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัย โรงแรมระดับ 5 ดาว อาหารไทยที่ขึ้นชื่อหลากหลาย แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สวยงาม จนได้รับการจัดอันดับจากหนังสือคู่มือการเดินทางท่องเที่ยวระดับโลก “โลนลี่ แพลนเน็ต” (Lonely Planet) ให้ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่น่าเดินทางมาเยือนประจำปี 2025 (Best in Travel 2025) ในหัวข้อเมืองที่มีศิลปะการแสดงที่มีมากกว่าวัฒนธรรมของไทย (Best Drag Shows) อีกด้วย 

“กรุงเทพมหานคร มั่นใจว่าตลอดระยะเวลาการแข่งขันนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ WAKO (วาโก้) ทุกท่าน จะได้รับการต้อนรับด้วยไมตรีจิตที่อบอุ่น และเป็นมิตรจากชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้แก่นักกีฬาทุกคนที่มาเยือนกรุงเทพมหานคร ได้อย่างแน่นอน”

นาย ไผ่ ลิกค์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ๊อกซิ่งแห่งประเทศไทยในฐานะผู้จัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า “การที่World Association of Kickboxing Organizations หรือ WAKO ซึ่งเป็นสหพันธ์กีฬานานาชาติที่กำกับดูแลนักกีฬาคิกบ๊อกซิ่ง (โดยได้รับการรับรองจากIOC) ได้คัดเลือกให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาคิกบ๊อกซิ่งเก็บคะแนนสะสมเพื่อชิงแชมป์โลก ที่ กรุงเทพมหานคร โดยมอบความไว้วางใจให้สมาคมกีฬาคิกบ๊อกซิ่งแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการจัดแข่งขัน ซึ่งนับเป็นการจัดการแข่งขันคิกบ๊อกซิ่งระดับชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกของประเทศไทยนั้น เป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของกีฬาคิกบ๊อกซิ่งในภูมิภาคเอเชีย ต่อไปในอานคต ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณการจัดแข่งขันจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยบูรณาการความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน เป็นอย่างดี”

“ทัวร์นาเม้นท์นี้ มีนักกีฬาคิกบ๊อกซิ่งตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงระดับ อาวุโส จำนวน 800 คน จาก 40 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขัน แบ่งรุ่นน้ำหนักตัวตามมาตรฐาน WAKO ทั้งในประเภท Ring, Tatami sports Fights และ Musical Forms ผลการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการเก็บคะแนนสะสมจัดอันดับโลก (World Ranking) เพื่อตัดสินความเป็นแชมป์โลกนักกีฬาคิกบ๊อกซิ่งต่อไป ซึ่งจะใช้ กฎ กติกา กรรมการผู้ตัดสิน และดำเนินการแข่งขัน ตามมาตรฐานสหพันธ์กีฬาคิกบ๊อกซิ่งสากล (WAKO) อย่างเคร่งครัด”

“ผมมั่นใจว่าการแข่งขันครั้งนี้ จะสร้างโอกาสให้กับนักกีฬาคิกบ๊อกซิ่งชาวไทย และทั่วโลก ทั้งระดับสมัครเล่น และระดับอาชีพ ได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง และยังเป็นโอกาสในการคัดเลือกนักกีฬาที่มีความสามารถโดดเด่น เข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ เช่น เวิลด์เกมส์ อีกด้วย นอกจากนี้ยังจะสร้างภาพลักษณ์ด้านกีฬาคิกบ๊อกซิ่งของไทยให้โดดเด่นในเวทีโลก พัฒนาต่อยอดเยาวชน ตลอดจนดึงดูดให้นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สื่อมวลชน Social Media Influencers ที่นิยมกีฬาคิกบ๊อกซิ่งจากทั่วโลก และในประเทศไทย จำนวนมากเข้ามาร่วมชม และเผยแพร่การแข่งขันออกไป ซึ่งจะสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลว่าด้วยการส่งเสริมให้มีการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายแห่ง Entertainment&Sport Destination ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อน ยกระดับ และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน ต่อไปในอนาคต ขอชวนพี่น้องชาวไทยมาร่วมกันให้กำลังใจเชียร์นักชกไทยกันได้ฟรีตลอดทั้ง 3 วัน”

สำหรับ ผลการแข่งขันวันแรก ประเภทริง สปอร์ต ที่แบ่งเป็น 3 ประเภท เริ่มจาก ประเภทฟูลคอนแท็ก รุ่น 63.5 กก.ชาย รอบแรก หรือ รอบก่อนรองชนะเลิศ "ษิณ" ทักษิณ ถาพันธ์ นักมวยไทยจากศรีสะเกษ แข่งครั้งแรก สามารถเอาชนะคะแนน คู่แข่งจาก เติร์กเมนิสถาน อัลลาเบอร์ดีเยฟ มูฮัมเหม็ดเบอร์ดี  ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ได้สำเร็จ ส่วน รุ่น 67 กก.ชาย พลฯ ทหาร เศรฐธร บุญจันทร์ นักชกไทย สังกัดทีมกองทัพภาคที่ 3 แข่ง 3 ยก ชนะคะแนน ฮัว หยาง ชาวไต้หวัน ด้วยสกอร์ 3-0 คะแนน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ 

รายการนี้ แบ่งเป็น 7 ประเภท ได้แก่ ประเภทริง สปอร์ต ที่แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทฟูลคอนแท็ก, ประเภทเค-วัน และ ประเภทโลวคิก ส่วนประเภทาทามิ สปอร์ต 4 ประเภท แบ่งเป๋น ประเภทต่อสู้ 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทพอยท์-ไฟท์ติ้ง, ประเภทไลท์ คอนแทค, ประเภทคิก-ไลท์ และประเภทท่ารำ 1 ประเภท ได้แก่ ประเภทฟอร์ม

ศึกใหญ่ระดับโลก! ไทยเตรียมจัดคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025 รับสงกรานต์ เปิดโอกาสนักกีฬาทั่วโลกสัมผัสประเพณีไทย กระตุ้นท่องเที่ยว

สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานใหญ่ระดับโลก! ในการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่ง รายการ "ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025" (1st Thailand Kickboxing World Cup 2025) ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กรุงเทพฯ ช่วงระหว่างวันที่ 7-12 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นรายการเก็บแรงกิ้งโลกของสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) 

ภายหลังจากประเทศไทยได้รับเกียรติจาก สหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) ให้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคิกบ๊อกซิ่งรายการใหญ่ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะจัดการแข่งขันในช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ เปิดโอกาสให้กับนักกีฬาคิกบ็อกซิ่ง และเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกจะได้ร่วมสัมผัสกับประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยส่งผลในเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปในตัว

ทางสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ภายใต้การเป็นสมาชิกของสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) และสมาพันธ์คิกบ็อกซิ่งแห่งเอเชีย (WAKO ASIA) ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งภาคเอกชน จัดการแข่งขันรายการใหญ่กับการแข่งขันรายการ "ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025" ในครั้งนี้

"ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025" จะมีนักกีฬาจากทุกภูมิภาคหลายประเทศไทยทั่วโลกมาร่วมการชิงชัยด้วยจิตวิญญาณแห่งน้ำใจนักกีฬาและความสามัคคี โดยเหตุผลที่สหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก เลือกประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมากีฬาคิกบ็อกซิ่งในไทยมีการยกระดับการเติบโตอย่างมากและมีความต่อเนื่อง ซึ่งมีการพัฒนาที่สำคัญ ทั้งด้านสถานที่ฝึกซ้อม การมีส่วนร่วมของเยาวชน และรายการแข่งขันระดับมืออาชีพ สมาคมคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนี้ภายใต้กฎกติกาการแข่งขัน และมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลของสหพันธ์ โดยรับรองความยุติธรรม ความปลอดภัย และความเป็นเลิศ ซึ่งหวังว่าจะได้เห็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น การเกิดขึ้นของดาวดวงใหม่ และมิตรภาพที่แน่นแฟ้นภายในครอบครัวคิกบ็อกซิ่งระดับโลก

นายไผ่ ลิกค์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะนายกสมาคมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสได้ต้อนรับชาติสมาชิกทุกคนในครอบครัวของสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการ "ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025" ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทย ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กรุงเทพฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 7-12 เมษายน 2568 โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นภายใต้มาตรฐานสูงสุดที่สหพันธ์กำหนด และจะจัดขึ้นบนสังเวียนการแข่งขันในสถานที่ใจกลางของกรุงเทพฯ เป็นเวทีต้อนรับนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งชั้นนำจากทั่วโลกมาแข่งขันขันกัน และจะได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าในจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพและน้ำใจนักกีฬา

"นอกเหนือจากการแข่งขันแล้วเราเองอยากจะขอเชิญชวนนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งและเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกทุกคนมาสัมผัสความสวยงามของประเทศไทย ซึ่งขึ้นชื่อในด้านวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา อาหารที่อร่อย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดอีกมากมาย โดยกรุงเทพฯ เองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตั้งแต่วัดวาอารามอันสง่างาม ไปจนถึงตลาดที่คึกคักและสถานบันเทิงยามค่ำคืน เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับทุกคนให้เข้าร่วมงานครั้งนี้และสัมผัสกับการต้อนรับของประเทศไทย ซึ่งต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้มเสมอ" นายไผ่ ลิกค์ กล่าว

การแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็น รุ่นทั่วไป และรุ่นเยาวชน โดยในรุ่นทั่วไป อายุ 19-40 ปี มีการแข่งขันประเภทฟูลคอนแทคต์, โลว์คิก, เควัน สไตล์, พอยต์ ไฟติ้่ง, ไลต์ คอนแทคต์ และคิก ไลต์ ทั้งริง สปอร์ต ชาย 12 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 7 รุ่นน้ำหนัก รวมถึง ทาทามิ สปอร์ต ชาย 9 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 6 รุ่นน้ำหนัก ส่วนรุ่นเยาวชนจะแบ่งเป็น รุ่นอายุ 15-16 ปี ริง สปอร์ต ประเภทฟูลคอนแทคต์, โลว์คิก, เควัน สไตล์ ชาย 13 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 8 รุ่นน้ำหนัก และรุ่นอายุ 17-18 ปี ประเภทฟูลคอนแทคต์, โลว์คิก, เควัน สไตล์ ชาย 12 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 7 รุ่นน้ำหนัก ด้านรุ่นเยาวชนอายุ 16-18 ปี ทาทามิ สปอร์ต จะมีประเภทพอยต์ ไฟติ้ง, คิกไลต์, ไลต์ คอนแทคต์ แบ่งเป็น ชาย 9 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 6 รุ่นน้ำหนัก นอกจากนี้ ยังการแข่งขันในรุ่นยุวชน 7-9 ปี, รุ่นยุวชน 10-12 ปี, รุ่นยุวชน 13-15 ปี และการแข่งขันของทหารผ่านศึก รุ่นอายุ 41-55 ปีอีกด้วย

สำหรับ "ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ" จัดการชิงชัยในช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ของประเทศไทย ทำให้นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งและเจ้าหน้าที่จากทั่้วโลกจะมีโอกาสได้สัมผัสกับประเพณีเทศกาลปีใหม่ไทย ในระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ซึ่งจะมีประเพณีดั้งเดิม ทั้งการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่, สรงน้ำพระพุทธรูป และก่อเจดีย์ทราย รวมทั้งกิจกรรมสนุกสนามทั้งการเล่นน้ำ คอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรี ที่จะจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ที่ถนนข้าวสาร, สีลม, เชียงใหม่, พัทยา และภูเก็ต นอกจากนี้ภายในกรุงเทพฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายให้ครอบครัวคิกบ็อกซิ่งได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวชม ทั้งพระบรมมหาราชวัง, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดอรุณราชวราราม, ถนนข้าวสาร, เยาวราช, ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์, ศูนย์การค้าสยาม พารากอน, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ รวมทั้งในจังหวัดต่างๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ทั้งเชียงใหม่, ภูเก็ต, พระนครศรีอยุธยา, กระบี่, พัทยา และอื่นๆ อีกมากมาย จึงนับการจัดการแข่งขันรายการนี้มีส่วนสำคัญทั้งการพัฒนากีฬา และกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย

ปิดฉากคิกบ็อกซิ่ง ปทท. "บิ๊กสมชาย" ปลื้มเจอ "ช้างเผือก" เข้าแคมป์ทีมชาติเพียบ

การแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ,ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024" สนามสุดท้าย รอบแชมป์ออฟแชมป์ ปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ John Paul II Sports Center มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมี "บิ๊กสมชาย" นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขัน โดยมี น.ส.ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ อุปนายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ นำทีมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ผู้ตัดสิน นักกีฬา เจ้าหน้าที่เข้าร่วมจำนวนมาก

ศึกคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 "ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024" สนามสุดท้าย รอบแชมป์ออฟแชมป์ จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม โดยได้นำแชมป์ และรองแชมป์ จากสนามแรก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และสนามที่สอง ที่ จ.ขอนแก่น มาประชันกัน รวมถึงมีนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทยชุดปัจจุบันร่วมลงแข่งขันด้วยเพื่อหายอดฝีมือในแต่ละรุ่นทั้งประเภทริงสปอร์ต และทาทามิ มาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยต่อไปเพื่อไปลุยศึกใหญ่ในระดับนานาชาติทั้งคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย, คิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก และกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ รวมถึงยังจะเป็นการเผยแพร่มาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งของประเทศไทยต่อผู้ชมชาวต่างชาติ และพัฒนากีฬาคิกบ็อกซิ่งสู่ความเป็นเลิศต่อยอดเพื่อความสำเร็จในระดับอาชีพต่อไปในอนาคต

สำหรับผลการแข่งขันรอบแชมป์ออฟแชมป์ที่น่าสนใจมีดังนี้ ประเภทเพอร์ฟอร์แมนซ์ ริงสปอร์ต ได้รับถ้วยรางวัลพร้อมทุนการศึกษา 12,000 บาท ได้แก่ ทีม ส.เดชะพันธ์ ซึ่งนายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ มอบรางวัล 

ส่วนประเภท K1 ประชาชน 19-40 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 54 กก. แชมป์เป็นของ เนติพงษ์ พรหมโคตร (SUPERMAN TEAM) / K1 ประชาชน 19-40 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 63.5 กก. ธนพนธ์ ขนุนอ่อน (ค่ายมวย พรัญชัย) / K1 ประชาชน 19-40 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 75 กก. อารีเพ็ญ กิติยามาตย์ (KICK BOXING SONGKHLA) / K1 ประชาชน 19-40 ปี หญิง น้ำหนักไม่เกิน 52 กก. สุวภัทร นพรัตน์ (มรภ.สุราษฎร์ธานี) / K1 เยาวชน 17-18 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 63.5กก. ธนวัฒน์ สมสง่า (ค่ายมวยศิษย์บอลสกล) / K1 เยาวชน 17-18 ปี หญิง น้ำหนักไม่เกิน 52 กก. วรปภา สีหามาศ (โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา) 
ผู้ที่สนใจสามารถดูผลการแข่งขันได้ที่เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย Kickboxing Association of Thailand

“บิ๊กสมชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ เล็งเห็นความสำคัญการเติบโตของวงการคิกบ็อกซิ่งในประเทศไทย ไม่เพียงแต่มวยไทยที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สำหรับศึกคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 “ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024 ที่จบลงไปภาพรวมพอใจมาตรฐานการจัดการแข่งขัน มาตรฐานนักกีฬาที่เข้าร่วมอย่างมากถือเป็นความสำเร็จมาก เราได้สร้างกระแสกีฬาคิกบ็อกซิ่งในเมืองไทย และยังได้ตัวนักกีฬาที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาได้มาเข้าแคมป์ทีมชาติเพิ่มเติมทั้งประเภททาทามิอีก 5-6 คน ส่วนประเภทริง สปอร์ต อีก 10 คน หลังจากนี้จะเรียกนักกีฬาทั้งหมดมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมทีมชาติเพื่อเตรียมตัวแข่งขันในระดับนานาชาติ 2 รายการคือ อุซเบกิสถาน คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์คัพ ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 24-29 กันยายน 2567 ต่อเนื่องด้วยศึกคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย “เอเชี่ยน แชมเปี้ยนชิพ” ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-13 ตุลาคม 2567 จากนั้นจะเป็นการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 21-30 พฤศจิกายน 2567 และกีฬาเวิลด์เกมส์ ในปีหน้า

นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า เรามีเป้าหมายไว้อยู่แล้วว่าในศึกเอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ว่าจาก 10 รุ่นที่ชิงชัยแบ่งเป็น ชาย 7 รุ่น หญิง 3 รุ่นนั้น เราต้องทำให้ได้กี่เหรียญทองเพราะแข่งในเมืองไทยด้วย ฉะนั้นเราต้องเตรียมนักกีฬาให้มีความพร้อมมากที่สุด ขณะเดียวกันเรื่องของการพัฒนากีฬาคิกบ็อกซิ่งในประเทศไทยนั้น เราพยายามที่จะขยายฐานเข้าไปยังสถานศึกษาระดับมัธยม และมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้นเพื่อสร้างนักกีฬาตั้งแต่ระดับยุวชน เยาวชนขึ้นมา อีกประการที่จะลืมไม่ได้เลยคือ การสร้างผู้ตัดสิน ซึ่งทางสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) ให้ความสนใจที่จะมาสนับสนุนเราในการพัฒนาเรื่องของผู้ตัดสินหลังจากนี้อีกด้วย 

 

ศึกคิกบ็อกซิ่งปทท.ชิงครึ่งล้าน! สนามแรกที่สุราษฎร์ฯ เฟ้นช้างเผือกติดทีมชาติลุยอินดอร์เกมส์

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 "ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024" สนามแรก รอบชิงแชมป์ภาคใต้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี ดร.ปัญญา หาญลำยวง ประธานอนุกรรมการกลั่นกรอง คณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย, นางรุ้งเพชร รอดแก้ว ผู้แทนผู้บริหารจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นางสาวทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ อุปนายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย, นายประโยชน์ พูลสวัสดิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายสุรพิน สรรพคง เลขาธิการสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นางอารยา เค้าอุทัย ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี  และคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ พร้อมด้วยนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมจำนวนมาก

การแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 แบ่งการแข่งขันออกเป็นประเภททาทามิ (Tatami) และริง สปอร์ต (Ring Sport) ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 บาท รอบชิงแชมป์ภูมิภาคกำหนดจัดการแข่งขัน 3 สนาม ได้แก่ สนามที่ 1 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม / สนามที่ 2 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม / นักกีฬาที่ผ่านรอบคัดเลือกโดยคว้าแชมป์ และรองแชมป์ จะได้เข้าร่วมการแข่งขันในรอบแชมป์ออฟแชมป์  ที่ John Paul II Sports Center มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2567 

สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ เล็งเห็นความสำคัญการเติบโตของวงการคิกบ็อกซิ่งในประเทศไทย ไม่เพียงแต่มวยไทยที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แต่กีฬาคิกบ็อกซิ่งก็มีปีประวัติมาอย่างเนิ่นนานและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานนักคิกบ็อกซิ่งไทยในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ สร้างประวัติศาสตร์คว้า 3 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง โดยสมาคมมีความมุ่งมั่นในการพัฒนา และหานักกีฬาหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่ากีฬาคิกบ็อกซิ่งยังต้องได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกีฬาที่ค่อนข้างใหม่ ต้องมีการศึกษาและเรียนรู้ถึงกฎ กติกาการแข่งขัน การตัดสิน

ดังนั้นการจัดการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 "ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024" นอกจากจะเป็นการค้นหานักกีฬาฝีมือดีเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเพื่อไปลุยศึกใหญ่ในระดับนานาชาติอย่างการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 21-30 พฤศจิกายน 2567 ยังจะเป็นการเผยแพร่มาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งของประเทศไทยต่อผู้ชมชาวต่างชาติ และพัฒนากีฬาคิกบ็อกซิ่งสู่ความเป็นเลิศต่อยอดเพื่อความสำเร็จในระดับอาชีพต่อไป

นักกีฬาที่สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันสามารถติดต่อได้ที่ โทร 097-179-0276 หรือ 092-697-9447 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย Kickboxing Association of Thailan

สุดกระหึ่ม! คิกบ็อกซิ่งไทยกระชาก 2 แชมป์โลกที่ฮังการีจากฝีมือ "น้องปุ้ม-อเล็กซ์"

การแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก 2024 รายการ "ฮังกาเรียน คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์คัพ" ที่กรุงบูดาเปส ประเทศฮังการี่ ระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายนที่ผ่านมา สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 11 คนได้แก่ ริง สปอร์ต 6 คน ประกอบด้วย ไชยวัฒน์ สังข์น้อย ประเภทโลว์คิก 60 กก., ชัยณรงค์ ยาวะโนภาส ประเภทเค-วัน  63.5 กก., ศิวพรรณ อรุณโน ประเภทเค-วัน 57 กก., วราพร ใจเที่ยง ประเภทเค-วัน 60 กก., เปี่ยมสุข เพิ่มขุนทด ประเภทเค-วัน 52 กก., จันทกานต์ มโนบาล ประเภทโลว์คิก 48 กก.

ทาทามิ 5 คน ประกอบด้วย เบ็นจาแม็ง นักรบ แบริเยร์ ประเภทคิกไลต์ 63 กก., อเล็กช์ ซอง ครูเออ มังกร แบริเยร์ ประเภทคิกไลต์ 57 กก., "จิมมี่" พิฆเนศ สุขหยิก ประเภทพอยต์ ไฟต์ติ้ง 63 กก., ศศิโสม แก้วศรี ประเภทพอยต์ ไฟต์ติ้ง 50 กก. และกมลทิพย์ เอมสกุล ประเภทพอยต์ ไฟต์ติ้ง 60 กก. โดยมี "ปุ๊งกี๋" นางสาวทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ เป็นผู้จัดการทีม 

สำหรับผลการแข่งขันปรากฏว่า นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทยชุดคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก 2024 รายการ "ฮังกาเรียน คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์คัพ" ที่กรุงบูดาเปส ประเทศฮังการี่ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง โดย 2 เหรียญทองได้มาจาก 

"น้องปุ้ม" จันทกานต์ มโนบาล หรือ "พญาหงส์ บัญชาเมฆ" คว้าเหรียญทอง ประเภทโลว์คิก 48 กก.หญิง โดย "น้องปุ้ม" เคยเป็นนักชกหญิงไทยคนแรกที่ไปคว้าแชมป์เค-วัน ที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน "น้องปุ้ม" ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ "ลิซ่า BLACKPINK" ศิลปินชื่อดังระดับโลก เนื่องจากตาของลิซ่าเป็นพี่ชายของปู่ "น้องปุ้ม จันทกานต์" อีกด้วย และอีก 1 เหรียญทองได้มาจาก "อเล็กซ์" อเล็กซ์ซอง ดรูเออ มังกร แบริเยร์ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส วัย 20 ปี จากประเภทคิกไลต์ 57 กก. ซึ่งเป็นการป้องกันแชมป์โลกสมัยที่ 2 ติดต่อกันของ "อเล็กซ์" อีกด้วย อีกทั้งยังทำให้อันดับโลกของ "อเล็กซ์" ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 1 ของโลกในรุ่นนี้ทันที

ขณะที่ 1 เหรียญเงินได้มาจาก ศิวพรรณ อรุณโน หรือ "เพชรทรงพล บัญชาเมฆ" รุ่นเค-วัน 57 กก. ส่วนอีก 2 เหรียญทองแดงได้มาจาก ไชยวัฒน์ สังข์น้อย หรือ "ซุปเปอร์แมน บัญชาเมฆ" ในรุ่นโลว์คิก 60 กก. และเบ็นจาแม็ง นักรบ แบริเยร์ ประเภทคิกไลต์ 63 กก. 

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลงานนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งของไทยถือว่าทำได้อย่างน่าพอใจเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และแสดงให้เห็นว่านักกีฬาคิกบ็อกซิ่งของไทยมีมาตรฐานที่ดีขึ้น จากการที่ได้ร่วมทีมมาประเทศฮังการี่เห็นได้ชัดว่า คิกบ็อกซิ่งสำหรับนักกีฬาต่างชาติถือว่าคักคักสุดๆ มีนักกีฬามาร่วมแข่งขันนับพันคน ที่ต่างประเทศเขาเล่นคิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬาสากล ตั้งแต่ระดับเยาวชน ทำให้ศึกชิงแชมป์โลกครั้งนี้มีบรรดาผู้ปกครองมาชมการแข่งขันของบุตรหลานจำนวนมาก สำหรับประเภททาทามิของไทย อเล็กซ์ สามารถรักษาแชมป์โลกเอาไว้ได้ ส่วนประเภทริง เราได้มา 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง ถือว่าเป็นไปตามเป้า 

นายสมชาย กล่าวต่อว่า มีข้อสังเกตว่า ประเภทริง เรามีนักกีฬามวยไทยฝีมือดีจำนวนมากเพียงแต่ยังไม่เข้าใจกฎ กติกา การแข่งขันคิกบ็อกซิ่งมากเท่าที่ควร เช่น ประเภทเค-วัน ก็คือ มวยไทยเลยแต่ห้ามใช้ศอก และที่สำคัญต้องเข้าใจระบบการให้คะแนนของผู้ตัดสินให้มากขึ้น หลังจากกลับไปจะหานักมวยไทยฝีมือดีๆ ที่สนใจเล่นคิกบ็อกซิ่งมาฝึกฝนให้เข้าใจกฎ กติกาของคิกบ็อกซิ่งเพิ่มมากขึ้นเพื่อเพิ่มตัวเลือกในแคมป์ทีมชาติไทยสำหรับการแข่งขันรายการอื่นๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตามเป้าหมายใหญ่ของเราหลังจากกลับไปคงโฟกัสที่การแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ปลายปีนี้

คิกบ็อกซิ่ง ยกทัพบุกสาธิต กีฬานักเรียนนักศึกษาที่กระบี่ 'บิ๊กสมชาย' นัด กก.ชุดใหม่ถก 2 ก.พ.

หลังจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประกาศรับรองคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ชุดใหม่ นำโดย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคม ซึ่งทีมงานมีนักกีฬาชื่อดังอย่าง ร้อยเอกหญิง ชนาธิป ซ้อนขำ เป็นผู้ช่วยเลขาธิการ รวมถึง "โค้ชเช" นายชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้เป็นกรรมการฝ่ายเทคนิคนั้น 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ นำโดยนางสาวทิรา บุญญานี กิตติกรณ์ อุปนายก และ "โค้ชเอก" นายเอกรินทร์ ทองมา ผู้ฝึกสอนคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ประเภททาทามิ, "จิมมี่" พิฆเนศ สุขหยิก นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งสตาร์ดังของไทย พร้อมทีมงานไปจัดสาธิตการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งระหว่างการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 ประจำปี 2567 "กระบี่เกมส์" ระหว่างวันที่ 22-30 มกราคม 2567 ที่ จ.กระบี่ เพื่อเป็นก้าวแรกสู่การผลักดันกีฬาคิกบ็อกซิ่งของประเทศไทยได้รับการบรรจุแข่งขันในกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ในปีหน้า 2568 โดยมีจังหวัดขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ

สำหรับการสาธิตการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งระหว่างการแข่งขัน "กระบี่เกมส์" นั้น จัดขึ้นทั้งประเภทริง และทาทามิ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใน โดยประเภทริง จัดที่โรงยิมส์มวย ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตกระบี่ ส่วนประเภททาทามิ จัดขึ้นที่อาคารเอนกประสงค์ในร่ม โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล ท่ามกลางความสนใจของนักกีฬา นักศึกษา และเจ้าหน้าที่อย่างคึกคักทั้ง 2 แห่ง 

"บิ๊กสมชาย" นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจาก กกท. ให้การรับรองสถานภาพของตัวเองในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ ก็ได้คิดวางแผนเดินหน้าพัฒนาวงการคิกบ็อกซิ่งไทยทันที ซึ่งหลักการสำคัญในการไปสู่เป้าหมายได้คือ ต้องเริ่มจากการให้ความรู้เรื่องกีฬาคิกบ็อกซิ่งให้แพร่หลายในเมืองไทยทั้งเยาวชน และประชาชน เมื่อทุกคนรู้กฏ กติกา การแข่งขันคิกบ็อกซิ่งแล้วก็จะเกิดความอยากที่จะมาเรียน มาอบรม มาสนใจฝึกฝนกีฬาคิกบ็อกซิ่งกันเพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นที่มาที่เราต้องไปเปิดการสาธิตการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งระหว่างการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 ประจำปี 2567 "กระบี่เกมส์" ระหว่างวันที่ 22-30 มกราคม เพื่อเป้าหมายเบื้องต้นในการขยายฐานการเล่นคิกบ็อกซิ่งให้แพร่หลายในหมู่นักเรียน หรือนักศึกษา และเป้าหมายของเราคือ การได้รับการบรรจุเข้าร่วมชิงชัยในกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ที่จังหวัดขอนแก่น ในปีหน้า ซึ่งมีกรมพลศึกษา เป็นเจ้าของเกมการแข่งขัน นอกจากนี้สมาคมฯ ยังมองไปถึงการผลักดันให้กีฬาคิกบ็อกซิ่งเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่บรรจุแข่งขันในกีฬากีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาแห่งชาติ ที่มีการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นเจ้าของเกม

นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า เราต้องวางรากฐานของสมาคม ของนักกีฬาทั่วประเทศให้แข็งแกร่งก่อน จากนั้นเราจะมองไปทีละสเต็ปในการผลักดันกีฬาคิกบ็อกซิ่งให้แพร่หลายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยต้องเริ่มจากการสร้างการรับรู้ของนักกีฬา สร้างสมาชิกของสมาคมเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือนิติบุคคล เราต้องมีสมาชิกในวงกว้าง คิกบ็อกซิ่งก็เป็นชนิดกีฬาต่อสู้ชนิดหนึ่งเหมือนเช่น เทควันโด, ยูโด, มวยไทย ที่เขาเริ่มกันมานาน ส่วนในระดับการพัฒนานักกีฬาคิกบ็อกซิ่งไทยไปสู่ระดับนานาชาตินั้น เราต้องมีคนไปร่วมเป็นกรรมการบริหารในสหพันธ์อาเซียน, เอเชีย หรือระดับโลก ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาตินั้น ปัจจุบันเรามีบรรจุในซีเกมส์อยู่แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะผลักดันให้คิกบ็อกซิ่งได้รับการบรรจุในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ก่อนที่จะมองไปถึงระดับโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ ในอนาคต 

นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ กล่าวในตอนท้ายว่า สมาคมมีกำหนดเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ เป็นครั้งแรก ในวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่โรงแรมเอบีน่า เฮ้าส์ ซอยวิภาวดี 64 เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะหารือกับคณะกรรมการบริหารฯ ทุกคนถึงแนวทางการพัฒนาและยกระดับคิกบ็อกซิ่งในเมืองไทยเพื่อให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น 

"คิกบ็อกซิ่ง"บุกเชียงใหม่ ติวเข้มกฎกติกา-เดินสาย 4 ภาค หวังบูมติดตลาด

สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย จัดโครงการจัดอบรมกฏและกติกา กีฬาคิกบ็อกซิ่ง ตามมาตรฐานสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) และอุปกรณ์กีฬาคิกบ็อกซิ่ง เพื่อการอบรมและฝึกซ้อม ส่วนภูมิภาค 5 ภาค ประเดิมภาคแรกที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ณ ห้องประชุมป่าสักหลวง โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศผู้เข้าร่วมการติวเข้มอย่างคึกคักมากถึง 120 คน หวังเพิ่มพูนทักษะของนักกีฬา ผู้ตัดสิน ผู้ฝึกสอน เตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ

สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ เดินหน้าขับเคลื่อนการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎกติกากีฬาคิกบ็อกซิ่งอย่างถูกต้อง ตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2565-2570) ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ประเด็นยุทธศาสตร์ และแนวทางพัฒนา จึงได้จัดการโครงการจัดอบรมกฏและกติกา กีฬาคิกบ็อกซิ่งขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคลากรทางการกีฬา และผู้ที่สนใจจาก 77 จังหวัด ใน 5 ภาค รวมทั้งเจ้าหน้าที่, บุคลากรของสมาคม, นักกีฬาคิกบ็อกซิ่ง และนักกีฬาประเภทการต่อสู้ ประมาณ 600 คน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกฏ และกติกา กีฬาคิกบ็อกซิ่งตามมาตรฐาน WAKO ให้เพิ่มมากขึ้นในทุกภูมิภาคในประเทศไทย รวมทั้งเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์กีฬาคิกบ็อกซิ่ง เพื่อการอบรมและฝึกซ้อม ยกระดับให้บุคลากรมีทักษะ และสามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุด

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่กีฬาคิกบ็อกซิ่งตามมาตรฐาน WAKO ที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้การรับรอง ทำให้แพร่หลายในประเทศไทยอย่างมีมาตรฐาน และเพิ่มพูนทักษะของนักกีฬา ผู้ตัดสิน ผู้ฝึกสอน โดยจะเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันระดับชาติ และระดับนานาชาติที่ WAKO จัดขึ้น รวมถึงมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ โดยหลักสูตรการอบรม ประกอบด้วย ภาคทฤษฏี ความเข้าใจเกี่ยวกับกีฬาคิกบ็อกซิ่งในประเทศไทย, คุณสมบัติของผู้สอนกีฬาคิกบ็อกซิ่งที่ดี, ความแตกต่างระหว่างคิกบ็อกซิ่งกับกีฬามวยไทย, ประเภทของคิกบ็อกซิ่ง และแนวทางปฏิบัติการขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคม และผู้ตัดสินคิกบ็อกซิ่ง ส่วนภาคปฏิบัติเป็นของกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ประเภททาทามิ และประเภทริง

การอบรมประเดิมภาคแรกแล้วที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ณ ห้องประชุมป่าสักหลวง โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว โดยพิธีเปิดวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 มี ผศ.ดร.อนันต์ เมฆสวรรค์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขตชัยภูมิ เป็นประธาน เริ่มต้นช่วงเช้าด้วยการอบรมภาคปฏิบัติกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ประเภททาทามิ โดย "โค้ชเอก" นายเอกรินทร์ ทองมา ผู้ฝึกสอนคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ประเภททาทามิ และคณะ จากนั้นช่วงบ่ายเป็นการอบรมภาคปฏิบัติกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ประเภทริง โดย "โค้ชดวง" นายประวิทย์ สวัสดิรักษา ผู้ฝึกสอนคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ประเภทริง, นายวินัย จำปาทอง และนายสุรสิทธิ์ ภูงามเงิน ร่วมติวเข้มให้กับผู้เข้าร่วมการอบรม

วันที่สอง วันที่ 12 พฤศจิกายน ช่วงเช้ายังคงเป็นการอบรมภาคปฏิบัติกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ประเภททาทามิ และประเภทริง ตามด้วยช่วงบ่ายกับการอบรมแนวทางปฏิบัติการขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย และผู้ตัดสินคิกบ็อกซิ่ง โดย น.ส.ปณิชตา ดีเหลือ เลขาธิการสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ ก่อนได้มีการทำแบบทดสอบ และแบบประเมิน  ปิดท้ายด้วยพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับผู้เข้าร่วมการอบรม โดยมี ดร.ปัญญา หาญลำยวง คณะอนุกรรมการติดตามการใช้จ่ายเงินของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตร ร่วมด้วย นายมนตรี หาญใจ กรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่, ผู้แทนนายสงค์ศักย์ คำดีรุ่งริรัตน์ ผอ.สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ภาค 5, นายก่อพงศ์ นำบุญจิตต์ ผอ.สำนักงาน กกท.จังหวัดเชียงใหม่, นายวิสูตร วรรคดี หัวหน้างานวิทยาศาสตร์การกีฬาภูมิภาค และ ผศ.ชัยพร แก่ววิวัฒน์ เลขาธิการสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วม

อนึ่งหลังจากนี้สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ เตรียมที่จะจัดการอบรมต่อเนื่องในอีก 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานี วันที่ 17-19 พฤจิกายน 2566, ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 24-26 พฤจิกายน 2566, ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี วันที่ 1-3 ธันวาคม 2566 และปิดท้ายที่ภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 8-10 ธันวาคม 2566 โดยสิทธิพิเศษสำหรับผู้เข้าอบรมโครงการจะได้รับที่พักฟรี, กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว 1 ใบ, เสื้อยืดของสมาคม และใบประกาศนียบัตรสำหรับผู้เข้าร่วมครบทั้ง 3 วัน โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เพจ สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ  Kickboxing Association of Thailand หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร.092-697447 หรือ 063-1419546

ดร.ปัญญา หาญลำยวง  คณะอนุกรรมการติดตามการใช้จ่ายเงินของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า คิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬาใหม่ในไทย แต่ในระดับโลกเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม และมีโอกาสบรรจุเข้าโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต ซึ่งการจัดการอบรมกฏ และกติกาของสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ทำมาตรฐานในการจัดอบรมไว้สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก อาหาร และที่สำคัญคือ เรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งสมาคมได้แจกให้กับผู้เข้ารับการอบรม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนา รวมถึงเรื่องความรู้เป็นสิ่งสำคัญมาก บุคลากรที่อบรมจะไปถ่ายทอดให้กับเยาวชนในภูมิภาคต่างๆ โดยสมาคมได้จัดอบรม 5 ภาคเพื่อให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ทำให้มีคนรู้จัก และเล่นกีฬาคิกบ็อกซิ่งเพิ่มมากขึ้น

"หลังจากนี้แผนของสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ เตรียมจะจัดแข่งขันชิงแชมป์ภาค และชิงแชมป์ประเทศไทย ขั้นต่อไปเราจะนำมาพัฒนาเป็นตัวแทนทีมชาติในการส่งเข้าแข่งขันรายการต่างๆ ของโลก ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาคิกบ็อกซิ่งไทยมีทักษะพื้นฐานที่ดีจากมวยไทย แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องกฏกติกา และไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ฉะนั้นสมาคมได้เห็นปัญหาแล้ว จึงได้วางรากฐาน ด้วยการอบรมกฏกติกา และเผยแพร่ความนิยม ผมเชื่อว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้จะทำให้นักคิกบ็อกซิ่งไทยประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ และเชื่อว่าในโอลิมปิกในอนาคตข้างหน้ากีฬาคิกบ็อกซิ่งมีโอกาสเข้าบรรจุ ถึงตอนนั้นนักกีฬาไทยจะมีความพร้อมเต็มที่ มั่นใจว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้" ดร.ปัญญา กล่าว

ด้านนายมนตรี หาญใจ กรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ต้องขอบคุณสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ ที่ให้เกียรติ จ.เชียงใหม่เป็นเจ้าภาพในการจัดอบรมครั้งนี้ ซึ่งคิดว่าจะเป็นการส่งเสริมให้นักกีฬาที่สนใจคิกบ็อกซิ่ง และให้ความรู้เรื่องกฏกติกา สามารถนำไปถ่ายทอดให้ได้รู้กฏที่แท้จริง มองว่าเป็นประโยชน์ต่อวงการคิกบ็อกซิ่งไทยที่ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมาคิกบ็อกซิ่งไทยมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด