ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 13 ส.ค.68

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน13 ส.ค.68

-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ยกขบวนบ้านมือสอง ทำเลดี ราคาน่าจับจองกว่า 800 รายการทั่วประเทศ จัดโปรแรงลดราคาสูงสุด 50% ในงานมหกรรมบ้านมือสอง ธอส. ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568 GHB ALL HOME EXPO 2025 อุดรธานี พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าจองซื้อทรัพย์ภายในงานวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 ที่เซ็นทรัล อุดรธานี 

-ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเอกฉันท์ ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นร้อยละ 1.50 ต่อปี มีผลทันที หวังเอื้อต่อการปรับตัวของภาคธุรกิจ และช่วยบรรเทาภาระของกลุ่มเปราะบาง คาดมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซ้ำเติมปัญหาเชิงโครงสร้าง และขีดความสามารถของประเทศ

-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผนึกสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และคณะกรรมการอำนวยการทั้งภาครัฐและเอกชน แถลงข่าวการจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 72 วันที่ 9-13 กันยายนนี้ที่ศูนย์สิริกิติ์ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 21 ก.ค.68

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 21 ก.ค.68 

-กระทรวงการคลังเตรียมอนุมัติ ขยายพื้นที่พิโกไฟแนนซ์ จากที่ได้เฉพาะภายในจังหวัดที่ได้รับอนุญาต เป็นการประกอบธุรกิจได้ในจังหวัดที่ได้รับอนุญาตและจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกัน สามารถให้สินเชื่อได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน ลดหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐ

-จตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ นำทีมพาณิชย์เยือนสหรัฐ ถกผู้บริหาร Clark Associates Inc. บริษัทจำหน่ายสินค้า Food Service อันดับหนึ่งอเมริกา เร่งผลักดันนำเข้าสินค้าไทยเพิ่ม

-ธอส.เผยผลการงานครึ่งปีแรก 2568 ปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว 107,227 ล้านบาท ครอบคลุมลูกค้า 95,382 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 27.28% พร้อมเดินหน้าปล่อยสินเชื่อครึ่งปีหลังเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท ตามนโยบาย รมว.คลัง ทำให้ทั้งปี 2568 ธอส.ทำให้คนไทยมีบ้านตามเป้าหมาย 241,780 ล้านบาท

 

"การเคหะแห่งชาติ" ขยายโปรฯ บ้านดีราคาดี “ฉลองครึ่งปีทอง” ถึง 15 ก.ค.68 ให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น

กคช. ขยายโปรฯ บ้านดีราคาดี “ฉลองครึ่งปีทอง” ถึง 15 ก.ค. 68 ให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น

การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เดินหน้าสานต่อภารกิจเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยคุณภาพในราคาจับต้องได้ ล่าสุดประกาศขยายระยะเวลาแคมเปญใหญ่แห่งปี “ฉลองครึ่งปีทอง กับการเคหะแห่งชาติ” ออกจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2568

โอกาสนี้ กคช. พร้อมนำเสนอที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกประเภทโครงการทั่วประเทศทั้ง บ้านเอื้ออาทร, เคหะชุมชน, โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเชิงสังคมและเชิงพาณิชย์ ราคาเริ่มต้น 250,000 – 390,000 บาท ด้วยสิทธิพิเศษแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น อัตราดอกเบี้ย 0%, ส่วนลดสูงสุด 20%, ฟรีค่ามุ้งลวดเหล็กดัด รวมถึงมาตรการ ผ่อนปรนด้านเครดิต เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถมี “บ้านหลังแรก” หรือ “บ้านหลังใหม่” เป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น

สำหรับรายละเอียดของแคมเปญ “ฉลองครึ่งปีทอง กับการเคหะแห่งชาติ” ประกอบด้วย 

-อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อพิเศษ 0% ปีแรกทุกโครงการ 

-ส่วนลดพิเศษ 5-20% จำนวน 106 โครงการ

-ลดราคาพิเศษสำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทรจำนวน 48 โครงการ ราคาเริ่มต้น 250,000 - 390,000 บาท

-ฟรีมุ้งลวดเหล็กดัด สำหรับห้องชุดขนาดพื้นที่ประมาณ 33 ตารางเมตร มูลค่าไม่เกิน 15,000 บาทต่อหน่วย, ขนาดพื้นที่ประมาณ 24 ตารางเมตร มูลค่าไม่เกิน 12,000 บาทต่อหน่วย ยกเว้นโครงการมิตรไมตรีได้มูลค่าไม่เกิน 10,000 บาทต่อหน่วย

-วางเงินจองเริ่มต้น 1,000 บาท

-ทำสัญญาเช่าซื้อผ่อนบ้านตรงกับการเคหะฯ ได้ทุกโครงการ

-กรณีลูกค้าโครงการเช่า 999 บาท ในโครงการเพื่อขาย สามารถเปลี่ยนเป็นเช่าซื้อได้ทันที

-ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การพิจารณาสำหรับลูกค้าที่ติดเครดิตบูโร แต่ยังคงพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ

ผู้สนใจจองบ้านกับแคมเปญ “ฉลองครึ่งปีทอง กับการเคหะแห่งชาติ” สามารถจองได้ที่สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ ศูนย์ขายสำนักงานเคหะนครหลวง และสำนักงานเคหะจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 หรือ Facebook: NHA marketing, Facebook: การเคหะแห่งชาติ ถึงวันที่  15 กรกฏคม 2568 

#การเคหะแห่งชาติ #โปรบ้านดี #คนไทยมีบ้าน #ฉลองครึ่งปีทอง #บ้านพร้อมอยู่ #โครงการรัฐ #กคช #โปรโมชั่นบ้าน #บ้านราคาถูก #บ้านเพื่อคนไทย #ที่อยู่อาศัยคุณภาพ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ 

 

 

 

 

 

 

ธอส.เผยผลประมูลบ้านมือสอง 2568 ครั้งที่ 2 ขายได้กว่า 1,000 รายการ มูลค่าทะลุ 1,000 ล้าน

โดนใจคนซื้อบ้าน!! ธอส. เผยผลประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 จำหน่ายได้ทั่วประเทศกว่า 1,000 รายการ มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท 

วันที่ 1 ก.ค.68 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานผลการจัดงาน ประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 ระหว่างเวลา 10.00-16.00 น. ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถจำหน่ายบ้านมือสองได้สูงถึง 1,045 รายการ มูลค่ารวม 1,054 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 186 รายการ รวมมูลค่า 224  ล้านบาท และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค จำนวน 859 รายการ รวมมูลค่า 830 ล้านบาท โดยทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาสูงสุดที่ 4.2 ล้านบาท ได้แก่ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 101.70 ตารางวา ในเขตหนองแขม กรุงเทพ ฯ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่มีทำเลดี เชื่อมต่อเส้นทางคมนาคม ทั้งทางด่วนและสถานีรถไฟฟ้าจำนวนมาก 

ขณะที่ทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาต่ำสุด ได้แก่ ทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ขนาดเนื้อที่ 100 ตารางวา ประมูลขายได้ในราคา 125,000 บาท เท่านั้น!! ส่วนทรัพย์ที่ได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมประมูลสูงถึง 6 ราย ได้แก่ ทรัพย์ประเภททาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 16 ตารางวา ในอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยสามารถประมูลขายได้ในราคา 905,000 บาท จากราคาประมูลเริ่มต้นที่ 850,000 บาท เนื่องจากอยู่ในโครงการหมู่บ้านรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและติดถนนหลักเชื่อมต่อการเดินทางเข้าเมือง 

พิเศษ!! ผู้ที่ชนะการประมูลสามารถใช้ “ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับทรัพย์ NPA” อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นานสูงสุด 24 เดือน* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com และ Mobile Application : GHB ALL HOME

#ธอส #ประมูลบ้านมือสอง #ข่าววันนี้ #คนไทยมีบ้าน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 30 พฤษภาคม 2568

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 30 พฤษภาคม 2568 

-รมว.อุตสาหกรรมส่งทีมสุดซอย ปราบโรงงานเถื่อนระยอง ลอบนำเข้าเศษยางกัมพูชา ไหวตัวขนของย้ายหนี ตามรวบได้ถึงเมืองชลบุรี กรรมการบริษัทสารภาพ อีกทีมไปฉะเชิงเทรา โรงงานใจดีแจกดินเปื้อนกากอุตสาหกรรม ชาวบ้านรับไปถมที่เหม็นแสบจมูก ร้องแจ้งอุตฯ 

-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบกลุ่มผู้ปกครองที่มีรายได้สูงนิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ รวมทั้งนักธุรกิจและเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศที่เข้ามาทำงานในไทยพร้อมครอบครัวนิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียน ส่งผลให้รายได้รวมธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทยแตะ 7.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% กำไรรวมปี 2566 กว่า 1.6 พันล้านบาท

-ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ระดับ 92.30 ขยายตัวร้อยละ 2.17 รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นครั้งแรกในรอบ 21 เดือน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ พร้อมปรับประมาณการ MPI ปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 0 - 1 ขณะที่ GDP ภาคอุตสาหกรรมคาดขยายตัวร้อยละ 0.5-1.5

-ธอส.เผยผลดำเนินงาน พ.ค.68 ปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 8 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมาย 241,780 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 30.75% มั่นใจทั้งปีปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามคาด ชี้ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายของธนาคารผลักดันเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวดีขึ้น ผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์

รีบเลย! ธอส.หั่นดอกเบี้ย-ลดเงินงวดสูงสุด 1 ปี ช่วยลูกค้ากลุ่ม SM เริ่มลงทะเบียน 4 มิ.ย.68

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขานรับนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2568 

วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากการที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงินของรัฐ ช่วยเหลือภาคธุรกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 และมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้มีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวด เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ดังนั้น ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงขานรับนโยบายดังกล่าว โดยการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับลูกค้าธนาคาร จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) สำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

เดือนที่ 1 – 6   : คิดอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0% ต่อปี โดยผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาทต่อเดือน
เดือนที่ 7 - 9  : ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท 
เดือนที่ 10 -12  : ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท 
กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี) 

“การจัดทำมาตรการ DC3 ของ ธอส. ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยลูกค้ารักษาบ้านของตนเองแล้ว ยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยให้ปรับตัวลดลงได้ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควบคู่ไปกับการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐ ฯ ซึ่ง ธอส. ได้จัดทำสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำรองรับการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ได้ไม่น้อยกว่า 240,000 ล้านบาทในปีนี้” นายกมลภพ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ธอส. มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ กลุ่มลูกค้า NPL อีกจำนวน 4 มาตรการ นอกจากนี้ ธอส. ยังดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการเปิดขยายเวลาการเข้าร่วม “โครงการคุณสู้ เราช่วย” ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพื่อช่วยลูกหนี้ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 ล้านบาท ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน แต่เคยมีประวัติการค้างชำระเกิน 30 วัน ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน  2567 และได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ให้ได้รับความช่วยเหลือต่อเนื่อง และยังจัดทำมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาด้วย

โดยลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) สามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2568 โดยแสดงหลักฐานการได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ / ธุรกิจ / การค้า หรือจากสภาวะทางเศรษฐกิจ เพื่อประกอบการพิจารณา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th 

#ธอส #ลูกหนี้ #คนไทยมีบ้าน #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ลดดอกเบี้ย

 

ธอส.เสิร์ฟสินเชื่อ ดบ.พิเศษ เริ่มต้น 2.55% ต่อปี สานนโยบายรัฐ สนับสนุนคนไทยมีบ้าน-แบ่งเบาผ่อนชำระเงินงวดลูกค้า 

ธอส.เดินหน้าสานต่อนโยบายรัฐบาล สนับสนุนให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง พร้อมช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระเงินงวดของลูกค้ารายย่อย จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ประกอบด้วย (1) โครงการบ้าน ธอส. แสนสุข ปี 2568 สำหรับลูกค้าที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป หากลูกค้ามีประวัติการผ่อนชำระปกติย้อนหลัง 12 เดือน จะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.55% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.20% ต่อปี (2) โครงการบ้าน ธอส. สุขสบาย ปี 2568 สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่มีการผ่อนชำระเงินงวดมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่มีหนี้ค้างชำระ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรกเท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี (4.545% ต่อปี) อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.878% ต่อปี โดยผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มกราคม 2569 

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ธอส. ได้ช่วยให้คนไทยกว่า 4.6 ล้านครอบครัวมีบ้านเป็นของตนเอง และธนาคารจะยังคงมุ่งมั่นในการทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัย โดยการเดินหน้าตามพันธกิจหลัก “ทำให้คนไทยมีบ้าน” สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระเงินงวดให้แก่ลูกค้า โดยจัดทำ 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ประกอบด้วย
 
(1) โครงการบ้าน ธอส. แสนสุข ปี 2568 : กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป (สัญญาที่ 2 เป็นต้นไป) ที่มีประวัติการผ่อนชำระปกติย้อนหลัง 12 เดือน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อซื้อ  ปลูกสร้าง  ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์)  ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก หรือชำระหนี้พร้อมไถ่ถอนจำนอง โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.55% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.80% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.20% ต่อปี, ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีซื้ออุปกรณ์ฯ/
ชำระหนี้ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,000 บาทต่อเดือน 

(2) โครงการบ้าน ธอส. สุขสบาย ปี 2568 : กรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่มีการผ่อนชำระเงินงวดมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่มีหนี้ค้างชำระ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-2 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี (4.545% ต่อปี), ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี (5.545% ต่อปี) อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.878% และ ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี  และกรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีซื้ออุปกรณ์ฯ/ชำระหนี้ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 5,200 บาทต่อเดือน 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มกราคม 2569 โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

#ธอส #สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ #ข่าววันนี้ #คนไทยมีบ้าน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #สินเชื่อ

 

ธอส.ช่วยคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น ผลดำเนินงานปี 67 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 230,000 ล้านบาท ด้าน NPL ลดลงต่อเนื่อง 5 เดือน

ธอส.เผยผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2567 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้รวม 236,547 ล้านบาท โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 123,774 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4/2567 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2566 สินเชื่อคงค้าง 1,800,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06%, สินทรัพย์รวม 1,884,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53%, เงินฝากรวม 1,630,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 89,117 ล้านบาท 
คิดเป็น 4.95% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนการแก้หนี้ที่ตรงจุดให้กับลูกค้า ยืนยันพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เดินหน้าสนับสนุนคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยังคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มีคุณภาพชีวิต และความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2567 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 236,547 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 123,774 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4/2567 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2566 ธอส. มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,800,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06% มีสินทรัพย์รวม 1,884,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53% และเงินฝากรวม 1,630,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีจำนวน 89,117 ล้านบาท คิดเป็น 4.95% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 5 ซึ่งเป็นผลมาจากการแก้ไขหนี้ให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุด ด้วยการจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ให้ได้รับความช่วยเหลือปรับลดดอกเบี้ย และลดเงินงวด ส่วนการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนสูงถึง 151,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.68% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL ที่ระดับ 169.59% สะท้อนถึงความมั่นคงและพร้อมในการรองรับผลกระทบในอนาคต และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ณ เดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.88% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.50%

โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เป็นจำนวนมาก เกิดจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ด้วยการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือประเภทละ 0.01% และการเพิ่มเพดานราคาซื้อขายที่อยู่อาศัยจากเดิมที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 7 ล้านบาท ประกอบกับมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการขอสินเชื่อระยะยาวมากขึ้น นอกจากนี้ ธอส. ยังจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอาชีพ ทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อย และผลิตภัณฑ์สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป อาทิ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 หรือ 40 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรกเพียง 1.59% ต่อปี, สินเชื่อบ้าน Happy Home สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3.00%  ต่อปี,  มาตรการสินเชื่อซื้อ – สร้าง สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3.00%  ต่อปี และมาตรการสินเชื่อซ่อม – แต่ง สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ต้องการกู้เพิ่มวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3 ปี เพียง 1.00% ต่อปี และสินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส. อัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรกเพียง 0.71% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.71% เป็นต้น 

สำหรับในปี 2568 ธอส. คงเดินหน้าสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น ตามนโยบายของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการมีที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง และสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.50%, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนพิการ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 2.25% ต่อปี และสินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568 สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.20% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เพียง 2.90% โดย ธอส. ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 อยู่ที่ 250,603 ล้านบาท นอกจากนี้ ธอส. ยังดูแลลูกค้าผ่านมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ายังคงรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป โดยผู้ที่สนใจสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของ ธอส. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

#ธอส #คนไทยมีบ้าน #ข่าววันนี้ #สินเชื่อใหม่ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

เช็คที่นี่! ธอส.เปิดให้ลงทะเบียนโครงการคุณสู้ เราช่วย 6 ม.ค.68 วันแรก ช่วยให้คนไทยมีบ้าน 

ธอส.เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม “โครงการคุณสู้ เราช่วย” ผ่าน Application : GHB ALL GEN หรือ Application : GHB ALL Bfriend ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อช่วยลูกค้าให้รักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป  

เมื่อวันที่ 3 ม.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว พร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงการคลัง และร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการร่วมแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชน ผ่าน “โครงการคุณสู้ เราช่วย” โดยเปิดให้ลูกค้าของธนาคารที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 ล้านบาท ที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 และมีสถานะค้างชำระเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน หรือมีสถานะค้างชำระไม่เกิน 30 วัน ที่เคยปรับโครงสร้างหนี้และเคยค้างชำระมากกว่า 30 วัน ระหว่างปี 2565 – 2567 (สถานะดังกล่าวนับ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567) สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน  Application :GHB ALL GEN หรือ Application :GHB ALL Bfriend ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 

“ธอส. พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป โดยที่ผ่านมา ธอส. ได้จัดทำมาตรการแก้ไขหนี้ ในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ให้มีภาระการชำระเงินงวดลดลง ดังนั้นการสนับสนุนให้ลูกค้าเข้าร่วมโครงการคุณสู้ เราช่วย จึงถือเป็นอีก 1 แนวทางที่จะช่วยเหลือลูกค้าได้” นายกมลภพ กล่าว

สำหรับโครงการคุณสู้ เราช่วย เป็นโครงการที่ ธปท. จัดทำขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถฟื้นฟูและกลับมายืนหยัดได้ในระยะยาว และสนับสนุนให้เกิดความสามารถในการชำระหนี้โดยการปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคลและธุรกิจ โดยแบ่งความช่วยเหลือออกเป็น 2 มาตรการ ประกอบด้วย “มาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์” และ “มาตรการจ่าย ปิด จบ” โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank  Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

#ข่าววันนี้ #ธอส #คุณสู้เราช่วย #คนไทยมีบ้าน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

ธอส.ประมูลขายบ้านมือสอง คัดทรัพย์เด่นทั่วประเทศมาจำหน่ายกว่า 8,000 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 50% 21 ธ.ค.67

ธอส.สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองส่งท้ายปี 2567 จัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี ครั้งที่ 4/2567 ในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 -16.00 น. พบกับบ้านมือสอง ธอส. ทำเลดี มากกว่า 8,000 รายการทั่วประเทศ มาประมูลขายในราคาลดพิเศษสูงสุดถึง 50% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) เปิดประมูลในราคาต่ำสุดเพียง 30,000 บาท เท่านั้น พิเศษ!! ผู้ชนะการประมูลสามารถขอสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด นานสูงสุด 24 เดือน* โดยผู้ที่สนใจประมูลทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถร่วมประมูลได้ที่ห้องพิมานมาศ ชั้น 11 อาคารจอดรถ ธอส. สำนักงานใหญ่ ส่วนทรัพย์ในส่วนภูมิภาค จัดประมูล ณ สาขาที่ตั้งทรัพย์ 

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบังคับคดี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว พร้อมสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองส่งท้ายปี 2567 ด้วยการจัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี ครั้งที่ 4/2567 ในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 พร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 10.00 - 16.00 น.  น. โดยคัดบ้านมือสอง คุณภาพดี ทำเลเด่นทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า8,000 รายการ ทั้งประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า มาเปิดประมูลในราคาพิเศษ ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50% จากราคาประเมิน

ทั้งนี้แบ่งเป็นทรัพย์ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 1,200 รายการ ราคาเริ่มต้นประมูลต่ำสุดเพียง 85,000 บาท ได้แก่ ทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ชั้นที่ 4 จาก 4 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 27.85 ตารางเมตร โครงการมีทรัพย์เรซิเดนซ์ 2 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ขณะที่ทรัพย์เด่นที่มีราคาเริ่มต้นประมูลสูงสุด ได้แก่ ทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่าพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ขนาดเนื้อที่ 1,762.30 ตารางวา ในโครงการศรีธราวรรณ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร มีราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ 48 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่เหมาะสมแก่การลงทุน  เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ชุมชน และมีเส้นทางคมนาคมสะดวก

ส่วนทรัพย์ในภูมิภาคนำออกประมูลมากกว่า 7,000 รายการ โดยมีราคาเริ่มต้นประมูลต่ำสุดเพียง 30,000 บาท เท่านั้น ได้แก่ ทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ขนาดเนื้อที่ 100 ตารางวา ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ขณะที่ทรัพย์เด่นที่มีราคาเริ่มต้นประมูลสูงสุดได้แก่ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 2,058.40 ตารางวา ในอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี มีราคาเริ่มต้นประมูล 6,930,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่มีขนาดกว้างขวาง เหมาะแก่การทำที่พักเพื่อการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ โดยผู้ที่ชนะการประมูลในครั้งนี้จะต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ตามจำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 5 วันทำการ นับถัดจากวันที่จัดประมูล และยังสามารถใช้ “ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับทรัพย์ NPA” อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นานสูงสุด 24 เดือน* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) และสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ในระหว่างผ่อนดาวน์เพียงชำระเงินประกันการเข้าอยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 1.5% ของราคาประมูลได้อีกด้วย 
 
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลบ้านมือสอง ธอส. สามารถร่วมประมูลได้ในวันเสาร์ที่  21 ธันวาคม 2567 พร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 10.00 - 16.00 น. โดยผู้ชนะการประมูลต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ 10,000 บาท ทุกรายการ ยกเว้นทรัพย์ที่มีราคาประมูลตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป วางเงินประกันซื้อทรัพย์ 100,000 บาท ทั้งนี้ 
ผู้ที่สนใจประมูลทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถร่วมประมูลได้ที่ห้องพิมานมาศ ชั้น 11 อาคารจอดรถ ธอส. สำนักงานใหญ่ ส่วนทรัพย์ในส่วนภูมิภาค จัดประมูล ณ สาขาที่ตั้งทรัพย์ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานประมูลได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และเริ่มประมูลตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com และ Mobile Application : GHB ALL HOME 

#ธอส #บ้านมือสอง #ข่าววันนี้ #ประมูลบ้าน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์