EN Name: 
Real Estate

พาชม CW Tower ออฟฟิศให้เช่า ใจกลางรัชดา ตอบโจทย์ทุกองค์กร พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตคนทำงานยุคใหม่ 

หากเหล่าผู้ประกอบการต้องการเช่าออฟฟิศ โซนรัชดาที่ตอบโจทย์ทั้งรูปแบบการทำงานขององค์กร เป็น Dream Company ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตวัยทำงานให้มี Work Life Balance สำนักงานให้เช่า CW Tower คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะนี่คือสำนักงานให้เช่าขนาดใหญ่ ใจกลางรัชดาโดดเด่นทั้งด้านทำเลที่ตั้ง อยู่ติดรถไฟฟ้า MRT เดินทางง่าย ช่วยเซฟค่าใช้จ่าย มีออฟฟิศให้เช่าหลากรูปแบบ พร้อม Facilities ครบครัน สะดวก สะอาด ปลอดภัย ทันสมัย แถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  มีร้านค้าและบริการภายในอาคารมากมาย นอกจากนี้ยังอยู่ติดกับศูนย์การค้าชั้นนำอย่างเดอะ สตรีท รัชดา และ Big C Place อีกด้วย! เรียกได้ว่าเป็นออฟฟิศของทุกเจนเนอเรชัน ที่ใครๆ ก็อยากเข้ามาทำงาน 

สำหรับเหล่าผู้ประกอบการที่กำลังลังเลว่า จะเลือกเช่าออฟฟิศ รัชดาที่ CW Tower ดีไหม คุ้มค่ากับการเช่าในระยะยาวไหม? รวมถึงเหล่าพนักงานที่กำลังจะย้ายงานมาทำที่นี่ อยากวางแผนการเดินทาง การใช้ชีวิตในออฟฟิศใหม่ ลองมาสำรวจพื้นที่และบริการแต่ละด้านที่ CW Tower ไปพร้อมกันในบทความนี้กับเราได้เลย!   

ตั้งอยู่ทำเลเมืองใจกลางรัชดา ทุกพื้นที่จัดสรรอย่างคุ้มค่า

อาคาร CW Tower ตั้งอยู่บนถนนรัชดา ใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีศูนย์วัฒนธรรม โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่เช่าสำนักงาน พื้นที่ Retail อาคาร Tower A 51 ชั้น และ Tower B 46 ชั้นและอาคารโพเดียม 6 ชั้น แบ่งออกเป็นพื้นที่สำนักงาน 3 ชั้น และพื้นที่ค้าปลีก 3 ชั้น ถือเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าขนาดใหญ่ที่จัดสรรพื้นที่ไว้อย่างคุ้มค่า เพื่อรองรับความต้องการของผู้เช่า และไลฟ์สไตล์ของวัยทำงานทุกคน 

ห้องออฟฟิศให้เช่า 3 รูปแบบ ตอบโจทย์ทุกการทำธุรกิจ 

ห้องออฟฟิศในอาคาร CW Tower มีให้เลือกทั้ง 3 รูปแบบ ตอบโจทย์ภาพ Dream Company และการทำธุรกิจแทบทุกประเภท ได้แก่ ห้องออฟฟิศมาตรฐาน (Office Standard) เป็นออฟฟิศว่าง หรือพื้นที่เปล่าผู้เช่าสามารถเลือกจัดสรรพื้นที่ทำงาน สามารถดีไซน์ได้ตามความต้องการ ห้องออฟฟิศสำเร็จรูป (Fully Furnished) มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ผู้เช่าสามารถใช้งานได้ทันที และสุดท้ายกับห้องออฟฟิศตกแต่งบางส่วน (Office Partly Fitted) มีความยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการเช่นเดียวกัน ไม่ว่าเหล่าผู้ประกอบการจะทำธุรกิจประเภทไหน เป็นองค์กรขนาดใหญ่ หรือสตาร์ตอัปขนาดเล็ก ก็เลือกเช่าออฟฟิศรัชดาที่ CW Tower ได้ทุกรูปแบบเลย

พื้นที่สีเขียวและการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สุขภาพทางด้านร่างกายและจิตใจนับปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตพนักงาน CW Tower จึงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวและการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริเวณด้านหน้าอาคารจะจัดเป็นสวนสีเขียว ช่วยเพิ่มความร่มรื่น และยังเป็นพื้นที่ที่พนักงาน หรือผู้ใช้งานในอาคารใช้เป็นจุดพักผ่อน รังสรรค์ไอเดียใหม่ๆ มีการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยหลัก 3Rs ได้แก่ Reduce ลดการสร้างขยะ Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle เก็บ ทิ้ง จัดการ ขยะให้ถูกวิธี นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง HVAC Air Scrubber เทคโนโลยีที่ช่วยบำบัดมลพิษอากาศและกรองฝุ่น PM 2.5 ภายในอาคาร  และอุปกรณ์เครื่องฆ่าเชื้อไวรัส (UV-C Clean Car, UV-C Clean Air) พนักงานและผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่า ตลอดเวลาที่อยู่ในอาคาร CW Tower จะได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ และไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่ม

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของพนักงาน 

CW Tower มีระบบสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ สามาถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมของผู้ใช้งาน ทั้งพื้นที่อาคารจอดรถความปลอดภัยสูง ลิฟต์โดยสาร Smart Mairoom อัจฉริยะ พร้อมอำนวยความสะดวกในการรับจดหมายและพัสดุให้เช่าทุกคน  มีร้านค้า ร้านบริการต่างๆ ภายในอาคารให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์อาหาร คาเฟ่ เครื่องดื่ม ฟิตเนส หรือธนาคาร นอกจากนี้ยังมีสะพานลอยเชื่อมต่อกับ ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย มีทั้งศูนย์อาหาร แหล่งช็อปปิง และกิจกรรมความบันเทิงครบ! 

จะเห็นได้ว่า CW Tower อาคารสำนักงานให้เช่าที่ตั้งอยู่ใจกลางรัชดาภิเษกนี้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของธุรกิจและวัยทำงานทุกเจนเนอเรชันได้เป็นอย่างดี มาพร้อมคอนเซปต์การออกแบบสำนักงานสมัยใหม่ รักษ์สิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เน้นความสะดวกสบาย ปลอดภัย ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางง่าย หากเหล่าผู้ประกอบการ หรือธุรกิจไหนต้องการเช่าออฟฟิศ รัชดาที่คุ้มค่า อยากผลักดันให้ธุรกิจเติบโตก้าวหน้า พร้อมดูแลคุณภาพชีวิตพนักงานให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข เลือกเช่ากับ CW Tower ไม่ผิดหวังแน่นอน ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://cwtower.com หรือติดต่อสอบถามได้ที่ 02-168-3332-3 


 

เปิดแล้ว! "Central Park" แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ยกระดับไลฟ์สไตล์คนเมืองสู่ระดับโลก

ที่สุดของกรุงเทพฯ เปิดแล้ว Central Park แลนด์มาร์กระดับโลกแห่งใหม่ ยกระดับทุกมิติไลฟ์สไตล์คนเมืองผสานธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ

เซ็นทรัลพัฒนา ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน เปิดตัว “เซ็นทรัล พาร์ค” ศูนย์การค้าลำดับที่ 43 ภายใต้คอนเซปต์ ‘Here for all of you’ ผสานไลฟ์สไตล์คนเมืองกับพื้นที่สีเขียว ปักหมุดแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางเมือง ยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตคนเมืองและพลิกโฉมรีเทลสู่อนาคต เดินหน้าเสริมศักยภาพกรุงเทพฯ สู่มหานครระดับโลก

จุดบรรจบที่ลงตัวของทุกจังหวะชีวิตเมือง ที่นี่…เซ็นทรัล พาร์ค เปิดแล้ววันนี้

คลิก: https://youtu.be/Ne9cSlvC8d0

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ในฐานะผู้พัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต เซ็นทรัลพัฒนาเห็นศักยภาพของทำเล Prestigious Address ใจกลาง Super Core CBD ของกรุงเทพฯ จึงได้ออกแบบศูนย์การค้า 'เซ็นทรัล พาร์ค' เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ทุกเจเนอเรชั่น ภายใต้แนวคิด 'Here for All of You' โดยเป็นส่วนหนึ่งของมิกซ์ยูสระดับโลก 'ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค' ที่ประกอบด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย ศูนย์การค้าแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางชีวิตรูปแบบใหม่ที่ผสานเมืองเข้ากับพื้นที่สีเขียวอย่างไม่เคยมีมาก่อน ด้วย Roof Park ขนาด 7 ไร่ ใจกลางเมืองใหญ่ที่สุดในไทย เชื่อมต่อกับสวนลุมฯ พร้อมวิวพาโนรามิก 180 องศา พร้อมยังคงรักษาคุณค่าและเอกลักษณ์ของพื้นที่ผืนประวัติศาสตร์ เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่แห่งไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ชีวิตคนเมือง ที่ผสาน Well Being และ Sustainability เชื่อมชีวิตเมืองกับธรรมชาติให้กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน และช่วยยกระดับกรุงเทพฯ สู่การเป็นมหานครระดับโลก” นางสาววัลยา กล่าว

ด้านงานดีไซน์ ใช้โทนสี “3 กษัตริย์” - เงิน ทอง และคอปเปอร์ - สีเสริมมงคลและความมั่งมี พร้อมคง Legacy ของดุสิต ด้วย Façade ที่สะท้อน Heritage ผ่านทุกดีเทล ดีไซน์โค้งและคลื่น เพิ่มมิติด้วยจอ LED digital curved ขนาดใหญ่กว่า 518 ตร.ม. รองรับคอนเทนต์ 3D ด้วย Visual Impact ที่ดึงดูดสายตากว่า 1 ล้านคู่ต่อวัน กลายเป็นจุด Landmark ใหม่ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เดินทางสะดวกที่สุดด้วยการเชื่อมต่อ BTS - MRT - Skywalk รองรับ Commuter กว่า 70,000 คนต่อวัน หรือมากกว่า 25 ล้านคนต่อปี

ยกระดับเป็น Culinary Landmark แห่งเอเชีย รวมที่สุดแห่งรสชาติจากทั่วโลกไว้ในที่เดียวรวมลิสต์ร้านดัง ที่สุดแห่งรสชาติจากทั่วโลก

First-time in Thailand ร้านดังครั้งแรกในเมืองไทย อาทิ KIWAMIYA ร้านเทปันยากิที่มีสเต็กวากิว       ต้นตำรับจากญี่ปุ่น, โควไบ พรีเมียมชาบู, Long Jing อาหารจีนฟิวชันจากหางโจว, Super Matcha   ชาเขียวพรีเมียมสุดฮิตจากเกาหลี, CHEONGDAM GARDEN (KOREAN GRILL) เป็นต้น

ร้านดังคอนเซ็ปต์ใหม่ อาทิ DOWNTOWN BY FRAN’S, MAGURO KAPPOU, GRILL YAMAYA, SUN MOULIN, CHAGEE, BAR B Q PLAZA, NOSE TEA, CHONGDEE, KOI THE’, POTATO CORNER SHAKES & FRIES, CTM, KHAO SOI PRIN, MENSHO, TP TEA, สมานฉันท์

ร้านดังคิวยาว อาทิ HIKINIKU TO COME, KATSU MIDORI, SHABU BARU, KAM’S ROAST, BEAUTY IN THE POT, KATSUKURA

แบรนด์อาหารดังมายก Group อาทิ เครือไอเบอรี่กรุ๊ป: บุรามาลี ร้านอาหารไทยในโรงน้ำชา, โต๊ะคิม, ทองสมิทธ์, ฟ้าปลาทาน, MAISON RORU, Maguro Group: KIWAMIYA, MAGURO KAPPOU, HITORI SHABU, Meation Group: SAEMAEUL EXPRESS, BHC CHICKEN, SOLSOT

รวม Michelin Guide และสตรีทฟู้ด 70 ร้านดัง กว่า 1,000 เมนู เยอะที่สุดในกรุงเทพฯ – ที่ Park Side Market ชั้น LG - Food destination concept ใหม่ #ฟลอร์นี้มีแต่ของอร่อย

เอาใจสายหวานด้วยกว่า 50 แบรนด์ Coffee–Tea–Sweet ตัวท็อปที่มาประชันกันอย่างจุใจ พร้อมเซอร์ไพรส์จาก “แบรนด์น้องใหม่” ที่บุกตลาดไทยเป็นครั้งแรก

ที่สุดของไลฟ์สไตล์คนเมือง ผ่าน 8 ชั้น 8 เรื่องราว ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง  ได้แก่

LG Floor – Parkside Market: รวมร้าน Michelin Guide เยอะที่สุดในไทย และสตรีทฟู้ดเจ้าดัง จากทั่วกรุงเทพฯ กว่า 1,000 เมนู ครบในที่เดียวเปิดให้บริการ 8.00 – 22.00 น. ร้านดัง New Concept และร้านดังอื่นๆ และโซน Take Home พร้อมร้านรวมงานคราฟต์แบรนด์ของดีของไทย DIVANA, GOOD GOODS, HUG CRAFT

G Floor – Parkside Food Hall: คาเฟ่และร้านอาหารชื่อดัง เพลิดเพลินได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ พบกับ First Time in Thailand พร้อมด้วย iberry group ยกเครือ รวมทั้ง ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค แฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ ในสไตล์ Modern Thai Heritage, Take Home Zone รวมของอร่อยย่านดังในที่เดียว ในรูปแบบ Grab & Go

1st  Floor – About Fashion: อัปเดตเทรนด์ก่อนใครกับแบรนด์แฟชั่นและบิวตี้ที่สะท้อนความเป็นตัวตนอย่างมีเอกลักษณ์ และ Prestige Cosmetic Brands และ ร้านกาแฟดัง % ARABICA เชื่อมต่อ BTS Skywalk

2nd  Floor – Fashion Playground: แบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ยอดนิยมที่สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่ ให้เป็นตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัด First Time in Thailand : LIVE!, SUNNIES WORLD และ มัลติแบรนด์สโตร์ COMMA &ND, JOURNAL, LACOSTE, MARITHÉ FRANÇOIS GIRBAUD, NIKE, ORI, POP MART, SEPHORA, SKONX, UNIQLO, VICTORIA'S SECRET, Beauty: JUNG SAEM MOOL, SKINLAB, IT & Gadgets: Studio7, Home and Hair Care: DYSON, STANLEY, Café: THE SUMMER COFFEE

3rd  Floor – Active Energy: แบรนด์แอคทีฟแวร์และไลฟ์สไตล์แฟชั่น พร้อมไอเทมเด็ดตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้อย่างลงตัว ทั้ง First Time in Thailand : ADIDAS KIDS, ICEBREAKER, VIVAIA, Beauty : BEAUTRIUM, Café : VE/LA

4th  Floor – Life Essentials: แบรนด์ Gadget ชั้นนำจากทั่วโลก พร้อมโซนธนาคาร สปาและศูนย์ดูแลสุขภาพ และคอนเซ็ปต์สโตร์ รวมถึงแฟล็กชิปสโตร์ First Time In Thailand : FELLOW BY YELLOW STUFF, IC! BERLIN, Café : KSANA MATCHA, MOLLY TEA, ZUS COFFEE

5th  Floor – Parkside Eatery: รวมสุดยอดร้านอาหารระดับพรีเมียมไว้ในที่เดียว ตั้งแต่ร้านเปิดใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ร้านคอนเซ็ปต์ใหม่สุดครีเอทีฟ ร้านดังในตำนาน ไปจนถึงคาเฟ่สุดชิค

6th  Floor – The Glasshouse: สัมผัสมื้อพิเศษบนดาดฟ้า พร้อมวิวพาโนรามิก เปิดให้บริการธันวาคมนี้

4 ก.ย. นี้ เตรียมพบ Happening พิเศษตลอดทั้งวัน กับกิจกรรมที่ Curated มาเพื่อ People of Central Park โดยเฉพาะ อาทิ

มันส์สุดขีด! DJ Parkside พร้อมโชว์สุดพิเศษเปิดสเตจสุดฮอตใจกลางเมือง, มันส์สุดปัง! โชว์ Ardawan ประสบการณ์ดนตรี Soul และ R&B และดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีจาก The Misc. Strings, Sunny Rattana Piano และ Acapella Show by Suanplu Chorus

ไฮไลต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ครั้งแรก Edible Exhibition โดย “มะเหมี่ยว ทิพวรรณ” หรือ “มะเหมี่ยว กินเค้ก” เนรมิต Central Park เป็นนิทรรศการศิลปะที่กินได้จริง พร้อมแท็กทีมตัวแทน People of Central Park ‘เจมมี่เจมส์’ นักแสดงที่มี Passion ในศิลปะการทำอาหาร และ ‘พราว อรณิชา’ Fashion Icon แถวหน้าของไทย ร่วมฉลองความยิ่งใหญ่

ปิดท้ายความสนุกกับ วง LANDOKMAI ดูโอ้หญิง ที่ดังในสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มและ WIM (กานต์ กษิดิ์เดช) ศิลปินแนวอาร์แอนด์บีและอิเล็กทรอนิกส์

แคมเปญ “Hello Neighbor!” มอบส่วนลดพิเศษจากร้านค้าในศูนย์ฯ สำหรับพนักงานออฟฟิศและผู้อยู่อาศัยในย่าน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม และพันธมิตรที่ร่วมแคมเปญ

Shop & Dine​ Rewards Curated For You ฉลองเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค #HereForAllOfYou จัดเต็มโปรโมชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ* ลุ้นรางวัลใหญ่ Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic รวมมูลค่า 3,350,000 บาท จาก Thonburi Phanich, บัตรกำนัลห้องพัก Club Suite 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า รวมถึง Club benefits และรถรับ-ส่งสนามบินโดย Porche Panamera จากดุสิตธานี กรุงเทพฯ และประสบการณ์ดินเนอร์ที่ Pavillion ที่ดุสิตธานี กรุงเทพฯ หรือลุ้นรับคะแนน The 1Card รวม 1,000,000 คะแนน เมื่อช้อปครบทุก 2,000 บาท พร้อมด้วย Exclusive Offers และCredit Card Privileges อีกมากมาย

Central Park พร้อมเป็นพื้นที่ของคนทุกเจเนอเรชั่น มาใช้ชีวิตได้ทุกรูปแบบ Here for all of you เปิดให้บริการทุกวัน 10:00-22:00 น. พบกันวันแรก 4 ก.ย. นี้

#CentralParkBangkok #เซ็นทรัลพาร์คแบงค็อก #เซ็นทรัลพัฒนา #CentralPattana #HereForAllOfYou

สายเช็กอินห้ามพลาด! "Central Park" เปิดแล้ววันนี้ 4 ก.ย. พร้อมมุมสวยถ่ายรูป

เตรียมกล้อง เตรียมมือถือให้พร้อม! วันนี้ (4 ก.ย. 68) สายคอนเทนต์จะได้เช็คอิน Landmark ใหม่ล่าสุดกลาง Super Core CBD กรุงเทพฯ กับ ‘Central Park’ ศูนย์การค้าลำดับที่ 43 ของเซ็นทรัลพัฒนา ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Design for the Future with Respect for Legacy ตอบโจทย์ชีวิตเมืองยุคใหม่อย่างยั่งยืน แต่ยังคงความ Legendary ในทุกดีเทล ทั้งภายในและภายนอกอาคาร พร้อมโทนสี “3 กษัตริย์” เงิน ทอง คอปเปอร์ ที่สื่อถึงโรงแรม ออฟฟิศ และเรสซิเดนซ์อย่างลงตัว

ไฮไลต์ พลาดไม่ได้ Infinity Skyline จุดชมวิวเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯแบบพาโนรามาแบบ 180 องศา บน Roof Park พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ ใหญ่ที่สุดในไทย ที่จะเป็น Must-visit photo landmark ที่ต้องมาเช็คอินให้ได้ พร้อมด้วย Natural Walk Trail เส้นทางเดินออกกำลังกายยาว 750 เมตร, Kids Park, Pets Park, Amphitheatre สำหรับกิจกรรมชุมชน และ Happening ด้าน Art & Culture ที่สร้างสีสันให้ชีวิตเมือง

นอกจากนี้ ด้านงานดีไซน์ ใช้โทนสี “3 กษัตริย์” - เงิน ทอง และคอปเปอร์ - สีเสริมมงคลและความมั่งมี พร้อมคง Legacy ของดุสิต ด้วย Façade ที่สะท้อน Heritage ผ่านทุกดีเทล ดีไซน์โค้งและคลื่น ที่สะท้อนความเป็น Heritage อย่างมีมิติ เสริมด้วยจอ LED digital curved ขนาดใหญ่กว่า 518 ตร.ม. รองรับคอนเทนต์ 3D สร้าง Visual Impact ที่ดึงดูดสายตากว่าล้านคู่ต่อวัน กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

เช็คอินให้ครบทุกมุม ‘Central Park’ ภายใต้คอนเซปต์ “Here for all of you” เปิดเฟสแรก 4 ก.ย. 68 เตรียมตัวให้พร้อม เดินทางง่ายๆ ด้วย BTS ศาลาแดง และMRT สถานีสีลม สะดวกที่สุด

พร้อมเตรียมงานฉลองเปิดเต็มรูปแบบ ‘Here for Celebration’ ในเดือนพฤศจิกายนนี้

สโคป จับมือธนาคารชั้นนำ เปิดดีลพิเศษ 2 โครงการ สโคป หลังสวนและ สโคป พร้อมศรี

กรุงเทพฯ —  SCOPE (สโคป) ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง ร่วมมือกับธนาคารชั้นนำ มอบข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษ เพื่อการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมคุณภาพ ใจกลางเมืองได้ง่ายยิ่งขึ้น   ภายใต้เงื่อนไข ผ่อนต่ำล้านละ 1,800 บาท นาน 2 ปี อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.5% ใน 2 ปีแรก พร้อมเสนอทางเลือกสำหรับผู้ที่กู้ได้ไม่เต็ม 100% (LTV)* ผ่านการผ่อนชำระส่วนต่างกับโครงการตรง ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน

ไฮไลต์แคมเปญพิเศษ “สโคป ผ่อนต่ำ”

1.            ผ่อนต่ำล้านละ 1,800 บาท นาน 2 ปี

o             ปีที่ 1-2: ล้านละ 1,800 บาท (1.5%)

o             ปีที่ 3: ล้านละ 5,000 บาท (4.48%) เฉลี่ย 3 ปี 2.49%

2.            ผ่อนส่วนต่าง LTV สำหรับผู้กู้ผ่านธนาคารได้ไม่เต็ม 100% ส่วนที่เหลือสามารถผ่อนกับโครงการโดยตรง ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน *

สโคป มอบโอกาสพิเศษนี้ เอาใจทั้งลูกค้าพรีเมียม กลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักลงทุน ให้สามารถเข้าถึงคอนโดมิเนียมทำเลศักยภาพได้ง่ายขึ้น กับสองโครงการ SCOPE Langsuan (หลังสวน) และ SCOPE Promsri (สุขุมวิท 39) ภายใต้เงื่อนไขที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุน ด้วยข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นที่ถูกกว่าเดิม ช่วยลดภาระการผ่อนให้น้อยลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ขณะเดียวกันยังเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า และเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถนำเงินไปลงทุนด้านอื่นได้อย่างคุ้มค่า ข้อเสนอครั้งนี้ไม่ใช่เพียงโปรโมชั่น แต่คือโอกาสพิเศษที่หาไม่ได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาทั้งคุณภาพการใช้ชีวิตและความมั่นคงด้านการลงทุน สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นใจ ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการสโคปคือทั้ง “บ้านคุณภาพ” และ “ทรัพย์สินการลงทุนที่คุ้มค่า”

SCOPE Langsuan คอนโดระดับอัลติเมทคลาส ความร่วมมือในการออกแบบจากดีไซน์เนอร์และสถาปนิกระดับโลก คอนโดมิเนียมฟรีโฮลด์ในผืนท้าย ๆ ของย่านหลังสวน หนึ่งในทำเลที่หายาก บนทำเลที่มีมูลค่าสูงใจกลางกรุงเทพฯ ตอกย้ำสถานะ “สินทรัพย์คุณภาพ” ด้วย Capital Gain เฉลี่ย 4.5% ต่อปี สะท้อนศักยภาพของโครงการที่เติบโตต่อเนื่องตาม CAGR ที่แข็งแกร่ง เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยจริงและการลงทุนระยะยาวในทำเลที่ดีที่สุด

•             ผ่อนต่ำล้านละ 1,800 บาท และพิเศษผ่อนส่วนต่างจากวงเงินกู้กับโครงการ 0% นาน 12 เดือน *

•             เฉพาะยูนิตแบบ 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 53 ล้านบาท ผ่อนเพียง 95,400 บาท/เดือน *                         

•             ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี และฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน

SCOPE Promsri โลว์ไรส์ เรสซิเดนซ์ ที่ดีที่สุด โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมาตรฐานการใช้ชีวิตเหนือระดับ บนทำเลคุณภาพสูงในซอยสุขุมวิท 49 หนึ่งใน “ทำเลทองคำ” ของกรุงเทพฯ ที่รายล้อมไปด้วย  สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันระดับไฮเอนด์ และยังเป็นทำเลศักยภาพที่ยังเติบโตในระยะยาวสำหรับนักลงทุน      ด้วยศักยภาพการปล่อยเช่าที่สูงและกลุ่มผู้เช่าต่างชาติที่มีความต้องการต่อเนื่องในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ ทำเลที่โดดเด่นด้วยค่าเช่าเฉลี่ยสูงถึง 1,000 บาทต่อตารางเมตร

•             ผ่อนต่ำล้านละ 1,800 บาท และพิเศษผ่อนส่วนต่างจากวงเงินกู้กับโครงการ 0% นาน 12 เดือน *

•             ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท ผ่อนเพียง 12,582 บาท/เดือน *

•             การันตีค่าเช่าเริ่มต้น 29,000 บาท/เดือน

•             ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี และฟรีค่าธรรมเนียมการโอน

ข้อเสนอสุดพิเศษนี้ มีจำนวนจำกัดและเปิดให้เฉพาะผู้โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น สอบถามรายละเอียด โทร. 02 028 9788

"พฤกษา" สานต่อความสำเร็จในทำเลศักยภาพบางนา เปิดตัว "ภัสสร 2 บางนา-วงแหวน"

พฤกษา สานต่อความสำเร็จในทำเลศักยภาพบางนาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ ด้วยการครองตลาดในทุกเซกเมนต์ ผ่านโครงการคุณภาพที่ตอบโจทย์ทั้งทำเลและฟังก์ชันการอยู่อาศัย เปิดตัวโครงการใหม่ “ภัสสร 2 บางนา-วงแหวน” เขย่าตลาดด้วยบ้านแนวคิด Live Out of Frame ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่กล้าใช้ชีวิตนอกกรอบ มาพร้อมดีไซน์เฉพาะตัวที่ได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะสไตล์ Wes Anderson ฟังก์ชันระดับพรีเมียม บ้านไซส์ใหญ่ หน้ากว้างจอดรถได้ถึง 3 คัน พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อรองรับแผ่นดินไหวด้วยผนังบ้านแกร่งจากพรีคาสท์ ครั้งแรกในโซนนี้กับบ้านเดี่ยวราคา 8.99 ล้าน เปิดพรีเซลครั้งแรก 6-7 ก.ย.นี้

วันที่ 3 กันยายน 2568 นายพิเชษฐ วิจิตรชำนาญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจ 2 บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน ได้สร้างประวัติศาสตร์ Sold Out กับโครงการบ้านเดี่ยวชั้นนำ ทั้ง “ภัสสร บางนา-วงแหวน” และ “เดอะปาล์ม บางนา-วงแหวน” ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภค สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพ ความคุ้มค่า และการพัฒนาโครงการที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ เพื่อสานต่อความสำเร็จ พฤกษาพร้อมเปิดตัว โครงการใหม่ล่าสุด “ภัสสร 2 บางนา-วงแหวน” บ้านเดี่ยวระดับราคา 8.99 ล้านบาท ที่ยังไม่มีในโซนนี้ เพื่อเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของตลาดเซ็กเมนต์นี้ พร้อมยกระดับมาตรฐานบ้านเดี่ยวพรีเมียมในราคาเข้าถึงได้ บนทำเลศักยภาพที่ครบทั้งการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะสร้างยอดขายได้ถึง 200 ล้านบาทในช่วงเปิดตัวครั้งแรก

ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนแนวคิดของโครงการในมุมที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น พฤกษาได้สร้างสรรค์แคมเปญ Music Marketing ผ่านบทเพลง “Stay Chill” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของความสุขที่ไม่ต้องไปไกล ผ่านภาพบ้านที่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งพื้นที่สีเขียว ความอบอุ่น และความเข้าใจในทุกเจเนอเรชัน เพื่อสะท้อนถึงแนวคิดหลักของพฤกษา “LIFETIME WELL-LIVING อยู่ดี...ทั้งชีวิต” ที่ต้องการส่งมอบบ้านที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ของความสุขอย่างแท้จริง

โดยมิติใหม่ของการอยู่อาศัยถูกพัฒนาผ่านความสวยงาม ความสะดวกสบาย และฟังก์ชัน ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากงานศิลปะสไตล์ Wes Anderson ที่ทำให้บ้านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งโทนสี การจัดวาง และจังหวะของพื้นที่ ทุกมุมของบ้านมีความกลมกลืนระหว่างความคลาสสิกและความโมเดิร์น พร้อมทั้งเสริมความมั่นใจด้านโครงสร้างด้วยนวัตกรรมผนังพรีคาสท์ ที่ทนต่อแรงแผ่นดินไหวตามมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารในเขตกรุงเทพฯ แข็งแรงกว่าผนังก่ออิฐทั่วไปถึง 3 เท่า ซึ่งพรีคาสท์ที่ผลิตในโรงงานที่มีระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะสามารถควบคุมคุณภาพได้แม่นยำทุกชิ้นส่วน กันไฟได้มากถึง 2 ชั่วโมง กันเสียงได้ดีขึ้น 33% โดยได้รับการรับรองจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ AIT (Asian Institute of Technology)

นอกจากนี้ ภัสสร 2 บางนา-วงแหวน ยังมอบความเป็นส่วนตัวเพียง 90 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา พร้อมพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 223–268 ตารางเมตร รองรับการอยู่อาศัยที่ยืดหยุ่นด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน Double Master Bedroom ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมจุดติดตั้ง EV Charger และระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ

พื้นที่ส่วนกลางได้รับการออกแบบในแนวคิด Well-Living Community ที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ส่งเสริมการอยู่ดีมีสุขให้กับลูกบ้าน ครบครันทั้งลู่วิ่ง สวนสำหรับปลูกผักสวนครัว คลับเฮ้าส์พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส สนามเด็กเล่นพร้อมกิจกรรมที่หลากหลายทั้งปั่นจักรยาน ชิงช้า ปีนผา แทมโพลีน รวมถึงพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง สวนสำหรับผู้สูงวัย และสวนยืดเหยียดเพื่อการผ่อนคลาย

ภัสสร 2 บางนา-วงแหวน ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่เดินทางสะดวก และเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย ใกล้ทั้งทางด่วน มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีเงินในอนาคต รายล้อมด้วยถนนสายหลัก อาทิ สุขุมวิท 77, บางนา–ตราด กิ่งแก้ว และยังใกล้จุดบริการชัตเทิลบัสจากสถานีบีทีเอสอุดมสุขเพื่อเดินทางสู่เมกาบางนา แวดล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น เมกา บางนา, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง, มาร์เก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิ, แจ๊ส กรีน วิลเลจ ประเวศ รวมถึงสถาบันการศึกษาชั้นนำ อย่าง รร.สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา, รร.ราชวินิตบางแก้ว, PAN-ASIA INTERNATIONAL SCHOOL, INTERNATIONAL COMMUNITY SCHOOL ตลอดจนสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง สำนักงานเขตประเวศ และสนามบินสุวรรณภูมิ

SC Asset ผนึก KBank เปิดเกมอสังหาฯ รายแรก หนุนลูกบ้านใช้พลังงานสะอาด มุ่งสู่ Net Zero

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset ผู้นำด้านความยั่งยืนในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ประกาศความร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย สนับสนุนให้ลูกบ้านที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสามารถขึ้นทะเบียนและขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ผ่านแพลตฟอร์ม GreenPass ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไม่มีค่าใช้จ่าย เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ พร้อมร่วมกันสร้างสังคมพลังงานยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ตามพันธกิจ SCero Mission

วันที่ 3 กันยายน 2568 SC Asset ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยที่ชวนลูกบ้านขึ้นทะเบียนซื้อ–ขาย REC โดยเริ่มจากกลุ่มลูกบ้านที่ติดโซลาร์แล้วกว่า 600 ยูนิต ครอบคลุมทั้งบ้านและคลับเฮ้าส์ในโครงการเก่าและโครงการใหม่ และจะขยายเพิ่มต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และลดค่าไฟรวมเกือบ 14.5 ล้านบาทต่อปี

นอกจากกลุ่มบ้านพักอาศัยแล้ว กลุ่มธุรกิจอาคารเพื่อเช่า ได้แก่ อาคาร SCT, อาคารชินวัตร 3 (สำนักงานใหญ่ของ SC Asset) และ The Junction ยังได้เข้าร่วมการขึ้นทะเบียนในครั้งนี้ด้วย ตอกย้ำการเดินหน้าสู่สังคมพลังงานยั่งยืนอย่างรอบด้าน ภายใต้พันธกิจ SCero Mission

เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า SC Asset ยังช่วยดำเนินการขึ้นทะเบียน REC ผ่าน GreenPass Platform เพื่อลดความยุ่งยากที่ลูกค้าต้องดำเนินการเอง ทำให้การเข้าถึงพลังงานสะอาดและการสร้างรายได้จากพลังงานทดแทนเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับทุกครัวเรือน

นางสาว สุดารัตน์ เจริญเกตุมงคล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกันระหว่าง SC Asset และธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเราในการยกระดับการใช้พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัย ควบคู่กับการสร้างคุณค่าเพิ่มให้ลูกค้า และสนับสนุนการสร้างสังคมพลังงานยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจ SCero Mission ที่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 100,000 ตันภายในปี 2030 และมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2065

ดร. กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แพลตฟอร์ม GreenPass ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้ภาคประชาชนและผู้ประกอบการ SME สามารถใช้ประโยชน์จากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปได้อย่างเต็มที่ ช่วยสร้างรายได้เพิ่ม และคืนทุนจากการลงทุนได้เร็วขึ้น โดยตลาดโซลาร์รูฟท็อปทั้งในภาคครัวเรือนและธุรกิจ SME มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากต้นทุนติดตั้งที่ลดลง และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ คาดว่าช่วงปี 2568–2578 จะมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมากกว่า 100,000 หลังคาเรือนทั่วประเทศ

“ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นการยกระดับการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยสนับสนุนให้อาคารสำนักงาน พื้นที่โครงการ ตลอดจนที่อยู่อาศัยของลูกบ้านที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียน REC ผ่านแพลตฟอร์ม GreenPass ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไม่มีค่าใช้จ่าย ถือเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการผลักดันแนวคิด Sustainable Living ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง” ดร.กรินทร์ กล่าว

ลูกบ้านที่สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมโครงการได้ที่ https://app.ruejaiclub.com/g80n สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1749 หรือที่นิติฯ โครงการ SC

พิเศษ! ลูกบ้านรับ Morning Coin คืน 2,000 MNC (มูลค่า 200 บาท) เมื่อกดรับสิทธิ์และลงทะเบียน REC สำเร็จ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2568
 

TCMC เผย Q2/68 ธุรกิจแกร่งขึ้น  EBITDA พลิกฟื้น ชูทิศทางกลุ่มธุรกิจพรม สัญญาณดีครึ่งปีหลัง 

TCMC เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 รายได้การขายและบริการรวม 1.2 พันล้าน ปัจจัยหลักเป็นผลกระทบจากกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (TCM Living) ยังต้องเผชิญความซบเซาจากตลาดเฟอร์นิเจอร์ในสหราชอาณาจักร ส่งผลกระทบให้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีรายได้ลดลง แม้ว่ากลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว (TCM Surface) และกลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ (TCM Automotive) จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงนอกฤดูกาลขาย

วันที 3 กันยายน 2568 นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TCMC)  เปิดเผยว่า บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (เรียกรวมกันว่า “กลุ่มบริษัท”) มีรายได้จากการขายและบริการในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 จำนวน 1,271.36 ล้านบาท แม้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 13.32 แต่ EBITDA หรือ (กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) อยู่ที่ 73.26 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,145 จากปีก่อน ขณะเดียวกันผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 219.14 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 116.14 ล้านบาท โดยปัจจัยการปรับตัวดังกล่าวมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดสหรัฐอเมริกาของกลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว (TCM Surface) และกลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ (TCM Automotive) มีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นจากยอดขายและยอดผลิตรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัวมาอย่างยาวนาน โดยคาดว่าจะฟื้นตัวและพลิกทำกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจากปัจจัยสภาวะตลาดที่ฟื้นตัว ซึ่งการเติบโตในไตรมาสนี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลการดำเนินงานที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ บริษัทจึงได้มีการทบทวนการตั้งด้อยค่าค่าความนิยมของกิจการเพิ่มเติมจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และรักษาผลการดำเนินงานในช่วงสภาวะตลาดที่ท้าทายนี้


นางสาวปิยพร กล่าวต่อไปว่า ช่วงไตรมาสสองของปี 2568 กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (TCM Living) เผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจอังกฤษถดถอยและค่าครองชีพสูง ทำให้รายได้ลดลงร้อยละ 36.09 แต่ทว่าแม้รายได้จะลดลงแต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่น โดยเพิ่มจากร้อยละ 15.65 ในปีก่อนเป็นร้อยละ 18.78 โดยเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์และการปรับลดต้นทุนในทุกกระบวนการ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นปี 2567 และออกแบบมาเพื่อรองรับยอดขายที่คาดว่าจะลดลงโดยเฉพาะ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทั้งหมดลดลงเหลือ 119.59 ล้านบาท จาก 186.34 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากความท้าทายของสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายและต้นทุนของบริษัทจึงได้มีการทบทวนการตั้งด้อยค่าค่าความนิยมที่เกิดจากการเข้าซื้อกิจการที่ประเทศอังกฤษ เพิ่มอีกจำนวน 149.24 ล้านบาท โดยเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ กลุ่มธุรกิจมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 224.40 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 112.44 จากผลขาดทุนสุทธิ 105.63 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากดูเฉพาะที่ EBITDA ซึ่งปรับตัวดีขึ้นถึงร้อยละ 85.15 แสดงถึงความคืบหน้าของการเพิ่มประสิทธิภาพแม้เผชิญสภาวะตลาดท้าทาย

แต่ทั้งนี้เนื่องจากมีภาระหนี้สินและสภาพตลาดยังคงไม่เอื้ออำนวย ฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นการสนับสนุนทางบริษัท Alstons ต่อไป และจำเป็นที่จะต้องยุติการสนับสนุนสองบริษัทย่อย ได้แก่ Ashley Manor และ Alexander & James โดยการยื่นแสดงความจำนงขอผู้บริหารแผน (Prepack Administration) ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติในประเทศอังกฤษ โดยบริษัทสามารถดำเนินการขายธุรกิจหรือสินทรัพย์หลักที่สำคัญให้กับผู้ซื้อที่ได้เจรจาไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งผู้บริหารแผนอย่างเป็นทางการ เพื่อจัดสรรหนี้สินที่ยังคงค้าง ชำระคืนให้เจ้าหนี้ตามลำดับสิทธิตามกฎหมายของสหราชอาณาจักร ซึ่งบริษัทจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในลำดับถัดไป การเข้ากระบวนการนี้ จะทำให้บริษัทต้องตั้งด้อยค่าเงินลงทุนและค่าความนิยมของกิจการ แต่ในขณะเดียวกัน จะช่วยให้บริษัทสามารถพยุงกิจการ Alstons ที่ยังสามารถดำเนินการได้ดี ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถกลับมาทำกำไรได้เมื่อสภาพตลาดฟื้นตัว

ด้านกลุ่มธุรกิจกลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว (TCM Surface) ในไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้จากการขาย 615.64 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.88 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกมาจากการเติบโตของการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 39.7 ของรายได้ทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 31.3 ในปีก่อน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มธุรกิจในการบรรลุยอดขายที่สูงขึ้น แม้ว่าไตรมาสที่ 2 จะยังอยู่นอกฤดูกาลขาย และ จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าขนส่ง ค่าแรง และค่าวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นอีกร้อยละ 10 ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินกลยุทธ์การลดผลกระทบ โดยเจรจากับลูกค้าและปรับราคาผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม มาตรการเหล่านี้ช่วยให้กลุ่มธุรกิจสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งไว้ได้ที่ร้อยละ 40.31 สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ มีการบริหารจัดการที่ดีส่งผลให้ EBITDA อยู่ที่ 53.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 83.94 แสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีภายในธุรกิจ

ด้านกลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ (TCM Automotive) มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.96 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับปัจจัยบวกจากอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยที่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 โดยยอดขายรถยนต์ในเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2568 มีแนวโน้มดีขึ้นและเติบโตขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาส 2 ปี 2567 เมื่อเทียบกับยอดขาย สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย โดยเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายจากส่วนกลาง ต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ ทำให้กลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์มีผลกำไรสุทธิ 11.06 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.04 ของยอดขาย สูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.77 ล้านบาท โดยมี EBITDA 27.25 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 4.8 ซึ่งจากทิศทางดังกล่าวมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นจากยอดขายและยอดผลิตรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัวมาอย่างยาวนาน

สำหรับฐานะทางการเงินของ TCMC กลุ่มบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่อยู่ในระดับดี โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่องทั่วไปอยู่ที่ 1.07 เท่า และอัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็วอยู่ที่ 0.63 เท่า ซึ่งต่ำกว่า ณ สิ้นปี 2567 ที่อยู่ที่ 1.12 เท่า และ 0.74 เท่าตามลำดับ สะท้อนว่ากลุ่มบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่ดี โดยมีอัตราการหมุนเวียนลูกหนี้การค้าดีขึ้นจาก 5.73 เท่าเป็น 6.83 เท่า ขณะที่สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน ลดลงจากวันสิ้นปี 2567 จำนวน 313.24 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.72 มีหนี้สินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ลดลงจากวันสิ้นปี 2567 จำนวน 38.56 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.78 พร้อมกันนี้กลุ่มบริษัทยังมีรายได้อื่นจำนวน 10.12 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากดอกเบี้ยรับ ค่าเช่า ค่าขายสินทรัพย์ เศษซาก ฯลฯ เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีอยู่ที่ 4.23  ล้านบาท บริษัทมุ่งเน้นการบริหารโครงสร้างหนี้อย่างรอบคอบและต่อเนื่อง เพื่อลดภาระทางการเงินและปรับสมดุลสัดส่วนหนี้สินในระยะยาว อันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างความพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

"ถึงแม้ทิศทางในปี 2568 สภาพเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย บริษัทย่อยในอังกฤษต้องเข้าสู่กระบวนการปิดกิจการ แต่บริษัทที่เหลือยังคงมีศักยภาพที่เข้มแข็งกว่าเดิม พร้อมที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต และสำหรับกลุ่มธุรกิจพรมและวัสดุตกแต่งพื้นผิว บริษัทยังคงตั้งเป้าที่จะรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ควบคู่กับการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันผ่านการลงทุนทั้งในเรื่องบุคลากรและการพัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ เพื่อยกระดับคุณค่าและประสบการณ์ของลูกค้า โดยยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องบนเส้นทางความยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงและเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงในช่วงครึ่งปีหลัง"  นางสาวปิยพร กล่าว

SAM ฉลอง 25 ปี รุกตลาด EEC ขนทรัพย์มือสองกว่า 4,500 รายการ จัดโปรฯเด็ด “มันนี่ เอ็กซ์โป ระยอง”

วันที่ 3 กันยายน 2568 บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ยกขบวนทรัพย์มือสอง(NPA)บนทำเลดีทั่วไทยมากกว่า 4,500 รายการ เข้าร่วมงานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 7  MONEY EXPO 2025 RAYONG ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายนนี้ ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัล ระยอง บูทหมายเลข E1

ทั้งนี้ลูกค้าที่กำลังมองหาทรัพย์ NPA เพื่อที่อยู่อาศัยหรือทรัพย์เพื่อการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  SAM มีไฮไลท์ทรัพย์เด่นสำคัญ อาทิ บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ เนื้อที่ 205.3 ตร.ว. ตั้งอยู่ในโครงการ วินเทจ โฮม วิลเลจ 3 ถ.พลา (ถนนเทศบาล 2) ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยใกล้โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ห้างโลตัส สาขาบ้านฉาง และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ราคาพิเศษ 7.43 ลบ. ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นครึ่ง เนื้อที่ 24 ตร.ว. โครงการกุญชร์สิริ ถ.ราชชุมพล (รย.5037) ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม การคมนาคมสะดวก ใกล้สำนักงาน กศน. จ.ระยอง สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ห้างโฮมโปร ระยอง และห้างแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น ราคาพิเศษ 4.5 ลบ.

ส่วนทรัพย์เพื่อนักลงทุน เช่น โรงงาน/โกดัง เนื้อที่ 19 ไร่ 241 ตร.ว. ถ.สายบ้านฉาง-นิคมพัฒนา (ทล.3376) ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ภายในประกอบด้วยอาคารโรงงานพร้อมสำนักงานสองชั้น บ้านเดี่ยว อาคารสำนักงาน อาคารเก็บของ อาคารพ่นสี บ้านพักคนงาน อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคครบครัน การคมนาคมสะดวก และยังใกล้กับโรงเรียนชุมชนวัดสุวรรณรังสรรค์ วัดสุวรรณรังสรรค์ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบ้านฉาง และห้างโลตัส บ้านฉาง  ราคาพิเศษ 68.06 ลบ. 

นอกจากนี้ SAM จัดโปรโมชันพิเศษสุดคุ้มภายในงานงาน อาทิ “SAM Flash Day”  แจก Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท  โปร “ฟรี! ค่าโอนคนละครึ่ง” ไม่เกิน 1% สำหรับทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท และ “ฟรี! โอนไม่อั้น” ไม่เกิน 2% สำหรับทรัพย์ที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงบริการสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารชั้นนำ อาทิ ธนาคารยูโอบี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจทรัพย์ NPA ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.sam.or.th รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว โดยแอด ID Line @Samline ติดตาม Facebook /YouTube / TikTok ได้ที่  "SAM บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท"  เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก SAM 

สำหรับลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ NPL ของ SAM ทุกราย ทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจที่มีหลักประกันและทุกประเภทสินเชื่อ ภายในงานยังมีบริการให้คำปรึกษาพร้อมจัดมาตรการพิเศษ “ปรับหนี้มีสุข ผ่อนดีมีลด” เช่น กรณีลูกค้าเลือกปิดบัญชีภายใน 6 เดือน จะได้รับยกเว้นดอกเบี้ยใหม่ทั้งหมด หรือหากเลือกการผ่อนชำระ คิดดอกเบี้ย 0% ในช่วง 6 เดือนแรก และปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR  เป็นพิเศษในเดือนถัดไป ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เป็นต้น

ส่วนลูกค้าที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วัน โครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเพียง 3-5% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี โดยมีทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้ เป็น 3 ทางเลือก คือ  1. ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี   2. ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี  3. ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี โดยมีคุณสมบัติของผู้สมัคร คือ เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี และมียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ NPL ของ SAM นอกจากติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่บูทแล้ว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1443  Facebook คลินิกแก้หนี้ by SAM และ Facebook บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท  ส่วนลูกค้าที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM”  สามารถสมัครได้หลากหลายช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com  หรือ แอดไลน์ @debtclinicbysam หรือติดต่อได้ที่สำนักงานคลินิกแก้หนี้ ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน (โซนลิฟท์แก้ว) ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (BTS สถานีรัชโยธิน) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. เป็นต้นไป

“พฤกษา” ผนึกพันธมิตร “มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์”  มุ่งสร้างคุณภาพชีวิต โครงการหรู “เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ”

เดินหน้าสร้างบ้านคุณภาพดี! พฤกษา ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการสร้างที่อยู่อาศัยที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดทุกช่วงวัย ภายใต้แนวคิด "LIFETIME WELL-LIVING อยู่ดี...ทั้งชีวิต" ล่าสุด ผนึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรระดับโลก "มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์" ผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์โดยสาร นำร่องติดตั้งลิฟต์มาตรฐานญี่ปุ่นในโครงการ "เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ" สะท้อนแนวคิด “บ้านดี ต้องเริ่มจากวัสดุคุณภาพดี”

วันที่ 2 กันยายน 2568 นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยของพฤกษานับจากนี้คือการสร้างบ้านที่มากกว่าที่อยู่อาศัย แต่ต้องสร้างบ้านพร้อมมอบคุณภาพชีวิตที่ดีไปตลอดชีวิต ภายใต้แนวคิด LIFETIME WELL-LIVING อยู่ดี...ทั้งชีวิต โดยจะดำเนินการผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่ Well Home การสร้างบ้านที่ดีและมีคุณภาพ Well Care การมอบบริการที่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ และ Well Community การสร้างสรรค์สังคมและชุมชนที่ดี โดยพฤกษาจะให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอน รวมถึงการคัดเลือกพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน

“มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) เป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านลิฟต์โดยสารภายใต้แบรนด์ระดับสากล “มิตซูบิชิ อิเล็คทริค”  โดยได้รับความเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้ใช้งานทั่วโลก และเป็นพันธมิตรที่มีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกับพฤกษาที่ต้องการจะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย และใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่ความนุ่มนวลในการใช้งาน ความเงียบ ไปจนถึงเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย การประหยัดพลังงาน และแนวคิดการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ลิฟต์ของมิตซูบิชิไม่เพียงโดดเด่นด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูง แต่ยังสะท้อนถึงการพัฒนานวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ”

“เราไม่ต้องการแค่สร้างบ้านสวยอยู่สบาย แต่ในแกนของ Well Home บ้านของพฤกษาต้องมีคุณภาพในทุกด้าน ใช้วัสดุคุณภาพดี ฟังก์ชันดี อยู่สบาย ปลอดภัย มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์อนาคต และมอบความคุ้มค่าในระยะยาวด้วยค่าบำรุงรักษาต่ำและประสิทธิภาพที่เสถียรตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งลิฟต์ของมิตซูบิชิสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ โดยเราจะเริ่มต้นความร่วมมือนี้ด้วยการนำลิฟต์จากมิตซูบิชิไปติดตั้งที่บ้านในโครงการเดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ บ้านเดี่ยวหรูสไตล์โมเดิร์น พลูวิลล่า 3 ชั้น พร้อมที่จอดรถซูเปอร์คาร์ และลิฟต์ส่วนตัวในบ้านทุกหลัง บนทำเลไพร์มย่าน Luxury Residence เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกวัน ไม่ใช่แค่ตอนเข้าอยู่ใหม่ แต่ต้องดีไปตลอด” นายธีระ กล่าว

นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า การมีลิฟต์ในบ้านจะช่วยให้ทุกคนใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนของบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ใช้วีลแชร์ที่ไม่ต้องอยู่แต่ในห้อง นอกจากนี้ ลิฟต์ที่เราเลือกใช้ยังมีดีไซน์ที่กลมกลืนกับบ้านเหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง อีกทั้งยังได้รับการออกแบบให้ Soft landing มีระบบไฟฟ้าสำรองในกรณีระบบไฟฟ้าปกติดับ และใช้วัสดุที่ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค รองรับผู้โดยสารได้ถึง 6 คน หรือราว 450 กิโลกรัม เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่ต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัยในทุกช่วงชีวิตอย่างแท้จริง

นายคัทสึยะ คาวาบาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มีความยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจและได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทพฤกษาในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และความยั่งยืน ซึ่งในฐานะผู้นำในธุรกิจลิฟต์ เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน แต่ยังช่วยส่งเสริมการเติบโตอย่างมั่นคงของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะในโครงการของพฤกษาซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย

ทั้งนี้บริษัทได้ให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัย โดยระบบลิฟต์ของเราได้ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย อาทิ ระบบเบรกคู่, ระบบสำรองไฟฟ้าในกรณีระบบไฟฟ้าหลักดับหรือขัดข้อง รวมถึงระบบไฟส่องสว่างฉุกเฉินภายในห้องโดยสารลิฟต์จะเปิดทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับ เพื่อให้มีแสงสว่างเพียงพอในการอพยพหรือรอความช่วยเหลือ, ระบบเซนเซอร์ป้องกันประตูหนีบ, ระบบตรวจวัดอุณหภูมิสูงที่ฮีทซิงก์ (Heat-sink) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ระบายความร้อนของอินเวอร์เตอร์ หากอุณหภูมิเกินค่าที่กำหนด ระบบจะทำการแจ้งเตือนหรือหยุดการทำงานเพื่อป้องกันความเสียหาย, กรณีลิฟต์หยุดทำงานระหว่างชั้นเนื่องจากอุปกรณ์ขัดข้อง ตัวควบคุม (Controller) จะตรวจสอบหาสาเหตุ และหากพิจารณาแล้วว่าสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัย ลิฟต์จะเคลื่อนที่ไปยังชั้นที่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วต่ำ และเปิดประตูออกเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถออกจากลิฟต์ได้อย่างปลอดภัย และผลิตภัณฑ์ของเรามีความทนทาน มีอัตราการแจ้งซ่อมต่ำ ลดภาระการบำรุงรักษาในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการลงทุนที่ยั่งยืนของบริษัทพฤกษา พร้อมทีมช่างบริการที่พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเน้นความรวดเร็ว มีคุณภาพ และใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุดในการใช้งาน

อีกทั้งเราได้พัฒนาเทคโนโลยีลิฟต์ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ พร้อมรองรับแนวคิด Smart Building อย่างสมบูรณ์ และให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดการพลังงานภายในลิฟต์ เช่น ฟังก์ชันยกเลิกการเรียกลิฟต์ผิดชั้น โดยผู้โดยสารสามารถกดหมายเลขชั้นเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อยกเลิกคำสั่งเรียก ฟีเจอร์นี้ช่วยลดการจอดลิฟต์โดยไม่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการจราจรของลิฟต์, การปิดไฟและพัดลมเมื่อไม่มีผู้ใช้งาน ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อย CO2 เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายของพฤกษาในการเป็นองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

เรามีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าเคียงข้างพฤกษา ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีจุดยืนเดียวกัน คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ใส่ใจในมาตรฐานคุณภาพสูงสุดทุกขั้นตอน คิดค้นเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานคุณภาพของการใช้ชีวิตของคนไทยทุกคน เพื่อให้ทุกผลิตภัณฑ์ที่เราส่งมอบ ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ปลอดภัย สะดวกสบาย และเหมาะกับทุกช่วงชีวิต”

MONEY EXPO 2025 RAYONG กู้บ้าน 0% 3 เดือน NPA ลดสูงสุด 70% รวมหนี้ดบ.ต่ำ 3-5% ผ่อนนาน 10 ปี

งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 7 MONEY EXPO 2025 RAYONG แบงก์-นอนแบงก์-ประกัน-บล. รวมดีลเด็ด คัดโปรปัง เอาใจพี่น้องชาวระยองและผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออก สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน NPA ทำเลเด่น ลดสูงสุด 70% เงินหมุนเวียนธุรกิจ SME ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท รวมหนี้ไว้ที่เดียว ดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนนาน 10 ปี ประกันสุดคุ้ม รับ ทองคำแท่ง, iPhone16 Pro max, Samsung Galaxy S25 จองอสังหาฯ ในงาน แถมทองคำ หนัก 1 บาท พร้อมรับของแถมอีกกว่า 20 รายการ ฟังฟรี! สัมมนาหัวข้อ “ลงทุนให้มันส์ ครบทุกเครื่องมือ : Stock • Futures • Options”, “สแกนหุ้นด้วย MT5 ภายใน 1 นาที” จากแก๊ง 4 ซ่า พาซิ่ง วันที่ 5-7 กันยายน 2568 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง จังหวัดระยอง

วันที่ 27 สิงหาคม 2568 นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน MONEY EXPO เปิดเผยว่า วารสารการเงินธนาคาร จะจัด งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 7 MONEY EXPO 2025 RAYONG ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2568 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง จังหวัดระยอง ภายใต้แนวคิด “Resilient Wealth การสร้างความมั่งคั่งทางการเงินแบบยืดหยุ่นเพื่อความยั่งยืน” เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้ประกอบการในจังหวัดระยอง รวมถึงพื้นที่ภาคตะวันออก ได้เข้าถึงบริการทางการเงิน การลงทุน และประกันภัยที่มีความหลากหลาย ทันสมัย และตรงตามความต้องการอย่างทั่วถึง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อและเงินทุนในเงื่อนไขที่เหมาะสม ขยายช่องทางการออมและการลงทุนที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน

นางสาวภาคนี กล่าวว่า ผู้เข้าชมงานจะได้เลือกใช้บริการจากธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานแบบครบครัน ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต สินเชื่อเอสเอ็มอี เงินฝาก สลากออมทรัพย์ กองทุน ประกัน พร้อมแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น อาทิ สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน (ดอกเบี้ยปีแรกลดลง 0.25% ต่อปี) ทรัพย์ NPA ทำเลเด่น ลดราคาพิเศษทั่วประเทศ สูงสุด 70% กู้เงินหมุนเวียนเพื่อธุรกิจ SME ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท สลากออมทรัพย์ ลุ้นโชคใหญ่ได้ทุกเดือน สินเชื่อรวมหนี้ไว้ที่เดียว แก้หนี้เสีย ดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนนาน 10 ปี ซื้อประกัน รับเงินคืน 8% ทุกปี ลุ้นทองคำแท่ง, iPhone16 Pro max, Samsung Galaxy S25 (เมื่อชำระเบี้ยตามเงื่อนไขที่กำหนด) จองอสังหาริมทรัพย์ภายในงาน แถมทองคำ หนัก 1 บาท พร้อมรับของแถมอีกกว่า 20 รายการ #กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ภายในงานยังจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้แก่ประชาชนและนักลงทุนผู้เข้าชมงาน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในตลาดเงินและตลาดทุน ณ เวทีกลาง ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครทำธุรกรรมภายในงาน แบบ Offline และบนแพลตฟอร์ม Online ได้ที่ www.MoneyExpoOnline.com ซึ่งผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของธนาคารใด ก็สามารถสมัครทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มได้ทันที รวมทั้งยังสามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ง่ายขึ้น

แคมเปญโปรโมชั่นเด่นในงาน MONEY EXPO 2025 RAYONG

ธนาคารกรุงเทพ : สินเชื่อบ้านบัวหลวง สินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย และสินเชื่อซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร สำหรับการอยู่อาศัย ฟรี ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน ขั้นต่ำ 3,000 บาท/แปลง (ไม่รวม VAT) ดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.35-5.46% ต่อปี สินเชื่อบัวหลวงพูนผล บ้านแลกเงิน สินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี ดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 5.63-6.92% ต่อปี บัวหลวงทรัพย์สินพร้อมขาย สินทรัพย์ทำเลดี ราคาเด่น ดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.35-5.46% ต่อปี ประกัน สมัครบริการประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย ที่ร่วมรายการ และชำระเบี้ยประกันปีแรกภายในงาน รับบัตรของขวัญ สตาร์บัคส์ มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท สมัครบริการรับชำระเงินด้วย QR Code ผ่านแอปพลิเคชั่น Bangkok Bank Merchant Pro / ลงทุนในกองทุนรวม RMF-Thai ESG ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป / เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ กับ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง (BLS) และใช้บัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพ เพื่อเป็นบัญชีรับ-จ่ายค่าซื้อขายหลักทรัพย์อัตโนมัติ (ATS) / เปิดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings หรือบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์บัวหลวงเอ็กซ์ตร้าดิจิทัล พร้อมสมัครโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ / บัตรเดบิต สมัครตามเงื่อนไข รับฟรี ของสมนาคุณมากมาย

ธนาคารออมสิน : สินเชื่อเคหะ Refinance สำหรับผู้มีรายได้ประจำ / ผู้ประกอบอาชีพอิสระ รายได้ 20,000 บาท / เดือนขึ้นไป กรณีทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ วงเงินกู้ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก กู้เพิ่มเติม (Re-Plus) ดอกเบี้ย 4.49% นาน 3 ปี NPA ลดราคาพิเศษทั่วประเทศ สูงสุด 70% สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน สินเชื่อส่วนบุคคล ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.59% ต่อปี (6 เดือนแรก) วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท สนับสนุนค่าประเมินราคาหลักทรัพย์สูงสุด 5,000 บาท สลากออมสิน ทั้งแบบใบ หรือ ดิจิทัล ยอดฝากตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป จนถึง 5,000,000 บาท รับของสมนาคุณตามเงื่อนไขที่กำหนด สินเชื่อ GSB D-VERs สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท กู้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี กู้ระยะยาวไม่เกิน 10 ปี

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา : สินเชื่อบ้านกรุงศรี ดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก ค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักประกัน 50% ดอกเบี้ยปีแรกลดลง 0.25% ต่อปี ประกัน สมัครและชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตสูงสุดต่อวัน รับฟรี Krungsri Gift Card มูลค่า 40,000 บาท วันละ 1 รางวัล รวม 3 รางวัล สินเชื่อบุคคล / สินเชื่อ SME / สินเชื่อยานยนต์ / ประกันชีวิต / ประกันภัย / หลักทรัพย์ / กองทุน / บัตรเครดิต / ดิจิทัลแบงค์กิ้ง สมัครตามเงื่อนไข รับฟรีของกำนัลมากมาย

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) : สมัครและชำระเบี้ย (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) รับ ทองคำแท่ง / iPad Air M3 (11-inch) 128 GB / Gift Voucher มูลค่าตั้งแต่ 1,500 - 13,000 บาท

บริษัท ซัมซุง ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) : ซัมซุงบำนาญ IRR 3.01% / ซัมซุง 888 รับเงินคืน 8% ทุกปี คุ้มครองสูงสุด 1,616% (เฉพาะประกันแบบ 10 ปี ขึ้นไป) รับของสมนาคุณ กระเป๋าเดินทาง / ทองคำแท่ง / iPhone16 Pro max / Samsung Galaxy S25 ตามเงื่อนไขที่กำหนด โปรโมชั่นบัตรเครดิต ผ่อน 0% สูงสุด 3-6 เดือน ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด : เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ / ฝากเงินเข้าบัญชี / ซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์ผ่านบัญชีประเภทใดก็ได้บน Liberator / หรือกดติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียของ Liberator รับฟรีของกำนัลมากมาย ตามเงื่อนไขที่กำหนด

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) : เปิดบัญชีผ่าน Pi Financial (หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และกองทุนรวม ครบ 3 บัญชีสำเร็จ) รับ บัตร Starbucks มูลค่า 100 บาท / คอร์สเรียนออนไลน์ 2 คอร์ส (กลุ่มปิดเฉพาะลูกค้า Pi A8) / สัมมนาต่อเนื่องจาก Pi A8 พร้อมรับ e-Book เทรดหุ้นด้วย MT5 และเริ่มเทรดครั้งแรก ด้วยบัญชีหุ้นหรืออนุพันธ์ ภายใน 31 ต.ค 68 รับหนังสือคลื่นกลยุทธ์

บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ (2018) จำกัด : จองอสังหาริมทรัพย์ภายในงาน รับ ทองคำ หนัก    1 บาท พร้อมรับของแถมอีกกว่า 20 รายการ เช่น ฟรี ค่าจดจำนอง / ค่าส่วนกลาง 1 ปี / บิวท์อินห้องรับแขก-ห้องครัว-ห้องนอนใหญ่ เป็นต้น

กรมบังคับคดี : เชิญชวนลูกหนี้หลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น หนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อ การศึกษา (กยศ.) หนี้บัตรเครดิต หนี้เช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ หนี้ SMEs และหนี้อื่นๆ เข้าร่วมไกล่เกลี่ย โดยจะพบกับข้อเสนอพิเศษ อาทิ ขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาด ลูกหนี้ไม่ถูกบังคับคดี

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด : สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยพิเศษ เฉพาะลูกค้า SAM จากธนาคารชั้นนำที่ร่วมรายการ ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) “ฟรี! ค่าโอนคนละครึ่ง” ไม่เกิน 1% สำหรับทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท / “ฟรี! โอนไม่อั้น” ไม่เกิน 2% สำหรับทรัพย์ที่มีราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป **โปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะในงาน ซื้อทรัพย์ที่มีราคาประกาศขาย ตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป รับ Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท คลินิกแก้หนี้ by SAM แก้ไขหนี้เสียบัตรจบในที่เดียว (One Stop Service) ไม่ว่าจะเป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน เพื่อให้กลับมาแก้ไข และชำระหนี้ได้ตามเดิม ดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี เลือกแผนผ่อนชำระได้ตามความสามารถ ผ่อนจบยกดอกเบี้ยค้างชำระเดิมให้

กองทุนการออมแห่งชาติ : สมัครใหม่และส่งเงินสะสม ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป รับของสมนาคุณตามเงื่อนไข