วันที่ 30 ก.ย.68 กองเรือยุทธการ ได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ระหว่าง พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ท่านเดิม) และ พลเรือโท กรวิทย์ ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ท่านใหม่) โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูง หัวหน้าหน่วยขึ้นตรง และกำลังพลกองเรือยุทธการร่วมพิธีอันทรงเกียรตินี้ บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร ท่าเรือจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ในพิธีสำคัญนี้ เรือหลวงปิ่นเกล้า ได้ทำการยิงสลุตจำนวน 15 นัด เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการท่านใหม่ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของนักรบทางเรือ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้ายก่อนปลดระวางประจำการในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 นี้ นับเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงเกียรติยศและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรือ โดยกองเรือยุทธการยังคงมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยทางทะเลของชาติ และยืนหยัดเคียงข้างประชาชนไทยด้วยหัวใจแห่งเกียรติยศ
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมลงคำสั่งให้ปลดเรือของกองทัพเรือออกจากระวางประจำการ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากเรือดังกล่าวมีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามอายุการใช้งาน การซ่อมบำรุงต้องใช้งบประมาณสูง ไม่คุ้มค่าในการซ่อมเพื่อใช้งานต่อไป จึงเห็นสมควรให้ปลดเรือออกจากระวางประจำการ ดังนี้
• เรือหลวงปิ่นเกล้า (413) ประเภทเรือฟริเกต อายุ 66 ปี
• เรือหลวงภูเก็ต (333) ประเภทเรือเร็วโจมตีปืน อายุ 42 ปี
• เรือหลวงสมุย (832) ประเภทเรือบรรทุกน้ำมัน อายุ 78 ปี
• เรือหลวงสุริยะ (821) ประเภทเรือวางเครื่องหมายทางเรือ อายุ 46 ปี
• เรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำ ล.14 อายุ 56 ปี, ล.110 อายุ 54 ปี, ล.111 อายุ 54 ปี, ล.136 และ ล.144
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
#ภูมิภาค-21