พิษ "บัวลอย" ท่วมหนัก! ชาวบ้านพลิกวิกฤตจับปลา ส่วนร้านเสริมสวย โอดอพยพหนีสงครามไม่พอยังมาเจอน้ำท่วม ถ้ายิงกันจะหลบภัยที่ไหน น้ำท่วมเต็มบังเกอร์ วอนช่วยเหลือ อาหารการกิน ยันไม่ขอเป็นญาติกับเขมร ทำคนไทยเจ็บช้ำหลายรอบ
วันที่ 30 ก.ย.68 ที่ ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้เผชิญสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันจากอิทธิพลพายุ “บัวลอย” ที่ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านในพื้นที่อย่างรุนแรงเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 ก.ย.68 ที่ผ่านมา บ้านเรือนประชาชนหลายหลังจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่กลางดึกอย่างระทึก ขณะเดียวกันน้ำป่ายังพัดกำแพงโรงเรียนบ้านจารย์ล้มเสียหายอีกด้วย แม้ระดับน้ำในช่วงวันนี้จะเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่น้ำก็ยังคงไหลเชี่ยวจำนวนมากอยู่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตยังมีโอกาส ตลอดทั้งวันนี้ ชาวบ้านและนักเรียนจำนวนหนึ่งได้พลิกสถานการณ์นำอุปกรณ์ออกหาปลาในน้ำท่วม เพื่อนำมาประกอบอาหาร ทำให้บรรยากาศในชุมชนที่ถูกน้ำท่วมมีความคึกคักขึ้นชั่วขณะ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและกู้ภัยในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกำลังเข้าช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ แม้ปริมาณน้ำจะลดลงบ้างแล้ว หากฝนไม่ตกอีกในช่วง 1-2 วันนี้
ด้านนางมัลลิกา ทอง อายุ 53 ปี เป็นช่างเสริมสวย กล่าวว่า ร้านเสริมสวยถูกน้ำเข้าท่วมสิ่งของพังหมดแล้ว เวลารถวิ่งน้ำตีพังหมด ของลอยเสียหาย ส่วนพ่อของตน อายุ 90 ปี ป่วยติดเตียง ดีที่ตนยกขี่คอขึ้นหนีทัน กลัวเรื่องชายแดนก็กลัว ทั้งภัยสงครามทั้งภัยธรรมชาติ น่ากลัวมาก ในบังเกอร์ก็ท่วมหมดแล้ว บังเกอร์ที่ทำไว้ก็เข้าไม่ได้ เพราะน้ำท่วมเป็นที่ลุ่ม ถ้ามีสงครามคงหนีเข้าบังเกอร์ไม่ได้ ท่านใดมีอาหาร ปลากระป๋องก็ช่วยเอามาแจกชาวบ้านแถวนี้บ้าง เพราะแย่ตั้งแต่อพยพทำมาหากินไม่ได้ มาเจอน้ำท่วมซ้ำอหนักเข้าไปอีก อดทุกอย่าง ลำบากต่อไป สงสัยจะอีกนาน อยากให้ชายแดนสงบเร็วๆ อยากให้เหมือนเดิม แต่ไม่อยากเป็นญาติกับเขมร เขาทำเราเจ็บช้ำบ่อยเหลือเกิน เป็นแค่เพื่อนร่วมโลกก็พอ อย่ามาเป็นญาติกันอีกเลย
นางน้อย บุญคง ชาวบ้านรังแก ต.บ้านจารย์ อ.สังขะฯ กล่าวว่า ลำบากต้องเฝ้าระวังเรื่องสงคราม ต้อง เตรียมเสื้อผ้าไว้อพยพแล้ว ต้องระวังเรื่องน้ำท่วมอีก ลำบากมาก
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนและสำรวจความเสียหายในหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร และนาข้าว โดยมวลน้ำหลากจะค่อยๆไหลจากเทือกเขาพนมดงรัก ไปยังพื้นที่ อ.สังขะ พื้นที่ อ.ศรีณรงค์ อ.ศีขรภูมิ ลงไปยังพื้นที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ และผ่านไปยัง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษต่อไป และถ้าหากฝนไม่ตกลงมาอีกปริมาณน้ำจะค่อยลดระดับลงต่อเนื่องใน 2-3 นี้
#ภูมิภาค-62