วันที่ 30 กันยายน 2568 สำนักข่าวอิศราเผยแพร่รายงานข่าวว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 4 ราย ได้แก่ (1) นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ (2) นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ (3) นายวิชชุ จันทาทับ และ (4) นางชัญญา เพ่งพันธุ์พัฒน์ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER)

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม พบการกระทำความผิดของบุคคล 4 ราย ได้แก่ (1) นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ (2) นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ (3) นายวิชชุ จันทาทับ และ (4) นางชัญญา เพ่งพันธุ์พัฒน์ โดยสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายของหุ้น TIGER ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงระหว่างวันที่ 24–29 ต.ค. และวันที่ 13 พ.ย.2561 (รวม 5 วันทำการ)

จากการตรวจสอบพบว่า ขณะเกิดเหตุผู้กระทำความผิดทั้ง 4 รายปฏิบัติหน้าที่และดำรงตำแหน่งในบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (บล. เคทีบี) กล่าวคือ นายวิน ตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร นายรัฐชัย ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมและหัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ และนายวิชชุ ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายจัดการกองทุนส่วนบุคคลและผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล ได้ร่วมกันวางแผน ดำเนินการ และแบ่งหน้าที่กันทำในการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายของหุ้น TIGER ในช่วงเวลาที่กล่าว โดยมีนางชัญญา ตำแหน่งผู้แนะนำการลงทุน ฝ่ายบริหารการลงทุนส่วนบุคคล ของ บล.เคทีบี ให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวก

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวข้างต้นได้มีการวางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจัดจำหน่ายหุ้น TIGER (ซึ่ง บล. เคทีบี เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในการออกและเสนอขายหุ้น TIGER ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)) โดยได้หาลูกค้ามาเปิดบัญชีกองทุนส่วนบุคคลรายใหม่ โดยไม่พิจารณาศักยภาพทางการเงินของลูกค้าอย่างเพียงพอในกระบวนการทำความรู้จักตัวตนของลูกค้า (KYC/CDD) และจัดสรรหุ้น TIGER แบบกระจุกตัวในบัญชีกองทุนส่วนบุคคลของลูกค้าดังกล่าวโดยมีการออกรายการส่งเสริมการขายมารองรับ

จากนั้นเมื่อหุ้น TIGER เข้าซื้อขายใน mai เป็นวันแรก (วันที่ 24 ต.ค.2561) นายวิชชุได้เริ่มส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น TIGER ผ่านบัญชีกองทุนส่วนบุคคลของลูกค้าดังกล่าวในลักษณะการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายของหุ้น TIGER เพื่อมุ่งหมายให้ราคาซื้อขายในช่วงระหว่างวันที่ 24-29 ต.ค.2561 และวันที่ 13 พ.ย.2561 อยู่ในระดับที่สูงกว่าราคาเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรกของหุ้น TIGER (ที่ราคา 3.65 บาท)

การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวข้างต้นทำให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น TIGER ผิดไปจากปกติของตลาด อันทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าใจผิดว่าขณะนั้นมีความต้องการซื้อขายหุ้น TIGER ในปริมาณมาก ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 244/3 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 315 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ (แล้วแต่กรณี)

นอกจากนี้ การกระทำของนายวิชชุ ในฐานะผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล ยังเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของผู้มอบหมายให้จัดการกองทุนส่วนบุคคลโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 134 วรรคสองและวรรคสาม ประกอบมาตรา 133 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ เนื่องจากบุคคลดังกล่าวข้างต้นทั้ง 4 ราย เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือต่อผู้ลงทุนทั่วไป กรณีข้างต้นมีลักษณะเป็นการกระทำผิดที่มีความร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือต่อตลาดทุน และยังมีการกระทำความผิดของบุคคลบางรายที่ไม่สามารถใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งได้ ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 4 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไปนั้น  

ล่าสุดพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ และคดีได้สิ้นสุดลงแล้ว ทั้งนี้ตามคดีอาญาที่ 31/2567 คดีระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดย นางสาวอรทัย คงมั่น ผู้รับมอบอำนาจ ผู้กล่าวหา กับนายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ที่ 1 นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ที่ 2 นายวิชชุ จันทาทับ ที่ 3 และนางชัญญา เพ่งพันธุ์พัฒน์ ที่ 4 ผู้ต้องหาฐานความผิด ผู้ต้องหาที่ 1-2 ร่วมกันสร้างราคาและปริมาณหุ้น ฐานความผิดผู้ต้องหาที่ 3 ร่วมกันสร้างราคา และปริมาณหุ้น และผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้รับมอบหมายให้จัดการกองทุนส่วนบุคคล โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ ฐานความผิดผู้ต้องหาที่ 4 สนับสนุนการสร้างราคา และปริมาณหุ้น ไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณา นั้น

คดีนี้พนักงานอัยการได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ผู้ต้องหาที่ 1 นายธีระธนาวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 2 และ นายวิชชุ จันทาทับ ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันสร้างราคาและปริมาณหุ้น ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 244/3, 296, 296/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

สั่งไม่ฟ้อง นายวิชชุ จันทาทับ ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้มอบหมายให้จัดการกองทุนส่วนบุคคล โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 133, 134, 285 ตรี และสั่งไม่ฟ้อง นางชัญญา เพ่งพันธ์พัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสนับสนุน การสร้างราคา และปริมาณหุ้น ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 244/3, 296, มาตรา 886 เพราะพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง” หนังสือกองกำกับการ 3 กองบัญชาการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ที่ ตช 0026.935/1347 เรื่อง แจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ลงวันที่ 8 ก.ค.2568