วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากพายุ “บัวลอย” ส่งผลให้เกิดมวลน้ำไหลหลากจากเทือกเขาพนมดงรัก รวมถึงจากพื้นที่ตำบลตาตุม ตำบลเทพรักษา และตำบลบ้านจารย์ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ไหลบ่ามารวมกันจนเกิดน้ำท่วมหนักในหลายจุดของอำเภอสังขะ ซึ่งนับเป็นการท่วมรอบที่ 2 ของปีนี้ และมีความรุนแรงมากกว่าครั้งก่อนที่เกิดจากพายุ “รากาซา” เพียงไม่กี่วันก่อนหน้า

น้ำท่วมสูงกว่า 80-100 เซนติเมตร ตั้งแต่บริเวณหน้าร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรวมชัยสังขะ ไปจนถึงสี่แยกไฟแดงหน้าโรงเรียนสังขะวิทยาคม รวมระยะทางกว่า 800 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน และร้านค้าสองฝั่งถนนจมอยู่ใต้น้ำจำนวนมาก

นอกจากนี้น้ำยังเอ่อท่วมบนถนนหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย–เดชอุดม บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันพีที จุดเดิมที่เคยถูกน้ำท่วมเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยน้ำท่วมยาวกว่า 500 เมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้เช่นกัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ ได้เข้าจัดการจราจรและปิดเส้นทางบางจุด พร้อมจัดเส้นทางเลี่ยงให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์เปลี่ยนไปใช้เส้นทางภายในเทศบาลเมืองสังขะ ผ่านบ้านไทยสมบูรณ์ เพื่อกลับออกถนนหลวงหมายเลข 24 อีกครั้ง รวมระยะทางอ้อมกว่า 4-5 กิโลเมตร

สถานการณ์น้ำยังส่งผลให้หมู่บ้านญาดาวิลเลจถูกน้ำท่วมกว่า 80 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย

ด้าน มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย นำทีมโดย นายชาญชัย ศุภวีระกุล ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย นายบุญเลี้ยง เรียมทอง นายอำเภอสังขะ ได้นำเรือท้องแบนและรถกู้ภัยลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน แจกอาหารสำเร็จรูป พร้อมจัดกำลังอุดกระสอบทรายป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้านเพิ่มเติม

นายบุญเลี้ยง เรียมทอง นายอำเภอสังขะ กล่าวว่ “ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พื้นที่อ.สังขะได้รับผลกระทบจากพายุบัวลอยแทบทั้งอำเภอ โดยเฉพาะโซนทิศใต้ติดชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำ น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมหลายตำบลและเขตเทศบาล ขณะนี้เราได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ฯ หน่วย นพค.54 และ ปภ.สุรินทร์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมเตรียมรถยกสูงและเรือไว้ใช้อพยพประชาชนในกรณีฉุกเฉิน”

นายบุญเลี้ยงยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางอำเภอได้เสนอให้จังหวัดสุรินทร์ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือประชาชนได้โดยเร็ว

 

#ภูมิภาค-63

ส่วน นายชาญชัย ศุภวีระกุล ผู้จัดการทีมมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยากฯ กล่าวว่ “เราลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อมอบอาหารและช่วยอุดกระสอบทรายให้ชาวบ้านในหมู่บ้านญาดาวิลเลจ ซึ่งน้ำรอบนี้สูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โชคดีที่ฝนหยุดตกแล้ว แต่ยังมีน้ำจากเทือกเขาพนมดงรักไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด โดยน้ำจะค่อยๆ ไหลลงสู่อำเภอศรีณรงค์และศีขรภูมิ ก่อนลงสู่ลำห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษต่อไป”

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกเพิ่มในช่วง 2–3 วันนี้ ระดับน้ำในอำเภอสังขะคาดว่าจะเริ่มลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ