วันที่ 30 ก.ย.68  รัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns ระบุว่า...

มีคำถามว่านโยบายต่างประเทศไทยในเรื่องนี้ของรัฐบาลปัจจุบัน ถูกกำหนดจากพนมเปญ หรือที่กรุงเทพฯกันแน่?

การโยนเรื่อง mou 43, 44 ให้ไปทำประชามติ คือความขี้ขลาดตาขาวของรัฐบาลปัจจุบัน ที่จะโยนความรับผิดชอบที่เกิดอาจเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติไปให้ประชาชนแทน

ทั้งๆที่เรื่องนี้ เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ซึ่ง ครม. สามารถตัดสินใจยกเลิกได้เลย แต่กลับไม่ยอมทำ ถ้าแน่จริงก็เอาเลยครับ กล้าๆ

ยกเลิก MOU 43/44 เข้าทางกัมพูชาทันที ไทยเสียมากกว่าได้ เตือนคนไทยอย่าหลงกลตกเป็นเหยื่อการเมือง

1. MOU 43/44 เป็นเพียงกรอบการเจรจาไม่ใช่สัญญาเสียดินแดน

2. การเจรจาในอนาคตต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา รัฐบาลไม่สามารถตกลงเรื่องเขตแดนโดยลำพังได้

3. การยกเลิก MOU43/44 ในตอนนี้ จะทำให้ไทยเสียเปรียบ เข้าทางกัมพูชาเลี่ยงโต๊ะเจรจา

4. หากไม่มี MOU ไทยอาจถูกผลักเข้าสู่วที่ระหว่างประเทศ เช่น ICJ อาจกระทบต่อโอกาสการต่อรอง และเสี่ยงเสียเปรียบทางกฎหมาย

5. พรรคการเมืองบางพรรคเคยร่วมรัฐบาลก่อนหน้าไม่เคยคัดค้าน แต่วันนี้กลับเรียกร้องให้ยกเลิก สะท้อนจุดยืนที่เปลี่ยนไป น่าสงสัยในเจตนาและความบริสุทธิ์ใจ

6 ยิ่งยกเลิก ยิ่งเข้าทางกัมพูชา ไทยอาจเสียผลประโยชนในระยะยาว จึงควรใช้ MOU นี้เป็นเครื่องมือรักษาผลประโยชน์ชาติ