“ทนายเชาว์” อดีตโฆษกปชป. ฟาด “ทักษิณ” ดิ้นขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำไม่ได้ ขู่ใครชงระวังเจอม. 157 ซัดทำผิดซ้ำซากไม่เคยสำนึก ชี้อภัยโทษมีไว้ให้คนสำนึก ไม่ใช่บัตรผ่านพ้นผิดคนไม่เคารพคำพิพากษา
วันที่ 30 ก.ย.2568 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง ดื้อดึงขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำ ใครชงเรื่องระวัง 157 มีเนื้อหาระบุว่า เมื่อมีข้อเท็จจริงยืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย เป็นครั้งที่ 2 หลังเข้ามารับโทษในเรือนจำ ก็ต้องถามตรง ๆ ว่า กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้จริงหรือ? อย่าลืมว่า นายทักษิณเคยขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี โทษที่ได้รับอยู่ จึงไม่ใช่โทษตามคำพิพากษาเดิม แต่เป็นโทษที่เกิดขึ้นจากพระบรมราชโองการโดยตรง มาตรา 259 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ระบุชัดว่า ผู้ที่ “ต้องคำพิพากษาให้รับโทษ” จึงจะสามารถยื่นขออภัยโทษได้ ความหมาย คือ โทษที่ถูกลดโดยพระบรมราชโองการ แล้ว ไม่ใช่โทษตามคำพิพากษาอีกต่อไป
อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ฟันธงว่า การขอพระราชทานอภัยโทษอีกครั้ง จึงสุ่มเสี่ยงไม่เข้าเกณฑ์กฎหมาย และยิ่งไปกว่านั้น มาตรา 261 กำหนดหน้าที่ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต้องถวายความเห็นประกอบ หากยังดื้อดึงถวาย ทั้งที่รู้ว่าขัดหลักเกณฑ์ ก็อาจถูกตีความว่า ใช้อำนาจโดยมิชอบ ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 นายทักษิณ เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี แต่กลับหนีคุกด้วยการ ‘ป่วยทิพย์’ สุดท้ายศาลฯ สั่งให้กลับไปรับโทษ ควรสำนึกรับโทษ แต่ยังดิ้นรนยื่นขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำ
“นี่คือการทำเรื่องไม่สมควรซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนที่ทำผิดซ้ำซากและไม่เคยสำนึกอย่างแท้จริง จนต้องลงเอยอย่างที่เห็น อภัยโทษมีไว้ให้คนสำนึก ไม่ใช่บัตรผ่านพ้นผิดของคนที่ไม่เคารพคำพิพากษา“ นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย