เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 29 ก.ย.68 ร.ต.ท.เรืองวิทย์ ทัศนาลัย ร้อยเวรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถปิกอัพชนกับรถปิกอัพมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายเขางู-เบิกไพร หมู่ 7 ต.เขาแร้ง อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี เจ้าหน้าที่มูลนิธประชานุกูลราชบุรี และรถตัดถ่างในการนำผู้บาดเจ็บออกมา ในที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียนป้ายแดงสมุทรสงคราม ด้านหลังรถเป็นรถคอกบรรทุกวัวด้านหน้ารถพังยับเยินมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในซากรถ 1 คน ส่วนปิกอัพอีกคันยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพฯ สภาพหน้ารถพังยับเยินเช่นกันและมีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในซากรถ 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องขอสนับสนุนเครื่องตัดถ่างจากหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี มาเพิ่มอีกจำนวน 2 เครื่องและขอสนับสนุนหน่วยกู้ชีพจากเทศบาลตำบลเขางู หน่วยกู้ชีพจากเทศบาลตำบลเขาขวาง ให้มาช่วยในการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บในช่วงที่ต้องทำการตัดถ่างนำผู้บาดเจ็บออกมาซึ่งใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถตัดถ่างรถและผู้บาดเจ็บออกมาส่งโรงพยาบาลราชบุรีได้สำเร็จ ทราบชื่อคือนายธนนชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี นายประสงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี
และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายถูกนำส่งไปโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ 1 ราย ทราบชื่อคือนายอนุวงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ส่วนอีก 1 ราย นั้นแขนหักและมีบาดแผลตามลำตัว ซึ่งพอจะให้การได้ทราบชื่อต่อมาคือนายวิชาญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ก็เล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมกับนายอนุวงศ์ ผู้บาดเจ็บที่ไปโรงพยาบาลแล้ว และนายธนนชัย ซึ่งเป็นคนขับที่ได้รับบาดเจ็บติดอยู่หน้ารถได้ไปซื้อลูกวัวมาจากอำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุจู่ๆรถปิกอัพที่มีนายประสงค์ เป็นคนขับก็แซงรถคันอื่นขึ้นมาแบบกระทันหัน ทำให้รถทั้งสองคันพุ่งชนประสานงากันอย่างจัง ทำให้ลูกวัวที่ตนซื้อมากระเด็นตกจากรถไปตาย 1 ตัว ส่วนอีกตัวนั้นไม่เป็นไร และคนก็ได้รับบาดทั้งหมดดังกล่าว
ในเส้นทางดังกล่าวเป็นทางสวนเลนส์ไม่มีเกาะกลางถนนทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาวเพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบทำการเคลียพื้นที่เพื่อเปิดการจราจร รวมทั้งจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป