วันที่ 29 ก.ย. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ
ต่อมาเวลา 15.35 น. บรรยากาศในห้องประชุมเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายเรื่องกระบวนการฮั้ว สว. โดยมีการลงรายละเอียดพฤติกรรม และขั้นตอนในกระบวนการตั้งแต่การใส่เสื้อเหลือง เนกไทเหลือง การมีโพยเหมือนกัน และความผิดปกติของคะแนน ทำให้สว.หลายคน อาทิ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ และพล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย พากันลุกขึ้นประท้วง ระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล และเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมไม่สมควรนำมาชี้นำ
ทำให้ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่าไม่ควรไปลงรายละเอียด เพราะเรื่องยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ทำให้สส.พรรคปชน. ไม่พอใจ ลุกขึ้นประท้วง อาทิ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.ยืนยันว่า สิ่งที่นพ.วาโยอภิปราย เป็นการพูดถึงนโยบายที่ไม่ปฏิบัติตามหลักนิติรัฐนิติธรรม และยังไม่ได้พาดพิงไปถึงสว.คนไหน แค่บอกว่า สิ่งใดที่นพ.วาโยพาดพิงคือเนกไทเหลือง ใครจะร้อนคอก็แล้วแต่ แต่วันนี้เราต้องเดินหน้าต่อ
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ยืนยันว่า ต้องอภิปรายลงไปในรายละเอียด เพราะเรื่องนี้มีรายละเอียดมาก ท้ายที่สุดนายวันมูหะมัดนอร์ อนุญาตให้นพ.วาโยอภิปรายต่อได้ แต่อย่าลงลึกในรายละเอียดมากเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดการประท้วงไม่สิ้นสุด
แต่ปรากฎว่านพ.วาโยยังอภิปรายลงลึกในรายละเอียดเรื่องกระบวนการฮั้วสว. ทำให้สว.ไม่พอใจประท้วงกันอีกรอบ บรรยากาศจึงเริ่มตึงเครียด จนนายประเทือง มนตรี สว. อภิปรายเสียงดังด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า จะอภิปรายสว.หรือนโยบายรัฐบาล ตอบมา เดี๋ยวได้เจอกัน ทำให้สส.พรรคปชน. รุมประท้วงขอให้นายประเทือง ถอนคำพูด ซึ่งนายประเทืองยังไม่ยอมถอนคำพูด บอกว่าจะให้ถอนเรื่องอะไร ทำให้นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะไม่ถอนพฤติกรรมข่มขู่เพื่อนสมาชิกใช่หรือไม่ ถ้าไม่ถอนก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน
นายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยให้นายประเทืองถอนคำพูด หากไม่ถอนก็จะไม่อนุญาตให้อยู่ในห้องประชุม นายประเทืองจึงยอมถอนคำพูด
นพ.วาโย จึงอภิปรายต่อ โดยเตือนว่าหากยังฝ่าฝืน อภิปรายลงลึกใยรายละเอียดก็จะไม่อนุญาตให้พูดอีก เพราะถือว่าไม่เคารพในสิ่งที่ประธานพูด จะให้โอกาสอีกครั้ง ในที่สุดนพ.วาโยตัดบทสรุปว่า การมีโพยเลือกสว.ไม่ใช่เรื่องผิด หากมาด้วยอุดมการณ์เดียวกัน แต่ถ้ามีผลประโยชน์และการจ้างวานกัน มีเส้นทางการเงินถือเป็นเรื่องผิด เชื่อว่าดีเอสไอมีหลักฐานแล้ว จึงฝากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปดูแลให้เกิดความมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีและครม. จะปฏิบัติตามนโยบายเรื่องนิติรัฐนิติธรรมจริงๆ เพราะตอนนี้เรายังไม่ได้รับคำมั่นสัญญา