เมื่อวันที่ 29 ก.ย.68 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนิน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย รมต.ในส่วนของพรรคกล้าธรรม เดินทางเข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นวันแรก

โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายด่วนภายในระยะเวลา 4 เดือน ต่อเนื่องที่เคยดำเนินการมา ซึ่งจะเน้นให้ความสำคัญไปที่การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ปัญหาเรื่องการต่อรองภาษีกับสหรัฐที่จะกระทบต่อสินค้าเกษตรภายในประเทศ ปัญหาความไม่สงบตามแนวชายแดน ปัญหาเรื่องการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนนำเข้าผิดกฎหมาย โดยจะเปลี่ยนแปลงคณะทำงานชุดพญานาคราช นำบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาดำเนินการ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด

ส่วนการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีนโยบายทำให้ราคายางพุ่งไปถึงตัวเลข 3 หลัก ในวันที่ 2 ตุลาคม 2568 หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และมอบนโยบายต่อข้าราชการกระทรวงเกษตรฯแล้ว จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลง ระหว่างการยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อรับซื้อผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ จากการยางแห่งประเทศไทยเท่านั้น รวมไปถึงให้หน่วยงานในสังกัดที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยางพารา จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ยางของการยางแห่งประเทศไทยทั้งหมด ตลอดจนจะมีการขยายตลาดยางไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งตนจะเดินทางไปเจรจากับประเทศผู้ค้าสำคัญ โดยเฉพาะประเทศจีน ย้ำว่า ภายในกรอบระยะเวลา 4 เดือนสินค้าเกษตร ในภาพรวมจะต้องมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

“แม้กรอบเวลาการทำงานของรัฐบาลชุดนี้จะมีไม่มาก แต่ยืนยันว่า การดำเนินนโยบายด้านการเกษตรที่พรรคกล้าธรรม ได้เดินหน้าต่อเนื่อง สามารถสานต่อให้เกิดผลรูปธรรมได้ทันที โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่เกษตรกรที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งราคาผลผลิตตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง รวมถึงการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ และการค้าขายชายแดนที่ได้รับผลกระทบจาก ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา แม้กรอบระยะเวลาบริหารงานของรัฐบาล มีจำกัด ก็จะขอให้ดูผลสำเร็จจาก Quick Big Win ที่ ผมทำ"ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ส่วนปัญหาเรื่องข้าวนั้นมาตรการระยะสั้น กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งรองรับราคาข้าวนาปี โดยใช้แนวทางที่เคยดำเนินการเช่น การชะลอการขายข้าว พร้อมเดินหน้าขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะประเทศจีนที่อยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ยังได้กำชับเข้มงวดต่อการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรทุกประเภท โดยประสานงานกับ ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการอย่างจริงจัง


ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาเร่งด่วนอีกเรื่องคือ การบรรเทาอุทกภัย โดยที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำยมและเจ้าพระยา ทั้งที่เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม 6 เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือพายุ “บัวลอย” ที่จะส่งผลกระทบในช่วงนี้ พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวเช่น การก่อสร้างถนนคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะช่วยป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก ตลอดจนผลักดัน โครงการก่อสร้างระบบ ระบายน้ำคลองบางบาล-บางไทรด้วย