ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)- อบต.มาบยางพร เปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่' มุ่งลดขยะในชุมชน-สร้างรายได้ให้คนในชุมชน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ก.ย.68 ที่ห้องประชุม อบต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายอภิชาติ เงินท้วม นายก อบต.มาบยางพร เป็นประธานเปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่' ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด อบต.มาบยางพร GC Youเทิร์น และThe Green มีนายยศยุต สหวัชรินทร์ รอง ปธ.บริหารอาวุโสฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด และน.ส.วิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย รอง ปธ.บริหารฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด น.ส.ธารทิพย์ โพธิตันติมงคล รอง ผอ.ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมพิธีเปิดฯ และพาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ที่มีการเปิดรับซื้อแล้วทั้งขวดพลาสติก กระดาษ และน้ำมันพืชใช้แล้ว ตั้งอยู่ภายในศูนย์ดับเพลิง ตลาดสะพานสี่ ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง
นายยศยุต เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้จัดตั้งสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิลในชุมชนขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ข.ขวดหมุนเวียน เป็นขวดใหม่ ได้ริเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2566 เนื่องจากทางบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำของไทย และของโลก ซึ่งทางบริษัทต้องการที่จะทำหน้าที่ในฐานะผู้ผลิตอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเน้นที่จะมาทำงานร่วมกับชุมชนซึ่งมีโรงงานผลิตแห่งแรกตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง และต้องการอยากมีส่วนช่วยเหลือชุมชนที่เรียกว่า การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ให้ความสำคัญกับขวดพลาสติก โดยมีการสำรวจชุมชนที่จะทำการตั้งเป็นสถานีซื้อขายฯ ขึ้น ซึ่งได้พาร์ทเนอร์ทั้ง อบต.มาบยางพร, The Green และ GC YOU เทิร์น ที่มีความเชี่ยวชาญในการรีไซเคิลมาร่วมมือกัน โดยสร้างสถานีซื้อขายฯ เสร็จ เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว และเริ่มลงมือปฏิบัติจริงโดยมีคนในชุมชน 2 คนเป็นจิตอาสาประจำสถานีฯ ซึ่งมีการรับซื้อ 2 ครั้งในเดือน ก.ค.และมิ.ย.68 ที่ผ่านมา มีรายได้ 27,000 บาท ซึ่งได้ขวดพลาสติก และกระดาษ ไปอย่างละ 1,000 กก. ขวดแก้ว 1,300 กก.กระป๋อง 34 กก.และน้ำมันพืช 420 กก.
ซึ่งการเกิดของสถานีซื้อขายฯ ดังกล่าว มุ่งหวังให้คนในชุมชนได้มีความรู้เรื่องการเอาขยะมารีไซเคิลมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือสื่อมวลชนได้ช่วยประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ชาวบ้านได้นำขยะที่บ้าน หรือเริ่มจากการคัดแยกก่อนก็ได้แล้วนำมาขาย ซึ่งทางบริษัทหวังจะได้พาร์ทเนอร์กับทางโรงเรียนด้วยซ้ำ โดยการให้ความรู้กับน้องๆ ในโรงเรียน นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีโครงการเกี่ยวกับน้ำที่ได้ทำร่วมกับชุมชนเช่นเดียวกัน ก็หวังว่าสถานีซื้อขายฯ แห่งนี้ ไปได้ดีหวังว่าจะมีโอกาสนำความรู้ หรือบทเรียนที่ได้จากความผิดพลาดร่วมกับพาร์ทเนอร์ไปขยายโอกาสและส่งเสริมเรื่องของการรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนต่างๆ ต่อไปในอนาคตอีกด้วย
น.ส.วิภาวรรณ เปิดเผยว่าวัตถุประสงค์หลักคือ อยากจะหมุนเสียนขวดกลับเข้ามาเป็นวัตถุดิบในการผลิตของทางบริษัทอีกครั้ง ซึ่งการเกิดของสถานีซื้อขายฯ ดังกล่าว มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ 1.ลดปริมาณขยะที่จะไปลงสู่หลุมฝังกลบ 2.ต้องการเพิ่มคุณภาพตัวของขยะรีไซเคิลไม่ใช่แค่ปริมาณให้กลับเข้าสู่กระบวนการไซเคิลด้วย และ 3.สร้างรายได้ให้กับชุมชนซึ่งอาจจะไม่มากแต่จะมาเป็นขวัญถุงไว้หล่อเลี้ยงจิตอาสาที่ทำงานในสถานีซื้อขายฯ ต่อไปในอนาคต เพราะว่าทางบริษัทมุ่งหวังสร้างเป็นโมเดลให้กับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งบริหารงานโดยชุมชนเขาเอง
ด้านนายอภิชาต เปิดเผยว่า การจัดการขยะเป็นภารกิจหลักที่ อบต.มาบยางพร ดูแลอย่างครอบคลุม ทั้งการเก็บรวบรวม การกำจัด และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดตั้ง 'สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล' ขึ้นใน ต.มาบยางพรดังกล่าว จะช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่ และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และปลูกฝังจิตสำนึกแนวคิดการคัดแยกขยะ และสร้างมูลค่าจากขยะ รวมทั้งช่วยลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วย อีกทั้งยังช่วยลดภาระการจัดการขยะของ อบต.มาบยางพรอีกด้วย
#ภูมิภาค-34