วันที่ 29 ก.ย. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ นายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตนได้ฟังสิ่งที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พี่ชายที่รักของตนแถลงไปแล้ว ในภาพรวมเข้าใจว่า ทำไมนโยบายของรัฐบาลถึงมีไม่มากนัก สั้น กระชับและระยะเวลาที่ท่านมีเวลาทำราว 4 เดือนเท่านั้น แล้วจะยุบสภาตามสัญญา แต่มันไม่ได้สำคัญว่า จะมีเวลาแค่ไหน หรือเวลาที่มีเท่าไหร่ ตนเชื่อว่าด้วยนโยบายของรัฐมนตรีทั้งหลายและนายกรัฐมนตรีสามารถที่จะวางแผนวางโครงสร้างในการพัฒนาให้กับประเทศไทยผ่านการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ และวางโครงสร้างสำหรับประเทศไทยในอนาคตได้
“ผมขอแนะนำให้นายกรัฐมนตรีจัดทำแผนที่จะเผชิญวิกฤติในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ที่ต้องมีความเชื่อมโยงสัมพันกัน ต้องบูรณาการร่วมกัน อย่าแยกศูนย์ และการเขียนนโยบายที่ไม่ครอบคลุมทุกกระทรวงอย่างที่เกิดขึ้นขณะนี้นั้น จะทำให้รัฐมนตรีบางกระทรวงทำงานได้ยากลำบาก รัฐมนตรีในกระทรวงนั้นๆ จะนำอะไรไปมอบให้ข้าราชการในสังกัดในการที่จะปฏิบัติต่อไป”นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ตนอยากจะฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีคือการที่จะเริ่มแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พรรคชาติไทยก่อนที่จะมาเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ในปี 2538 นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยในขณะนั้น ได้ฝากมรดกชิ้นสำคัญให้พี่น้องประชาชนคนไทยคือ รัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดของประเทศไทย รัฐธรรมนูญดังกล่าวมีที่มาจากการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่ครอบคลุมมาจากพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มสาขาอาชีพ มีทั้งการคัดเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ และการเลือกตั้งจากทุกจังหวัด จึงเป็นเหตุให้เป็นรัฐธรรมนูญที่มีความสมบูรณ์ที่สุด จึงขอฝากนายกรัฐมนตรีให้ลองพิจารณาแนวทางที่พรรคชาติไทยในขณะนั้นได้ดำเนินการเอาไว้ เพื่อเป็นจุดเริ่มการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มั่นคงของประเทศไทย ทั้งนี้ อะไรที่ดีอยู่แล้ว ขอให้นายกรัฐมนตรีได้ทำต่อ อะไรที่จะต้องปรับแก้ ปรับปรุง ที่จะทำแล้วคนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอให้เร่งทำ ที่สำคัญ ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ ที่สุดก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม ไม่ว่าจะมีเวลา 4 ปี หรือ 4 เดือนก็ตาม