วันที่ 29 กันยายน 2568 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งให้กรุงเทพมหานคร และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้แก่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ตามที่สองฝ่ายได้ทำสัญญากันไว้ แต่กรุงเทพมหานคร กับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กระทำผิดสัญญาไม่ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน มิ.ย.64-ต.ค.65 เป็นเงินรวม 1.1 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยภายใน 180 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ว่า กทม. น้อมรับคำพิพากษาดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างขอความเห็นชอบและขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดยใช้เงินสะสมจ่ายขาด จากปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ส่วนที่ยังค้างชำระ จำนวนรวม 32,625,106,200 บาท ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยถึงเดือนพ.ย.68
จากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการขอจัดสรรงบประมาณ ซึ่งต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะผู้บริหารก่อนไปจัดทำข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร และส่งสภากทม. ขอบรรจุเข้าวาระการประชุมสภากทม. คาดว่าจะมีประชุม วันที่ 15 ต.ค.68 เมื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภากทม.แล้ว สภากทม.จะพิจารณารับหลักการในวาระ 1 ก่อนตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาร่างข้อบัญญัติ จากนั้นสภา กทม.พิจารณาให้ความเห็นชอบในวาระ 2 และวาระ 3 ก่อนเสนอผู้ว่าฯกทม.ลงนามในข้อบัญญัติและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
จากนั้น สจส.จึงจะขออนุมัติเบิกจ่ายและผู้ว่าฯ กทม.อนุมัติเบิกจ่าย คาดว่าจะสามารถชำระค่าจ้างเดินรถให้ บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ในวันที่ 18 พ.ย.นี้
สำหรับภาระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ที่กทม.ค้างชำระจำนวนมาก ช่วงฟ้องครั้งที่ 2 (มิ.ย.64 – ต.ค.65) กทม. ต้องจ่ายรวม 12,245 ล้านบาทโดยส่วนต่อขยายที่ 1 เป็นเงินต้น 2,279 ล้านบาท ดอกเบี้ย 501 ล้านบาท ส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นเงินต้น 7,848 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1,617 ล้านบาท
ช่วง พ.ย.65 – ธ.ค.67 ต้องชำระเพิ่มรวม 17,121 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนต่อขยายที่ 1 เงินต้น 3,242 ล้านบาท ดอกเบี้ย 274 ล้านบาท ส่วนต่อขยายที่ 2 เงินต้น 12,615 ล้านบาท ดอกเบี้ย 990 ล้านบาท
ขณะที่ประมาณการปี 2568 ทั้งปี (ม.ค. – ธ.ค.) ต้องชำระอีก 8,361 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,612 ล้านบาท และส่วนต่อขยายที่ 2 อีก 6,149 ล้านบาท รวมภาระหนี้ทั้งหมดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยสูงถึง 31,522.8 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันกทม.มีเงินสะสมจ่ายขาดอยู่ 51.669 ล้านบาท หากชำระค่าจ้างเดินรถดังกล่าว จะทำให้เงินสะสมจ่ายขาดคงเหลืออยู่ประมาณ 19,000 ล้านบาท