วันที่ 29 ก.ย.2568 เวลา 10.20 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาเรื่องด่วนคณะรัฐมนตรี(ครม.)แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า นโยบายที่นายกฯแถลงต่อรัฐสภา ด้วยข้อจำกัดของเวลาในการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ได้รับมอบหมายให้ทำตามภารกิจเฉพาะ ตนเรียกว่าเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ต้องปฏิบัติตามบทเฉพาะกาลได้เท่านั้น เราไม่เห็นด้วยในการสร้างประเพณีนี้ในระบบรัฐสภาไทยต่อรัฐบาลเสียงข้างน้อย จริงอยู่ที่ทั่วโลกก็มีเช่นกัน แต่ต่างกันกับเรา ประเทศเหล่านั้นคือการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่เขามอบให้ไปใช้งบฯบริหารประเทศ จะปกป้อง จะไว้วางใจให้ทำงานแค่นี้ เขามีภารกิจเฉพาะ 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ด้วยความเป็นรัฐบาลเฉพาะ เลยออกนโยบายเฉพาะกิจ ทำตามบทเฉพาะกาล ตนเห็นใจสิ่งที่ทำไม่ได้คือนโยบายตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ที่ไม่เขียนไว้ในนโยบายฯ ถือว่าทำผิดรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องเขียนไว้ แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นนโยบายที่ทำไม่ได้ หรือทำได้ก็แค่บทเฉพาะกาลที่กำหนดให้เท่านั้น ตนขอลงลึกไปยังนโยบายด้านนิติบัญญัตและการเมือง จริงอยู่ที่ข้อตกลงตามMOA เขียนปรากฎชัดในนโยบายฯแต่ขยัก โดยเฉพาะการจัดทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญในวันเลือกตั้ง ยุบสภาภายใน4เดือน ตนถามว่าสิ่งที่บันทึกในMOAคือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หายไปไหน จะเบี้ยวหรือไม่ ต้องตอบรัฐสภาแห่งนี้ 

“เมื่อเป็นนโยบายเฉพาะกิจ สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ต้องเน้น ต้องใช้ความเป็นเฉพาะกิจให้เกิดประโยชน์มากที่สุด คือโอกาสได้คะแนนนิยมจากประชาชนเพื่อชนะเลือกตั้งในวันที่22 หรือ 29มี.ค.69 ตามที่กกต.กำหนดไม่เกิน60วัน เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยมและผลการเลือกตั้งที่จะส่งท่านสืบทอดอำนาจไปอีก4ปี 4เดือนเพื่อ4ปี ประกอบกับผู้ที่จะมาบริหารนโยบายที่ท่านจัดไว้มันก็ตอบสนองต่อจุดนั้น ผมไม่ได้กล่าวหารัฐมนตรีทุกท่าน แต่กระบวนการด้วยข้อจำกัดอย่างนี้ท่านต้องทำแบบนี้ ท่านจัดคณะรัฐมนตรีที่มาจากบุคคลภายนอกภาพสวยงามมาก ผลงานเป็นที่ประจักษ์

ผมชื่นชอบ โดยเฉพาะรมว.ต่างประเทศที่ทำหน้าที่ได้ดีมาก ผมขอขอบคุณในนามประเทศไทย เป็นภาพสวยงาม ดาบอาญาสิทธิ์ที่ผู้นำฝ่ายค้านมอบให้ ท่านแปลงดาบอาญาสิทธิ์มาเป็นกำไรของท่าน เป็นผลงานท่าน โดยการเปิดตัว ครม.ที่มาจากคนนอกอย่างสวยงาม ทุกคนร้องว้าวหมด ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือ ครม.ที่มาสร้างคะแนนนิยมในพื้นที่ มีความสามารถในการบริหารจัดการในพื้นที่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นี่คือการสร้างคะแนนนิยมที่เกิดประโยชน์สุด ถูกต้อง ชอบธรรม ผมไม่ได้บอกว่าท่านทำผิด แต่นี่คือกลไกที่แยบยล สวยงาม"  นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า แต่สิ่งที่เป็นที่มาคือนโยบายรัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา มันจะเป็นปัญหามากกว่าทางออก ไม่ใช่ปัญหาธรรมดา มันจะเป็นปัญหาที่เข้าขั้นหายนะ เพราะทำไม่ได้ 4เดือนที่จะยุบสภามันนำมาซึ่ง4เดือนแห่งการยุบคดี ด้วยนโยบายเพื่อการสืบทอดอำนาจมันจะทำให้ภาพการเมืองไทยในอนาคตเห็นชัดเจนในสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ จาก4เดือนเพื่อยุบสภา หลัง4เดือนที่ยุบสภาและอนาคต4ปี การกัดกร่อนประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาจะรุนแรงมาก กลไกที่ได้มาซึ่งสมาชิก การได้มาซึ่งทุกคนสงสัยว่ามันมีการฮั้วหรือไม่

การเลือกตั้งในอนาคตจะไม่ได้มาจากอำนาจของประชาชนที่แท้จริง มันจะเกิดจากการจัดการ ตัวบุคคล นโยบาย การบริหารจัดการ และเงินที่ต้องขีดเส้นใต้เพราะจะมีปัจจัยสูงสุดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนไม่ได้บอกว่าซื้อเสียง แต่จะมีการจัดการด้วยอำนาจเงิน จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ต้องพิสูจน์กัน อนาคตที่เราคาดหวัง ตามที่ผู้นำฝ่ายค้านต้องการมากคือรัฐธรรมนูญ ยอมแลกโดยมอบอำนาจให้นายกฯปัจจุบัน เพื่อต้องการรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ต้องการให้ยุบสภาให้ประชาชนตัดสิน ถ้ามันได้ตามนั้นถือว่าคุ้มค่า เกิดประโยชน์ 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่เรามองขณะนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา256เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเข้าสู่การพิจารณาฯในวันที่14-15ต.ค.นี้ หากผ่านวาระ3ได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ รัฐธรรมนูญจะถูกยกร่างด้วยสสร.ที่มาจากสีน้ำเงินทั้งหมด ไม่ว่าจะกลไกใด และรัฐธรรมนูญฉบับนั้นจะเป็นสีน้ำเงิน ไม่ใช่เรื่องยาก ยากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว ทำให้เห็นแล้วถ้าเขาต้องการ ทำได้หมด ขณะที่ภาคประชาชนประกาศชัดว่าหากสสร. และรัฐธรรมนูญเป็นสีน้ำเงิน จะรณรงค์ทั่วประเทศให้ไม่ผ่านประชามติ ก็จะไปเข้าทางผู้ไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ กระบวนการทั้งหมดเป็นการแสดงออกมา สุดท้ายก็อ้างว่าประชาชนไม่เอา ก็คือไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ขบวนการก็จะวนแล้วอีก นี่คืออนาคตที่เราจะเจอ

"อนาคตที่จะเจออีกเรื่องหนึ่ง คือนโยบายเฉพาะกิจเพื่อการเลือกตั้ง แน่นอนว่าการวางตำแหน่งในรัฐมนตรี ครม. กลไกต่างๆที่วางมาล้วนแต่ทำเพื่อการนี้ รัฐบาลที่มาจากเฉพาะกลุ่มเฉพาะที่ หลายคนขนานนามว่า รัฐบาลอนุวิน รัฐบาลเนทิน หรือรัฐบาลหนูเน ผมไม่รู้ว่ามาจากอะไร หมายความว่าความเป็นนายกฯ ความเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้กลไกอำนาจบริหารที่แท้จริง มันคือ4หายนะประเทศ คือ1.หายนะทางประชาธิปไตย 2.หายนะด้านความโปร่งใสและหลักนิติธรรม 3.หายนะด้านการบริหารจัดการประเทศ

ไม่ใช่ว่าไม่เก่ง ท่านเก่งด้วย แต่เกิดหายนะ เพราะบริหารแล้วผลประโยชน์ไม่ได้ตกกับประชาชน และ4.หายนะทางโอกาสของประชาชนชาวไทย นโยบายดีๆปัดตกปัดทิ้งหมด โดยเฉพาะนโยบายรถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย 4หายนะดังกล่าวขอให้ติดตามใน2วันนี้ที่เพื่อนสมาชิกผมจะลงในรายละเอียดต่อไป" นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ตัวเลข1,000-2,000 การเลือกตั้งครั้งใด เหมายกเข่ง ซื้อยกหน่วย เป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญสีน้ำเงินระวัง แต่ตนมั่นใจว่าไม่ผ่านประชามติ ขณะที่การวางกำลังคนทั้งภาครัฐ รัฐราชการ การจัดวางฐานอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา การแสวงหาที่มาของสส. ไม่ต้องดูด เพราะไหลเข้า ยอมรับว่าทำการแบบเหนือชั้นมาก ตนยอมเลย ต้องยอมศิโรราบ ทุกคนไหลเข้า ก้มหัวให้หมด เพราะเขารู้ว่าอยู่แล้วปลอดภัย ได้มาเป็นรัฐบาลแน่ในปีข้างหน้า แต่อย่าประมาทประชาชน ยุทธศาสตร์การเมืองของท่านลึกล้ำ เยี่ยม สุดยอดจริงๆ ตนไม่รู้ว่าออกจากสมองใคร แต่ตกยกให้ ตนยอมเป็นลูกศิษย์ ยอมกราบเลย

ถ้าจะเป็นผู้นำจิตวิญญาณที่อยู่ข้างหลัง มีนักวิชาการบอกว่า ผู้นำจิตวิญญาณทั้งสีน้ำเงิน สีแดง และสีส้ม หมายเลข1ที่ฉลาดปราดเปรื่องหลักแหลม ยุทธศาสตร์ล้ำลึก คือผู้นำฯสีน้ำเงิน เขาพูดออกมาแบบนี้เลย จะออกจากสมองอันประเสริฐนั้นหรือไม่ตนไม่แน่ใจ แต่4เดือนที่ทำ ท่านจะได้4ปี แต่จะกินรวบประเทศไทย เราจะยอมหรือไม่ อำนาจสส. สว. องค์กรอิสระ อำนาจราชการเป็นสีน้ำเงิน ทั้งประเทศน้ำเงินทั้งหมด 

"ท่านกำลังเอาสีน้ำเงินที่เป็นสีอันประเสริฐลงมาคลุกกับการเมืองเท่ากับการไม่เคารพสถาบัน ผมไม่ยอม การลงทุนของพรรคประชาชนจะเสียเปล่า ดังนั้นที่แถลงว่าจะทำหน้าที่ซื่อสัตย์ สุจริต ต้องทำตามที่แถลง" นพ.ชลน่าน กล่าว