นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมายังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ เขื่อนลำตะคองมีน้ำเพียงราว 32% ของความจุ ขณะที่อ่างเก็บน้ำหลายแห่งก็ยังคงมีปริมาณไม่มาก อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ซ้ำเติมคือฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ ไม่ได้ไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำโดยตรง เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา อำเภอพิมายมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 164 มิลลิเมตร และอำเภอห้วยแถลง 140 มิลลิเมตร ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา พิมายยังมีฝนตกเพิ่มอีกกว่า 117 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่จราจรและบ้านเรือนประชาชน สาเหตุสำคัญที่ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น มาจากระบบระบายน้ำที่ไม่สามารถรองรับฝนที่ตกลงมาได้ อีกทั้งยังมีตะกอนทรายจากไร่อ้อยและมันสำปะหลังไหลมาทับถมในสระน้ำหมู่บ้าน ทำให้เก็บกักน้ำไม่ได้และเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน ล่าสุดมีหลายอำเภอได้รับผลกระทบแล้ว อาทิ พิมาย พระทองคำ ห้วยแถลง และปักธงชัย โดยบางพื้นที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จังหวัดนครราชสีมาได้สั่งการให้อำเภอต่าง ๆ เตรียมความพร้อมช่วยเหลือ ทั้งการจัดศูนย์พักพิง จัดหาอาหาร และงบประมาณเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนตามระเบียบ ขณะเดียวกันยังประกาศแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าถึงทุกอำเภอ เนื่องจากพายุ “บัวลอย” กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา โดยให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามระเบียบกระทรวงกลาโหมและพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเต็มที่นอกจากนี้ รองผู้ว่าฯ ยังฝากเตือนถึงความปลอดภัยของเด็ก ๆ ในช่วงน้ำท่วม เนื่องจากเสี่ยงต่อการจมน้ำมากกว่าถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย จึงขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังและดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด