กองสารสนเทศระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำประจำวันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 (ฉบับที่ 272/68) โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงและผลกระทบจากพายุที่อ่อนกำลังลง พร้อมทั้งคาดการณ์สภาพอากาศ 7 วันสำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังนี้

ด้านภาพรวมทั่วประเทศ: ฝนหนักถึงหนักมากจากร่องมรสุม โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 29 กันยายน 2568) ว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก

พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม, อุดรธานี, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, จันทบุรี, และตราด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน, น้ำป่าไหลหลาก, และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน, พื้นที่ลุ่ม, และพื้นที่น้ำท่วมขัง

สาเหตุหลักมาจาก ร่องมรสุมกำลังแรง พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง, ภาคกลางตอนบน, และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน, ภาคใต้, และอ่าวไทย

ด้านสถานการณ์พายุ "บัวลอย" (BUALOI) อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "บัวลอย" (BUALOI) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองกว๋างบิ่ญ ประเทศเวียดนามตอนบน และได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว พายุดังกล่าวมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

นอกจากนี้ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และมากกว่า 2 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง โดยจะมีผลกระทบไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568

ด้านพยากรณ์อากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 7 วัน สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้มีความเร็ว 10-30 กม./ชม.

จากข้อมูล 7 วัน (วันที่ 29 กันยายน ถึง 5 ตุลาคม 2568) พบว่า โอกาสเกิดฝนสูงสุด อยู่ที่ร้อยละ 70 ในวันที่ 30 กันยายน และ 5 ตุลาคม 2568 อุณหภูมิสูงสุดอยู่ในช่วง 32-34 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ในช่วง 23-24 องศาเซลเซียส ทิศทางและความเร็วลมส่วนใหญ่อยู่ที่ 10-18 กม./ชม.

ด้านสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม. และการสะสมของปริมาณฝน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (07.00 น. วานนี้ ถึง 07.00 น. วันนี้) กรุงเทพมหานครมีฝนตกเล็กน้อย โดยมีปริมาณฝนเฉลี่ย 0.5 มิลลิเมตร และไม่มีรายงานจุดวัดปริมาณฝนสูงสุดใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนสะสมในช่วงที่ผ่านมายังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ย ดังนี้

1.  ปริมาณฝนประจำเดือนกันยายน 2568 (ตั้งแต่วันที่ 1–28 กันยายน) อยู่ที่ 352.5 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี (301.1 มม.) คิดเป็น 17.1%

2.  ปริมาณฝนสะสมตั้งแต่ต้นปี (1 มกราคม – 28 กันยายน 2568) อยู่ที่ 1,365.0 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย ฝน 30 ปี (1,327.4 มม.) คิดเป็น 2.8%

ด้านระดับน้ำในคลองหลักและแม่น้ำเจ้าพระยา ข้อมูล ณ เวลา 07.00 น. วันที่ 29 กันยายน 2568 รายงานว่า ระดับน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งภายนอกและภายในคันป้องกันน้ำท่วม อยู่ในระดับปกติทุกจุดวัด เช่น ประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ ระดับน้ำเช้านี้ +1.10 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +1.80 ม.รทก.) คลองแสนแสบ-เขตบางกะปิ ระดับน้ำเช้านี้ -0.50 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +0.45 ม.รทก.) ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา (ด้านใน) ระดับน้ำเช้านี้ +0.56 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +1.00 ม.รทก.)

สำหรับปริมาณน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2568) นครสวรรค์: 2,504 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา: 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามโคก: 2,147 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ด้านระดับน้ำทะเลหนุน และค่าความเค็ม ระดับน้ำขึ้นสูงสุดที่สถานีกองบัญชาการกองทัพเรือในวันนี้ (29 ก.ย. 68) คือ +1.02 ม.รทก. ในเวลา 20.22 น. เทียบกับระดับคันกั้นน้ำที่ปากคลองตลาด +3.00 MSL และบางนา +2.80 MSL

ส่วนสถานการณ์ค่าความเค็มสูงสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กันยายน 2568) พบว่า ค่าความเค็มสูงสุดที่จุดวัดต่าง ๆ (เช่น ส.คลองแจงร้อน, ส.คลองดาวคะนอง, ส.คลองบางกอกใหญ่, ส.เทเวศน์, ส.คลองบางเขนใหม่) อยู่ที่ 0.1 กรัม/ลิตร ซึ่งต่ำกว่าระดับที่ควรระมัดระวังในการใช้กับพืชทั่วไป (1.2 กรัม/ลิตร)

สรุปเหตุการณ์วันที่ 28 กันยายน 2568 พบว่า เมื่อเวลา 20.35 น. เรดาร์ตรวจพบกลุ่มฝนเล็กน้อยก่อตัวในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเข้าพื้นที่เขตทุ่งครุ และเคลื่อนออกจากพื้นที่กรุงเทพมหานครไปจังหวัดสมุทรปราการในเวลา 21.00 น. โดยมีปริมาณฝนสูงสุด 0.5 มม. ที่ประตูระบายน้ำคลองรางจาก-ถนนประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ

ในรอบวันดังกล่าวไม่มีรายงานต้นไม้ล้ม, ป้ายโฆษณาล้ม, สิ่งกีดขวางการจราจร, กระแสไฟฟ้าขัดข้อง, หรือจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลักแต่อย่างใด

ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก (ข้อมูล ณ 28 กันยายน 2568) เขื่อนหลักหลายแห่งมีปริมาณน้ำในอ่างสูงมาก ดังนี้

เขื่อนภูมิพล: มีปริมาณน้ำในอ่าง 11,247.00 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 84.00% ของความจุ)

เขื่อนสิริกิติ์: มีปริมาณน้ำในอ่าง 8,656.00 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 91.00% ของความจุ)

เขื่อนแควน้อย: มีปริมาณน้ำในอ่าง 829.00 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 88.00% ของความจุ)

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์: มีปริมาณน้ำในอ่าง 738.00 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 77.00% ของความจุ)

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 28 กันยายน 2568 พบว่าเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ยังมีปริมาณน้ำไหลเข้ามากกว่าระบายออก