วันที่ 28 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่วแจ้งว่า เปิดตำนานความเชื่อ วันรวมพญานาค สัตตนาคารำลึก ผู้ปกปักรักษา วัดพระธาตุพนม พลังศรัทธาลูกหลานพญานาค แห่ร่วมพิธี รำบวงสรวง นำพานบายศรียักษ์ ถวายเป็นพุทธบูชา ตามประเพณีทความเชื่อ เสริมบุญบารมี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางสายมู
ถือเป็นวันรวมพญานาค ที่จัดขึ้นทุกปี ในช่วงก่อนวันออกพรรษา สำหรับวันสัตตนาคารำลึก หรือวันบูชาพญานาค ทั้ง 7 ผู้ดูแลปกปักรักษา องค์พระธาตุพนม ตามตำนานความเชื่อ โดยทุกปีบรรดาสายมูพญานาค ลูกหลานพญานาค ลูกหลานองค์พระธาตุพนม จากทั่วสารทิศ จะนำเครื่องบวงสรวงบูชา รวมถึงพานบายศรียักษ์ มูลค่านับล้านบาท มาร่วมพิธี เป็นการเสริมบุญบารมี นอกจากนี้ยังมีการรำบวงสรวง ของนางรำสาวงาม เกือบ 1,000 คน
สำหรับ วันสัตตนาคารำลึก หรือวันรวมพญานาค ทั้ง 7 ที่ดูแลปกปักรักษา องค์พระธาตุพนม บรมเจย์ดี อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอก ของพระพุทธเจ้า จากประวัติความเป็นมา สืบเนื่องจาก เมื่อปี พ.ศ.2500 ได้เกิดเรื่องราวปาฏิหาริย์ ในช่วงกลางดึกของวันหนึ่ง มีฝนตกหนัก จากนั้นได้มีชาวบ้าน เห็นแสงประหลาด ขนาดใหญ่เท่าต้นตาล รวม 7 สี พุ่งเข้าสู่องค์พระธาตุพนม จนกระทั่ง มีสามเณรทรัพย์ ลูกวัดพระธาตุพนม ถูกพญานาค ประทับร่างทรง พร้อมบอกชาวบ้านว่า แสงประหลาดที่เก็น คือ เป็นองค์พญานาค ที่ลงมาดูแลรักษา องค์พระธาตุพนม เพื่อปกปักษ์รักษา ไม่ให้เทวดาอารักษ์ หรือผู้ไม่หวังดีแอบอ้าง องค์พระธาตุพนม ในทางเสื่อมเสีย รวมถึงโปรดชาวบ้านให้มีความสุข เจริญรุ่งเรือง
ทำให้ทุกปีจะมีการจัดพิธีบวงสรวงเพื่อขอโชคลาภ และเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่า ใครได้มีโอกาสมาร่วมพิธี ถวายเครื่องสักการบูชา ถือเป็นอานิสงค์ยิ่งใหญ่ ได้รับพรจากพญานาค จะประสบความสำเร็จทุกด้าน สุขภาพแข็งแรง เจริญรุ่งเรือง ทำให้มีสายศรัทธา ต่างจัดเครื่องบวงสรวง พานบายศรีพญานาค ทำจากใบตองสด มูลค่าตั้งแต่ 5 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท มาถวายเป็นพุทธบูชา ตามประเพณีความเชื่อ ถือเป็นการสืบสานประเพณีความเชื่อ กระตุ้นการท่องเที่ยวสายมู ในช่วงวันออกพรรษา
#ภูมิภาค-51