วันที่ 28 กันยายน 2568 เวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านตามแนวชายแดน ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้แนวชายแดนด้านปราสาทตาควาย และตาเมือนธม อ.พนมดงรักฯ พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่ยังไม่มีการอพยพ แม้เหตุการณ์ชายแดนจะตึงเครียดหนักขึ้นก็ตาม เนื่องจากยังคงรอคำสั่งจากผู้นำชุมชน อย่างไม่ตื่นตระหนก หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็พร้อมอพยพได้ทันที เนื่องจากทุกครอบครัวได้มีการเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าสิ่งของจำเป็นยกใส่รถยนต์ส่วนตัวเตรียมพร้อมกันอย่างครบถ้วนแล้ว นอกจากนี้ชาวบ้านบางครอบครัวก็ได้มีการอพยพผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง คนพิการ เด็กๆรวมทั้งสุนัขและแมวที่ตนรักออกไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยบ้างแล้ว
นางบุญถิ่น ดวงศรี อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม กล่าวว่า ตอนนี้ยังคงหวาดผวา นอนไม่หลับ ได้ยินเสียงฟ้าร้อง ว่าแต่เสียงปืนใหญ่ เวลาได้ยินเสียงตึ้มของระเบิด หัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เคยวิ่งอพยพหลายครั้ง มาตั้งแต่ยุคเขมรแดง ได้เตรียมเสื้อผ้าไว้หมดแล้ว อพยพคราวก่อนไม่ทันได้เอาเสื้อผ้าและผ้าห่มไป คราวนี้จึงเตรียมไว้พร้อม ใช้ชีวิตลำบาก ทำอะไรไม่ได้ มัวแต่หวาดผวา ในใจของตน เมื่อก่อนก็ว่าเขมรดีอยู่ แต่พอเขาทำกับเราแบบนี้ ไม่รู้จะว่ายังไง คิดไปคิดมา ก็เริ่มไม่ชอบ อยากให้ทหารจัดการครั้งเดียวเลย เอาให้เรียบร้อย จะได้รีบทำมาหากิน ไม่มีเงินใช้จ่ายแล้ว อยากให้สร้างกำแพงตลอดแนว ไม่อยากคบเขมรแล้ว อยู่แบบนี้มันก็ยุเราตลอด แอบวางระเบิดทหารไทยไปเหยียบตนเสียใจแทนทหาร ทำเกินไปเหมือนไม่ใช่มนุษย์เหมือนกัน ตนพูดแล้วก็น้ำตาคลอ ทั้งขาขาด ทั้งตาย พูดก็จะไปยิงเหมือนกัน เห็นว่าอายุมากแล้วก็จะไปยิงเหมือนกัน แต่ถ้าได้ปืนจะไปยิงก่อนทหารเลย อยากบอกฮุนเซน ว่าให้รีบตายไปจะได้จบๆไป
ภูมิภาค-62