กลายเป็นดราม่ายาวสำหรับนักแสดงชื่อดัง  “ปู มัณฑนา”  ที่ออกมาโพสต์ถึง “เจ้าพ่อสื่อ”  ล่าสุด ปู ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อเนื่องผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า  แม่ปู มีเรื่องเล่า

เมื่อสังคมยังเลือกที่จะหลับตา เราก็ปล่อยให้ตัวเองถูกครอบงำด้วยอำนาจของ “เจ้าพ่อสื่อ” ผู้ซึ่งถนัดนักในการเบี่ยงเบนความจริง โทรศัพท์ไปเคลียร์หลังบ้าน ขอให้ลบโพสต์ได้เสมอ แต่ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิดสักครั้ง สิ่งที่เขาถนัดที่สุด คือการชี้นิ้วตัดสินให้คนอื่นผิดแทนตัวเอง โดยมีเครือข่ายสื่อ และเพจอวตารมืดอยู่ในมือ ใช้เป็นศาลเตี้ยตัดสินผู้อื่น โดยไร้ซึ่งความเมตตาและจริยธรรม

ความผิดของตัวเอง เขากลับมองไม่เห็น แต่พอเป็นความผิดของใครสักคน เขากลับขยายให้ใหญ่โต ราวกับความทุกข์ของผู้อื่นคือเชื้อเพลิงให้เขาสร้างคอนเทนต์ ในแพลตฟอร์มเขา เพื่อแลกเป็นชื่อเสียงและเงินทอง

ทว่า… ความสำเร็จที่ได้มาจากความทุกข์ของคนอื่น มันสวยงามจริงหรือคะ? ลูกที่เติบโตขึ้นมาจะภูมิใจได้อย่างไร เมื่อเห็นพ่อร่ำรวยอยู่บนหยดน้ำตาของผู้อื่น

สิ่งที่โหดร้ายที่สุด คือการใช้เพจมืด เพจอวตารไร้ตัวตน ออกมาทำลายล้างครอบครัวคนอื่นโดยไม่เคยคิดถึงผลกระทบ ซึ่งเขาเหล่านั้น ก็มีลูกหลาน ครอบครัวและญาติที่ได้รับผลกระทบไปด้วย

สังคมเกรียนคีย์บอร์ดอาจยังมืดบอดอยู่ แต่สังคมผู้ใหญ่… หลายคน เขาตาสว่างกันไปหมดแล้วค่ะ

“ความจริงไม่เคยต้องการเสียงดัง แต่คนที่กลัวความจริง มักสร้างเสียงรบกวนเพื่อกลบมันเสมอ”

“ความสำเร็จที่แลกมาด้วยน้ำตาคนอื่น ไม่มีวันที่จะเป็นเกียรติให้กับครอบครัวได้”

“ลูกหลานจะไม่จดจำความร่ำรวยที่สร้างจากความทุกข์ของผู้อื่น แต่จะจดจำว่าพ่อแม่เคยใจร้ายเพียงใด”

“สังคมอาจถูกปิดตาชั่วคราวด้วยสื่อ แต่สุดท้ายความจริงจะเปิดตาทุกคนได้เสมอ”

“อวตารเพจมืดอาจทำลายชื่อเสียงใครสักคนได้ชั่วคราว แต่ไม่อาจลบคำถามในใจลูกเมียของคุณได้ตลอดไป”

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Pou Mantana