วันที่ 28 ก.ย. 2568 นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย เผยแพร่บทความในรูปแบบถาม-ตอบ เรื่อง  ปปช. = คณะกรรมการป้องกัน “การปราบปรามคอรัปชั่น” ??? ระบุว่า 

ถาม เมื่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ได้วินิจฉัยชัดเจนว่าการส่งทักษิณไปนอนชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฟังได้ว่าเป็นการช่วยเหลือนักโทษโดยเจ้าหน้าที่ ที่ตัวนักโทษเองก็รู้เห็นเป็นใจด้วยแล้วเช่นนี้  

ผมขอถามว่า เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว มีมูลความผิดอาญา ที่ ปปช.อาจขยายผลไปเอาโทษใครต่อไปได้บ้างครับ

ตอบ พูดถึงตัวการกระทำที่ต้องพิจารณาก็มีอยู่ ๒ ช่วงครับคือ ช่วงที่ส่งตัวนักโทษไปนอนโรงพยาบาลตำรวจ ๖ เดือน อ้างว่าป่วยเกินศักยะภาพโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะดูแลได้  กับช่วงที่พักโทษให้ไปนอนที่บ้านอีก ๖ เดือน อ้างว่านักโทษทรุดโทรมช่วยตัวเองไม่ได้เลย  แต่ตัวนักโทษกลับเดินทางไปช่วยหาเสียงได้ว่อนทั่วประเทศ แถมตีกอล์ฟอีกต่างหาก  การกระทำทั้วทั้งสองช่วงนี้นับเป็นสองกระทงทั้งสิ้น

ถาม ขอกระทงแรกก่อนครับ

ตอบ กระทงนี้มีความผิดสองฐานครับ   ฐานแรกคือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ตามมาตรา ๑๕๗ โทษจำคุก ๑ปี ถึง ๑๐ ปี ความผิดฐานนี้คนที่รู้เห็นโดนหมดทั้งฝ่ายราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ  แต่ถ้าใครไม่ใช่เจ้าหน้าที่ เช่นเป็นหมอเอกชน หรือ ตัวทักษิณเอง ก็โดนฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่กระทำทุจริต  ต้องมีโทษสองในสามของเจ้าหน้าที่   

ความผิดฐานที่สองคือความผิดต่อการยุติธรรมตามมาตรา ๒๐๐ ฐานช่วยนักโทษให้ไม่ต้องรับโทษ    คนช่วยจะมีโทษจำคุก ๖ เดือน ถึง ๗ ปี ครับ

ถาม ความผิดฐานช่วยนักโทษนี้เอาผิดใครครับ

ตอบ เอาผิดเฉพาะฝ่ายราชทัณฑ์ ที่มีหน้าที่บังคับโทษตามหมายศาลเท่านั้น  พวกโรงพยาบาลหรือทักษิณ โดนฐานสนับสนุนโทษสองในสามครับ  

ถาม กระทงเดียวผิดสองฐานความผิดนี่ กฎหมายลงโทษอย่างไรครับ

ตอบ ความผิดสองฐานนี้จะอยู่ในคดีเดียวกัน  ทั้งในชั้น ปปช.และชั้นศาล  แต่การลงโทษแต่ละกระทงจะลงตามฐานความผิดเดียว คือฐานที่มีโทษสูงกว่าครับ   

ถาม ขอกระทงที่สอง ตรงที่มีการให้ ทักษิณออกจากโรงพยาบาลแล้วให้พักโทษ อยู่กับบ้านใน ๖ เดือนหลังครับ

ตอบ ก็สองฐานความผิดเหมือนกระทงแรกครับ   ส่วนบุคลากรการแพทย์ที่ถูกกล่าวหาจะครอบคลุมเฉพาะ หมอหรือพยาบาลที่ประเมินเป็นเท็จว่าทักษิณเดี้ยง ร่างกายทรุดโทรมช่วยตัวเองไม่ได้    ส่วนทักษิณเองก็โดนตรงที่รู้เห็นใส่เฝือกคอร่วมปิดบังความจริงด้วย จึงโดนฐานสนับสนุนโทษ สองในสามเช่นกัน

ถาม เมื่อมีความผิดสองกระทงอย่างนี้ ในทางคดีจะรวมจัดการเป็นคดีเดียวไหมครับ

ตอบ เมื่อกระทงมันเกี่ยวเนื่องกัน ก็ต้องรวมฟ้องเป็นคดีเดียวสองกระทง กระทงละสองฐานความผิด จำเลยคนไหนที่ทำผิดทั้งสองกระทง ก็เอาโทษทั้งสองกระทงมารวมลงโทษในคำพิพากษาเดียวเลยครับ    แต่ใครที่ทำผิดกระทงเดียว เช่นฝ่ายโรงพยาบาลตำรวจที่ไม่รู้เห็นด้วยในชั้นพักโทษ ก็โดนลงโทษกระทงเดียวเท่านั้น

ถาม คดีสองกระทง สองฐานความผิด  จำเลยหลายกลุ่มอย่างนี้  ถือว่าซับซ้อนไหมครับ

ตอบ พยานหลักฐานในสำนวนศาลฏีกา นำทางชี้ความผืดไว้เพียงพอแล้ว ไม่เหลือความซับซ้อนอะไร แต่ต้องเหนื่อยต่อไปตรงพิสูจน์ความรับผิดของแต่ละคน ว่ารู้เห็นหรือไม่  ต้องใช้เวลาไต่สวนและเตรียมคดีอีกไม่น้อยเลย

ถาม คดีนี้ต้องฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต  หรือ ศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองครับ

ตอบ ถ้าคดีมีรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเป็นจำเลยด้วย ก็รวมฟ้องจำเลยทุกคนในทุกฐานความผิด ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองครับ  ตัดสินทีเดียวจบเลย ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา

ถาม อาจารย์ว่าจะสาวถึงตัวรัฐมนตรียุติธรรมไหมครับ

ตอบ รัฐมนตรีวิษณุ เครืองาม ท่านบอกแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องด้วย    ส่วนรัฐมนตรีทวี สอดส่อง ออกมาชี้แจงหลายครั้งว่าทุกอย่างถูกต้อง  แถมท่านยังเป็นคนได้รับรายงานเมื่อทักษิณ อยู่โรงพยาบาลบครบ ๑๒๐ วัน และได้พักโทษอีกด้วย   

ปัญหาว่าใครจะรู้เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการสอบสวนของ ปปช.  ในชั้นนี้ ที่ ปปช.ต้องทำแน่ๆ คือ  เรียกรัฐมนตรีสองท่านนี้มาชี้แจงก่อนว่าได้ทำอะไรไปบ้าง

ถาม อาจารย์ว่า เราจะหวังอะไรจาก ปปช.ได้ไหมครับ

ตอบ คดีนี้มีผลทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทย กฎหมายไทยอย่างร้ายแรงลึกซึ้งมาก  ศาลฎีกาท่านได้ฝ่าพายุจนทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ยิ่งและวินิจฉัยได้ชัดเจนแล้ว   ข้างปปช.เองก็มีมติไต่สวนไว้หลายเดือนแล้วด้วย วันนี้ก็เหลือแต่การขยายวงไต่สวนให้สิ้นกระแสเท่านั้นว่า มีใครทำผิดบ้างในทุกกระทงและทุกฐาน   

เราคงต้องเฝ้าดูกันต่อไปว่าท่านจะเอาจริงกันแค่ไหน อย่างไร ทั้งในชั้น ปปช. และชั้นอัยการ   

ถาม ที่ผ่านมา ก็ต้องกดดันกันเป็นปี นะครับ กว่า ปปช.จะสืบสวนแล้วมีมติให้ไต่สวนได้  

ตอบ งานนี้เมื่อศาลตัดสินแล้วอย่างนี้ ปปช.ต้องเดินหน้าแน่นอนครับ  เราจ้องดูตรงการขยายผลเท่านั้นดีกว่าครับว่า  จะถึงตัวรัฐมนตรีหรือไม่

ถาม ถ้าอาจารย์เป็น ปปช. จะทำอย่างไรครับ

ตอบ ทำงานให้เร็ว ตรงไปตรงมา  เอาความเสมอภาคภายใต้กฎหมายคืนมาให้ได้  อย่าให้ใครมีอภิสิทธิ์ไม่ติดคุกได้อีก   ที่ติดไปแล้วก็ควรตามตามไปดู เรียกข้อมูลมาสอบทานเลยว่า  คุมขังโดยฝ่าฝืนระเบียบราชทัณฑ์หรือไม่   มีแดนพิเศษให้เฉพาะหรือเปล่า   ลูกเมียมาเยี่ยม ทำไมไม่ให้เยี่ยมตรงห้องเยี่ยมญาติ ตามเวลาประจำที่กำหนดไว้   กลับปล่อยให้เดินเข้าไปในแดนมั่นคง ยกมือไหว้กันเป็นแถวได้อย่างไร

ถาม เห็นให้สัมภาษณ์ว่า คุณพ่อได้วีดีโอคอลกับหลานๆด้วยนะครับ

ตอบ ตามระเบียบแล้วจะให้เยี่ยมผ่านสื่อได้ ก็แต่เฉพาะกรณีจำเป็นเช่นพ่อแม่นักโทษป่วยเดินทางมาเยี่ยมไม่ได้   และการใช้สื่อเพื่อเยี่ยมเยียนนั้น ต้องใช้สื่อที่เรื่อนจำจัดให้มีไว้เท่านั้น   ลูกสาวจะกดวีดีโอให้พ่อคุยกับหลานเลยไม่ได้ ผิดระเบียบทั้งนั้น  มีโทษอาญาตาม พรบ.ราชทัณฑ์ด้วย  ความผิดอย่างนี้ ปปช.มีฐานทางกฎหมายที่จะตรวจสอบได้สบายมาก  จะไปรอ คณะกรรมการสิทธิ์ไม่ได้

ถาม นี่ตกลง เราจะจองล้างจองผลาญชินวัตรไปถึงไหนครับ

ตอบ ผมมองว่า งานนี้เป็นการกู้คืนนิติธรรมในระบบกฎหมายไทย ให้เชื่อมั่นกันได้ว่าภายใต้กฎหมายไทยแล้วทุกคนต้องเสมอภาคกัน   

งานกู้คืนบ้านเมืองที่ชิบหายไปแล้วอย่างนี้  คดีชั้น ๑๔ ต้องถูกตรวจสอบ สอดส่องอย่างถึงที่สุด เอาให้ตระกูลชินวัตรกลับมามีฐานะเป็นคนธรรมดาให้จงได้   อย่าปล่อยเป็นเยี่ยงอย่างให้มีใคร สำคัญตนว่าเป็นคนเหนือคน ขึ้นเครื่องบินโชว์ว่าจะหนีเมื่อไหร่ก็ได้ ครั้นติดคุกก็ติดเหมือนไม่ติด หลงลำพองทำอะไรตามใจตนเองได้ทุกอย่างอีกต่อไป