วันที่ 27 ก.ย.2568 เมื่อเวลา 10.30 น.ที่อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ตอนนี้เกิดสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้สั่งให้เร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาตามเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้ล่าช้าไป ดังนั้นหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ก็จะดำเนินการทันที เพราะความทุกข์ร้อนของประชาชนรอนานไม่ได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลงพื้นที่ไหนอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มี แต่ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยเกิดที่ภาคกลาง ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะต้องเร่งโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการที่ระบายน้ำ ออกจากพื้นที่ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้มากที่สุด ต้องเร่งศึกษาโครงการทำทางระบายน้ำ
ตอนใต้เขื่อนเจ้าพระยา ที่ จ.ชัยนาท ลงอ่าวไทย

นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆแล้ว ถามว่าเงินที่จะมาทำโครงการนี้เยอะไหม ต้องใช้เวลา 7-8 ปี ก็ใช้ประมาณ 100,000 ล้านบาท ตกปีละ 10,000 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่ได้เยอะ เพราะต้องรีบทำพื้นฐานให้เรียบร้อย เพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้น ถ้าเทียบกับเงินช่วยเหลือเยียวยาว ที่ต้องจ่ายให้ทุกปี ปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท ก็เป็นจำนวนเงินที่มากกว่าไปทำโครงการที่เป็นถาวรวัตถุ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำ และผันน้ำออกจากพื้นที่ภาคกลางได้ ก็จะแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว เพราะการมาเจอชาวบ้านทุกปีแบบนี้ไม่ไหว มาแล้วก็ต้องมาขอโทษ นำถุงยังชีพมาให้ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้อยากได้ ดังนั้น ต้องสร้างโครงการที่แก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งพวกตนเองจะทำ 

เมื่อถามว่าเวลาที่มีอยู่ของรัฐบาล จะสามารถดำเนินโครงการ ช่วยบรรเทาปัญหาซ้ำซากได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการต่างๆ ไม่มีรัฐบาลไหน ที่จะทำได้เสร็จภายในอ่ยุรัฐบาลของรัฐบาลนั้นๆหรอก แต่เราต้องเริ่ม เราต้องตัดสินใจเริ่ม ต้องไม่คิดว่าไปปัดแข้ง ปัดขาใคร ต้องถือว่าโครงการนี้ ไม่ว่าใครจะนำเสนอขึ้นมา พรรคไหน พวกไหน แต่ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ ตนขอให้คำยืนยันเลย เพราะตนก็ถูกฝึกมาอย่างนี้ และนิสัยตน ไม่แคร์ว่าใครจะได้เครดิต ถ้าประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ใครเสนอมา ตนก็เห็นชอบหมด

เมื่อถามว่าถ้าเริ่มต้นแล้ว ครั้งหน้าเราหวังว่าจะกลับมาสานงานต่อหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ต้องหวังผลเลิศ ซึ่งต้องทำงานให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจว่า เรามาแก้ไขปัญหาจริง และรักษางบประมาณของประเทศ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ ต้องไม่หายไปไหน ต้องถูกใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศและเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสเรากลับมาสานที่เราทำไว้