ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ

ความตายของ ริค เดวีส์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2025 ในวัย 81 ที่บ้านของเขาในนิวยอร์ค ต้องถือว่าเป็นการสิ้นสุดวง ซูเปอร์แทรมป์ อย่างเป็นทางการ เพราะนอกจากเป็นผู้ก่อตั้ง เขายังเป็นเจ้าของชื่อ Supertramp ตามกฎหมาย

เดวีส์ เกิดในสวินดอน ประเทศอังกฤษ สนใจดนตรีตั้งแต่อายุ 8 ขวบ “ดนตรีเป็นอย่างเดียวเท่านั้นที่เขาทำได้ดีในโรงเรียน เขาสอนตัวเองทั้งหมดในสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับดนตรี”

จริงๆ ตอนวัยเด็ก เดวีส์ หลงใหลเสียงกลองด้วยอิทธิพลจากอัลบั้ม Drummin' Man โดย ยีน ครูป้า ที่เขาฟังนับครั้งไม่ถ้วน นำมาสู่การฝึกฝนตีกลอง แต่ต่อมาเมื่อหันไปสนใจเปียโนและคีย์บอร์ด และรู้สึกว่าตนเองทำได้ดีกว่าการเล่นกลอง คีย์บอร์ดจึงกลายเป็นเครื่องมือประจำตัวไปโดยปริยาย

ในปี 1959 เดวีส์ ก็เหมือนเด็กวัยรุ่นยุคนั้นที่ชื่นชอบดนตรีร็อค แอนด์ โรลล์ เขาเข้าร่วมวง วินซ์ แอนด์ เดอะ วิจิแลนท์ส ต่อมาในปี 1962 เมื่อเข้าเรียนศิลปะที่สวินดอน คอลเลจ เขาตั้งวงชื่อ ริค’ส บลูส์ ซึ่งในวงมีเพื่อนรุ่นน้องร่วมวิทยาลัยคือ กิลเบิร์ท โอ’ซัลลิแวน อยู่ด้วย ในตำแหน่งมือกลอง ก่อน โอ’ซัลลิแวน จะกลายมาเป็นนักร้องและนักเปียโนดังจากเพลง “Alone Again”, “Clair” และ “Get Down” ในภายหลัง ซึ่ง โอ’ซัลลิแวน เคยบอกว่า ริค เดวีส์ เป็นคนสอนดนตรีเขา ทั้งกลองและเปียโน

หลังจากพ่อล้มป่วย เดวีส์ ยุบวง และต้องออกจากวิทยาลัย ไปทำงานเป็นช่างเชื่อมในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในสวินดอน แต่ก็กลับมาสู่ดนตรีที่เขารักในปี 1966 ด้วยการร่วมวง เดอะ จอยน์ท

ถัดมาอีก 3 ปี เดวีส์ ตัดสินใจตั้งวงของเขาเองในแนวโปรเกรสซีฟ-ร็อค โดยการลงโฆษณาในนิตยสาร เมโลดี้ เมคเกอร์ ประกาศหานักดนตรีมาร่วมวง แล้วเขาก็ได้เจอกับ โรเจอร์ ฮ็อดจ์สัน ที่มาทดสอบฝีมือ

แม้จะมีปูมหลังที่ตรงข้ามกัน เดวี่ส์ เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกรรมาชีพ ขณะที่ ฮ็อดจ์สัน มาจากครอบครัวมีฐานะ แต่การเข้าใจความคิดทางดนตรีของแต่ละฝ่ายอย่างดี จึงกลายเป็นสัมพันธ์ที่กลมกลืนอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ตั้งวงชื่อ แด๊ดดี้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ซูเปอร์แทรมป์ ในเวลาต่อมา

ซูเปอร์แทรมป์ เป็นหนึ่งในศิลปินรายแรกๆที่เซ็นสัญญากับสาขาของบริษัท เอแอนด์เอ็ม ในอังกฤษ สองอัลบั้มแรกไปได้ไม่ดี และตัวสมาชิกยังไม่คงที่ จนกระทั่งปี 1973 สมาชิกวงก็เสถียรอยู่ที่ เดวีส์ – ร้องนำ/คีย์บอร์ด/เปียโน, ฮ็อดจ์สัน - ร้องนำ/กีตาร์, ดูกี้ ธอมสัน - เบสส์, บ็อบ ซีเบนเบิร์ก - กลอง และ จอห์น เฮลลิเวลล์ - แซ็กโซโฟน โดยเริ่มด้วยการบันทึกเสียงอัลบั้ม Crime of the Century ซึ่งเป็นผลงานชุดแรกที่ทำให้วงเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสมาชิกชุดนี้ถือเป็นคลาสสิค-ไลน์อัพที่อยู่ร่วมกันต่อมาอีก 10 ปีเต็ม

เดวีส์ และ ฮ็อดจ์สัน เป็นแกนหลักในการแต่งเพลงคู่กัน แต่ตอนหลังก็เริ่มแยกกันแต่ง เพียงแต่ยังใช้เครดิทว่า ‘เดวีส์/ฮ็อดจ์สัน’ เหมือนเดิม ตามสัญญาที่เซ็นกันไว้ คล้ายกับกรณีของ จอห์น เลนนอน และ พอล แม็คคาร์ทนีย์ แห่ง เดอะ บีเทิลส์

นอกจากร่วมกันแต่ง เดวีส์ และ ฮ็อดจ์สัน ยังแบ่งหน้าที่กันร้องนำในเพลงของวง เสียงของ เดวีส์ เป็นเสียงต่ำแบบบาริโทนและมีความแหบกร้านนิดๆ ตรงข้ามกับเสียงโทนใสและสูงของ ฮ็อดจ์สัน ทำให้เพลงของ ซูเปอร์แทรมป์ มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากวงร็อกทั่วไป

เสียงของ เดวีส์ ได้ยินในเพลงของ ซูเปอร์แทรมป์ ที่แฟนของวงรู้จักดี อย่าง "Rudy", "Bloody Well Right", "Crime of the Century", "Ain't Nobody But Me", "From Now On", "Gone Hollywood", "Goodbye Stranger", "Just Another Nervous Wreck", "My Kind of Lady", "Cannonball" และ "I'm Beggin' You"

ซูเปอร์แทรมป์ ประสบความสำเร็จสูงสุดจากอัลบั้ม Breakfast in America ในปี 1979 ติดอันดับ 1 บนชาร์ท บิลล์บอร์ด 200 ถึง 6 สัปดาห์ มีเพลงฮิทถึง 4 เพลง คือ "The Logical Song", "Goodbye Stranger", “Breakfast in America” และ "Take the Long Way Home" ตามข้อมูลในปี 2020 อัลบั้มขายไปแล้วกว่า 20 ล้านชุด!

แต่หลังจากการออกอัลบั้มต่อมาที่ชื่อเหมือนลางว่า Famous Last Words ฮ็อดจ์สัน ก็ขอแยกทางไปในปี 1983 และไม่กลับมาร่วมกับวงอีกเลย

แม้ขาดแกนหลักไปครึ่งหนึ่ง เดวี่ส์ ก็ยังดำเนินวงต่อ ซูเปอร์แทรมป์ ออกอัลบั้มมาอีก 3 ชุด ทัวร์เป็นช่วงๆ และหยุดพักวงลงในปี1987 หลังจากห่างหายไป 10 ปี ซูเปอร์แทรมป์ พร้อมกับสมาชิกหน้าใหม่ๆ ก็กลับมาด้วยอัลบั้ม Some Things Never Change ซึ่งเดิมตั้งใจจะเป็นผลงานเดี่ยว แต่ เดวี่ส์ ตัดสินใจใช้ชื่อ ซูเปอร์แทรมป์ และออกอัลบั้มอีกชุด Slow Motion ในปี 2002

ซูเปอร์แทรมป์ พักวงอีกครั้ง ก่อนมารวมกันทัวร์ในปี 2010 และหยุดลงเมื่อปี 2015 เพราะปัญหาสุขภาพของ เดวีส์ ซึ่งเป็นโรคมะเร็งไขกระดูก

ความตายของ ริค เดวีส์ เป็นข่าว แต่ไม่ครึกโครมนัก บางทีชะตาชีวิตของเขาก็คล้ายกับ ซูเปอร์แทรมป์ ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมา แม้จะเป็นวงโปรเกรสซีฟ-ร็อกที่มีฝีมือยอดเยี่ยมวงหนึ่ง แต่กลับไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก ยกเว้นช่วงที่ประสบความสำเร็จสุดขีดในตอนปลายทศวรรษ 1970 ต่อต้นทศวรรษ 1980 บางคนถึงขนาดบอกว่า เป็นวงชั้นยอดที่ถูกมองข้ามมากที่สุดวงหนึ่ง

แต่อิทธิพลของ ซูเปอร์แทรมป์ ที่มี เดวีส์ เป็นหนึ่งในมันสมองสำคัญ ยังส่งต่อสู่วงดนตรีรุ่นหลังอีกมากมายในทางลึก เช่นที่มีคนเขียนไว้ว่า "มรดกทางดนตรีของ ริค เดวี่ส์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนอีกมากมาย และพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ว่า เพลงชั้นเยี่ยมไม่มีวันตาย”