รัฐเตรียมเปิด “คนละครึ่งพลัส” เพิ่มสิทธิพิเศษ กระตุ้นเศรษฐกิจ ลงทะเบียนง่าย ใช้ได้ปลายตุลา
โครงการ “คนละครึ่งพลัส” กำลังเป็นกระแสร้อนแรงในปี 2568 หลังรัฐบาลเดินหน้าเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนและเริ่มใช้สิทธิได้ทันทีหลัง ครม. เห็นชอบ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งพลัสจะเป็นการยกระดับจากโครงการคนละครึ่งเดิม โดยมุ่งเน้นการสร้างวินัยการคลังและเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบภาษี พร้อมทั้งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อยให้แข่งขันได้มากขึ้น
แนวคิดหลักของโครงการนี้มี 2 ด้านสำคัญ ด้านแรกคือการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษี โดยผู้ที่ยื่นเสียภาษีจะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างฐานรายได้ภาครัฐให้มั่นคงยิ่งขึ้น
อีกด้านหนึ่งคือการพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อยผ่านการรีสกิลและอัพสกิล เพื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำบัญชี การขายสินค้าออนไลน์ และขยายตลาดจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับประเทศ รวมทั้งสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
สำหรับวงเงินและจำนวนสิทธิที่จะได้รับนั้น จะต้องรอนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างเป็นทางการก่อน เพื่อกำหนดกรอบงบประมาณที่ชัดเจนและโปร่งใส
ในรอบใหม่นี้ โครงการถูกขนานนามว่า “คนละครึ่งอัปเกรด” ซึ่งแบ่งสิทธิออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
กลุ่มผู้เสียภาษีจะได้สิทธิพิเศษ รัฐช่วยจ่าย 60% ประชาชนจ่าย 40% จากเดิมที่เป็น 50:50 คาดว่าจะมีสิทธิประมาณ 11 ล้านคน พร้อมแนวโน้มเพิ่มวงเงินสูงกว่าเดิม เช่น 1,200 บาทต่อคน
ขณะที่ประชาชนทั่วไปและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงใช้สิทธิแบบ 50:50 ตามเดิม แต่สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการ รัฐบาลเตรียมเพิ่มวงเงินพิเศษจากเดิม 300 บาทต่อเดือน ขยายเป็น 2,000 บาทต่อเดือน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพอย่างมีนัยสำคัญ
นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เฟสแรกของโครงการจะเริ่มจากกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนราว 13 ล้านคน ใช้งบประมาณกว่า 22,000 ล้านบาท เพื่อเติมเงินเพิ่มเป็น 2,000 บาท
จากนั้นจึงขยายสิทธิไปยังประชาชนทั่วไป โดยใช้งบประมาณในปี 2569 เพิ่มเติมอีกประมาณ 25,000 ล้านบาท ถือเป็นการวางแผนระยะยาวที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มเปราะบางและประชาชนทั่วไป
วิธีการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการสามารถทำได้ 2 ช่องทางหลัก คือ เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่ต้องผูกกับ G-Wallet และเติมเงินก่อนใช้งาน
สำหรับขั้นตอนการติดตั้งแอปเป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง App Store และ Google Play รองรับระบบ Android 9.0 ขึ้นไป และ iOS 15.0 ขึ้นไป เมื่อติดตั้งแล้วให้เปิดแอปและยินยอมการจัดการข้อมูล
ผู้ใช้งานต้องเตรียมบัตรประชาชนเพื่อถ่ายรูป และกรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อรับรหัส OTP จากนั้นยืนยันตัวตนได้ 2 วิธี ได้แก่ การยืนยันผ่าน Krungthai NEXT โดยเข้าสู่ระบบ กรอกรหัส OTP ตั้ง PIN หรือเลือกการสแกนใบหน้าและตั้งค่า Face/Touch ID
เมื่อยืนยันตัวตนสำเร็จ ระบบจะแสดงการ์ด G-Wallet บนหน้าจอแอปเป๋าตัง สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อได้รับสิทธิจากโครงการ ถือเป็นขั้นตอนที่รัฐบาลออกแบบมาเพื่อความสะดวกและปลอดภัย
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หาก ครม. เห็นชอบตามกำหนด โครงการคนละครึ่งพลัสจะเปิดให้ลงทะเบียนทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทันที โดยคาดว่าจะเริ่มใช้สิทธิได้เร็วสุดปลายเดือนตุลาคม
หากกระบวนการล่าช้าไปบ้าง อาจเริ่มใช้สิทธิได้ไม่เกินเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ซึ่งยังอยู่ในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียน
โครงการคนละครึ่งพลัสจึงถูกจับตามองว่าไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษี และส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลที่โปร่งใสตรวจสอบได้
นอกจากนี้ยังสร้างแรงกระเพื่อมให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งจะได้รับทั้งการเพิ่มยอดขาย การเข้าถึงตลาดใหม่ และการได้รับโอกาสสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นการยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจฐานรากในระยะยาว
ด้วยเหตุนี้ “คนละครึ่งพลัส” จึงไม่ได้เป็นเพียงโครงการช่วยลดค่าครองชีพระยะสั้น แต่ยังเป็นนโยบายเศรษฐกิจที่วางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในอนาคต
#คนละครึ่ง #คนละครึ่งพลัส #ลงทะเบียนคนละครึ่ง #เป๋าตัง #สิทธิคนละครึ่ง #บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ #เศรษฐกิจไทย #โครงการรัฐ #ข่าวเศรษฐกิจ #อัปเดตข่าว #บัตรคนจน #คนละครึ่งเฟส2