เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและ Content Thailand จัดประชุมวิชาการและเวทีเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการ “ชุมชนฅนสร้างสรรค์ไทย” ณ ห้องประชุมสารนิเทศ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันถือเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอผลงานวิจัยและต้นแบบคอนเทนต์ใหม่ ๆ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนแนวคิดเพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมไทยสู่อนาคต
ในช่วงการนำเสนอผลงาน นักเล่าเรื่องยุทธศาสตร์ของโครงการได้แบ่งปันผลงานต้นแบบ อาทิ “ผีม้าบ้องในวัฒนธรรมล้านนา” โดย นางสาวพิทยาภรณ์ ชัยมงคล “โรงเตี๊ยมวิญญาณ” โดย นางสาวณัฐสุดา แซ่โค้ว “เต่ามหัศจรรย์กับชาวเล” โดย นางสาวจิรภัทร วงศ์โชติหิรัณย์ และ “เทพารักษ์กับเทวาคาร” โดย นางสาวนภัธจิรัฏ วัชรศรีเจริญ ซึ่งสะท้อนพลังของเยาวชนไทยในการสร้างสรรค์เรื่องเล่าจากรากวัฒนธรรม
ดร.ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์ หัวหน้าโครงการและนักวิจัยประจำศูนย์แม่โขงศึกษา กล่าวถึงความจำเป็นของการสร้างคอนเทนต์ดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นว่ากระแส Asianism กำลังเติบโต ดังเช่นความสำเร็จของ ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ของเขต และ นาจา 2 พร้อมเน้นย้ำถึงศักยภาพของตลาดใกล้บ้านอย่างอาเซียน จีน และอินเดีย ที่มีประชากรรวมกว่า 40% ของโลกและมีพลังการบริโภควัฒนธรรมสูง
รศ.ดร.พิษณุ คนองชัยยศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำเสนอประเด็น Creative AI โดยย้ำว่า AI เป็นเพียงพันธมิตรในการปลดล็อกความคิดและยกระดับคุณภาพงานเขียน แต่ไม่สามารถแทนที่จินตนาการและหัวใจมนุษย์ได้ ขณะที่ ผศ.ดร.ชาดา เตรียมวิทยา คณะศิลปศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แนะนำการเล่าเรื่องร่วมสมัยที่ผสานการพรรณนาและเสียงหลายชั้น เพื่อสร้างวรรณศิลป์ที่เชื่อมโยงอดีต–ปัจจุบันอย่างลึกซึ้ง
ด้าน รศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้กล่าวถึง Creative Diplomacy ในฐานะกลไกสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของไทย โดยเฉพาะการใช้การเล่าเรื่องและประสบการณ์จริงเพื่อเข้าถึงใจผู้ชมต่างชาติในยุคการแข่งขันระดับโลก
ผศ.ดร.บัณฑิต สัตย์เพริศพราย คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เสริมมุมมองว่าการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์สามารถทำได้ผ่านนิยายภาพซึ่งไม่เพียงเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงวัฒนธรรม แต่ยังต่อยอดสู่หนังสือ ซีรีส์ และนวัตกรรมทางวัฒนธรรมที่ช่วยเสริม Soft Power ของไทย ขณะที่ นายพัฒนะ จิรวงศ์ ผู้กำกับภาพยนตร์และผู้ร่วมวิจัย เน้นย้ำพลังของเยาวชนว่า หากได้รับพื้นที่เล่าเรื่อง ประเทศไทยจะไม่ขาดแคลนเรื่องเล่าใหม่ ๆ ที่สะท้อนชุมชนและสังคม
งานนี้ได้รับเกียรติจาก นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม มาร่วมกล่าวเปิดงาน และปิดท้ายด้วยถ้อยคำทรงพลังจากนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์และกวีซีไรต์ สะท้อนให้เห็นว่างานประชุมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีวิชาการ แต่ยังเป็นการจุดประกายความหวังใหม่ให้กับอนาคตของวัฒนธรรมไทย