วันที่ 25 ก.ย.2568 เวลา 12.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้ได้หารือกันถึงการเตรียมประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรคชุดใหม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ ยังมีอะไรที่ติดขัดก็จะร่วมกันจัดการให้เรียบร้อย ซึ่งไม่มีอะไรติดขัด เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกอย่าง ซึ่งทางสำนักงานฯก็ปรึกษากับรักษาการเลขาธิการพรรคฯตลอด ส่วนตนลาออกแล้ว ก็ไม่ได้เป็น กก.บห.แล้ว มีแค่ความห่วงใย 

นายเฉลิมชัย กล่าต่อว่า การประชุมกันตนก็ไม่ได้มีการฝากอะไรเป็นพิเศษ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าและไม่ได้ฟังอะไรจากที่ประชุมในการเตรียมการเนื่องจากทางคณะทำงานได้ดำเนินการเป็นปกติอยู่แล้ว การประชุมใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ตนคิดว่าทำกันจนชำนาญแล้ว ครั้งที่แล้วก็เลือกตั้งกก.บห. 3 รอบ แต่ส่วนตัวคาดว่าในการเลือก กก.บห.ครั้งนี้อยากให้รอบเดียวจบ พรรคฯจะได้ขับเคลื่อนต่อไป การที่ตนเชื่อว่าเลือกรอบเดียวจบ เพราะ 2 อย่างที่ตนเคยพูด คือไม่มีใครรู้อนาคต กับเรื่องใจคน ซึ่งตนเจอมาแล้ว ไม่รู้จริงๆ

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บ้างหรือยัง นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเลย เพราะนายอภิสิทธิ์ยขณะนี้ติดภารกิจเดินทางในประเทศจีน ก็คงจะต้องได้คุยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยเลย รอให้นายอภิสิทธิ์เดินทางกลับมาก่อน และ เมื่อมีโอกาสก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว

”ผมกับท่านอภิสิทธิ์ก็มีความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเราก็ต้องคุยกัน เพราะผมอยากให้พรรคและ กก.บห.ขับเคลื่อน เพราะฉะนั้นข่าวต่างๆทั้งหมด

ผมขอบอกนักวิเคราะห์ทั้งหมดว่าวันนี้ท่านวิเคราะห์ไปมันยังไม่ชัดยังไม่ใช่ความจริง หนีไม่พ้น ถ้ามันเป็นความจริง อย่างไรก็ต้องเป็นความจริง แต่ถ้ามันไม่ใช่ วิเคราะห์ไปแล้วก็ได้แค่สนุก ได้แค่มันในอารมณ์แค่นั้น” นายเฉลิชัย กล่าว

เมื่อถามว่า นายเฉลิมชัย จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่าขอคุยก่อน และพร้อมที่จะให้ใครก็ได้ที่มีความตั้งใจมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีอคติ เช่นเดียวกันกับนายเดชอิศม์ ตนยืนยันแทนด้วยว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ 

“ไม่ต้องห่วงผมยืนยันว่าเรา 2 คน ไม่รับตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่แข่งขันหรอกครับ จะได้ชัด เวลาที่มีคนนำไปคิดเองแล้วนำไปเขียนมันไม่ตรง พอไม่ตรงสังคมก็สับสน” นายเฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามว่า ตอนนี้ความสัมพันธ์ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้แตกแยกเหมือนที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่มีเช่นนั้น เพราะตนเองเป็นคนที่รอมชอมที่สุด

ต่อข้อถามว่ามีข่าวว่าจะมีการย้ายพรรค นายเฉลิมชัย ถามกลับว่า ”ใครเอ่ย“ ผู้สื่อข่าวแจงว่าทั้งนายเฉลิมชัย และนายเดชอิศม์ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ข่าวก็คือข่าว ตนไปที่จังหวัดตรังมา มีการพูดคุยกับนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ (โกหนอ) ที่ตนเคารพรักและมีการวิเคราะห์การเมืองหลายๆประเด็น โดยวิเคาระห์ในส่วนประชาธิปัต์กับภาคใต้ ซึ่ง การวิเคราะห์ของตนก็วิเคราะห์ตามสถานการณ์ในฐานะที่ตนอยู่ในวงการเมืองมา 20 ถึง 30 ปีส่วนที่นายสมชายจะเอาคำวิเคราะห์ของตนไปฟันธง คิดว่าก็เหมือนกับผู้จัดรายการทั่วไปที่วิเคราะห์อย่างนี้แล้วฟันธงว่าควรจะเป็นอย่างนี้

“ผมเรียนว่าการวิเคราะห์ของผม การฟันธงของผมทุกอย่างยังไม่มีอยู่ในความรู้สึก ยังไม่อยู่ในความนึกคิดทั้งหมด จนกว่าผมจะได้คุยกับ สส. ของพรรคให้ครบ คุยกับคนที่จะมาประสานงานต่อให้เรียบร้อย และได้หัวหน้าพรรคได้ กก.บห.พรรคเรียบร้อย หลังจากวันที่ 18 ต.ค. ผมถึงจะเริ่มต้นคิดว่าจะทำอย่างไร ช่วงนี้ขอพักสักนิด ไม่เห็นหรอหน้าผมสดใสขึ้นเยอะ” นายเฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามว่า หลังวันที่ 18 ต.ค.จะตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคไหนใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขอพักตรงนี้ก่อนสักเดือนหนึ่ง เอาเป็นว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ หลัง18 ต.ค.ตนต้องใช้เวลาคิด ทุกอย่างที่ตนทำยังเป็นห่วงน้องๆในพรรคนี่คือตัวตน ใครจะว่าโบราณก็โบราณ​ “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” ตัวตนจริงๆของตน เพราะคำนี้ยังใช้ได้อยู่และยังมีอยู่ในประเทศไทย 

เมื่อถามย้ำว่าหลังวันที่ 18 ต.ค. จะยังไปต่อกับพรรคประชาธิปัตย์มีมากแค่ไหน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าไม่มีใครรู้ 2 อย่างอนาคตกับใจคนตนขอฝากเลยว่าไม่มีใครรู้ 2 เรื่องนี้จริงๆ

เมื่อถามว่า มีขาวว่าจะตัดสินใจใดย้ายไปพรรคกล้าธรรมหรือพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่ายังไม่ได้คิด ตนเป็นคนที่เล่นการเมืองมีพรรคพวกพี่น้อง ตนสนิทกับทุกพรรค  ซึ่งการพูดคุย กินข้าวร่วมกันเป็นเรื่องปกติ แต่ตนก็บอกกับทุกคนแล้วว่าการตัดสินใจทางการเมืองของตนเองอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ คือ ต้องให้พรรคประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนได้ก่อน

ขณะนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ หลังจากเสร็จสิ้นแล้วคือสิ่งที่ตนจะคิดตัดสินใจ แต่วันนี้ยังไม่ใช่ ตนคิดคิดให้รอบครอบ และยึดประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย และยืนยันไม่ได้มีปัญหาการทะเลาะกับนายเดชอิศม์ อาจจะเป็นความรู้สึกของคนที่เข้าใจไปอย่างนั้น และส่วนตัวไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่รู้จะทะเลาะไปทำไม คนเราเวลาเหลือน้อยเต็มที มันไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง “ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” เพราะฉะนั้นตนไม่โกรธ ไม่โมโห

เมื่อถามว่าคบกันแค่วันที่ 18 ต.ค.หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนคบกัน แล้วคบตลอดชีวิต เหมือนนายอภิสิทธิ์ ตนคบมาก็สนิทสนมกันทุกวันนี้ก็ยังคบกันอยู่ ครบกันทั้งชีวิตเหมือนกัน 

“สำหรับผมเลือกคบเฉพาะคนที่ผมอยากคบ บางคนที่ผมไม่อยากคบ ผมก็ไม่คบด้วย ไม่มีอะไรและไม่มีใครมาบังคับผมได้ สำหรับผม ผมไม่หรอกตัวเอง” นายเฉลิมชัยกล่าว