ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ได้รับโควต้าการส่งอ้อยรายหนึ่ง ออกมาเปิดเผยถึงกรณีถูกโรงงานน้ำตาล ค้างชำระหนี้มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท แม้จะมีการทวงถามและยื่นหนังสือ (Notice) ไปยังฝ่ายบริหารแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ บริษัทคู่กรณีนิ่งเฉยไม่เร่งดำเนินการชำระหนี้ หรือแสดงความรับผิดชอบ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้รับผลกระทบโดยตรง เสียหายหนัก ทั้งด้านกระแสเงินสดและการดำเนินธุรกิจ

หากยังคงถูกเพิกเฉยจะดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้สื่อมวลชน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้ามาตรวจสอบและให้ความเป็นธรรม เราเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ตั้งใจทำธุรกิจสุจริต แต่กลับถูกบริษัทน้ำตาลเมินเฉยต่อภาระหนี้สิน ไม่เพียงกระทบเราเท่านั้น แต่ยังสะเทือนต่อระบบความเชื่อมั่นในวงการธุรกิจน้ำตาลไทยโดยรวม 

เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนปัญหาการใช้ อำนาจของทุนใหญ่กดขี่ผู้ประกอบการรายเล็ก ที่อาจกลายเป็นบรรทัดฐานอันตรายในสังคมธุรกิจไทย หากไม่มีการบังคับใช้กฎหมายและตรวจสอบอย่างจริงจัง.