“พิสิษฐ์” เผยวุฒิฯเตรียมความพร้อมประชุมถก 2 ร่างพ.ร.บ. รอผลหารือวิป 3 ฝ่าย 25 ก.ย.กำหนดกรอบเวลาการแถลงนโยบายรัฐบาล คาดส.ว.เตรียมอภิปรายกว่า 20-30 คน เตือนรัฐบาลเหลือเวลาทำงานแค่ 4 เดือน หวังจะทำตามนโยบายที่รับปากไว้ อย่าเหมือนรัฐบาลชุดก่อน เตือนส.ส. เสนอตั้ง ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงอาจขัดข้อกฎหมายที่เคยมีคำวินิจฉัยไว้

วันที่ 24 ก.ย.2568 เวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการวิสามัญวุฒิสภา หรือวิปวุฒิ แถลงว่า ทางวิปวุฒิได้กำหนดวาระการประชุมวุฒิสภาครั้งต่อไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุวันชัดเจนได้ เนื่องจากสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.) เวลา 14:00 น. จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อหารือเกี่ยวกับกรอบระยะเวลาในการแถลงนโยบาย และจัดสรรจำนวนผู้ขออภิปราย ทั้งนี้ วุฒิสภาเตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ซึ่งมีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือภาคธุรกิจและการยกระดับพืชเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉบับที่ พ.ศ.) และร่างพ.ร.บ.ลำไย พ.ศ.


นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาลคาดว่าจะมีสว.ขออภิปราย มากกว่า 20-30 คนแน่นอน รอการจัดสรรเวลาอภิปรายของวิป 3 ฝ่ายก่อน โดยหากได้กรอบเวลารวมมา เช่น 3 ชั่วโมง อาจจะต้องมีการหารเวลา ทำให้ผู้ที่เสนอชื่ออภิปรายแต่ละท่านได้รับเวลาเพียง 5-6 นาทีต่อคน


“ผมหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะ ทำในสิ่งที่ได้เสนอไว้ และไม่เป็นเหมือนรัฐบาลชุดที่แล้วที่เสนอแผนการไว้มาก แต่ไม่ได้ทำตามที่เสนอเลย แม้ว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ (4 เดือน)ถือว่าน้อยมาก แต่หากสามารถทำชดเชย 2 ปีที่ผ่านมาได้ ก็ถือว่าคุ้มค่า”นายพิสิษฐ์ กล่าว


นายพิสิษฐ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของทางวุฒิสภายังไม่ได้เตรียมการใด ๆ เลย เนื่องจากยังไม่เห็นร่างต่าง ๆ และตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 อนุ 1 วุฒิสภาไม่มีโอกาสเสนอโดยตรง ต้องไปร่วมกับ ส.ส. ส่วนการเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)นั้นมีความสุ่มเสี่ยง โดยมีข้อวินิจฉัยที่ชัดเจนว่า รัฐสภาไม่สามารถให้ประชาชนเป็นผู้เลือก ส.ส.ร. ได้โดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ สส. ต้องระวังในการยื่นร่างแก้ไข


“ส่วนตัวย้ำว่า หมวด 1 และ หมวด 2 จะไม่ถูกแก้ไข และเป็นสิ่งที่นักการเมืองควรให้ความสำคัญ คือ จริยธรรมอย่างร้ายแรง และความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”นายพิสิษฐ์ กล่าว