วันที่ 24 ก.ย.68 กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด, หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี และกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 กำลังเร่งดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเลียบแนวชายแดน ระยะทางรวม 15 กิโลเมตร เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ ในการส่งกำลังบำรุงและลาดตระเวน โดยล่าสุดการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% หรือระยะทางรวม 15 กิโลเมตร และคาดว่า
จะแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในอีก 4.5 กิโลเมตรที่เหลือ
โดยโครงการดังกล่าว เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ไขลักษณะภูมิประเทศที่เป็นรูปตัว U ให้กลับสู่สภาพปกติ และเสริมมาตรการเชิงรุกในการป้องกันการละเมิดอธิปไตย รวมถึงสร้างความมั่นคงให้กับพื้นที่ชายแดน ซึ่งในการดำเนินการก่อสร้าง ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ ทั้งสภาพพื้นที่ลาดชันที่เข้าถึงได้ยาก ความเสี่ยงจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เครื่องจักรติดหล่ม รวมถึงปัญหาสำคัญอย่าง สนามทุ่นระเบิด ที่ยังคงตกค้างจากสมัยการสู้รบของเขมรแดง ซึ่งล่าสุดมีการตรวจพบทั้งกระสุนปืนใหญ่, ทุ่นสังหารบุคคล และทุ่นระเบิดดักรถถังจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ก็สามารถเข้าดำเนินการทำลายได้อย่างปลอดภัยแล้ว
อย่างไกร็ตาม ความสำเร็จและความคืบหน้าที่เกิดขึ้นมาจากพลังแห่งความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไม่เพียงแค่ทหารและตำรวจ แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น จังหวัดจันทบุรี, อำเภอโป่งน้ำร้อน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ประกอบด้วย สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน, สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี รวมถึงประชาชนและจิตอาสาในพื้นที่ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทั้งด้านกำลังกาย การจัดหาอาหาร และการสนับสนุนทรัพยากรต่างๆ
ทั้งนี้ กองทัพเรือเน้นย้ำว่าภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการสร้างถนน แต่เป็นการรักษาผืนแผ่นดินไทยและผืนแผ่นดินของชาวจันทบุรีที่บรรพบุรุษได้ปกป้องไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งภารกิจนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการรักษาเอกราช ศักดิ์ศรี และความปลอดภัยของประชาชน สมกับเป็น “กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ”