การแถลงนโยบายรัฐบาล “อนุทิน 1” คาดว่าจะมีขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 1-2 ตุลาคม 68  นี้ ภายหลังจากที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล”  นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าถวายสัตย์ฯ ในวันที่ 24 กันยายนนี้ เสร็จสิ้นลง

การแถลงนโยบายรัฐบาล มีขึ้น 2 วัน  โดยจะแบ่งเป็นในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร 1 วันและวุฒิสภา อีก 1วัน โดยในส่วนของรัฐบาลใหม่ นายกฯอนุทิน  ยืนยันว่าร่างนโยบายรัฐบาล นั้นทำเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีความยาวทั้งสิ้น 8 หน้า

ทว่าสาระสำคัญในเชิงการเมืองที่นอกเหนือไปจาก “เนื้อหา” ในร่างนโยบายรัฐบาลใหม่ที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมเอาไว้แถลงต่อทั้งสองสภาฯ  เชื่อว่ายังไม่ถูกจับตามากเท่ากับ “บรรยากาศ” การฟาดฟันกันระหว่าง “ศึกสามเส้า”  เมื่อ 3 ขั้ว 3 ค่าย เตรียมใช้เวทีสภาฯ “เอาคืน” กันมากกว่าที่จะ “ตรวจสอบ” ว่า รัฐบาลใหม่จะทำหรือไม่ทำอะไรบ้าง

ยิ่งเมื่อการเมืองวันนี้ แบ่งออกเป็น สามสี สามก๊ก ระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” ค่ายสีแดง ,พรรคประชาชน ค่ายสีส้ม และ พรรคภูมิไทย ขั้วสีน้ำเงิน !

อย่าลืมว่า ทั้งสีแดงกับสีน้ำเงิน อยู่ในสภาพ “คนเคยรัก” และวันนี้ ต่าง “ชัง” กันสุดขั้ว พรรคเพื่อไทย หลุดจากอำนาจ เสียเก้าอี้ “นายกฯคนที่ 31” จากพิษ “คดีคลิปเสียงฮุนเซน”  พิฆาต “แพทองธาร ชินวัตร” จนร่วงหล่นตำแหน่ง "ผู้นำรัฐบาล" 

ยังไม่นับย้อนไปถึง “ความขัดแย้ง” ที่มีอยู่เดิมกรณี “คดีฮั้วเลือกสว.” ซึ่งพรรคเพื่อไทยรุกไล่ จี้สอบ “138 สว.” ในสังกัดพรรคสีน้ำเงิน จนลุกลามไปยัง “บิ๊กเนม” ของภูมิใจไทย

เท่ากับว่า ระหว่าง แดงกับน้ำเงิน ต่างมีความแค้น และยังรอเอาคืนกันไม่จบ!

ดังนั้นหมายความว่า พรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้ประกาศตัวเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ” เตรียมลับดาบชำแหละรัฐบาลใหม่ โดยไม่ขอร่วม “ภารกิจ” กับ “พรรคส้ม” เพราะเกิดเป็นความบาดหมางกันตั้งแต่วันที่ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน ประกาศสนับสนุน อนุทิน ให้เป็นนายกฯ คนใหม่ เพราะพรรคเพื่อไทย

และที่สำคัญไปกว่านั้นพรรคเพื่อไทยยังเชื่อว่า การที่พรรคประชาชน เทคะแนนโหวตหนุนอนุทิน  นั้นมาจาก “เงื่อนไขพิเศษ”  มีวาระต่างตอบแทนกัน ซ่อนเอาไว้ตั้งแต่แรก หรือไม่

ด้วยเหตุนี้ วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่ในสภาฯ โดยนายกฯอนุทิน จึงเหมือนกับว่าต้องรับมือกับ “ศึกสองทาง” ไปพร้อมๆกัน 

ด้านหนึ่งคือ พรรคเพื่อไทย ที่จะผสมกับ “ความแค้น” วางเกมถล่มกันตั้งแต่ “โฉมหน้า” บรรดา “รัฐมนตรีใหม่” ว่าใครสุดขี้ริ้วขี้เหร่ 

และอีกด้านหนึ่ง คือพรรคประชาชน  ซึ่งแน่นอนว่าพรรคส้ม จะต้องแสดงบทบาท “ฝ่ายค้าน” กลางสภาฯให้เข้มข้น และชัดเจน เพื่อลบข้อครหา ตลอดจน “ข่าวลือ” ที่กระทบต่อ “ฐานเสียง” ซึ่งต่างมีปฏิกิริยา “ไม่เห็นด้วย” กันอื้ออึง  

นอกจากนี้ ล่าสุดพรรคประชาชน ยังโดนถล่มต่อเนื่องว่ามี “ดีลพิเศษ” ให้พรรคภูมิใจไทย ช่วยคดี “44 สส.ก้าวไกล” ให้หลุดบ่วง ม.112 

แม้ล่าสุด ณัฐพงษ์ จะออกมาย้ำแล้วว่า “ไม่มี เชื่อว่ากาลเวลาและเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ จะเป็นคนตัดสิน”

วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่ ต่อรัฐสภา ของรัฐบาลใหม่ นายกฯคนใหม่ ที่กำลังจะมีขึ้นในราวต้นเดือนหน้า ดูเหมือนว่า ความเข้มข้น ที่อาจทำให้อุณหภูมิการเมืองปะทุขึ้นรอบใหม่

เพราะอย่าลืมว่า บรรดา “โจทก์” ทางการเมือง ล้วนแล้วแต่เป็น “หน้าเก่า” ด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ย้ายข้าง สลับขั้วกันเท่านั้นเอง !!