วันที่ 21 กันยายน 2568  ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระยะนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านไม่ค่อยไว้วางใจในสถานการณ์ ที่อาจจะเกิดการปะทะกัน ทำให้ต้องอพยพรอบ 2 หลังจากพบว่าสถานการณ์ชายแดนยิ่งตึงเครียด ทั้งจากในพื้นที่ บ.หนองจาน จ.สระแก้ว และพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี รวมทั้งการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาที่มีการเสริมกำลังและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนต่างตื่นตัว และมีการเตรียมความพร้อมที่จะอพยพได้ตลอดเวลาหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น  โดยเฉพาะนายสมคิด  สายแก้ว อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.1  ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชายแดนช่องจอม ได้สร้างบังเกอร์หลบภัยส่วนตัวชั่วคราวขนาดเล็ก โดยทำขึ้นมาจากท่อเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 ซ.ม. จำนวน 2 ท่อน หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นสามารถเข้าไปนอนหลบภัยได้ 1-2 คน เมื่อเสียงปืนสงบ ก็จะรอสัญญาณจากผู้นำชุมชนให้ออกจากหลุมหลบภัยได้ และสามารถอพยพออกจากหมู่บ้านได้ทันที

 

นายสมคิด  สายแก้ว กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ข้างบ้านของตนก็มีหลุมหลบภัยที่ทางหน่วยงานรัฐมาสร้างให้หลังจากเกิดสงครามเมื่อปี 54  แต่กลัวไม่เพียงพอ ไว้ให้ผู้หญิงและเด็กๆได้หลบภัย  จึงมาสร้างบังเกอร์หลบภัยแบบมินิ ส่วนตัวดังกล่าว ไว้หลบภัยชั่วคราว ซึ่งก็ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ในช่วงนี้ คาดว่าน่าจะมีการยิงปะทะกันรอบที่ 2 แน่นอน ก็อยากให้ทหารไทยจัดการให้จบโดยเร็ว ชาวบ้านพร้อมอพยพ