ชาวบ้านชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จัดการปัญหาเขมรลุกล้ำอธิปไตยไทยให้เด็ดขาด และขอให้เห็นประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ หลังยืดเยื้อคาราคาซังมานานทำให้ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง กระทบการทำมาหากิน ชาวบ้านพร้อมเสียสละออกจากพื้นที่ทุกเมื่อ เพื่อเปิดทางให้แนวหน้าปกป้องแผ่นดินจะได้ไม่เกิดปัญหาไปถึงยุคลูกหลาน ส่วนเงินเยียวยาครั้งก่อนครัวเรือนละ 5,000 บาท ก็ยังไม่ได้รับ
วันนี้ (21 ก.ย.68) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สุดอัดอั้นต่างออกมาเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี คนใหม่ จัดการกับกัมพูชาให้เด็ดขาด ไม่ให้เข้ามาลุกล้ำอธิปไตย สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทย ปลุกปั่นสร้างเรื่องยั่วยุเจ้าหน้าที่ไทยไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด จนกลายเป็นปัญหายืดเยื้อคาราคาซังมานานหลายเดือน ทำให้ชาวบ้านตามแนวชายแดนต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง กระทบการทำมาหากินไม่เป็นปกติเดือดร้อนขาดรายได้ จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จริงใจแก้ปัญหาชายแดนให้จบลงโดยเร็ว แต่ไทยต้องไม่เสียเปรียบหรือเสียดินแดนเหมือนกับที่นายกฯ เคยประกาศเอาไว้
ทั้งนี้ ชาวบ้านยังได้ฝากถึงทหารแนวหน้าด้วยว่า ชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนพร้อมเสียสละอพยพออกจากพื้นที่ทุกเมื่อ แม้จะต้องทิ้งบ้านไม่ได้ทำมาหากิน เพื่อเปิดทางให้ทหารจัดการกับเขมรที่ไร้สัจจะพร้อมลอบกัดไทยตลอดเวลา แต่ขอให้เด็ดขาดและจบโดยเร็ว เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไม่ให้ปัญหายืดเยื้อไปถึงรุ่นลูกหลานอีก นางสมคิด วาสะรัมย์ อายุ 42 ปี ชาวบ้าน อ.บ้านกรวด บอกว่า จากสถานการณ์ความวุ่นวายที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ก็กลัวจะบานปลายทำให้เกิดการสู้รบกันอีกรอบ แต่ส่วนตัวก็อยากให้ทางการไทยจัดการให้เด็ดขาดจะรบกันก็รบแต่เอาให้จบ ชาวบ้านก็พร้อมอพยพออกจากพื้นที่เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ให้เต็มที่ เพราะเขมรเชื่อใจไม่ได้ทั้งสร้างเรื่องโกหกยั่วยุลอบกัดไทยตลอดเวลา ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง จะไปทำมาหากินก็ระแวง ทั้งอยากให้ไทยปิดด่านถาวรไปเลย
ทั้งอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จริงใจแก้ปัญหาชายแดนให้เด็ดขาด อย่าให้เขมรลุกล้ำแผ่นดินไทย อย่าปล่อยให้เกิดปัญหาเหมือนคนก่อน ขอให้เห็นประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนคนไทยมากกว่าเขมร
ขณะที่ นางปานใจ ชาวบ้านอีกคน ก็บอกว่า ก็รู้สึกว่าจะเกิดการสู้รบกันอีกรอบ เพราะหากรบกันอีกชาวบ้านก็จะเดือดร้อนไม่ได้ทำมาหากิน ขาดรายได้ ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง จะออกไปทำหากินก็ไม่ค่อยกล้า เพราะไม่รู้ว่าจะปะทะกันอีกตอนไหน ส่วนเงินเยียวยาครั้งก่อนครัวเรือนละ 5,000 บาท ก็ยังไม่ได้รับ หากมีการอพยพอีกรอบก็คงจะเดือดร้อน ก็อยากให้เร่งจ่ายเงินรอบแรกก่อน.