เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม รายงานสรุปประเด็นสำคัญจากผลการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรม ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง บางส่วนในช่วงปีงบประมาณ 2567-2568 ดังนี้

กระทรวงยุติธรรมภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้ขับเคลื่อนภารกิจหลักในการอำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในสังคม โดยมุ่งสู่วิสัยทัศน์ “ความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความยุติธรรมนำประเทศไทย” ผ่านการดำเนินงานตามนโยบายหลัก 5 ประการ ซึ่งก่อให้เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมในหลากหลายมิติ ดังนี้

นโยบายที่ 1: นำความยุติธรรมเข้าหาประชาชนอย่างทั่วถึงและถ้วนหน้า

กระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินงานเชิงรุกเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเท่าเทียม โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญคือ

• การแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน:

    ◦ เร่งรัดคดีแพ่งและคดีล้มละลาย: ดำเนินการในชั้นบังคับคดีซึ่งมีมูลหนี้ในระบบรวมสูงถึง 25 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้

    ◦ แก้ไขปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.): ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตามกฎหมายใหม่เพื่อคำนวณยอดหนี้ใหม่และปลดภาระผู้ค้ำประกัน โดยได้อำนวยความสะดวกให้ลูกหนี้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ณ สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศและผ่านระบบออนไลน์ ผลการดำเนินงานที่สำคัญ (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2568) ได้แก่:

        ▪ ถอนการบังคับคดี 16,119 คดี และงดการบังคับคดี 7,775 คดี

        ▪ จ่ายเงินคืนในคดี กยศ. กว่า 60.6 ล้านบาท

        ▪ มีผู้ได้รับอนุมัติสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์ 7,682 ราย และมาทำสัญญาแล้ว 4,863 ราย

    ◦ จัด “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม”: ตลอด 2 ปี ได้จัดมหกรรมรวม 136 ครั้งทั่วประเทศ สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ (หนี้ กยศ., หนี้เช่าซื้อรถยนต์, หนี้บัตรเครดิต 등) ได้กว่า 216,037 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 213,352 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.71 มีทุนทรัพย์รวมกว่า 35,192 ล้านบาท และสามารถลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนได้ถึง 17,001 ล้านบาท

• การช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้สัญชาติ:

    ◦ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครอง เพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน

    ◦ ในรอบปี 2567-2568 ได้ช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้ผ่านการคัดกรอง, ตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์, และพัฒนาสถานะบุคคล โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 133,537 ราย และได้รับการพัฒนาสถานะแล้ว 4,502 ราย (ข้อมูล ณ กันยายน 2568) รวมถึงช่วยเหลือเด็กนักเรียนรหัส G และสามเณรไร้สัญชาติอีกหลายพันคน

นโยบายที่ 2: การแก้ไขและปรับปรุงให้เกิดความเป็นธรรมทางกฎหมาย

มุ่งพัฒนากฎหมายให้เป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและนำพาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้องและเป็นธรรม

• การพัฒนาและปรับปรุงกฎหมาย:

    ◦ ดำเนินการพัฒนากฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมรวม 16 ฉบับ

    ◦ ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือการผลักดัน พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” จนประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้สำเร็จ

    ◦ ปรับปรุงกฎหมายลำดับรองให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย กฎกระทรวง 6 ฉบับ, ระเบียบ 6 ฉบับ และประกาศ 6 ฉบับ

• ความร่วมมือระหว่างประเทศ:

    ◦ ผลักดันให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (ICPPED) โดยมีผลบังคับใช้กับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2567

นโยบายที่ 3: การฝึกฝนอบรมบุคลากรให้มีความพร้อมในการปฏิบัติการกับอาชญากรรม

มุ่งพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมให้มีความพร้อมรับมือกับอาชญากรรมที่มีความซับซ้อนในปัจจุบัน

• พัฒนาศักยภาพบุคลากรกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI): จัดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการสืบสวนสอบสวนและทักษะด้านดิจิทัล เช่น หลักสูตรอาชญากรรมดิจิทัล (Digital Crimes) และ การวิเคราะห์ข้อมูลเครือข่ายด้วยโปรแกรม I2 (Analyst's Notebook) โดยมีบุคลากรได้รับการพัฒนาศักยภาพรวมกว่า 420 ราย

นโยบายที่ 4: การธำรงไว้ซึ่งความสูงสุดของรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม

สร้างความเข้มแข็งให้หลักนิติธรรม เพื่อให้กฎหมายและการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นไปอย่างสัตย์ซื่อและเป็นธรรม

• ยกระดับดัชนีหลักนิติธรรม (WJP Rule of Law Index): จากความมุ่งมั่นในการอำนวยความยุติธรรมอย่างทั่วถึง ส่งผลให้ คะแนนดัชนีชี้วัดหลักนิติธรรมของประเทศไทยในปี 2567 ดีขึ้นเป็น 0.50 คะแนน (จาก 0.49 คะแนนในปี 2566)

• ขับเคลื่อน พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565: ได้ประกาศใช้ระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย โดยคณะกรรมการฯ ได้พิจารณา ช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายไปแล้ว 13 ราย เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 4,203,705 บาท

นโยบายที่ 5: การป้องกันอาชญากรรม “กันไว้ดีกว่าแก้”

มุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรมซึ่งเป็นเป้าประสงค์สูงสุดของกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมพิเศษ

• การแก้ไขปัญหายาเสพติด:

    ◦ การปราบปรามและสกัดกั้น: (ข้อมูล 1 ต.ค. 67 - 31 ส.ค. 68) มีการจับกุมคดีสำคัญ 410 คดี สกัดกั้นยาบ้าได้ 311 ล้านเม็ด ไอซ์ 15,465 กิโลกรัม และเฮโรอีน 315 กิโลกรัม

    ◦ การยึดอายัดทรัพย์สิน: สามารถ ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดได้รวมมูลค่า 7,988.45 ล้านบาท (ข้อมูลจากอีกส่วนระบุว่าสามารถดำเนินการได้ 10,735 ล้านบาท จากเป้าหมาย 18,000 ล้านบาท)

    ◦ ปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย: ความร่วมมือ 6 ประเทศ สามารถจับกุมคดียาเสพติด 1,004 คดี ยึด ยาบ้าได้ถึง 1,025 ล้านเม็ด และไอซ์กว่า 48,403 กิโลกรัม

    ◦ การบำบัดฟื้นฟู: มีผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา 209,690 ราย และผู้มีอาการทางจิตได้รับการบำบัด 29,244 ราย

• การปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ: (ข้อมูล 1 ต.ค. 67 - 31 ส.ค. 68)

    ◦ กวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์และเทคโนโลยี โดยคดีที่แล้วเสร็จมี มูลค่าความเสียหายกว่า 452 ล้านบาท

    ◦ ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้ 54 คน และประสานช่วยเหลือคนไทยและชาวต่างชาติที่ถูกหลอกไปทำงานในเมียนมาและฟินแลนด์

    ◦ ปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้าซากสัตว์โดยมิชอบ โดยรับเป็นคดีพิเศษ 12 คดี และมีความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศกับ 7 ประเทศ/เขตบริหารพิเศษ

• การปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดเพื่อคืนคนดีสู่สังคม:

    ◦ ส่งเสริมการศึกษาในเรือนจำ: มีผู้ต้องขังเข้ารับการศึกษาทุกระดับ 109,334 คน พร้อมทั้งร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) พัฒนาเรือนจำต้นแบบด้านการศึกษา 13 แห่ง เพื่อสร้างรูปแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น (Flexible Learning) และเหมาะสมกับบริบท

    ◦ ส่งเสริมอาชีพ: จัดหาการจ้างงานผู้พ้นโทษในโครงการคืนคนดีสู่สังคม 716 คน และฝึกอบรมมาตรฐานฝีมือแรงงาน 7,531 คน

โดยสรุป ผลการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมในช่วงปีงบประมาณ 2567-2568 ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนโยบาย "ความยุติธรรมสำหรับทุกคน" ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน การผลักดันกฎหมายเพื่อความเท่าเทียม การยกระดับหลักนิติธรรม และการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ซึ่งล้วนส่งผลโดยตรงต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในสังคม

#ยุติธรรมสำหรับทุกคน #ทวีสอดส่อง #กระทรวงยุติธรรม #ความยุติธรรมกินได้ #แก้หนี้สร้างชาติ #สมรสเท่าเทียม