วันที่ 21ก.ย.68 ศูนย์วิทยุ สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งจากนายฐิติพันธ์ บัวภู ผู้ใหญ่บ้านม.4 ต.บ้านฆ้อง ว่าได้จับคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ใน รพ.สต.บ้านฆ้อง-ดีบอน พื้นที่ ม.4 ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จึงประสาน ร.ต.อ.รัฐนินท์ เกษมสิทธิ์ชัยกุล รอง สว.สอบสวน สภ.โพธาราม พร้อมชุดสืบสวน สายตรวจตำบลบ้านฆ้อง สายตรวจรถยนต์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในบ้านพักร้าง หลัง รพ.สต. พบนายวรชัน หรือตั้ม นิลขาว อายุ 43 ปี อยู่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ อยู่ในสภาพคล้ายคนเมายา ตามตัวมีรอยสักทั้งตัว นอกจากนั้นยังพบว่านายตั้ม ผู้ต้องหานั้นกำลังนั่งปลอกสายไฟอยู่ และยอมรับสารภาพว่าตนได้ขโมยสายไฟภายใน รพ.สต.ไปจริง โดยจะนำสายทองแดงไปขายเพื่อหาเงินซื้อข้าวให้พ่อที่นอนติดเตียงและตนเองก็จะไปซื้อยาบ้าเสพ
ทางด้าน นางอรวรรณ สาลีสวัสดิ์ ผอ.รพสต.บ้านฆ้อง-ดีบอน ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.โพธาราม ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายวรชัน หรือตั้ม นิลขาว ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือทางการแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สูญหายไปมีดังนี้ 1.เหล็กกล่อง จำนวน 30 เส้น 2.มอเตอร์เตียงผู้ป่วย จำนวน 1 ตัว 3.มอเตอร์รถเข็นไฟฟ้า จำนวน 1 ตัว 4.มอเตอร์ตู้เย็น จำนวน 1 ตัว 5.มอเตอร์พัดลม จำนวน 10 ตัว 6.สายไฟ จำนวน 3 เส้น ความยาวประมาณเส้นละ 2 เมตร 7.รถเข็นสแตนเลส จำนวน 1 คัน 8.อุปกรณ์ภายในคอมแอร์ 9.กรรไกร อุปกรณ์เย็บแผล 1 ชุด และ 10.สายไฟ จำนวน 1 เส้น ความยาวประมาณ 10 เมตร
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปที่บ้านนายตั้ม เพื่อหาหลักฐานต่างๆ ก็พบหลักฐานที่นายตั้มขโมยไปเป็นรถเข็นสแตนเลสที่ใช้สำหรับวางใส่อาหารเข็นไปส่งอาหารให้ผู้ป่วย 1 คัน ชุดอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์อีกหลายรายการ จึงนำมาเป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ของทางราชการ บุกรุก เสพยา นำตัวส่งดำเนินคดีต่อไป
นายวรชัน หรือตั้ม นิลขาว ผู้ต้องหากล่าวว่าวันนี้ตนได้เข้าไปลักสายไฟใน รพ.สต.ดีบอน เพื่อจะนำไปเผาขาย นำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพ และอีกส่วนหนึ่งไปซื้อกับข้าวให้พ่อที่นอนป่วยช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ แต่ยังไม่ทันได้ขายก็มาโดนจับก่อน ส่วนรถเข็นสแตนเลสและเครื่องมือแพทย์นั้นลักไปเมื่อ3-4 วันก่อน ทำมาหลายครั้งแล้วนับไม่ถ้วน ส่วนคอมแอร์ที่เป็นพัดลมเอาไป1ตัว ตนจะขโมยอยู่ที่เดียว ถ้าขโมยที่อื่นด้วยเดี๋ยวยาวครับ ผมก็ไม่ทราบนะว่าจะมีคนอื่นมาเอาด้วยหรือเปล่าแต่ที่รู้ๆผมทำคนเดียว เหมือนว่าเขตนี้ใครห้ามมายุ่งผมเอาคนเดียว
นางอรวรรณ สาลีสวัสดิ์ ผอ.รพสต.บ้านฆ้อง-ดีบอน กล่าวว่าวันนี้หมอไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องเก็บของซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ปกติในห้องจะเรียงเตียงไว้เป็นระเบียบเพื่อเวลามีคนไข้ติดเตียงร้องขอเตียงมาเราจะได้จำหน่ายเอาไปให้คนไข้ แต่พอดีไปเจอของเนี่ยกระจัดกระจายไปหมด และมีการรื้อค้นแม่บ้านก็เลยโทรมาแจ้งว่าในห้องเหมือนถูกรื้อค้น และเหมือนจะมีเหล็กเส้นหายไป หมอกับน้องๆที่เข้าเวรอยู่ก็เลยมาตรวจสอบ และน้องอีกคนก็เดินสำรวจโดยขึ้นไปบนบ้านพักซึ่งร้างไม่มีคนอยู่ก็ไปพบกับนายตั้มกำลังนั่งแกะสายไฟอยู่ ก็เลยเรียกลงมาซึ่งปกตินายตั้มเนี่ยเป็นคนอยู่หลังอนามัย หมอก็เคยเอาข้าวเอาน้ำให้กินอยู่ พ่อเขาก็นอนติดเตียงก็จะดูแลกันไป แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำ แต่ทางเราก็สงสัยมานานแล้วแหล่ะแต่ยังไม่มีหลักฐาน จนมาวันนี้เราเห็นหลักฐานก็เลยแจ้งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ให้เข้ามาดูว่าเจ้าตั้มเข้ามาขโมยของอยู่บนบ้านพัก จนผู้ใหญ่ได้แจ้งตำรวจมาดังกล่าว
ส่วนสายไฟที่นายตั้มเอาไปนั้นเป็นของอนามัยเรามันหายไป แต่เขายอมรับรับสารภาพและบอกว่าของอะไรของหมอที่หายไป ผมทำคนเดียว ตอนที่ไปค้นบ้านนายตั้มไปเจอรถเข็นสแตนเลสที่ใช้สำหรับเปิดเป็นศูนย์พักคอย ส่วนรถสแตนเลสที่นายตั้มขโมยไปเนี่ยเป็นรถที่ใช้สำหรับนำอาหารเข็นไปส่งผู้ป่วยโควิดภายในศูนย์พักคอย และที่บ้านนายตั้มยังเจอเครื่องมือแพทย์อุปกรณ์ทางการแพทย์อีกหลายรายการ ส่วนคอมแอร์นั้นที่ยกลงมาอีก 1 ตัวนายตั้มก็ลักเอาไปขายแล้ว หมอก็สนิทกับเขานะ เวลาเจอก็จะซื้อไก่ให้กินบ้าง บางครั้งก็ซื้อข้าวซื้อก๋วยเตี๋ยวไปฝากพ่อเขาบ้าง คือเราสงสารคนแก่คนที่เป็นพ่อเขา แต่ก็ไม่คิดว่าตั้มเขาจะมาทำแบบนี้